เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
AKSORNIANChalida C.
รีวิววิชาบังคับอักษรฯ จุฬาปี 1 เทอม 1
  •                 รีวิวนี้เขียนจากประสบการณ์ส่วนตัว แต่ละเซคมันอาจจะคล้ายๆ แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าได้ยินพี่คนอื่นเล่ามีอีกแบบก็ไม่ได้แปลว่ามันผิดนะ ก็แล้วแต่ดวงของน้องแล้วว่าจะระบบจะสุ่มเซคไหนมาให้ ถ้าเป็นเซคสอนสนุกสอนมันส์ก็โชคดีไป ถ้าเซคที่ซัฟเฟอร์หน่อยพี่ก็เอาใจช่วย 55555555555

    ENGLISH I

                    ในความรู้สึกพี่นี่เป็นวิชาที่ต้องปรับตัวมากวิชาหนึ่งเลย เรียนอังกฤษในมัธยมก็จะมีแต่ไวยากรณ์กับท่องศัพท์อะไรประมาณนั้นแถมเรียนกับครูไทยด้วย แต่วิชาหนึ่งคือเรียนกับครูต่างชาติ (เห็นบางเซคเป็นครูไทยแต่อาจารย์ก็พูดอังกฤษอยู่ดี) แล้วก็มีทักษะที่เราไม่ค่อยได้ฝึกในมัธยมอย่างการอ่านหรือเขียนพารากราฟ

                    สไตล์การสอนก็แล้วแต่เซค พี่ได้เรียนกับอาจารย์ชื่อ Ingo Peters อยากจะบอกว่าสอนดีมากกกกกกก ถึงจะง่วงๆก็เถอะแต่พออีกเทอมไปเรียนกับคนอื่นถึงได้รู้ว่าเขาสอนดีแล้ว 5555555 เป็นครูที่ใส่ใจเด็กมากๆ ชอบมีขนมมาให้กิน เวลาตอบไม่ได้ก็ไม่ว่า ตรงนี้พี่รู้สึกว่ามันดีมากๆ คือไม่เสียกำลังใจอ่ะ ถ้าคำตอบไม่ถูกเขาจะไม่ You're wrong แต่จะพูดชมก่อน Interesting, but..... หรือ Let me see... ก่อนแล้วค่อยอธิบายว่าไม่ถูกยังไง หรือต้องคิดแบบไหน ใครสุ่มได้เซคนี้ก็ดีใจได้เลย!

    3 in-class writing assignments

                    มีทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งละ 20 คะแนนซึ่งจะเป็นพารากราฟคนละแบบ ปีพี่เรียน Reason, Example แล้วก็ Pros and Cons ตามลำดับ แต่ละครั้งอาจารย์ก็จะสอนก่อนว่าควรเขียนยังไง เขียนแบบไหน (จริงๆ มีชีทตัวอย่างนะถ้าจำไม่ผิด แต่พี่ไม่ค่อยได้ใช้) จากนั้นก็จะให้เขียนมาส่ง เขาก็จะตรวจๆ ไป คอมเพลนว่าตรงนี้ไม่ดีนะ ตรงนี้เขียนผิด ประมาณนั้น

                    ตรงนี้ที่พี่ีรู้สึกว่ามันยาก แรกๆ เขียนไปจะโดนติเรื่ืองเหตุผลมันเป็นนามธรรมเกินไป ประมาณว่าไม่ Concrete อาจารย์จะชอบให้อ้างตัวเองเป็นหลัก ประมาณว่าฟังดูน่าเชื่อถืออะไรแบบนี้เลย แต่อันนี้ก็แล้วแต่เซคเหมือนกันนะ

                    สอบในห้อง มีเวลาเขียน 1 ชั่วโมง บางเซคก็เปิดดิกชันนารีในโทรศัพท์ได้ บางเซคก็ให้ใช้แค่ดิกชันนารีแบบเล่มๆ ค่ะ แล้วแต่อ่ะ แต่มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง คือพี่ได้ยินมาว่ามีเซคอื่นใช้โทรศัพท์ได้แต่เซคพี่ห้าม ตอนฝึกเขียนเลยสบโอกาสเขียนฟ้องว่ามีเซคอื่นใช้ได้นะ อาจารย์วงกลมตรงนั้นแล้วเขียนว่า Really? แล้วสอบครั้งต่อมาอาจารย์พี่เลยให้ใช้โทรศัพท์ได้เลยอ่ะ ก็ลองท้วงๆ ถามๆ ดูละกันนะเออ 55555555555

