เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MY WINGs STORY - REVIEW - HOW TO PASS CABIN CREW ASSESSMENT DAY with Etihad Airways, BANGKOK EVENT ( JUNE 2022 )Little.pp
Part 2: รีวิวการสมัครงานตำแหน่งลูกเรือของสายการบิน Etihad Airways, BKK Event (JUNE 2022) ꕀ .*
  • // Part 2 : How I passed my Etihad Airways Assessment Day //

     สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันใน Part 2 ตามสัญญาอีกแล้ว เย้เย้  

    วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ Part 2 ของการสมัครงานตำแหน่งลูกเรือของสายการบิน Etihad Airways ค่ะ 🇦🇪✈️ 

    Event นี้จะเป็นรอบที่ ที่สายการบินมาเปิดรับในปี 2022 ค่ะ และเราก็ได้ติดปีกในรอบนี้เลย 

    เย้เย้ และเป็นการสมัครครั้งแรกของเรากับสายการบินนี้เลยค่ะ

    **โพสต์แก้บนนะคะ เนื่องจากบนไว้ว่าถ้าผ่านจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อน ๆ ที่ล่าปีกและมีเป้าหมายเดียวกันค่ะ`**

    Assessment Day  ของเรา เริ่มวันที่ 15 มิถุนายน 2022 ) ขออนุญาตแจ้งทามไลน์ตามด้านล่างนี้ก่อนน้าาา


    ○ My timeline Etihad (June 2022)~ 🇦🇪✈️

    * 05/06/2022 Apply Online via the website https://careers.etihad.com
    * 06/06/2022 Shortlisted Email
    * 07/06/2022 EY Invitation Email - Bangkok on 15th of June 2022
    * 15/06/2022 Assessment Day 1 - Pre-Screen (and at night, received congrats email for assessment updates to move to the next stage)
    * 16/06/2022 Assessment Day 2 Group discussion
    * 17/06/2022 Assessment Day 3 - Final interview 
    * 18/06/2022 Received email your application is now under review by our management team
    * 20/06/2022 Congratulation & Offer email and English test
    * 21/06/2022 OBoarding email and Medical Declaration Form
    * 01/07/2022 Employment Contract email
    * ต้นสิงหา 2022 Date of joining (DOJemail

              ขออนุญาตแจ้งก่อนนะคะ ขั้นตอนทั้งหมดนั้นแต่ละรอบจะไม่เหมือนกันเลยค่ะ เราขออนุญาตเขียนโดยอ้างอิงจากรอบที่เราไปสัมภาษณ์มานะคะ นั้นคือรอบมิถุนานายน 2022  ตอนนี้เราจะขอเริ่ม  partที่  ต่อเลยน้าา~

    ♡ Part 2 :  The process of Assessment Day interview เราจะขอพูดถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์รอบ Assessment Day  ทั้ง วันนะคะ 

    - Assessment Day 1 - 

    ☁️✈️ Pre-Screen

           สำหรับ Process วันแรกนะคะ โดยปกติแล้วจะมี ช่วงเวลาค่ะ เวลาแรกคือ โมงเช้าและเวลาที่สองคือรอบบ่าย โมงเย็นค่ะ สำหรับเรานั้นเราได้รอบบ่ายสามโมงเย็นค่ะ เราก็ไปถึงก่อนเวลานัดประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ และแนะนำให้ทุกคนไปก่อนเวลาและเผื่อเวลาไว้นะคะ ยกตัวอย่างตัวเราเองนั้น เราเดินทางด้วย MRT ดังนั้นการเดินมาเซนทรัลลาดพร้าวค่อนข้างไกลค่ะ 5555555 เราก็งงตัวเองว่าทำไมไม่เรียกรถ แต่ตอนนั้นไม่ทันคิดค่ะ ก็เดินเลยค่ะ จากนั้นเมื่อเรามาถึง เรากทำการหาเพื่อนๆคุยค่ะ ทักทายบลาๆ และเรามองหาคนที่เราคิดว่าเค้ามาคนเดียวไหมนะ เค้าจะเหงามั้ย ส่วนเราเหงามาก 55555  ก็เข้าไปทำความทักทายเลยค่ะ 5555555 จากนั้นเราก็เข้าห้องไปค่ะ ไปนั่งรอในห้องประชุมใหญ่ที่ทางโรงแรมจัดไว้ค่ะ ด้านหน้าห้องเป็นโต๊ะของกรรมการค่ะ กรรมการที่ยังสัมภาษณ์รอบเช้าไม่เสร็จก็มีเพื่อนรอบเช้าบางส่วนค่ะ 

    ระหว่างนั่งรอต่อแถวเข้า CV Drop ค่ะ 
          กรรมการในรอบนี้มาทั้งหมด ท่านนะคะ เป็นผู้หญิง ท่าน แรกเป็นกรรมการที่มาสัมภาษณ์แคนดิเดตค่ะ อีก ท่านเป็นเหมือนหัวหน้าค่ะ และกรรมการผู้ชาย ท่านค่ะ เมื่อถึงเวลากรรมการก็เข้ามาทักทายค่ะ พุดคุยเล็กน้อย ก็บอกว่าแคนติเดตที่พร้อมแล้วสามารถเข้าไปเริ่มได้เลยค่ะ คือประมาณว่าใครพร้อมก่อนก็เข้าไปพรีสกรีนหรือ CV Drop ได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอค่ะ (ใครพร้อมแนะนำให้รีบไปนะคะ   ส่วนตัวคิดว่าไปแรกๆ โอกาสดีมากค่ะ)

