เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Makmaigaigongsennsay
โควตานิเทศจุฬา Dek66 เรื่องมันเป็นยังไง มาดู!!
  • Hello everyone~~ บล็อคนี้เราจะมารีวิวประสบการณ์และให้ข้อมูลในการสมัครรอบโควตาหรือก็คือรอบ 2 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารสนเทศและสื่อใหม่


     ❗️เราไม่ติดนะคะ❗️แต่ว่าก็อยากมาให้ข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ของเราเอง เพราะตอนนี้เราสนใจโครงการนี้รู้สึกว่าข้อมูลน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับรอบแรก


    เราเป็นDekk66 ส่วนบล็อคนี้ได้ลงก็เป็นตอนที่เราติดรอบ 3 แล้วและใช่ เราไม่ได้จุฬา แปว~~ แต่ไม่เป็นไร เราคิดไว้อยู่แล้วว่าอยากจะมาเขียนรีวิวโครงการนี้ ข้อมูลทุกอย่างมาจากรุ่นเราคือ dek66 ในปีต่อๆไป ข้อมูลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ยังไงก็ติดตามอัพเดทข้อมูลด้วยน้าาา มาๆๆๆ เริ่มเลยๆๆๆ


    เราเองกี๊สๆ


    คนที่เข้ามาดูบล็อคนี้คงจะเข้าใจระบบTCASแล้วว่าเป็นยังไงเนอะ 

    รอบที่เราสมัครคือ รอบ 2 Quota ของจุฬา คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารสนเทศและสื่อใหม่ 


    ที่เฉพาะเจาะจงสาขาวารสารเพราะว่ารอบ 2 เปิดรับแค่สาขานี้ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราติดรอบ 2 เราก็จะต้องเรียนสาขาวารสาร ไม่สามารถเลือกสาขาอื่นได้ นี่คือสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อน ในปีแรกเรายังเรียนกับเพื่อนๆ อยู่เพราะยังไม่ได้เลือกสาขา แต่พอปี 2 ที่เพื่อนจะไปเลือกเรียนภาพยนตร์ เรียนโฆษณา หรือเอกอื่นๆ แต่เราเลือกไม่ได้เพราะตั้งแต่เราเข้ามา เราอยู่สาขาวารสารไปแล้ว!! (แหม่ พูดเหมือนติด)


    เราก็ต้องเข้าใจนะว่าถ้าเราสมัครรอบนี้แล้วเราได้เราต้องเรียนสาขานี้ไปตลอด เปลี่ยนไม่ได้ด้วย ถ้าโอเค ก็จัดไปเลยยย


    กว่าเราจะได้เป็นเด็กนิจุ สาขาวารสารเราจะผ่านด่านตามนี้

    สมัคร —> อัพโหลดพอร์ตและเอกสาร —> พอร์ตและเอกสารผ่าน —> มีสิทธิ์คัดเลือกไปสอบวิชาเฉพาะ —> คะแนนสอบผ่านเกณฑ์ —> มีสิทธิ์สัมภาษณ์ —> ไปสัมภาษณ์ —> ผ่านสัมภาษณ์ —> ยื่นยันสิทธิ์ จบ

    เหนื่อยแท้แต่ละขั้นตอน เราผ่านเข้าไปถึงได้ไปสัมภาษณ์ แต่สัมไม่ผ่านแฮะๆ โอเคต่อๆ



    ในการเข้าคัดเลือกนิจุ สาขาวารสาร จะมีเกณฑ์ต่อไปนี้

    คะแนนสอบ TGAT 40% + ความถนัดทางวารสารสนเทศและสื่อใหม่ 60% ในส่วนของข้อสอบวิชาเฉพาะเราจะไปอธิบายต่อด้านล่างตรงขั้นตอนการเข้าคัดเลือกน้าา


    นอกจากจะใช้คะแนนสอบแล้วยังต้องส่งPortfolioอีกด้วยยย (เราจะอธิบายพอร์ตด้านล่างนะะ)



    รอบ 2 นั้นข้อมูลรายละเอียดการสมัครน่าจะมาตอนช่วงเดือนกันยา-ตุลา 




    มาถึงขั้นตอนการสมัคร


    สมัคร —> อัพโหลดพอร์ตและเอกสาร —> พอร์ตและเอกสารผ่าน —> มีสิทธิ์คัดเลือกไปสอบวิชาเฉพาะ —> คะแนนสอบผ่านเกณฑ์ —> มีสิทธิ์สัมภาษณ์ —> ไปสัมภาษณ์ —> ผ่านสัมภาษณ์ —> ยื่นยันสิทธิ์ 