    2 reading tests

                    ถ้าใครไม่ถนัดสกิลก็เตรียมใจไว้ได้เลยเพราะมันหินมาก /ปาดน้ำตา เพราะน้อยนักที่จะมาแบบช้อยส์ ส่วนมากจะเป็นให้เขียนตอบมากกว่า จะมีตั้งแต่ถาม Main Idea ของพารากราฟหรือทั้งพาสเสจ ถามว่าคำนี้ refer ถึงอะไร หรือถาม synonym ของคำในพาสเสจ True or false ฯลฯ แต่อะไรไม่ร้ายเท่ากับคำว่า In your own words อีกแล้ว เห็นคำนี้ทีไรน้ำตาจะไหล นอกจากจะต้องหาอะไรมาตอบแล้วยังต้องพาราเฟสอีก T_T สอบครั้งแรกมีช็อคกันไปทั่วทุกหย่อมหญ้า (เว่อร์ คนทำได้ก็มี เขาเก่ง 555555555)

                    แต่ไม่ต้องเครียดไป อันนี้ก็มีแบบฝึกให้ทำก่อนสอบอีก ประมาณว่าจะได้ไม่ช็อคกับข้อสอบมากนัก (แต่ไม่ช่วยเท่าไหร่ถ้าพาสเสจในข้อสอบมันยากแบบล้มทั้งยืน) สิ่งที่ทำได้คือสวดมนต์กับท่องศัพท์เยอะๆ ทำยังไงก็ได้ให้อ่านรู้เรื่อง แล้วแต่แต้มบุญเก่าๆ กันไป ฮือ

    External reading test

                    ยินดีด้วยค่ะทุกคน เราต้องอ่านนิยายภาษาอังกฤษกันค่า!! อ่านกันหูตาแฉะไปสำหรับหนังสือนอกเวลา ขอเตือนว่าให้ทยอยๆ อ่านไปเพราะถ้าไปอ่านก่อนสอบจะซัฟเฟอร์หนักมาก ไฟลนเว่อร์อะไรเว่อร์ อันนี้ 20 คะแนนเลยทีเดียวเชียว ซึ่งหนังสือนอกเวลานี่จะไปสอบตอนมิดเทอม แต่ขอแยกหมวดออกมาเลยแล้วกันจะได้เน้นๆ ไปเลย

                    แนวข้อสอบก็จะเป็นประมาณว่า quote สักตอนในหนังสือมาแล้วก็ถามว่าอันนี้ใครคุยกับใคร หรือเอาบทสนทนามาช่วงหนึ่งแล้วก็ถามว่า you I we they ที่ว่าเนี่ยมันใคร คำๆ นี้มีความหมายอะไรกับเนื้อเรื่อง พาร์ทนี้เป็นตัวเก็บคะแนนได้เลยเพราะเอาจริงๆ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น ยกเว้นว่าเรื่องที่อ่านมันซับซ้อนหรือเราไม่ชอบแล้วจำไม่ได้เอง แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ถามละเอียดแบบแฟนพันธุ์แท้นะ สู้ๆ *^*

    Midterm test

                    ประกอบด้วยพาร์ทแกรมมาร์ 25 คะแนนและพาร์ทคำศัพท์ 15 คะแนน มาจากในหนังสือนั่นแหละ ตอนเรียนจะมีเว็บทำแบบฝึกเสริมด้วย ทำในเว็บนั้นจะช่วยมากๆ ทำผิดเดี๋ยวมันก็เฉลยให้ ไม่มีอะไรมากแค่เรียนให้เข้าใจพอ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามอาจารย์ได้เลย อาจารย์ใจดีทุกคนแหละ *^*