           ในรอบของเรานั้น แคนดิเดตที่ได้ Invitation เรากะคร่าวๆประมาณเกือบสามร้อยถึงสี่ร้อยนะคะ แต่ไม่แน่ใจน้า ดูด้วยสายตาคร่าวๆค่ะ และโต๊ะในการสัมภาษณ์รอบนี้จะมีด้วยกัน 4 โต๊ะค่ะ เราก็ยืนต่อแถวกันในห้องประชุมค่ะ ด้านหน้าห้องเป้นโต๊ะกรรมการค่ะ หากโต๊ะไหนว่างก็เข้าไปได้เลยค่ะ และเราได้สัมภาษณ์ในช่วงหลังๆแล้วนะคะ กลุ่มเกือบท้ายๆเลยค่ะ 40 คนสุดท้ายได้ค่ะ เราได้สัมภาษณ์กับกรรมการลูกเรือผู้หญิงค่ะ
     

          เอกสารที่ใช้ยื่นในการสัมภาษณ์รอบแรก รอบ Pre-screen นะคะประกอบไปด้วย

    ▶ Resume (English only
    ▶ รูป Passport size 1 รูป
    ▶ รูป Business attire 1 รูป
    ▶ รูป casual 1 รูป (เต็มตัว/ครึ่งตัวได้หมดค่ะ ไม่ต้องกังวลค่า ส่วนตัวเราส่งครึ่งตัวไปค่ะ)
    ▶ เอกสารที่ส่งมาให้ในอีเมลตอนที่ได้ invitation วันแรกเรายื่นแค่ Registration Form ค่ะ

    (ปล.เรายื่น color passport copy ไปด้วย และเราปริ้น invitation ไปเผื่อด้วยนะคะ และกรรมการมีให้เขียนการฉีดวัคซีนด้วยนะคะ เขียนไปหลังเรซูเม่ได้เลยค่ะ แต่ส่วนตัวเรานำใบวัคซีนปริ้นไปด้วยค่ะ เราเลยแนบต่อท้ายไป )

     

             ต่อมาในส่วนของการสัมภาษณ์และการถามคำถามนะคะ เราก็เดินเข้าไปทักทายกรรมการก่อนเลยค่ะ บอกก่อนนะคะ ในส่วนนี้ถอดแมสไว้ในห้องประชุมก่อนได้เลยนะคะ เราเดินเข้าไป Good afternoon, How are you todayNice to meet you ไปค่ะ ของเรากรรมการนิ่งๆนะคะ แต่เรารู้สึกได้ว่าเค้า Niceมากๆค่ะ เรายื่นก็เอกสารไปให้กรรมการ เค้าก็ตรวจเอกสารค่ะ และถามเราแค่ว่า อีเมลนี้ถูกไหมส่วนสูง 175 cm ใช่ไหมและกรรมการจะถามเรื่องรอยสัก เช็คผิวด้วยนะคะ เราก็ยื่นแขนให้กรรมการดู พลิกไปมานิดหน่อย และ มีเช็ค Grooming ด้วยนะคะ แต่งหน้าแต่งตัวให้พร้อมได้เลยค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะ ของเรากรรมการถามน้อยมาก คือเหมือนเช็คข้อมูลในเรซูเม่แต่ไม่ถามคำถามเพิ่มเติมเลยค่ะ แอบตกใจว่าเอ้ะ ทำไมไม่ถามอะไรเลยนะ 555555 แต่ฟังจากเพื่อนๆ ที่โดนถาม ส่วนใหญ่จะเป็น ดังนี้

    -Tell me about yourself 
    -What are you doing?
    -Why Etihad Airways?
    -Why do you want to become a cabin crew? ประมาณนี้ค่ะ 

             แล้วหลังจากเราตอบปุ๊บ กรรมการก็ให้เราไปยืนวัดส่วนสูงค่ะ การวัดส่วนสูงนั้นจะที่ติดเทปสีดำติดไว้ที่กำแพงตรงข้ามโต๊ะหน้าห้องประชุมฝั่งตรงข้ามกรรมการค่ะ เราก็เดินไปโดยถอดรองเท้าส้นสูงออก และยืนทาบเพื่อวัดขนาดส่วนสูง หันหน้ามาหากรรมการตอนยืนวัดนะคะ จากนั้นกรรมการก็จะให้เรากลับมานั่งค่ะ พร้อมยื่นกระดาษใบเล็กๆ พร้อมเลขค่ะ เหมือนกระดาษนี้เป็นเลขไว้แปะตรงหน้าอกนะคะ กระดาษที่กรรมการให้มาทุกคนอย่าลืมเก็บรักษาไว้ให้ดีนะคะ และอย่าลืมไว้ที่โต๊ะกรรมการนะคะ จากนั้นกรรมการก็ให้เราจับคำเพื่อทำ impromptu ค่ะ  

             ในส่วนนี้คือกรรมการจะพูดคำศัพท์มาให้ แต่บางท่านนะคะ พูดศัพท์ให้ค่ะ แต่กรรมการของเรานั้นให้เราหยิบมา คำ เป็นการสุ่ม เพื่อให้เราพูดเกี่ยวกับคำศัพท์นั่น และคำที่เราได้ก็คือ "Education" ค่ะ และเราเตรียมคำนี้มาด้วยเลยเข้าปากแงง ส่วนในรอบนี้ คำที่เราจำได้จากเพื่อนๆนะคะ จะมีเพื่อนๆได้คำว่า ดังนี้ค่ะ