    ก่อนอื่นเลยสมัครในเว็บไซต์ของมหาลัย https://tcas.atc.chula.ac.th อันนี้

    เขาก็จะให้เรากรอกข้อมูลของเรา ใส่ไปตามนั้น จากนั้นก็จะมีโครงการมากมายให้เราเลือก เราก็เลื่อนหาคณะนิเทศ โครงการรับนักเรียนเข้าศึกษา สาขาวารสารสนเทศและสื่อใหม่

    แล้วก็จะมีให้อัพเอก เราก็อัพไปตามนั้น หนึ่งในนั้นก็คือพอร์ต เราจะอัพโหลดไฟล์พอร์ตตั้งแต่เปิดรับสมัครเลย 


    นอกจากพอร์ตแล้วยังมีเอกสารแสดงผลงานด้านวารสารสนเทศและสื่อใหม่ เอกสารส่วนนี้เราก็จะใส่ผลงานที่เราใส่ในพอร์ต และยังต้องเขียนเรียงความสรุปผลงานโดยนําเสนอรายละเอียดผลงานความยาวไม่เกิน 4 หน้ากระดาษ A4


    รายละเอียดของพอร์ตก็แล้วแต่ปีว่าจะให้ทำยังไง อิงจากเด็ก66

       - ผลงานทางด้านวารสาสนเทศและสื่อใหม่เด่นๆ ไม่เกิน 5 ผลงาน ย้อนหลังไม่เกิน 4 ปี เด็ก66เราก็จะเป็น2562-2565

       - จำนวนไม่เกิน 12 หน้า ไม่ต้องมีคำนำสารบัญ

       - สรุปหลักการทำงานและกลวิธีการสร้างทั้ง 5 ผลงาน 1 หน้า

       - ข้อมูลผู้สมัครและเหตุผลที่สมัครโครงการนี้และเป้าหมายหลังเรียนจบ (เราแบ่งตรงนี้เป็นข้อมูลของเรา 1 หน้า เหตุผลและเป้าหมายรวมกัน 1 หน้า


    ถ้าใครกังวลเราไม่ผลงานเลย ใจเย็นๆ เราทำทัน เราทำได้ ถ้าเกิดว่าเรายังอยู่ในปีที่กำหนด ทำทันแน่นอน เราเองก็สร้างผลงาน 4 งาน ภายใน 3 เดือน ตุลา-พฤศจิ-ธันวา อีกงานหนึ่งจริงๆ ลืมไปว่าห้ามเดินปี 65 เลยไปขุดงานในสตอรี่ไอจีมาใส่แทน


    หรือถ้าใครกังวลว่าผลงานเราไม่เด่น แข่งไม่ชนะ ไม่เป็นไร แต่เราขอแค่ว่าผลงานเหล่านั้นได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณะ ก็คือมีคนเห็นผลงานเรา


    รายละเอียดผลงานที่สามารถนำมาใส่ได้ให้ลองดูในเอกสารรายละเอียดการสมัครได้ (เราไม่รู้ว่าทางมอ.อนุญาตให้แปะลิงค์ไหม แต่เพื่อความปลอดภัย ใครอยากรู้ทักทวิตเรามาได้นะ หรือถ้าเกิดว่ามีสงสัยยังไงทักทวิตเรามาได้น้าาาหรือขอดูพอร์ตเราก็ได้ ยินดีจะให้ดูน้าาา Twitter : @sxrsxnn)


    อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญที่ต้องอัพโหลดในตอนสมัครก็คือ เอกสารแสดงผลงาน ในเอกสารจะให้เราใส่ผลงานเด่นๆ ทั้ง 5 ผลงานไป และให้เขียนเรียงความสรุปผลงานโดยนำเสนอรายละเอียดผลงาน 5 ผลงานที่เราใส่ในพอร์ต ความยาวไม่เกิน 4 หน้า เอกสารส่วนนี้เขาจะมีฟอร์มให้อยู่แล้ว ถ้าใครอยากเห็น ก๊อกๆทวิตมาได้เหมือนเดิม



