เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Stubborn as the wolf (mule)FalseSurtr
Phlegm
  • เกลียดปากอันเน่าเสียของแกฉิบหาย 

    .

    เวลาดึกสงัด เคหาสน์ทมิฬซ่อนตัวอยู่ในไอกรุ่นความสยดสยองพองเกล้า ดวงตาเรืองในจุดมืดวาววับขึ้นเป็นสัญญาณขากลับ สุนัขป่ามอมแมมตัวหนึ่งกระโจนลอดเข้าทางรั้วบิดงอ มันตะกุยเท้าไปทั่วสวนรกชัฏ ปากคาบเอาทั้งกระดูกและซากที่ล่ามาเมื่อครู่เข้าโถงทางอันปูด้วยหิน

    แสงเทียนมีให้เห็นเป็นจุด เมื่อเล็บส่วนเกินอุ้งตีนครูดกับหินเสียงดังแท็บ แท็บ แท็บ เชิงเทียนก็ลอยเข้ามาเป็นจังหวะย่ำทายทัก พ้นจากความมืดอันคล้ายว่าสามารถเป็นนิรันดร์ ร่างของบุรุษรูปงามปรากฎขึ้นเด่นชัดโดยแสงวูบวาบฉาบใบหน้า

    คลีถอนลมหายใจเสียงแผ่ว เขามองดูมัน—สุนัขป่าคลุกเศษสวะแปรสภาพกายินเป็นร่างเฉกเพศสภาวะผู้สืบวงศ์ ดวงตามันเบนมองมาที่เขาอย่างเฉยๆ มือคู่นั้นเอื้อมรับร่างกระต่ายป่าในปากตนมาถือ น้ำลายสายหนึ่งไหลตกลงตามสภาพแรงโน้มถ่วง เสียงน้ำหยดดูจักดังมากเมื่อทั้งสองไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติด้านการทักทายอย่างเป็นทางการ

    ด้วยของเหลวใสเมือกเคลือบทับจนขนปุกปุยเรียบแปล้ คลีแสดงสีหน้าเหยแก เขาแกว่งเชิงเทียนไปทางมัน เปิดเรื่องด้วยการตำหนิเกี่ยวกับเวลาอันคลาดเคลื่อนลงไปนานอักโข แล้วค่อยเอ็ดเรื่องอาหารที่มันนำมา

    “สภาพอุบาทว์สิ้นดี แกจะให้ข้าเลียน้ำลายแกรึอย่างไร, ห๊า”

    “เพิ่งจะมาทำรังเกียจ ถ้าแขยงมากก็ล้างเอาเองเหอะ” มันตอกกลับแล้วก้าวเลี่ยงการปะทะไปที่ห้องไร้ประตูหมายเลขหก โต๊ะยาวตัวแรกถูกเลือกเป็นที่หมายปลายทางกับของในมือ มันกึ่งวางกึ่งโยนกระต่ายอนาถาไว้บนเนื้อไม้ หลังจากนั้นก็ดุ่มๆ ไปเคี้ยวกระดูกบนโซฟาง่ายดายราวเคี้ยวผักกรอบ

    คลีเดินตามไปทีหลัง เขาวางเชิงเทียนและตรวจสอบมื้อค่ำอย่างเก้ๆ กังๆ เห็นชัดเลยว่าไม่อยากสัมผัสโดยน้ำลายเหนอะ และในตอนนั้น ตอนที่สัมผัสโดนเมือกน้ำลายกอปรโลหิตสัตว์ เขาก็รู้แจ้งอย่างทันที ร่างของเขาหมุนไปเมียงมองทางชาติหมาป่า ปกติ ปกติดี แต่ข้างในจริงๆ คือไม่

    “ทำไมไม่บอกฉัน ไอ้หมาเป็นโรค” เขาเอ่ย ละความสนใจจากต่างๆ บนโต๊ะ แล้วหยิบยื่นความนั้นให้แก่ร่างบนโซฟาสีเขรอะ 

    มันปัดเศษกระดูกก่อนจะลุกขึ้นยืด ร่างนั้นก้าวเอื่อยๆ ผ่านคลีไปอีกทาง จากเส้นทางที่มันเลือก คาดว่าไม่พ้นไปชำระกายจากความเหน็ดเหนื่อย

    “แค่ไข้หวัดกระจอกๆ” มันว่า แล้วไม่ลืมพาล “ใครล่ะสั่งให้สำอางอาบน้ำทุกคืน”

    บอกตรงๆ ว่าปลงจริงๆ 

    “ไข้หวัดกระจอกอัปรีย์อะไรล่ะ เชื้อในน้ำลายแกได้ติดฉันจนป่วยตาม” โอเวอร์ไปอย่างนั้น ผีดิบบริโภคเลือดเดรัจฉานอย่างเขาไม่ป่วยกับโรคใดๆ หรอก ซึ่งความข้อนี้ทั้งคู่เข้าใจตรงกันดี

    “ถ้าติดได้ก็อยากให้ติด พอท่านป่วยตายไปแล้ว ข้าจะได้ปลดแอกแห่งการล่าหมูเห็ดเป็ดไก่เพื่อท่านสักที”

    คลีหัวเราะหึ 

    “น่าเสียดายที่แอกบนหลังแกกลายเป็นอวัยวะเดียวกันกับตัวแกไปเสียแล้ว”

    หมาป่านิ่งไปครู่เล็ก มันทำหน้าเหมือนแหวะ แล้วหันไปสู่ทางเดินของมัน 

    “ไปดูดกลืนอาหารเคลือบน้ำลายอันสุดแสนจะโอชะนั่นเถอะ ข้านอนดีกว่าเสวนากับท่านเป็นไหน”

    ก็แหม, ข้าเกรงว่ามันจักตรงตามที่ท่านว่าไร้ข้อกังขาทั้งหมดนั่นแล
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in