    -Education
    -Police
    -Recycling
    -Cabin crew 
    -fast food
    -food
    -Internet
    -Water
    -Culture
    -Solar energy
    -Vacation 
    -Multilingual  ประมาณนี้ค่ะ เราแนะนำ ใครมีเวลาให้ลองซ้อมก่อนนะคะ ซ้อมคร่าวๆไว้ก่อน วันจริงจะได้คิดได้ทันและมีแพทเทิร์นในหัวค่ะ 

               และหลังจากนั้นก็จบการสัมภาษณ์ค่ะ ซึ่งรอบมิถุนานายนนะคะ กรรมการแจ้งก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ว่าถ้าใครสัมภาษณ์เสร็จแล้วให้กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องรอค่ะ เพราะเค้าจะประกาศผลทางอีเมลในคืนนี้ค่ะ ให้รออีเมลค่ะ ซึ่งเราว่าแบบนี้ดีมากๆเลย จะได้ไม่แออัดและแคนดิเดตจะได้กลับไปพักผ่อนค่ะ สำหรับรอบวันนี้ CV Drop ก็จบลงค่ะ โดยส่วนตัวนั้นในรอบนี้ เราคิดว่ากรรมการเค้าดูองค์ประกอบโดยรวมของผู้สมัครค่ะ เช่น Grooming การแต่งหน้า ภาษาของเราในส่วนของการจับคำ การตอบคำถาม และส่วนสูงค่ะ  ทริคของเราคือการยิ้มให้เยอะๆค่ะ เป็นตัวของตัวเอง มั่นใจค่ะ เพราะกรรมการเค้าน่ารักมากก เอนเนอร์จี้เค้าไม่ดรอปเลย ดังนั้นพวกเราแคนดิเดตเองก็ต้องสู้ค่ะ อย่าไปกลัวค่ะ โดยส่วนตัวเราพยายามคิดว่าเรามาแบบปล่อยใจค่ะ เพราะอกหักจากอีกสายมา แงง แต่ก็เต็มที่ในทุกวันนะคะ แต่ปล่อยใจ แงงง เราสัมภาษณ์เสร็จตอนหกโมงเย็นนะคะ ก็กลับบ้านมาพักผ่อนค่า
     
          และแล้วจากนั้นในช่วงสองทุ่มนิดๆ นอนเล่นมือถืออยู่ดีๆ อีเมลก็เด้งค่ะ เราก็ได้รับอีเมลค่ะ ว่า Congratulations ค่า เย้เย้ ได้ผ่านไปทำรอบต่อไปนั่นคือ Group Discussion พรุ่งนี้ค่า ในเวลา โมงเช้าค่า 
    ♡  เหตุการณ์ที่ประทับใจในวันแรก
         อย่างแรกเลยคือกรรมการไนซ์มากค่ะ ยิ้มแย้มตลอด ทำให้เราไม่กดดันเลยค่ะ อย่างที่สองคือเนื่องจากวันที่สัมภาษณ์ วันแรก เป็นวันเกิดของแคนดิเดตท่านนึง กรรมการผู้ชาย เข้ามาในห้องและร้องเพลง Happy Birthday ไปพร้อมกับแคนดิเดตทุกคนในห้องค่ะ เราเซอร์ไพรสมากๆ แบบเห้ย แบบนี้ก็มีด้วยนะ คือเราเป็นหนึ่งในผู้สมัครของห้องนั้นเรายังประทับใจในบรรยากาศเลยค่ะ แล้วเพื่อนที่เป็นเจ้าของวันเกิดจะแฮปปี้ขนาดไหนใช่ไหมคะ คือดีมากๆ ร้องเพลงกันเสียงดังลั่นห้องเลยค่ะ กรรมการแบบไนซ์สุด แฮปปี้มากค่ะ 


    Assessment Day 2 

    👩🏻‍💼✈️ Group Discussion

          เย้เย้ ในวันนี้ก็เป็นวันที่ต้องตื่นเช้าแล้วค่า แต่สู้มากๆ เราตื่นมาแต่งตัวตั้งแต่หกโมงเช้าเลยค่า สู้มากๆ ตื่นเต้นด้วย (หมายเหตุ: สำหรับรอบกรุ๊ปวันนี้ไม่ต้องนำเอกสารอะไรไปนะคะ แต่อย่าลืมพกหมายเลขที่กรรมการให้ไว้วันแรกติดตัวไปนะคะ นำติดตัวแปะหน้าอกไว้จนไฟนอลเลยน้า) เราสมัครสายอื่นมาหลายครั้ง แต่เราไม่เคยต้องมาทำกรุ๊ปเลย แอบตื่นเต้นสุดๆค่ะ เพราะครั้งแรกการการทำกรุ๊ปเลย ฮื่อออ เรามาถึงโรงแรมประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ มาเช้าสุดๆค่ะ ไม่ได้กินข้าวเช้ามาด้วยเพราะกลัวตื่นเต้นจนอ้วก แงง เราก็มานั่งรอหน้าห้องประชุมห้องเดิมค่ะ เพื่อนๆยังมาน้อยอยู่นะคะ นั่งรอวนไป และหาเพื่อนคุยค่ะ รู้สึกแฮปปี้มากๆค่ะ 