    ต่อมา~~~


    สมัคร —> อัพโหลดพอร์ตและเอกสาร —> พอร์ตและเอกสารผ่าน —> มีสิทธิ์ไปสอบวิชาเฉพาะ —> คะแนนสอบผ่านเกณฑ์ —> มีสิทธิ์สัมภาษณ์ —> ไปสัมภาษณ์ —> ผ่านสัมภาษณ์ —> ยื่นยันสิทธิ์ 


    พอเราอัพโหลดเอกสารเสร็จก็รอให้ระบบตรวจสอบเอกสาร เอกสารต่างๆสามารถแก้ไขได้ตลอดจนกว่าจะปิดรับสมัคร มีตรงไหนผิดพลาดก็รีบแก้เด้อออ ในส่วนตรงนี้จะดูพอร์ตตั้งแต่ตรงนี้เลย ถ้าเราคิดว่าในพอร์ตเราจะใส่ผลงานไปก่อน แต่ถ้าเกิดว่าผลงานที่เราใส่ไป ไม่อยู่ในประเภทผลงานที่ใส่ไปได้ เอกสารก็จะไม่ผ่านทันที(เราไม่แน่ใจว่าถ้าเกิดมันไม่ผ่านจะแก้ได้ไหม แต่ตามเราคิดเราคิดว่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะใส่ผลงานมั่วๆ แบบไม่ดูประเภทไม่ได้น้าาา)




    สมัคร —> อัพโหลดพอร์ตและเอกสาร —> พอร์ตและเอกสารผ่าน —> มีสิทธิ์ไปสอบวิชาเฉพาะ —> คะแนนสอบผ่านเกณฑ์ —> มีสิทธิ์สัมภาษณ์ —> ไปสัมภาษณ์ —> ผ่านสัมภาษณ์ —> ยื่นยันสิทธิ์ 




    ต่อปัยยย ถ้าเอกสารเราผ่านก็รอเลย รอเวลาไปสอบวิชาเฉพาะ!! 

    ในปีเรา เด็ก66จะไปสอบหลังจากสอบA-level เสร็จ 1 สัปดาห์ นั่นหมายความว่า เราจะต้องอ่านสอบA-levelด้วยและเตรียมสำหรับวิชาความถนัดด้วยยย 

    เราจะบอกว่าาา เราไม่ได้อ่านอะไรไปเลย เพราะข้อสอบนั้นนน เหมือนกันสักปีเลย 


    โดยข้อสอบจะเป็นข้อกา 50 ข้อ และพิเศษเซอร์ไพรส์สุดๆ ปีเรามีข้อเขียนด้วยยยย แบบไปรู้ในห้องสอบเลยอะะข้อเขียนพึ่งจะมีครั้งแรกในปีเรา 

    ไปสอบ 57 คน จะผ่านไปรอบต่อไป 30 คน

    โดยจะนับจากคะแนนสูงสุดลงมา 30 อันดับ 

    เกณฑ์คะแนนจะเป็น

    TGAT 40% + ความถนัดทางวารสารสนเทศและสื่อใหม่ 60% (และคะแนนสอบความถนัดจะต้องผ่านครึ่งด้วยนะ ก็คือคะแนนต้องมากกว่า 50% เราไม่รู้ว่าจริงแล้วคะแนนคิดยังไง สมมติน้าาา

    ข้อกา 50 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน เต็ม 100 

    ข้อเขียน เต็ม 10 

    รวมเป็น 110 คะแนน 

    50% = 55 คะแนน เพราะฉะนั้น ถ้าคะแนนความถนัดต่ำกว่า 55 คะแนน ก็จะ ไม่ผ่านจ้าาา)



    มาเจาะลึกข้อสอบกัลลล (เราทำเสร็จเร็วเลยมีเวลาจำข้อสอบออกมา แต่ก็ไม่ละเอียดมากนะ 50 แหนะ)

    มีเวลาทำข้อสอบทั้งหมด 180 นาทีหรือก็คือ 3 ชั่วโมง นั่งไปเลยยาวๆ แต่สำหรับเราแปปเดียว เร็วมว้าก


