ที่ทำให้เรารู้ว่าญี่ปุ่นไม่ได้มีดีเมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า   

หรือสถาณที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วๆไป 

แต่หนังสือเล่มนี้พาเราไปเจอกับเมืองเล็กๆ ที่ไร้ความวุ่นวาย เงียบสงบ 

แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะและความอบอุ่นแบบญี่ปุ่น

โดยเดินทางด้วยขาสองข้างกับจักรยานหนึ่งคัน ทั้งปั่น ทั้งแบก กับเพื่อนร่วมทางคนไทยและคนญี่ปุ่น 

ประเทศญี่ปุ่นคงเป็นประเทศอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะไปเยือน

เราเองก็อยากไปประเทศญี่ปุ่นมากๆเช่นกัน หลงไหลในวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ อาหาร และมังงะ

แต่ถ้าถามเราว่าถ้าเป็นผู้อยู่ ไม่ใช่ผู้มาเยือน จะเลือกอยู่ใช้ชีวิตที่เมืองอะไร 

คำตอบของเราคือเมืองอะไรก็ได้ขอแค่อยู่ในชนบท บ้านเรือนหลังน้อยๆล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ

มีทุ่งหญ้า แม่น้ำ บรรยากาศเงียบสงบ ไม่ต้องขับรถใช้ขี่จักรยานหรือเดินแทน เราชอบแบบนั้น

และหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยสถานที่ที่เราต้องการแทบจะทั้งสิ้น 

อย่างเช่น เมืองคุระชิกิ เมืองโอซัทซึ และเกาะนาโอชิมะ เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกเล่าแค่การท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆของญี่ปุ่น 

แต่ยังเล่าถึงประวัติความเป็นมาแต่ละเมือง จากปากคนท้องถิ่นจริงๆ 

หลากหลายเรื่องที่เราเคยรู้ข้อมูลแค่เพียงผ่านๆ 

แต่หลังจากอ่านเล่มนี้ทำให้เราเข้าอกเข้าใจคนญี่ปุ่นมากขึ้นแน่นอน 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค 

ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงอยากเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคมากขนาดนี้ทั้งๆที่ตอนนั้นประเทศกำลังยากจน 

รวมถึงเรื่องระเบิดปรมาณูในฮิโรชิม่าอีกด้วย 

เหตุการณ์วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น คุณจะได้รู้เรื่องราวจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นจริงๆ

หรือบางเรื่องที่คุณไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อนเลยแต่หนังสือเล่มนี้ก็เล่าและบอกรายละเอียดได้อย่างชัดเจน

Japan Vintage Village เป็นหนังสือที่มากกว่าบันทึกการเดินทางของนักท่องเที่ยว 

แต่เป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องราวชีวิตของคนญี่ปุ่นจริงๆในแต่ละยุคไว้ในเล่มนี้ด้วย