FOREWARD
หลังออกหนังสือเล่มแรก
เรียนหมอหนักมาก ไปเมื่อปี2558 ซึ่งเป็นจังหวะที่เราเพิ่งเรียนจบพอดี สิ่งที่คิดไว้ว่าจะทำต่อก็คือเขียนหนังสือเล่มถัดไปทันที เพราะเข้าใจไปเองว่าเรียนจบแล้ว ตอนทำงานคงจะมีเวลามากขึ้น แต่ที่ไหนได้... ที่เคยเข้าใจว่าเรียนหมอหนักมาก เป็นหมอจริงๆ มันหนักมากกว่าอีกหลายเท่า
การเขียนหนังสือก็เลยถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ เพราะกว่าจะปรับตัวให้เข้ากับช่วงชีวิตของการทำงานนั้นก็ยากและนานพอสมควร
รู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปสองปี เราพูดได้เต็มปากว่าช่วงเวลาสองปีของการทำงานนั้น ช่างแตกต่างกับชีวิตวัยเรียนอย่างสิ้นเชิง เพราะเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง ต้องทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และแน่นอน เมื่อเราออกมาสู่โลกที่กว้างขึ้น เรื่องราวต่างๆ ก็ดาหน้าถาโถมเข้ามาหาเราได้ง่ายขึ้น
เมื่อเลี่ยงการเจอปัญหาไม่ได้ ทางเลือกเลยเหลือแค่จะหนีหรือยอมรับว่าเกิดปัญหาเพื่อหาทางเรียนรู้จากมัน แต่สำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เราคงต้องเลือกอย่างหลัง และการแก้ปัญหาชีวิตของแต่ละคนก็อาจจะมีเครื่องมือหรือตัวช่วยในการแก้ปัญหาแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำจากพ่อแม่ คนที่มีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า เพื่อนสนิท หรือคนใกล้ตัว และหลายครั้งสิ่งที่เรารักและศรัทธาก็กลายเป็นพลังงานชั้นดีที่จะทำให้เรามีแรงแก้ปัญหาชีวิตต่อไปได้
สำหรับเรา ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวอลต์ ดิสนีย์คือแหล่งพลังงานเหล่านั้น
เพราะตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย สิงสาราสัตว์ หรือแม้แต่ข้าวของที่โลดแล่นอยู่ในการ์ตูนของวอลต์ ดิสนีย์ ล้วนมีส่วนทำให้เราโตมาเป็นเราอย่างทุกวันนี้
พอบอกไปแบบนั้น ก็ดูเหมือนชีวิตเราจะกลายเป็นเรื่องแฟนตาซีสดใสสวยงามขึ้นมา แต่จริงๆ แล้วในความแฟนตาซีที่ว่านั้นมันมีความจริงของโลกใบนี้ปนๆ อยู่เช่นกัน
เราแอบหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้ใครหลายคนผ่านเรื่องราว (ที่ในเวลานี้เห็นว่า) เลวร้ายไปได้ ขอให้ตัวหนังสือของเรากลายเป็นพลังและความกล้าในวันที่ต้องเผชิญกับปัญหา เพื่อที่จะแก้ไข เรียนรู้ และจดจำมันไว้ในฐานะอีกตอนหนึ่งของนิทานชีวิตเรื่องยาวเรื่องนี้
กาลครั้งหนึ่ง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว...
พี่เพลีย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in