    ข้อกาจะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท 


    1.ความรู้เรื่องเหตุการณ์ปัจจุบัน 10 ข้อ

    2.ความรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศ 10 ข้อ

    3.ทักษะและความสนใจทางสื่อใหม่/สื่อดิจิทัล 15 ข้อ

    4.ทักษะและความสนใจด้านวารสารสนเทศ 15 ข้อ


    1.ความรู้เรื่องเหตุการณ์ปัจจุบัน 10 ข้อ

    - อะไรคือรางวัล ศรีบูรพา

    -ประเด็นฟุตบอลโลก ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับบอลโลก

    -หนังสือของเจ้าชายแฮรี่ ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้

    -นโยบายจีนเดียวคืออะไร

    -ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับกุนขแมร์ 

    -อะไรคือFAST fashion

    -หน้าที่ของกสทชคือ

    -หน่วยงานใดที่ดูแลอุณหภูมิโลก มีชื่อภาษาอังกฤษมาให้

    -การุณยฆาตคืออะไร 

    -ชนวนของสงครามยูเครนรัสเซียคืออะไร

    พาร์ทนี้ถ้าฟังข่าวหรือเล่นทวิตตลอด น่าจะทำได้


    2.ความรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศ 10 ข้อ

    อันนี้จะถามแบบว่าสามารถใช้คอมมอนเซนส์ของเราได้เลย ถ้าเกิดว่าเราเป็นนักข่าวจะทำยังไง ขั้นตอนยังไง 


    3.ทักษะและความสนใจทางสื่อใหม่/สื่อดิจิทัล 15 ข้อ

    -เจ้าของบิทคับคือใคร (อันนี้อ่านมาแต่จำไม่ได้ กำหมัดแน่นมาก)

    -อิทธิพลอินฟู มีชื่ออินฟลูและข้อมูลมานิดหน่อยแล้วถาม ข้อใดไม่ถูกต้อง (ตุยเลยข้อนี้ไม่รู้เลย)

    -เมตาเวิร์ส ข้อใดไม่เกี่ยวข้อง 

    -Immersive ข้อใดไม่เกี่ยวข้อง

    -OTT TV (จำคำถามไม่ได้งะ)

    -OTT TV (จำไม่ได้เซม)

    -Filter bubble หากใช้แล้วใครโดน

    -SEO นำไปใช้ทำอะไร (คำถามประมาณนี้แหละ)

    -GTP นำไปใช้ทำอะไร (คำถามคงประมาณนี้แหละ)

    -Location based นำไปใช้ยังไง 

    -สปายแวร์เพกาซัส ข้อใดไม่ถูกต้อง

    พาร์ทนี้ใครตามพวกเทคโนโลยีใหม่ๆ น่าจะทำได้ พาร์ทนี้เรามั่วแหลก 


    4.ทักษะและความสนใจด้านวารสารสนเทศ 15 ข้อ

    มีเนื้อหาข่าวมา 2 เรื่อง ให้อ่านแล้ววิเคราะห์

    - เกี่ยวกับตะวันและแบม 4 ข้อ

    เว็บไซต์ The Matter


    - เกี่ยวกับชุมชนคลองเตย 4 ข้อ (เราหาหน้าบทความข่าวอันนี้ไม่เจองะ)

    - ประเด็นระบบอุปถัมภ์ 1 ข้อ (มันคือประมาณเด็กเส้น)

    - หัวข้อข่าวไหน ไม่มีเงื่อนงำ 1 ข้อ ( มี 888 , กราดยิง ,ไว้อาลัยหมอต่าย ถ้าตอบก็คือไว้อาลัย เพราะข่าวที่เหลือยังมีเงื่อนงำอยู่ ทำไมถึงเกิดเหตุกราดยิง ,ใครเป็นคนแชร์888 งี้ น่าจะนะะะ)

    - ข่าวไหนยังมีส่วนที่ต้องสงสัย มีข้อกังขาประมาณนี้ 1 ข้อ (ข้อที่เราตอบคือ การลงทุนจีนสีเทาจับไคนไทยได้และคาดว่าเป็นแพะ)


    ข้อกาเราจำออกมาได้ประมาณนี้~~ แบบว่าพอออกจากห้องสอบปัป พิมพ์ทุกอย่างที่จำได้ออกมาให้หมด


    ต่อมาเป็นข้อเขียน จะเป็นการเขียนเรียงความ มี 2 หัวข้อให้เราเลือก

    1. บทบาทสื่อเพื่อการสร้างและพัฒนา soft power ในสังคมไทย

    2. บทบาทสื่อการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย

    มีกระดาษให้ 2 หน้า หน้าละ 20 บรรทัด (นับเองเลยนะ)


    เราเลือก อันที่ 2 คิดสดในห้องสอบเลย 

    จริงๆ อย่างที่บอกไปว่าเราเป็นปีแรกที่มีข้อเขียนและบอกตอนอยู่ในห้องสอบไปเลออ ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลย 