          หลังจากนั้นเมื่อถึงเวลา กรรมการก็มาด้วยชุดลูกเรือที่สวยมากค่ะ แบบว้าวเลย อยากใส่บ้างแงง กรรมการก็ทักทายและเรียกเข้าห้องค่ะ ห้องประชุมใหญ่ห้องเดิมเลยค่ะ เราก็เข้าไปนั่งกันเต็มห้องค่ะ กรรมการก็ให้ผู้สมัครนับจำนวนค่ะ และทั้งหมดที่ผ่านเข้ารอบกรุ๊ปคือ 106 คนค่า ระหว่างที่รอเพื่อนๆเข้ามา กรรมการก็ให้พวกเรานับเลขจำนวนคนค่ะ อันนี้ก็สนุกมากๆค่ะ รู้สึกแบบกรรมการเอนเนอร์จี้เยอะมากกก ร้องเล่น เต้น พูดคุย ครบเลยค่ะ ก่อนที่เราจะพูดถึงการทำกรุ๊ป เราขอเล่าในเหตุการณ์ที่ประทับใจในวันที่ ก่อนเลยนะคะ 

    เหตุการณ์ที่ประทับใจในวันที่ 2 
            ระหว่างที่รอเพื่อนๆ เข้ามาครบ ระหว่างที่เรานั่งนับจำนวนกันนะคะ กรรมการมีเข้ามา ท่านค่ะ ยังขาดกรรมการผู้ชายนะคะ กรรมการท่านนึงก็บอกว่าจะให้กรรมการผู้หญิงอีกท่านนึง ร้องเพลงให้ฟังค่ะ และเค้าก็มาร้องเพลงมาเต้นให้ดูจริงๆค่ะ ผู้สมัครในห้องก็ปรบมือกันตามจังหวะที่กรรมการร้องค่ะ ซึ่งเราแบบหื้มม แรงมากก คือเราแบบเซอร์ไพรสสุดๆ คือ เอนจอยกันมากค่ะ เหมือนมาเข้าค่ายเลยแงงง ตอนนั้นเรายิ้มจนแก้มปริเลยค่ะ  และเพลงที่กรรมการร้องคือ Bella Ciao เพลงนี้เลยค่ะ ถ้าใครเคยดู
    ซีรีส์ใน NF น่าจะคุ้นกับเพลงนี้จากเรื่อง La Casa de Papel ค่ะ แบบดีมากๆ สนุกค่ะ จอยๆ 55555555555 
               
         หลังจากนับคน ทักทาย แนะนำตัว ร้องเพลงเสร็จแล้วนั้น กรรมการก็เริ่มให้เราดูสไลด์และวิดิโอ Presentation ของสายการบินนิดหน่อยค่ะ และส่วนใหญ่จะเน้นข้อมูลเกี่ยวกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโดยเฉพาะอาบูดาบีซึ่งเป็นเมืองหลวงที่เราจะต้องไปอยู่ค่ะ (คำแนะนำ: ให้ตั้งใจฟังนะคะ เพราะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปตอบกรรมการได้ในรอบ Final ค่ะ) หลังจากนั้นกรรมการก็จะมีบรีฟสั้นๆ เรื่องการทำ Group Discussion ค่ะ 
     
              ผู้สมัครทั้งหมด 106 คน แบ่งเป็น 12 group ค่ะ แต่ละกรุ๊ปในรอบของเรานั้น จำนวนคนต่อ กลุ่มนั้นจะอยู่ 8 – 9 คนค่ะ และกรรมการมีทั้งหมด ท่าน เข้าไปทำกรุ๊ปทีละกรุ๊ปอีกห้องนึงค่ะ โดยมีกรรมการ ท่านอยู่ด้วยค่ะ นั้นแสดงว่าจะมีสายตากรรมการทั้ง ท่านจับจ้องเราอยู่ตอนทำกรุ๊ปนะคะ แงง และเราได้เริ่มสัมภาษณ์เป็นกลุ่มที่ ค่ะ  โดยกรรมการก็จะมาแจ้งเลขก่อนนะคะ ว่าเราเลขนี่ๆ จะอยู่กลุ่มไหน กลุ่มที่เท่าไหร่ค่ะ ให้ตั้งใจฟังดีๆ เลยงับผม กรรมการแจ้งไว้ว่าประมาณ 5 นาทีให้มายืนเตรียมตัวรอที่หน้าห้องสัมภาษณ์ที่ทำกรุ๊ปค่ะ ก็ในระหว่างรอที่กรรมการจะมาเรียกไปทำกรุ๊ป เราก็สามารถนัดแนะ ทักทาย แนะนำตัวกับเพื่อนในกลุ่มได้เลยนะคะ ทำความรู้จักกันไว้ก่อนได้ค่ะ กลุ่มเรามี 9 คนค่ะ
     