    2 listening quizzes

                    ครั้งละ 5 คะแนน จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก อันนี้แล้วแต่ดวงว่าจะได้ฟังเรื่องอะไร อย่างปีพี่ (ปี 59) ครั้งแรกต้องฟังอะไรก็ไม่รู้แล้วเสียงไม่ชัดเลย โอดครวญกันไป แต่มันแค่ครั้งละ 5 คะแนนอะเนอะ แถมยังต้องไปหาร 3 อีก ก็ชิวๆ ได้ไม่ได้ก็ช่างมันแล้ว 55555555

                    แต่เรียนมหาวิทยาลัยไม่เคยมีอะไรง่าย แม้แต่ควิซฟังสั้นๆ ยังซัฟเฟอร์ได้เพราะมันเป็น pop quiz หมายความว่าไม่มีใครรู้ว่าจะสอบวันไหนจ้า 5555555555555 แล้วจะสอบตอนต้นคาบด้วย เพราะฉะนั้นห้ามสาย ห้ามตาย ห้ามป่วยวันควิซ (เว่อร์) ถ้าเกิดควิซวันที่เรียนแปดโมงก็นะ อะเฮื้อ โชคดีๆ 5555555555

    1 oral presentation

                    แค่ 5 คะแนนเท่านั้น ค่อนข้างฟรีสไตล์เลยเพราะพูดหัวข้ออะไรก็ได้ แค่อย่าเกินเวลาพอ ไม่รู้ว่าเซคอื่นเป็นยังไงแต่เซคพี่มีตั้งแต่วิชาการจนถึงสอนทาลิปสติกอ่ะ เฮฮากันไป เคยเห็นเพื่อนคนหนึ่งพรีเซ้นท์ทำค็อกเทลอะไรสักอย่างด้วยแต่โดนห้ามไม่ให้กินในห้องเพราะมันมีแอลกอฮอล์ โถ่

    Holistic grade

                    เป็น 10 คะแนนที่ถือว่าได้มาง่ายสุดแล้วมั้ง? 555555 หลักๆ มาจากความตั้งใจเรียนในห้องกับคะแนนเข้าเรียน วิชานี้ห้ามขาดเกิน 3 ครั้งแต่น่าจะแล้วแต่เซคว่าเช็คชื่อไหม อย่างของเซคพี่ไม่เช็คก็จริงแต่เขาจำทุกคนได้ ก็เลยต้องเข้าเรียนกันไป /ร้องไห้

    Special assignment (group project)

                    เป็นโปรเจ็คส่งท้ายก่อนสอบ แล้วแต่ว่าหัวข้อจะเป็นอะไร (รู้สึกว่าจะตามบทในหนังสือเรียนนั่นแหละ) อย่างปีพี่ให้ทำเกี่ยวกับหนัง ก็สนุกดีนะ จอยๆ ไม่เครียดว่าต้องเป็นวิชาการอะไรแบบนั้น ไม่ต้องกังวลเลย *^* พิเศษหน่อยตรงที่เราจะมีเซคโคแล้วก็ต้องจับกลุ่มกับเพื่อนในเซคโคด้วย งานนี้ 15 คะแนนฮับ

    Final examinatioท

                    อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนไฟลน เหมือนทุกอย่างที่เรียนมาถาโถมลงที่ไฟนอล 5555555555 ไฟนอลจะมี 4 พาร์ทคือแกรมมาร์ 40 คะแนน อ่าน 25 คะแนน โวแคป 15 คะแนนแล้วก็มีให้เขียนพารากราฟ 20 คะแนน รวม 100 คะแนน /เป็นลม

                    พาร์ทแกรมมาร์กับโวแคปก็จะเหมือนตอนมิดเทอมนั่นแหละ ทำแบบฝึกเยอะๆ ก็จะจับจุดได้เอง ส่วนรีดดิ้งก็พนมมือเอาเหมือนเดิม ไรติ้งไม่ยาก เขาให้เราเลือกเขียนจากสามแบบที่เราเรียนไปทั้งเทอม เราก็เลือกอันที่ถนัดที่สุดเลย สำคัญคือต้องบริหารเวลาดีๆ ควรรีบๆ ทำแกรมมาร์กับโวแคปให้เสร็จ ให้เวลากับรีดดิ้งมากๆ