    แต่เราก็คิดมานะว่าปีก่อนๆ ใช้เวลาสอบแค่ 1ชั่วโมงครึ่ง ทำไมปีเราถึงเป็น 3 ชั่วโมง แปลกๆละ ไม่ใช่ว่าจะให้เขียนอะไรหรอกนะ! สรุป เขียนจริงจ่ะ สำหรับเรานะ เราทำพาร์ทนี้ได้สบายๆ เพราะก่อนจบเขียนเรียงความมาเยอะละะะ (มีทริคที่ไม่รู้ว่าเป็นทริคได้ไหม เหมือนเดิมต่ะ ก๊อกๆ ทวิตมาเลยยย @sxrsxnn


    พอเราสอบเสร็จ ออกจากห้องสอบ ไปปปป ไปเที่ยวววววว ไหนๆก็มาในเมืองละะะ สอบเสร็จไปแล้วปล่อยวางมันไปป รอเวลาประกาศผล แต่อย่าลืมนะ ในส่วนของใช้คะแนน TGATด้วย สอบตอนช่วงธันวา อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยน้าาา



    สมัคร —> อัพโหลดพอร์ตและเอกสาร —> พอร์ตและเอกสารผ่าน —> มีสิทธิ์คัดเลือกไปสอบวิชาเฉพาะ —> คะแนนสอบผ่านเกณฑ์ —> มีสิทธิ์สัมภาษณ์ —> ไปสัมภาษณ์ —> ผ่านสัมภาษณ์ —> ยื่นยันสิทธิ์ 




    เมื่อเรารอจนผลออก เย้!! คะแนนสอบผ่าน ได้ไปสัมภาษณ์! 

    แต่ในเว็บไซต์จะไม่บอกว่าเราได้คะแนนเท่าไหร่นะ แต่จะขึ้นมาเลยว่า มีสิทธิ์สัมภาษณ์

    สิ่งที่เราต้องเตรียมไปด้วยคือ เล่มพอร์ตจริง ไปปริ้นมาแล้วก็ ไปปปป ประกาศว่ามีสิทธิ์สัมภาษณ์วันนี้ มะรืนสัมเลย มาดูวิธีเตรียมตัวกัน


    แต่ก่อนอื่นเราอยากจะบอกว่าที่เราเตรียมไป มีแค่แนะนำตัวเท่านั้นที่เหมือนที่เราเตรียมมา ที่เหลือไม่ใช่คำถามทั่วไปเลย แต่เป็นคำถามที่จะเป็นไปตามผู้เข้าสัมภาษณ์ แต่ปีอื่นอาจจะเปลี่ยนเตรียมไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย


    อย่างแรก เราลิสต์มาเลยว่ามีคำถามอะไรบ้าง และจะตอบว่าอะไร ในส่วนของคำถามที่เตรียมไปเราได้มาจากรุ่นพี่ที่เข้ารอบนี้มา เพราะเป็นวารสารเนอะ เลยจะเน้นเรื่องข่าวหน่อย แต่เราลิสต์คำถามเบสิกๆ มาก่อน 


    - แนะนำตัว เราว่าตรงนี้สำคัญมาก พรีเซ้นตัวเองออกมาให้ดีที่สุด เราว่าการแนะนำตัวสามารถชี้นำคำถามให้กรรมการถามได้เลยนะ กรรมการบอกเองเลยว่าขอแนะนำตัวให้น่าสนใจ ชื่อจริงไม่ต้อง โอกาสนี้คว้าไว้ให้ได้นะ!!!

    - ทำไมถึงสมัครโครงการนี้ ทำไมสนใจโครงการนี้

    - ทำไมต้องเข้าจุฬา

    - ทำไมถึงเลือกคณะนี้ ทำไมต้องเรียนสาขานี้

    - ทำไมเราต้องรับคุณเข้า

    - เป้าหมายในอนาคต หรือ คิดว่าอีก 5 ปี 10 ปี เราจะเป็นยังไง ถึงคำจะเปลี่ยนแต่ใจความก็เหมือนเดิมคือถามเกี่ยวกับการวางแผนของเราในอนาคต

    - ตามข่าวอะไรบ้างไหม

    - นำเสนอผลงานสักหนึ่งชิ้น 


    นี่คือคำถามที่ลิสต์ไว้ แต่ความเป็นจริง เราแทบร้องไห้อะะะะ คำถามที่เตรียมไปไม่มีเลยเจ้าค่ะ 