            ในส่วนของการทำ Group Discussion สถานการณ์ที่ได้ คือ หัวข้อ Survival on Boat ค่ะ กรรมการก็จะมีบรีฟอีกครั้งและแจ้งรายละเอียดของการทำกรุ๊ปค่ะ และเรียกเลขเรียงนัมเบอร์เพื่อเช็คคนค่ะ เราก็ยกมือตามที่กรรมการเรียกเลขเราได้เลยค่ะ จากนั้น ตามหัวข้อ โจทย์ประมาณว่าเรือกำลังจะจม มีเรือชูชีพอยู่ลำเดียว ให้ Discuss กันค่ะ และเลือกมา 5 คนว่าใครควรจะได้ขึ้นเรือค่ะ ซึ่งจะมีการ์ดใบเล็กๆ ที่เป็นรูปตัวละครคว่ำไว้อยู่และไม่เหมือนกันนะคะ รอบของเราจะมี นักบวชลูกเรือ ทหารคนชราแม่กับลูกตาบอดคุณหมอเด็ก, VIP ประมาณนี้ค่ะ (ทริค: ก็ก่อนเข้าไปทำกรุ๊ปกลุ่มเราก็บอกกันค่ะว่าเราต้องรอดกันทุกคนนะ มาช่วยกันอะไรประมาณนี้ค่ะ แต่ก็แล้วแต่ทริคของแต่ละกลุ่มเลยน้า แนะนำให้พูดกันทุกคนนะคะ เราพยายามช่วยเพื่อนที่ยังไม่ได้พูดค่ะ ผายมือหาเพื่อน แล้วคุณคิดยังไงบ้าง บลาๆ พยายามหาจังหวะอะไรประมาณนี้ค่ะ // และอีกหนึ่ง ทริค ที่สำคัญเลยคือ "ตอนทำกรุ๊ป ห้ามมองตากรรมการ ห้ามสบตากรรมการ ห้ามสนใจกรรมการ ให้เราโฟกัสแค่เพื่อนของเราที่กำลังพูดอยู่เท่านั้นค่ะ ไม่ว่ากรรมการจะอยู่ตรงไหน ทำอะไร ใกล้เราแค่ไหน ทำให้เค้าเป็นอากาศไปก่อนค่ะ และควรมีอาสาสมัครคนอ่าน instruction สัก 1 คน และอาสาสมัครจับเวลาอีก 1 คนนะคะ" ) และแล้วรอบเรากรรมการให้เวลา 10 นาที เราว่านานนะคะ ก่อนที่ยังไม่ทำ แต่พอทำปุ๊ปมันเร็วมากกกก ยังพูดกันไม่จบเลย 55555555 เวลาผ่านไปไวมากแม๊!!!!

             จากนั้นเมื่อครบเวลา หมดเวลาปุ๊ป กรรมการก็บอกให้แคนดิเดตยืนเรียงกันตามหมายเลขนัมเบอร์ที่กรรมการเรียกไว้ตอนแรกค่ะ ตรงนี้กรรมการต้องการให้เราออกมาพูดทีละคนค่ะ ยืนเรียงกัน พูดถึงตัวละครของตัวเองที่ได้รับค่ะ และให้แสดงความคิดเห็นของแต่ละคนค่ะ คำถามคือว่า คุณได้ตัวละครเป็นคาแรคเตอร์อะไร และตัวละครของคุณควรถูกเลือกขึ้นเรือหรือไม่ควรถูกเลือกขึ้นเรือประมาณนี้ค่ะ 
     
              หลังจากนั้นกรรมการก็บอกให้ทุกคนในกลุ่มออกไปรอข้างนอกห้องเพื่อรอฟังประกาศผลค่ะ รอผลเพื่อที่ว่าได้ผ่านไปไฟนอลหรือไม่ค่ะ รอประมาณ 7-10 นาทีค่ะ ประกาศผลแบบกลุ่มบายกลุ่มเลยค่ะ ไม่ต้องรอประกาศพร้อมกันทุกกลุ่มนะคะในรอบนี้ และหลังจากนั้นน กรรมการก็ออกมาจากในห้องค่ะ และถือเอกสารอะไรมาเต็มเลยค่ะ กรรมการจะเรียกเลขนัมเบอร์และชื่อเราค่ะ ใครที่ได้เรียกชื่อให้เข้าไปในห้องเดิมที่ทำกรุ๊ปค่ะ และแล้วก็มีชื่อเราค่ะ ฮื่ออออออ แต่ยังไม่รู้นะคะ ว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อแงง ลุ้นทุกวินาทีค่ะ 
     
             ต่อมา แงงง กลุ่มเราจาก เข้าไปในห้องนั้นกัน คนเลยค่ะ ก็ลุ้นอีกก จากนั้น กรรมการผู้ชายก็บอกว่า "Congratulations”  พวกคุณทั้ง เข้าไฟนอลลลลลลลล เราแบบ ฮื่ออ เย้เย้ ทั้งดีใจปนกับน้ำตาซึม และสตั๊นค่ะ 55555555555 ไม่คิดไม่ฝันแงงงง การมาแบบปล่อยใจ ผ่านไปสัมภาษณ์ไฟนอล Etihad แล้วค่าบบบบบบบบบบ เพื่อนข้างๆ ร้องไห้เลยค่ะ จากนั้นกรรมการก็ให้กลับบ้านเลยค่ะ บอกว่ามาเจอกันพรุ่งนี้ ก่อน โมงนะ กรรมการไม่ให้กลับไปห้องใหญ่ที่เพื่อนๆ รออยู่แล้วนะคะ ไปยืนดักรอหน้าห้องเลยค่ะ ทุกคนที่ทำกรุ๊ปเสร็จต้องกลับบ้านงับบบ ก็กลับไปนอนพักผ่อน เตรียมตัวที่บ้านกันค่ะ 

     

