“ไขมันสูงนะคะ... หมอให้เวลาสามเดือน ถ้ายังไม่ลดต้องกินยาลดไขมันนะ”
ประโยคที่หมอพูดหลังจากเปิดแฟ้มรายงานผลเลือด.
ชิบหาย
ก็รู้ตัวแหละ มองกระจกทีไรก็บ่นกับตัวเอง
‘พุงโตจัง’
พร้อมกับบีบเค้นพุงให้ไขมันมากองรวมกันอยู่ที่กลางท้อง
ทำไงได้อะ เป็นคนขี้เกียจนินา
รองเท้าวิ่งที่เคยซื้อไว้ก็กองเน่าอยู่ตรงมุมห้อง มีประโยชน์แค่ใส่ไปเที่ยวที่ต้องเดินเยอะๆ ใส่ออกวิ่งแค่สามสี่เดือนก็เลิกไปวิ่ง ด้วยเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองว่า ‘ร้อนจัง’ ‘ต้องรีบเปิดร้านตอนเย็น’
แล้วตอนเช้ามึงทำอะไร
หลังจากที่หมอเตือนพร้อมนัดเจาะเลือดอีกสามเดือนข้างหน้านี้ มันก็ทำให้เราตระหนักได้ว่า “นี่กูแดกอะไรเข้าไปเยอะแยะเนี่ย”
กลับมาถึงห้องหิวมาก ซัดข้าวมันไก่ทอดกับฟักทองทอดหน้าคอนโด
“เอ่อ....มึงตระหนักได้ตรงไหนวะ”
ก็มันหิวนินา บวกกับอีฟักทองทอดเนี่ยไปทีไรก็หมดกว่าจะได้แดก ฟัค
เมื่อวานทำได้ดี ลดขนมจุกจิก
แต่...เวฟบะหมี่กินตอนเที่ยงคืน.
แล้วมันต่างจากเดิมตรงไหน.
เฮ้อออออ. ..
ความอดทนไม่เคยจะมี
จะมีชีวิตรอดโดยที่ไม่ต้องใช้ยาอีกชุดมั้ยเนี่ย
คนข้างๆก็นะขู่เหลือเกิน แต่ก็ประเคนของกินเกินลิมิตให้ตล๊อดดดดดดด เอือม.
20 Dec. 18
----------------
ผ่านไปสามเดือน...
ดราฟไว้เป็นชาติ... สุดท้ายก็โดนสั่งจ่ายยาลดไขมัน สัส!
ช่างแม่ง
เราก็ทำเท่าที่ทำได้แล้วแหละ แต่ก็ยังไม่ยอมออกกำลังกายอยู่ดี
รู้สึกไม่มีแรงบันดาลใจในการใช้เวลาที่มีไปกับสิ่งที่ไม่อยากทำ
รู้อยู่แล้วแหละว่าอะไรดี ไม่ดี
ก็ได้แต่รับผลของมันไป...
แต่อย่างน้อยก็มีเรื่องน่าดีใจ ที่ผ่านมาคุมแคลอรี่ น้ำหนักลดไปได้เกือบๆ 5กก.
ได้แต่ปลอบใจตัวเองไป...เฮ้ออ
21 Mar. 19
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in