เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
VietnamBabbityRabbity
Day 1 | Hoi An (ฮอยอัน)
  • ทริปนี้เรากับเพื่อนแพลนกันเอาไว้นานมาก เริ่มจองตั๋วต้นปีช่วงหลังสอบมิดเทอม ก่อนสอบไฟนอล เดินทางคือ 7 - 11 ช่วงเดือนสิงหา ตอนแพลนก็ดูไว้ว่าอยากไปเมืองไหนบ้าง ดูไปดูมาอ้าว อันไหนก็ไม่อยากตัดทิ้งสักเมือง แพลนคร่าว ๆ เลยออกมาเป็นแบบนี้

    Hoi An - Nha Trang - Da Lat - Mui Ne - Ho Chi Minh
    ฮอยอัน - ญาจาง - ดาลัท - มุยเน่ - โฮจิมินห์

    ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 3 คน 5 วัน 3 คืน ค่าใช้จ่ายบางอย่างเลยมีเพื่อนหารด้วย ไม่งั้นคงเจ็บหนักน่าดู สกุลเงินของเวียดนามคือ ดอง (vnd) เรทเงินช่วงที่เราไปคือ 0.0013 


    ขาไปเราไปของ Air Asia ลงเครื่องที่ Da Nang (ดานัง) แต่เราไม่ได้แวะเที่ยวเมืองนี้ เลยเรียก Grab ให้ไปส่งที่ Hoi An (ฮอยอัน) เลย ค่า Grab 390.000 (ตกคนละ ~130.000) พี่คนขับคือบริการทุกระดับประทับใจ เป็นที่สุดของ Grab ตลอดทริปนี้

    Dress Code วันนี้คือสีแดง
    ความรู้สึกแรกตอนถึงฮอยอันคือ ร้อนมาก ร้อนแบบแสบผิว แดดกรุงเทพที่ว่าแน่ยังดูกระจอกไปเลย 

    ในโซนเมืองเก่าของฮอยอันที่เราเดิน ๆ ถ่ายรูปกันหาร้านอาหารค่อนข้างน้อย ส่วนมากจะเป็นคาเฟ่กับพวกของกินเล่น ถ้าจะเจอก็ราคาแรงไปนิดนึง แต่ที่ชอบคือทุกร้านจะมีเมนูตั้งอยู่หน้าร้านให้เราดูรายการกับราคาก่อน ไม่ต้องเดิน ๆ เข้าไปเก้อในร้านแล้วค่อยออกมาเวลาไม่โอเค


    ร้านที่เข้าไปกินชื่อว่า Vinh Hunh Restaurant ลองสั่งมา 3 อย่างจานบนซ้ายเป็นข้าวผัดไข่ ชามบนขวาเป็นเกาเหลาของบ้านเขา นี่ก็เพิ่งรู้ว่าเป็นแบบแห้งตอนอาหารมาเสิร์ฟ ส่วนจานล่าง เราภูมิใจนำเสนอมาก Banh Xeo ที่พับอยู่ข้างนอกเหมือนจะเป็นแป้งบาง ๆ กรอบ ๆ ส่วนไส้ด้านในจะมี 2 แบบคือ หมูกับกุ้งผัดกับถั่วงอก (ประทับใจมากที่ผัดถั่วงอกสุก) เวลากินคือให้เอาแผ่นเมี่ยงห่อกินกับผักแล้วก็มะม่วง แล้วก็ราดน้ำจิ้ม มะม่วงนี่แนะนำมาก ๆ ว่าต้องใส่เลยนะ คือมันเป็นมะม่วงไม่เปรี้ยว แต่สีมันเหลือง แล้วน้ำจิ้มเขาคือที่สุดของอาหารบนโต๊ะ อร่อยไม่ไว้หน้าอาหารจานหลักเลย คืออาหารเขาค่อนข้างจืด ตอนเรากินเลยตักน้ำจิ้มของจานนี้ใส่ในทุกเมนู เพราะอยากให้มีรสชาติบ้าง และค่าเสียหายของอาหารมื้อนี้คือ 300.000 (ตกคนละ ~100.000)


    หลังจากท้องอิ่มแล้วเราก็เดินตระเวนถ่ายรูปกัน แล้วตึกในโซนเมืองเก่าจะเป็นเหลือง ๆ แบบนี้ตลอด 2 ข้างทางเลย 