    - Assessment Day 3 - 

    👩🏻‍💼✈️ Final Interview

             มาต่อกันวันที่ แล้วค่า ต่อสู้กันมานานมาก เจ้านักล่าปีก 🧚🏼‍♀️✨  สู้มากกกกกก และเป็นเช้าอีกวัน 555555555 เราตื่นมาตั้งแต่ตี เลยค่ะ มีความนอนไม่หลับ ตื่นเต้น แต่ก่อนนอนต้องมาร์คหน้าทุกวันนะคะ รอบนี้จำนวนผู้เข้าไฟนอลประมาณ 5กว่าคนเลยค่ะ เราจำตัวเลขตรงๆไม่ได้ ขออภัยด้วยค่ะ ก่อนที่กรรมการจะเริ่มสัมภาษณ์ไฟนอลนั้นก็จะเรียกทุกคนเข้าไปในห้องรวมค่ะ รอบนี้จะเปลี่ยนห้องสัมภาษณ์แล้วนะคะ จะไม่อยู่ในห้องประชุมใหญ่ที่เป็นห้องของวันที่ และ แล้วนะคะ แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางน้าเพื่อได้มีเวลาเดิมหาห้องสัมภาษณ์ค่ะ และเมื่อเข้าไปรวมในห้องนั้น กรรมการก็จะให้เราได้ดูสไลด์และวิดิโอ Presentation เกี่ยวกับพวกสวัสดิการ เงินเดือน การเทรนงาน การผ่านโปรต่างๆ เรื่องภาษีนิดหน่อยค่ะ เช่นเดิมนะคะ กรรมการมี 5 ท่านแต่สัมภาษณ์ไฟนอลมีแค่ ท่าน คือ ผู้ชาย ท่านและผู้หญิงอีก 3 ท่านค่ะ และอีก ท่านนั้นผู้หญิงค่ะ เหมือนจะเข้าไปห้องนั้นทีห้องนี้ที ประมาณว่าดูภาพรวมต่างๆค่ะ เค้าเป็นหัวหน้า ใจดีและไนซ์ทุกคนเช่นเดิมมาด้วยเอนเนอร์จี้ที่เต็มกว่าแคนดิเดตอีกงับบ และใส่ชุดลุกเรือกันมาอีกแล้ว สวยกันมากๆค่ะ ประทับใจค่ะ

     
           และเมื่อกำลังจะเริ่มนั้นกรรมการจะทำการประกาศนัมเบอร์ค่ะ นัมเบอร์สำคัญมากนะคะ จำนัมเบอร์ของตัวเองไว้ให้ดีน้า กรรมการไม่ค่อยเรียกชื่อค่ะ เพราะอย่างที่รู้กันชื่อคนไทยอ่านยากมากกกกกก 5555555 คนที่กรรมการเรียกแล้วให้ยกมือค่ะ กรรมการจะแจ้งว่าแคนดิเดตกลุ่ม สัมภาษณ์กับกรรมการท่านไหน กลุ่มที่ สัมภาษณ์กับกรรมการท่านไหน มี กลุ่มค่ะ กรรมการจะได้แคนดิเตตในทีมสัมภาษณ์คนละประมาณ 14 - 15 คนค่ะ ดังนั้นฟังเลขนัมเบอร์และลำดับการเรียกเลขของตัวเองให้ดีๆนะคะ เพราะเราต้องอิงจากลำดับการสัมภาษณ์ตามนั้นค่ะ 
     
          และสำหรับรอบไฟนอลในรอบมิย 2022 นี้ แคนดิเดตจะไม่ได้สัมภาษณ์กับกรรมการคนเดิมนะคะ เช่น คนที่ได้สัมภาษณ์รอบวันพรีสกรีนกับกรรมการผู้ชายจะไม่ได้เจอกับกรรมการผู้ชายท่านเดิมในวันไฟนอลค่ะ จะเปลี่ยนกรรมการไปเลยค่ะ และเมื่อกรรมการจัดกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว เค้าจะแจ้งว่าใช้เวลาในการสัมภาษณ์ประมาณ 15 - 20 นาทีต่อคน  เมื่อเช็คชื่อครบแล้วนั้น ก็จะมีการบรีฟเรื่องรูป Casual ค่ะ

    My Dress code for Final Interview

         กรรมการจะบรีฟว่าเค้าต้องการรูปภาพ Casual ค่ะ ครั้งตัวและเต็มตัวค่ะ  แต่รูป Casualนั้น กรรมการต้องการให้เราถ่ายชุดที่แต่งมาวันนี้เลยค่ะ ดังนั้น !!!!!! คำแนะนำสำคัญมากกกกก วันไฟนอลนั้นคือให้เราแต่งตัว แต่งหน้ามาให้เนียบสุดๆนะคะ แบบสวยที่สุด เป๊ะที่สุด ซึ่งรอบนั้นทุกคนก็อึ้งไปเลยค่ะ เพราะไม่คิดว่าเค้าจะให้ถ่ายรูปเราในวันนี้เลย ไปแบบให้พร้อมให้สุดๆไปนะงับ มั่นใจ สวยๆไปเลยงับบ
     