  • EASTERN CIVILIZATION

                    วิชาที่อยากต้มหนังสือกินๆ เข้าไปเลยเพราะเนื้อหาเยอะเรือหายมาก วันไนท์มิราเคิลคืออะไรกันสังคมมมม เป็นวิชาหนึ่งที่ทำให้เราต้องทิ้งการเรียนแบบมัธยมไป เพราะถ้าไม่ตั้งใจเรียนในห้องแล้วมาเร่งอ่านคืนก่อนสอบเราจะตายได้นั่นเอง

                    วิชานี้จะแบ่งออกเป็นสี่พาร์ท ได้แก่ อารยธรรมอินเดีย อารยธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อารยธรรมจีน และอารยธรรมญี่ปุ่น สองพาร์ทแรกสอบตอนมิดเทอม สองพาร์ทหลังสอบไฟนอล ทั้งหมดนี้อัดอยู่ในหนังสือเล่มหนาที่ฟาดหัวหมาตายได้ มีอาจารย์ที่สอนวิชานี้ 4 คนตามเรื่องที่เรียน

                    วิชานี้เรียนห้องใหญ่รวม 300 กว่าคนเพราะฉะนั้นไม่มีการเช็คชื่อใดๆ จะสายจะขาดจะลาป่วยลาอะไรทำตามสบาย ยกเว้นอารยธรรมจีนเพราะอาจารย์ไม่ชอบให้นิสิตเดินระหว่างสอน ถ้ามีคนเดินอาจารย์จะหยุดพูด ฟังดูเข้มงวดแต่เป็นอาจารย์ที่ฮอตฮิตมากเพราะสอนสนุกที่สุดแล้ว ข้อสอบก็รู้สึกว่าจะออกง่ายที่สุดแล้ว (มั้งนะ) ส่วนที่ยากที่สุดก็คือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่อยากพูดอะไรมาก เอาเป็นว่ามันผีที่สุดแล้ว แต่รุ่นต่อๆ ไปน่าจะเรียนกับคนอื่นซึ่งก็อาจจะดีขึ้น หวังว่านะ 555555

    REASONING

                    วิชานี้เรียนการให้เหตุผล ฟังดูดีป่ะ 55555555 เนื้อหาก็จะเป็นแนววิเคราะห์ว่าสิ่งที่อ้างกับสิ่งที่สรุปเนี่ยมันสมเหตุสมผลกันไหม ตรงนี้ใช่ตรรกะวิบัติหรือเปล่า เป็นการอ้างที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ ใครมาจากสายวิทย์คณิตหรือถนัดคำนวณหน่อยบอกได้เลยว่าสบายเพราะเนื้อหาก่อนมิดเทอมจะคล้ายๆ เรื่องการให้เหตุผลในเลขพื้นฐานเลย พวกแผนภาพเวนย์-ออยเลอร์นั่นแหละ ส่วนหลังมิดเทอมจะยากขึ่้นมาหน่อยเพราะเริ่มมาเป็นบทความ อย่าประมาทจากความง่ายของมิดเทอมเพราะพี่เป็นมาแล้ว มิดเทอมเกือบเต็มแต่สุดท้าย B+ /ร้องไห้

                    วิชานี้บอกได้เลยว่าการสอนแต่ละเซคแตกต่างกัน ในบางเซคอาจจะแตกต่างมากถึงมากที่สุด ถ้าใครได้เซคอาจารย์ที่ชื่อวศินก็เตรียมตัวเตรียมใจไปเลยจ้า 555555555555555555555 ได้ยินเสียงลิือเสียงเล่าอ้างว่างานเยอะ แต่เห็นเพื่อนที่ผ่านเซคนี้มาได้ shine bright like a diamond ทุกคนเลย

