เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการรักษาharittodiary
ก่อนที่หัวใจจะเริ่มแตกสลาย #1
  • ต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทุกคนกำลังเจอมรสุมโควิด-๑๙ แบบไม่หยุดหย่อน จากเดิมที่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย หรือได้ออกไปทำงานข้างนอก ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการ WFH (Work From Home) กันแทบทั้งหมด ซึ่งการ WFH ในตอนนี้น่าจะเป็นอะไรที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกัน และคงยังจำความรู้สึกในการปรับมาเป็น New Normal แรก ๆ ได้ดีกันอยู่ ไหนจะต้องใส่แมสตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ และคาดเดาไม่ได้เลยว่าโรคนี้จะจบสิ้นเมื่อไหร่ เต็มไปด้วยความกังวลอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าตัวเองติดหรือยัง และถ้าหากติดแล้วจะต้องรักษาอย่างไร ตอนนั้นเป็นช่วงที่ยังไม่ค่อยมีใครทราบเกี่ยวกับตัวไวรัสนี้มากนัก

    เราเป็นนิสิตที่กำลังศึกษาในคณะสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ จากเดิมที่ได้ไปเรียน ได้ไปทำแล็บที่มหาวิทยาลัย ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการ Study From Home แทน โชคดีที่คณะมีการเตรียมตัวมาอย่างดี ทำให้ใช้เวลาปรับเปลี่ยนเป็นออนไลน์เพียงแค่ 1 วัน หลังปรับเสร็จทุกวิชาก็เรียนต่อเป็นปกติ เพียงแต่ต้องปรับมาเป็นรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด

    แน่นอนว่าการเรียนออนไลน์เป็นอะไรที่ค่อนข้างสบายมาก ๆ ในช่วงแรก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องแต่งตัว บางครั้งไม่อาบน้ำอาจารย์ก็ไม่รู้ แถมบางคาบยังมีวิดีโอให้ดูย้อนหลังอีก สำหรับสายนอนดึก (และตื่นสาย) อย่างเราก็คือสบายมาก ๆ บางคาบคือโดดเรียนแล้วค่อยมาตามวิดีโอย้อนหลังก็ยังได้

    บางวิชามีการปรับเปลี่ยนมาวัดผลด้วยการทำงานส่งเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องอ่านหนังสือสอบ แค่ทำงานส่งก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว วิชาไหนที่เราไม่ชอบก็ไม่ต้องไปฝืนอ่าน แค่ทำงานให้จบ ๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น สบายยิ่งกว่าการไปเรียนที่คณะอีก
  • แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ

    ปกติแล้วเราจะพักอาศัยอยู่ที่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย ด้วยความที่บ้านไม่ได้เป็น Safe Zone สำหรับเราขนาดนั้น การที่ต้องกลับมาพักอาศัยที่บ้านเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกือบ 5 เดือน (หรือมากกว่านั้น ก็คือนับตั้งเเต่ช่วงต้นปีที่มี lockdown) การที่อาศัยอยู่ที่บ้านนาน ๆ โดยแทบไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย ไม่ได้เจอเพื่อนแบบตัวเป็น ๆ ไม่ได้ทำกิจกรรมที่เคยทำ แถมการเรียนในบางครั้งก็ค่อนข้างเครียดและกดดันพอสมควรแม้จะปรับมาเป็นออนไลน์แล้วก็ตาม แถมช่วงหลัง ๆ คณะเราก็เริ่มเพิ่มมาตรการต่าง ๆ มากขึ้น (แม้ว่าจะมีกระแสตีกลับจากนิสิตก็ตาม) ทั้งงานที่มากขึ้น การบ้านที่มากขึ้น การเรียนที่มีการเช็กชื่อในคาบและมีการเก็บคะแนนควิส การสอบที่ต้องตั้งกล้องสอบออนไลน์ จากเดิมที่เราเคยชิลก็เริ่มเหนื่อยล้ามากขึ้น จากบ้านที่กลายเป็นสถานที่ที่ไว้ใช้พักผ่อน เล่นเกม หรือนอน กลับกลายเป็นที่ที่ต้องทำงาน หรือเรียนแทบตลอดเวลา จนเส้นแบ่งระหว่างการเรียน และการพักผ่อนเริ่มจางลง เวลาพักผ่อนลดลงหายไปเรื่อย ๆ แม้จะนอนก็ยังมีไลน์เกี่ยวกับเรื่องเรียนเข้ามาตลอดเวลา

    และที่แย่กว่านั้นคือการที่เราไม่ได้ปิดเทอมแบบคณะอื่น (เพราะคณะเราบอกว่า รุ่นพี่จะไม่ได้ฝึกงานถ้าหากไม่เลื่อน เพราะรุ่นพี่ติดโควิด การเลื่อนเปิดเทอมจะทำให้รุ่นพี่ไปฝึกงานปลายปีได้) ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเลื่อนแค่ของรุ่นพี่ไม่ได้ แต่ก็คงไม่มีทางเลือกมากนัก เลยต้องพยายามปรับตัวแล้วลุยต่อแบบไม่ได้หยุดหย่อน

    ใช่แล้ว หลังจากนั้นความเหนื่อยล้าก็เริ่มสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนดูเหมือนจะเลยเพดานที่เป็นขีดจำกัดของเราโดยไม่รู้ตัว เผลอ ๆ อาจจะเลยเพดานมาตั้งนานแล้วก็ได้ เพียงแต่ตอนนั้นคิดว่าคงยังไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวสักพักโควิด-๑๙ ก็คงหายไป

    แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความหวังแล้ง ๆ สะแล้วสิ...

  • #ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ จะมาเขียนอย่างน้อยอาทิตย์ละตอนครับ ^^

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in