           และเมื่อจบบรีฟแล้ว ดูสไลด์อธิบายเสร็จสิ้นนั้น จะมีเวลาประมาณ 15-20 นาทีค่ะ สักพักนึงเลยค่ะ รีบไปถ่ายรูปได้เลยน้า แต่ต้องคอยฟังกรรมการด้วยค่ะ อย่าไปไกลๆค่ะ เพราะกรรมการเข้าจะจัดห้องแบ่งห้องสัมภาษณ์กันค่ะ เราได้สัมภาษณ์กับกรรมการผู้หญิงค่ะ คนที่เป็นคนที่ร้องเพลงให้ฟังในรอบ Group Discussion เลยค่ะ แอบตื่นเต้นมากกกกก ในทีมกรรมการของเรานั้น เราได้คิวลำดับการสัมภาษณ์ไฟนอลคนที่ ค่ะ ซึ่งไวมากกก เรายังไม่ทันได้ถ่ายรูป Casual เลยแงงง แนะนำทุกคนจัดการเวลาให้ดีน้า ข้อดีของการถ่ายรูปไวและคิวสัมภาษณ์หลังๆคือมีเวลาถ่ายรูปและได้ให้กรรมการช่วยเลือกรูปได้ค่ะ และจะได้ฟังรีวิวจากเพื่อนๆที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วว แต่ตัดภาพมาที่เราคือรูปถ่ายไม่ทันเพราะสัมไวมากกก5555555555 แต่เราจัดการเวลาไม่ดีเองด้วยแงง ซึ่งข้อดีของเราคือกรรมการยังจอยนะคะ จอยตลอดดดด ไม่กดดันค่ะ เค้าน่ารักมากกก 
     
          ตอนนั้นเราได้สัมภาษณ์คิวที่ ค่ะ ก่อนที่จะเข้าไปสัมภาษณ์นั้น ก็จะมีกรรมการที่เป็นหัวหน้าที่เราเคยเล่าไปใช่ไหมคะ ให้ตั้งใจฟังดีๆน้า เค้าจะเรียกเลขนัมเบอร์และให้เรามาทำการวัดส่วนสูงที่แปะไว้ในห้องประชุมนั่งรอรวมค่ะ และถามส่วนสูงกับเราอีกครั้งค่ะ ก็บอกส่วนสูงไปได้เลยค่ะ จากนั้นก็ตรวจดูผิว/แผลที่แขน ดีแคลร์เล็กน้อยที่แขนค่ะ ตรงนี้เค้าไม่ได้ตรวจละเอียดนะคะ พลิกแขนไปมาได้เลยค่ะ กรรมการก็จะบอกว่าโอเคค่ะ แต่ตอนนั้นแนะนำยิ้มสวยๆ ทักทายเล็กน้อย ให้กรรมการด้วยน้า จากนั้นเราก็นั่งรอสัมภาษณ์ไฟนอลค่ะ

     

           ต่อมา ในที่สุดดดด !!!! ก็มาถึงในส่วนของการตอบคำถาม การสัมภาษณ์ไฟนอลกับสายการบิน Etihad แล้ว เย้เย้ เมื่อถึงคิวเรา เราบอกเลยว่าตื่นเต้นมากค่ะ แบบ ไม่ไหวว มันตื่นเต้นจริงๆค่ะ แต่เราพยายามเก็บส่วนนี้เอาไว้ ยิ้มสู้น้า 

     เอกสารที่ใช้ในรอบไฟนอลนี้นะคะ  

    ▶ 1. รูปถ่าย Passport size 1 รูป
    ▶ 2. Introductory Statement (ปริ้นไปและกรอกจากบ้านมาให้เรียบร้อยน้า)
    ▶ 3. Copy International Vaccination Certificate

    (ปล.รูปถ่าย Casual พกติดตัวไปได้นะคะ แต่รอบของเราไม่ใช้แล้วนะคะ เพราะให้ถ่ายวันนั้นแทนค่ะ และส่งอีเมลไปที่กรรมการแจ้ง และพก copy passport ไปเผื่อๆน้า)

    ·˚ ในส่วนของการตอบคำถาม ·˚

    ✈️?? การสัมภาษณ์ไฟนอลกับสายการบิน Etihad  ☁️??‍♀️

          
           เมื่อเข้าห้องสัมภาษณ์ปุ๊บ เราทักทายกรรมการก่อนเลยค่ะ ทำคะแนนก่อนแล้วหนึ่ง 555555555 ก็ยื่นเอกสารให้กรรมการค่ะ จากนั้นกรรมการก็จะดูใน Resume ของเราก่อนเลยค่ะ อ้างอิงจากของเรานะคะ ของเรากรรมการพูดก่อนเลยค่ะ ว่า Work Experience เยอะมาก กรรมการก็จะเน้นถามเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานต่างๆ Work Experience  ของเรานะคะ เช่น Tell me about your current job?  แลงานไหนที่เค้าสนใจ เค้าก็จะถามแยกย่อยเข้ามาค่ะ อย่างเราเคยฝึกงานกับสายการบินนึงมา กรรมการก็จะถามต่อว่าเคยเจอเหตุการณ์ไหนที่ต้องแก้ไขสถานการณ์บ้างและมีวิธีแก้ไขสถานการณ์นั้นอย่างไรบ้างค่ะ (คำแนะนำให้ศึกษาข้อมูลของตัวเองในเรซูเม่ให้แน่นเลยนะคะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าเค้าจะถามในงานไหนบ้างงับ) ต่อมาเราก็โดนถามสถานการณ์บินเครื่องบินประมาณว่าถ้ามีอาหารบนเครื่องคือปลากับไก่ แต่ผู้โดยสารต้องการกินไก่ แต่ไก่หมด เราจะช่วยเหลือผู้โดยสารหรือจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ประมาณนี้ค่ะ

            และเจอคำถามเกี่ยวกับการ complain ค่ะว่า Have you gotten any complain and how did you handle it? และมีการถามเรื่องเพื่อนต่างชาติค่ะว่ามีเพื่อนจากชาติไหนบ้าง แต่เราก็บอกไปว่าเรามีเพื่อนจากแค่ทางเอเชียค่ะ กรรมการก็ถามว่ามีเพื่อนชาวยุโรปบ้างไหม เราก็บอกว่าไม่มีค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากทำความรู้จักประมาณนี้ค่ะ และมีโดนถามว่า 3 qualification that best describe yourself? 

