เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ดูแล้วดี good to see !liebefriday
รีวิว Harry Potter and the Sorcerer's Stone ครบรอบ 20 ปี ด้วยรักและคิดถึงพ่อมดน้อย!!!


  •  การกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง แฮรี่พอตเตอร์ เราเชื่อเลยว่าคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับภาพยนตร์สุดคลาสสิค ซึ่งสร้างมาจากนวนิยายแฟนตาซีชื่อดังของนักเขียนอย่าง J.K. ROWLING อย่างแน่นอน ซึ่งเหตุผลของการนำภาพยนตร์อย่าง Harry Potter and the Sorcerer's Stone กลับมาฉายบนจอเงินนั้น เนื่องมาจากการฉลองครบรอบ 20 ปี ของภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นเอง! 

    ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เหล่าสาวกของภาพยนตร์และนวนิยายเรื่องนี้ต่างพากันตื่นเต้น จนทำให้รอบฉายของโรงภาพยนตร์หลายแห่งเกือบเต็มตั้งแต่วันแรกกันเลยทีเดียว

    Harry Potter and the Sorcerer's Stone นับว่าเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรก ๆ ที่ทำให้ใครหลายคนได้รู้จักกับสามนักแสดงหลักของเรื่องอย่าง Daniel Radcliffe (รับบทเป็น Harry Potter) , Emma Watson (รับบทเป็น Hermione Granger) , Rupert Grint (รับบทเป็น Ronald Weasley

    แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือเรื่องแรกที่ทำให้ตัวเราเองได้รู้จักกับสามนักแสดงหลักเช่นเดียวกัน
    โดยส่วนตัวขอสารภาพเลยว่าเกิดไม่ทันตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายเมื่อ 20 ปีก่อนจริง ๆ แต่จากที่จำความได้เราได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ครั้งแรกจากแผ่นเทปหรือแผ่นซีดีของคุณน้า ที่เป็นแฟนตัวยงของภาพยนต์ชุดนี้นี่แหละ  ซึ่งตอนนั้นด้วยความที่เรายังเด็กมาก ๆ จึงทำให้ความรู้สึกแรกมันค่อนข้างจะเลือนลางมาก ๆ 

    แต่ก็มีบางฉากที่เป็นความทรงจำในวัยเด็กที่เราไม่สามารถลืมมันได้ อย่างฉากที่แฮรี่พูดคุยกับงู ส่วนตัวแล้วเราเป็นคนไม่ชอบงูเลยฝังใจกับภาพนั้นอยู่ในหัวตลอด 

    หรือฉากที่แฮกริดกับแฮรี่พบกันครั้งแรก ซึ่งในความรู้สึกแรกที่เห็น เรามองว่าแฮกริดเป็นคุณลุงที่แสนดีและอบอุ่นมาก ๆ โดยเฉพาะกับแฮรี่

    หลังจากนั้นก็มีอีกหลายฉากที่เราพอจำความได้ ซึ่งส่วนใหญ่ฉากที่เราชอบมากที่สุดของภาคนี้คือทุกฉากที่ได้เห็นความเป็นธรรมชาติของนักแสดงเด็กทั้งสามคนที่แสดงร่วมกัน เคมีและการแสดงต่าง ๆ ทำให้เราในตอนนั้นเชื่อสนิทใจไปเลยว่าทั้งสามคนคือเพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ 
    ซึ่งความประทับใจเหล่านั้นเอง ที่ทำให้เราตกหลุมรักและเริ่มติดตามดูภาพยนตร์ชุดนี้เรื่อย ๆ เสมอมา

    และแน่นอนว่า พอได้มีโอกาสเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์เราก็ไม่รอช้า รีบจองตั๋วตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย ความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านจอกว้าง ๆ และเสียงกระหึ่มจุใจ ซึ่งความรู้สึกของการดูภาพยนตร์ที่บ้านกับที่โรงภาพยนตร์นั้นมันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอยู่แล้ว โดยส่วนตัวเราชอบความรู้สึกจากการที่ได้ดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มากกว่า

    ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดู มันปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก ความทรงจำที่เลือนลางในตอนเด็กกลับมาอีกครั้ง ฉากหลายฉากที่เคยลืมไปก็กลับชัดเจนขึ้นมาในหัวใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งฉากที่เราชอบที่สุดคงจะไม่พ้นฉากที่รอนส์และแฮรี่พบกันบนรถไฟ แน่นอนว่าถ้าเป็นเสียงพากย์ไทยนี่คงจะเป็นอะไรที่คลาสสิคสุด ๆ ไปเลย แต่น่าเสียดายที่ตัวเราเองไม่ได้ดูแบบพากย์ไทย ? ซึ่งตอนที่ รอนส์ พูดว่า "ร้ายกาจ" อยู่ ๆ เสียงพากษ์ไทยที่เคยได้ยินในตอนเด็กก็ผุดเข้ามาในหัวเราทันที

    และการกลับมาดูเรื่องนี้อีกครั้ง ก็ทำให้เรายังเกิดความหงุดหงิดกับตัวละครอย่าง มัลฟอย (แสดงโดย Tom Felton) ในวัยเด็กที่ทำตัวได้น่าหมั่นไส้เหมือนเดิม 
    ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้เรารักและติดตามภาพยนตร์ชุดนี้ ก็ยังคงเป็นนักแสดงหลักทั้งสามคนที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง อีกทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสามยังทำให้ผู้ชมอย่างเรารู้สึกหวนคิดถึงช่วงเวลาในวัยเหล่านั้นเช่นเดียวกัน 

    และสำหรับใครที่เป็นแฟน ๆ ตัวยงของภาพยนตร์เรื่องนี้ หรือใครก็ตามที่ยังไม่เคยได้รับชม เราบอกเลยว่าถ้ามีโอกาสก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงจริง ๆ 

    นอกเหนือจากประสบการณ์ที่จะได้รับชมในโรงภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบที่ให้ความแตกต่างจากการดูอยู่ที่บ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งเลยคือการได้กลับมาดูภาพยนตร์ที่เคยดูในวัยเด็ก พร้อมทั้งได้เห็นนักแสดงเด็กที่หลาย ๆ คนคิดถึง นอกจากนี้ยังหวนคืนวันวานของความทรงจำแรกในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราขอบอกเลยว่ามันดีงามมากจริง ๆ !!!     















Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in