    โซนที่ให้เดินเหมือนจะแบ่งเป็น 2 ที่เพราะถ้าข้ามสะพานอันนี้ไปเราจะต้องจ่ายเงินค่าเข้ากันเพิ่ม ส่วนเราไม่ได้เข้าไป เพราะแค่เดินข้างนอกก็อ่วมแล้ว


    ตอนที่ดูรีวิวก่อนมา มีอย่างนึงที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมากิน คือน้ำดอกบัว (อันนี้เป็นชื่อที่เราตั้งกันขึ้นมาเองให้เรียกกันง่าย ๆ 5555555555) ในเมืองคือมีน้ำขายน้ำดอกบัวหลายร้านมาก ๆ ตลอดทาง แต่เราตั้งใจว่าจะไปร้านในรีวิวเพราะอยากถ่ายรูปร้านนี้ 55555555555


    หลอดที่ดูดน้ำจะเป็นไม้ ในแก้วกระดาษแบบนี้เกือบ ๆ ทุกร้าน แทบจะไม่เจอพลาสติกเท่าไหร่ จริง ๆ แล้วน้ำดอกบัวมันคือ Herbal Drink ที่ผสมหลายอย่างมาก เราไม่รู้ว่ามีไรบ้าง แต่กินกับน้ำแข็งตอนอาหารร้อน ๆ แล้วแก้กระหายได้ดีมาก แล้วความที่มัน Herbal มาก ๆ หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ (อย่างเราขอกลับไปซบน้ำอัดลมดีกว่า) อันนี้ของร้าน MOT แก้วละ 12.000 

     
    ในฮอยอันจะมีร้านขายพวกเครื่องหนัง ทั้งกระเป๋ารองเท้า อย่างในร้านสีฟ้า ๆ คือกระเป๋าหนังจะเยอะมาก ๆ บางร้านจะมีพวกกระเป๋าสาน ๆ หรือแบบถักด้วย แล้วมีแบบนี้ตลอดทาง อยู่ไทยเรายังไม่เจอร้านกระเป๋าหนังที่มีแบบให้เลือกเยอะขนาดนี้ นี่เสียดายมาก เพราะเพิ่งซื้อก่อนไปเอง 


    พอเดินไปอีกสักพักเริ่มรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว คือแดดมันร้อนมาก หน้าจะมืดเอา เลยกะว่าหาร้านคาเฟ่ที่มีแอร์นั่งกันไหม ปรากฏว่า ในโซนเมืองเก่านี้ไม่มีร้านไหนที่มีแอร์เลย... เลยพากันเดินออกมานอกโซนนี้เผื่อโซนในเมืองข้างนอกจะมี หลังจะเดินซอกแซกไปเรื่อย ๆ ก็มาโผล่ที่ถนนอีกฝั่งนึง ก็เจอคาเฟ่ร้านแรกที่เป็นร้านกระจก ชื่อร้านว่า Good Morning Cafe จังหวะนั้นคือดีใจมากอะ 55555555555555555555 

    เลยเข้ามาสั่งน้ำโซดาในร้านกินเพราะจะได้นั่งแช่ในร้านเขาได้ ตกแก้วละ 45.000 หลังจากที่นั่งแช่จนมีแรงแล้ว เราก็เดินจะเอากระเป๋าไปเก็บที่จุดเช็คอินของทัวร์บัสที่เราจะนั่งกันเย็นนี้ หลังจากนั้นจะได้เดินหาร้านกินข้าวเย็นในโซนเมืองเก่าอีกรอบ แต่รอบนี้สบายแล้วเพราะนอกจากตัวจะเบาแล้วยังไม่มีกระเป๋าเดินทางด้วย


    หลังจากที่เพื่อนดูรีวิวมาแล้วหวยก็มาออกที่ร้าน Beb 1919 เป็นร้านอาหารเวียดนามที่เจ้าของร้านเป็นคนไทย แล้วรีวิวของคนไทยที่มากินที่ร้านนี้ก็เยอะมาก ช่วงที่เราเข้ามากินข้าวคนยังไม่ค่อยเยอะเพราะส่วนใหญ่ยังเดินเที่ยวข้างนอกกันอยู่ แถมพี่พนักงานในร้านยังบริการดีสุด ๆ (เหมือนพี่ Grab คนเมื่อเช้า) ภาษาอังกฤษเขาดีมาก หน้าตายิ้มแย้ม 