           จากนั้นกรรมการก็ถามเกี่ยวกับคำถามของสายการบินค่ะ เช่น  รู้อะไรเกี่ยวกับสายการบินบ้าง Do you know about Etihad AirwaysWhy Etihad?  และโดนถามต่อประมาณว่า What do you think about the main responsibilities as cabin crew จากนั้นก็จะมีในส่วนที่เป็น Yes ,No questions เช่น Are you willing to serve an alcohol?, Have you ever been to Abu Dhabi?, Are you prefer non/smoking room?, Are you willing to live with roommates? และโดนคำถามรองสุดท้ายว่า Why should we hire you?  และกรรมการก็ถามเรื่องวัคซีนค่ะ ว่าฉีดมากี่เข็มแล้วประมาณนี้ค่ะ และสุดท้ายก็ถามว่ามีคำถามเพิ่มเติมที่จะถามเค้าไหม เราก็ถามกลับเลยค่ะ ว่าถ้าผ่าน process นี้ ในเรื่องของการเทรนเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ประมาณนี้ค่ะ 555555 คำถามมั่นมากกก และถามเรื่อง Notice period ว่าพร้อมเมื่อไหร่ เราก็ตอบไปว่า 1 เดือนค่ะ จากนั้นก็จบค่า และรอผลค่า ตอนที่เราเดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์เรามั่นใจมากกกก แบบมั่นสุดด แต่พอมานั่งนึกคำตอบตัวเองที่บ้านเราแบบ เห้ย ไมตอบบ้างนั้น ไมตอบแบบนี้ บ้งนะ บ้งจริงจัง แต่ก็ผ่านมาได้แล้ววแงงง และการประกาศผลไฟนอลก็ไวมากกกกกกก ตามทามไลน์ที่เราแจ้งด้านบนเลยงับบบบ 

          Finally !!!  เราอยากจะบอกว่าการเป็นตัวของตัวเองสำคัญมาก และต้องพกพาความมั่นใจมาด้วยค่ะ ยิ้มให้สดใสที่สุด ทำ performance ของตัวเองให้ดีในทุกรอบ พกพา energy และความ positive มาด้วยน้า ครั้งนี้เราไม่มูเลยค่ะ เพราะมูมาเยอะจนเจ็บปวด 5555555  เราพยายามมาแบบปล่อยใจ แต่ก็ต้องเต็มที่ โดยส่วนตัวเราเองกว่าจะติดปีก เราก็ผิดหวังมาเยอะมากๆค่ะ เราสมัครแอร์มาตั้งแต่ช่วงหลังเมษา 2021 จนมามิถุนายน 2022 ที่ Etihad ให้โอกาสเรา ฮื่ออ กว่าจะมาติดปีกได้สำหรับเราที่สำคัญที่สุดคือความพยายามค่ะ สมัครให้ทุกสนามลองให้เยอะที่สุด แล้วมันจะเป็นประสบการณ์ที่มีแข็งแกร่งให้กับเราค่ะ เราผ่านเข้าไฟนอลมาหลายสาย แต่ก็ตกไฟนอล ตลอด จนเราท้อมากๆ ไม่อยากสมัครแล้ว อยากหนีจากฝันนี้มาก และเรามา EY แบบปล่อยใจสุดๆ อาจจะเพราะจังหวะชีวิตและช่วงเวลาด้วย เราเชื่อมาตลอดว่า at the right time and in the right place”. เราไม่กดดันตัวเอง จนเราผ่านไฟนอล EY มาได้ ฮื่อออ อยากขอบคุณกรรมการมากๆที่ให้โอกาสเด็กล่าปีกคนนี้ค่ะ 

      สุดท้ายจริงๆแล้วนั้น เราอยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังล่าปีกอยู่นะคะ อย่าละทิ้งความฝันและความพยายามนะคะ มา Follow and fulfill your dream ✈️ ꕀ .*  ไปด้วยกันนะคะ ไว้มีโอกาสเราจะมาเล่าประสบการณ์สมัครสายอื่นให้ฟังนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ เพื่อปีก เพื่อความฝัน เพื่องานที่เรารัก งานที่ใฝ่ฝัน งานที่มุ่งมั่นค่ะ ??✌??


    จบแล้วค่าา เย้เย้ ในเรื่องของวัน Assessment Day นะคะ Part 2 หวังว่าจะครอบคลุมและเป็นประโยชน์น้าาา ꕀ .* 

    อัพเดทปี 2023 ลงคลิป Part 1 ( Link: https://youtu.be/DcPq9GxDKeM ) เรียบร้อยค่าบ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และฝากกดติดตามด้วยน้าาา
    ꕀ .*♡  ใครมีคำถามเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้เลยนะคะ หากเราตอบได้เราจะตอบอย่างแน่นอนงับบ  ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้น้าา หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ ☁️✈️✨ 

    little.plaire

    - - MY FACEBOOK FAN PAGE : Little.plaire --  
    Please kindly Follow, Like and Share