เดอะทิว : สัสเคน มึงติดสาวแล้วเทนัดพวกกูเหรอออ
เดอะเคน : ไม่ใช่พวกมึงอะแพม
เดอะเคน : มึงคนเดียว เพราะทุกคนเทนัดมึง
เดอะทิว : ....
เดอะทิว : gu ask real
เดอะพอร์ช : กราบขออภัยมา ณ ที่นี้
เดอะซัน : หลุยซ้อมบาส เคนหนีไปดูหนัง พอร์ชครูคณิตนัด โรมไปกับแม่กูละ
เดอะซัน : กู ขี้เกียจ
เดอะทิว : ขอร้องเลย ไอพวกเหี้ยยยย
เดอะเคน : ทำไมมีกูคนเดียวที่ขึ้นต้นด้วยคำว่าหนีวะ
เดอะโรม : เพราะมึงคนเดียวที่เทเพราะเรื่องไม่จำเป็น
เดอะเคน : ไอซันล่ะ ไอซัน!!!
เดอะพอร์ช : ซันขี้เกียจเพราะมึงไม่ไปไงเคน
เดอะเคน : ปกป้องกันเข้าไป
เดอะทิว : เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ
เดอะทิว : อีกนิดคือตายแทนกันได้
เดอะทิว : ไอสัส ไม่ต้องมาแก้ตัว!!
เดอะหลุยส์ : มาละ
เดอะทิว : อ้าวพ่อ ไมเลิกเร็วจังวะ
เดอะหลุยส์ : จริงๆวันนี้ครูพลอยแค่ประชุมทีม วีคหน้ากูไม่ได้ไปแข่ง
เดอะหลุยส์ : งั้นจะไปไหม
เดอะหลุยส์ : กู มึง กู มึง กู มึง
เดอะทิว : โหอีเหี้ย เยอะขนาดนี้กูกลับบ้านดีกว่าเถอะ
เดอะพอร์ช : 5555555
เดอะหลุยส์ : อย่างอแงดิ
เดอะทิว : งอแงพ่อง กูประชด
เดอะหลุยส์ : งั้นกลับบ้าน รอหน้าป้อมยาม
เจ้าของมือถือห้อยตุ๊กตุ่นแซลลี่ตัวเล็กเท่าข้อนิ้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังที่นัดหมาย กระโดดโบกหัวชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ก่อนเข้าทีหนึ่งข้อหากวนตีนในแชท
"โห เจ็บมาก"
"อีนี่ ต่อยมะ"
"โหดสุดในย่านนี้จริง ๆ"
"กลับกันเหอะลูอิส กูอยากต่อยมึงเร็ว ๆ ละ" คนตัวเล็กกว่าเอ่ยพลางเบ้ปากลงเล็กน้อย แต่ก็ยอมกระชับสายเป้นักเรียนที่สะพายอยู่ ตั้งใจจะเดินลัดไปยังรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนตัวดีดังเช่นทุกวัน
ทว่าทะเบียนรถคันหนึ่งที่จอดเยื้องป้ายโรงเรียนไปสักหน่อยกลับเตะตาเธอเข้าอย่างจัง
"หลุยส์"
"ว่า"
"เชฟคันขาวหน้าป้ายใช่ทะเบียนสุพรรณปะ"
รถคันที่ไม่ได้เห็นมาเกือบสามปี
"....ใช่"
ไม่ได้ติดต่อกับเจ้าของมาเนิ่นนานเช่นกัน
"มึง"
กระจกที่เคลือบด้วยฟิล์มสีดำเลื่อนลง ปรากฏภาพหญิงสาวในเรือนผมสีดำสนิท รวบหางม้าสูง และแว่นกันแดดคู่ใจแทบทำให้ทิวากรชะงักไป
"ม๊ากูอะ"
"สรุปคือม๊าจะย้ายกลับมาแล้วเหรอ"
"ไม่เชิงจ้ะ ยังทำงานที่เดิม แต่ส่วนใหญ่กลับมาทำที่บ้านได้ สลับกับบางช่วงก็ต้องกลับไปยาว ๆ"
"งี้ก็บินบ่อยเลยดิ"
"นิดหน่อยเองเรา ไม่เกินความสามารถม๊าหรอก"
เป็นอีกครั้งที่โต๊ะอาหารถูกเสริมด้วยบทสนทนาของสมาชิกในบ้านทั้งสี่คน ชายวัยกลางคนผู้ซึ่งตอนนี้กลับมาเป็นเจ้าของร้านเครื่องเขียนใหญ่ของครอบครัว หญิงสาวเจ้าหน้าที่รัฐผู้มากฝีมือ แล้วก็ลูกซน ๆ อีกสองคนมี่โตขึ้นตามวัย ทว่าบรรยากาศระหว่างทุกคนแทบจะไม่ต่างอะไรจากครั้งล่าสุดที่ได้นั่งทานอาหารด้วยกัน
"แล้วพวกเราล่ะเป็นไง มีความสุขดีเนอะ"
ไม่ใช่ประโยคประชดประชัน แต่เป็นถ้อยคำที่ถามด้วยความห่วงใหญ่ ทิวากรยกยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารัว เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งผู้เป็นพ่อและแม่
"ก็ซนเหมือนเดิมแหละเราน่ะ"
"โหยป๊า ช่วยกันบ้าง เครดิตก็ไม่ค่อยจะมีแล้วเนี่ย"
"แล้วเพิร์ธล่ะ เล่าให้ม๊าฟังบ้าง"
"มันติดสาวอะม๊า"
"แพมอย่ามั่วดิ"
"มึงอะอย่าแถ กูไปเสือกมาแล้ว!"
"ม๊าครับแพมพูดคำหยาบ"
"ขี้ฟ้องจังโว้ยยย"
"ฮ่า ๆ ร่าเริงกันก็ดีแล้วจ้ะ"
เข้าใจคำว่าลงตัวก็วันนี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in