    INTRODUCTION TO DRAMA

                    วิชาที่เรียนชิวสอบชิวที่สุดของเทอมแล้ว (มั้ง) เปลี่ยนครูทุกเรื่องที่สอน เรียนห้องรวมห้องเดียวกับอารยธรรมเพราะฉะนั้นลืมเรื่องเช็คชื่อไปได้เลย วิชานี้ก็เรียนเกี่ยวกับละครแบบเบื้องต้น เช่น พัฒนาการของละคร แสง สี เสียง ฉาก องค์ประกอบของละคร สไลด์ชอบมีอะไรพีคๆ มาให้เด็กกรีดร้องกันอยู่ตลอดเวลาแต่พี่จะไม่สปอยล์ รอไปเจอเองนะ /หัวเราะปีศาจ อาจารย์ใจดีทุกคนเลย

                    เสียงลือเสียงเล่าอ้างอีกเหมือนกันว่าเป็นวิชาเก็บเอ ซึ่งมันก็มีคนไม่ได้แหละแต่เห็นส่วนใหญ่ก็เกรดดีกันทั้งนั้น ถ้าไม่เทมิดเทอมกับไฟนอลไปอ่ะนะ จำไม่ผิดก็มีงานแค่สองชิ้น เป็นงานวิจารณ์ละครกับภาพยนตร์ ซึ่งละครที่ว่าก็เป็นละครที่คณะทำนั่นเอง บางเรื่องก็สนุกแต่บางเรื่องก็ติสต์จนแบบนี่ดูอะไร (วะ) แหะๆ

    USE THAI LANG

                    เรียนภาษาไทย พวกราชาศัพท์ การเขียนเรียงความ การตีความ อ่านจับใจความ ย่อความ ฯลฯ มีงานต้องส่งด้วย เรียนห้องรวมห้องเดิมก่อนแล้วค่อยแยกไปเรียนตามเซค วิชานี้่น่าเบื่ออ่ะสำหรับเรา มิดเทอมก็ต้องอ่านๆ เยอะหน่อยแต่ไฟนอลคือชิวมาก เพราะมันเตรียมอะไรไม่ได้เลย ไปตายทีเดียวในห้องสอบจ้า 5555555 แค่นี้แหละสั้นๆ เป็นวิชาที่ไม่ชอบอ่ะไม่รู้จะพูดอะไร

    RES COMP

                    ชื่อเต็มคืออะไรไม่รู้ขี้เกียจหา 5555555 เป็นวิชาทำรายงานนั่นแหละ แต่ปีหลังๆ นี้ดีหน่อยที่ไม่ต้องทำรายงานจริงๆ ส่ง ทำแค่เค้าโครงนิดหน่อยเป็นคะแนนเก็บ มีควิซในแบล็กบอร์ดหลังเรียนแต่ละบท มิดเทอมแค่ 15 คะแนนทำให้คนส่วนใหญ่เท เท เท แต่พี่อ่านไปคะแนนก็โอเคอยู่นะ ไฟนอลเป็นโอเพ่นบุ๊คแต่ยาก (ในความรู้สึกพี่) ถ้าตั้งใจทำการบ้านกับควิซหน่อยก็ได้เกรดดีเลยแหละ แต่พี่ขี้เกียจ จบ เนื้อหามีตั้งแต่การเลือกหัวข้อ การสืบค้นข้อมูล การวางโครงรายงาน เขียนบรรณนานุกรม เป็นวิชาที่ตอนเรียนน่าเบื่อมาก จนนี่โดดรัวมาก แต่เอาจริงๆ เป็นวิชาที่สำคัญมาก /ร้องไห้ พี่โดนเซคสุดท้ายที่เป็นเหมือนแหล่งรวมคนเด้ง แต่เซคนี้ดีเพราะเป็นเซคเดียวที่ีได้เรียนห้องคอมพ์ เซคอื่นเรียนห้องเลคเชอร์กันหมดเลย อิอิ รู้สึกวิน

                    หมดแล้ววิชาบังคับของอักษรปี 1 เทอม 1 ทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน ถ้าใครมีคำถามก็เมนชั่นหรือคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะ :) หวังว่าจะมีประโยชน์กับน้องๆ นะ เรียนให้สนุกเด้อ ใครกำลังสอบเข้าก็สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้ ♡       

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Rada Subphachaisirikul (@fairy.rada)
ฮือ มาเขียนอีกนะคะๆ
Chalida C. (@chalida)
@fairy.rada เดี๋ยววิชาเทอมสองจะตามมาน้า~