    รอบนี้เราสั่งกับข้าวมา 3 อย่างแล้วก็สั่งข้าวเปล่าแยกมา เพราะอยากกินข้าวมาก ๆ ชามข้างบนเหมือนแกงอะไรสักอย่างที่น้ำซุปหนักไปทางเค็ม ๆ หน่อย แต่ถ้ากินกับข้าวเราว่าก็ได้อยู่ แต่คงซดไม่ไหวเพราะน้ำซุปค่อนข้างข้น ใส่กุ้งมาให้เยอะมาก รู้แล้วว่าไม่หวงเครื่อง จานยาว ๆ ทางขวาตอนสั่งในเมนูเราเห็นเขียนว่าหมูย่างเลยสั่งมาก แต่ตอนมาเสิร์ฟกลายเป็นหมูกรอบเลยงง ๆ นิดหน่อย แต่กินแล้วเวิร์กมาก คือหมูกรอบเขาไม่มัน ไม่เยิ้มอะ แถมตรงหมูก็ไม่ใช่กัดไปทั้งชิ้นแล้วเจอแต่มัน กัดไปคือกรอบจริงแบบไม่โม้ ส่วนจานเล็กทางซ้ายคือปอเปี๊ยะทอด แต่แป้งเขาคนละแบบกับแป้งที่เห็นในบ้านเรานะ แป้งเขาบางกว่า แถมกรอบมากด้วย แต่ชอบที่เขาทำชิ้นเล็ก ๆ นะ กินง่ายดี แล้วค่าเสียหายมื้อนี้คือ 530.000 (ตกคนละ 177.000)

    กินข้าวเสร็จเราก็เดินไปเอากระเป๋าที่จุดขึ้นบัส และบัสที่เราจะไปกันวันนี้เป็นบัสนอน เพราะเดินทางไกลมาก เดินทางกันตอนเย็นไปถึงที่ Nha Trang (ญาจาง) ตอนเช้า ๆ ค่าเสียหายของบัสนอน Hoi An - Nha Trang ตกคนละ 229.000 

    เราโชคดีมากที่มาเช็คอินกันเร็วเป็นคนแรก ๆ เลยได้ที่นอนหมายเลข 1 2 3 เรียงกันเลย เพราะเตียงที่นอนเนี่ยแบ่งเป็น 3 แถว แถวละ 2 ชั้น เราเลยได้เป็นเจ้าของ 3 ที่แรกข้างล่างไปเลย แล้วก่อนขึ้นบัสเขาจะแจกถุงพลาสติกให้เราคนละถุงเอาไว้ให้เราใส่รองเท้าแล้วเดินถือขึ้นรถ แล้วก็แจกผ้าห่มคนละผืน เพราะแอร์บนรถแรงมาก และเพราะบัสวิ่งหลายชั่วโมงเขาเลยมีจุดแวะพักกลางทางจอดให้เราลงไปเข้าห้องน้ำหาอะไรกินกันรอบนึง 

    P.s. 
    • ถ้าลงเครื่องเช้า แนะนำว่าให้แวะเที่ยวดานังก่อนเลย แล้วสัก 4 โมงเย็นค่อยเรียก Grab ไปฮอยอัน
    • นอกจากตรงโซนเมืองเก่าแล้วเรารู้สึกว่าเมืองนี้ไม่ค่อยมีอะไรแล้ว แต่ถ่ายรูปคุ้มจริงอันนี้คอนเฟิร์ม
    • ย้ำอีกทีอากาศร้อนมาก ๆ  
    • ร้านขายพวกสูท ชุดออกงาน เครื่องหนัง กระเป๋าสานเต็มเมืองไปหมด (แบบเยอะมากในห้างยังไม่เคยเจอขนาดนี้) มองเข้าไปในร้านเจอนักท่องเที่ยวเต็มเลย เดินถือชุดขึ้นเครื่องกันเพียบ

    ค่าใช้จ่ายของ Day 1
    ค่า Grab : 130.000
    ค่ากิน : 344.000
    Total : 474.000


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in