    ตอนที่เราไปสัมภาษณ์จะแบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องหนึ่งจะมีกรรมการ 2 ท่าน 


    มาดูที่เราได้สัมภาษณ์กันเถอะ


    Q&A ( Question & Answer) Qคือกรรมการ Aคือเราเอง


    Q : เข้าไปถึงอาจารย์ก็เชิญนั่งและบอกให้แนะนำตัวและเป้าหมายที่เข้าโครงการนี้เลย 


    A : เราก็แนะนำตัวเลย ชื่อจริง(ตั้งใจจะไม่พูดแต่หลุดไป) ชื่อเล่น จากนั้นแนะนำนามปากกว่าsennsayออกเสียงเหมือนคำในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ครูหรืออาจารย์ แต่ว่า say มาจาภาษาอังกฤษ s a y ที่แปลว่าพูดเพราะงั้นนามปากกานี่ก็คือการหนูได้บอกเล่าเรื่องเรื่องผ่านการเขียนของหนู ผ่านนามปากกานี้ค่ะ


    A : หนูเขียนนิยายมานานแล้วค่ะ ก็ได้ 6 ปีแล้วและช่วงนี้ได้เริ่มบทความหรือบล็อคด้วย เลยอยากจะเข้าเรียนเพื่อพัฒนาฝีมือหรือความสามารถของหนูเพื่อให้ได้สามารถเขียนได้ดีมากขึ้น ใช้ภาษาได้ดี ได้น่าสนใจนอกจากนิยายหนูก็อาจจะสามารถเขียนโฆษณาหรือโปรโมทสินค้า บริการต่างๆได้


    Q : เห็นว่าชอบนิยายมาก แล้วนอกจากนิยายแล้วเราได้อ่านหนังสืออย่างอื่นบ้างไหม


    A : นิยายที่หนูอ่านนั้นก็มีแนวรักค่ะ แต่ว่านิยายอีกแบบหนึ่งที่อ่านคือเป็นนิยายที่คล้ายๆดับสารคดี ที่มีตัวนำหลักคือสัตว์ค่ะ และเล่าผ่านมุมมองของสัตว์ตัวนั้น นิก็จากนั้นหนูก็ไม่มั่นใจส่าเขาเรียกว่าหนังาือยังไง มันเหมือนสารคดี หนังสือที่แนะนำสัตว์ หนูชอบพวกสัตว์น้ำค่ะก็เลยชอบอ่าน นอกจากนี้ก็ยังอ่าน หนังาือพัฒนาตนเอง


    Q : คณะเราเน้นที่การเขียนข่าว การเผยแพร่ข้อเท็จจริง เห็นว่าเป็นคนเชียงใหม่ ตอนนี้เชียงใหม่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศ ถ้าเป็นเราเราจะมีการนำเสนอในมุมมองของเรายังไง


    A : เราก็ตอบไปว่าเราจะเขียนบทความ โดยอย่างแรกเพราะว่าเราเป็นคนในพื้นที่เราจะรู้ถึงผลกระทบ รู้ถึงปัญหาได้ และจะมีการถามคนรอบข้างเริ่มจากคนรอบตัวก่อน 


    Q : แล้วนอกจากคนใกล้ตัวแล้วเรายังจะไปถามใครอีก


    A : เราบอกก็จะถามคนที่ไปสถานที่ต่างๆ ทั้งห้างหรือสถานที่ท่องเที่ยว เพราะที่นั่นก็จะมีทั้งคนที่มาท่องเที่ยวและคนในพื้นที่เองค่ะ 


    Q: แล้วเราจะทำยังไงให้คนเห็นถึงปัญหาได้จริงๆ 


    A : ถามคนในพื้นที่ค่ะ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง การนำเสนอซึ่งเรามีความสามารถในสื่ออยู่แล้วจะทำให้ปัญหานี่ได้รับการแก้ปัญหาจากหน่วยงาน 


    Q: แล้วหน่วยงานไหนจะแก้ปัญหาได้


    A : หน่วยที่ใหญ่หรือในพื้นที่ เข้าต้องประสานงานการ ให้คนที่มีความสามารถความรู้มาแก้ปัญหานี่


    Q: จะทำยังไงให้ข่าวเป็นที่น่าสนใจ


    A: งานของเราส่วนใหญ่เป็นงานเขียน “ไม่ใช่คนไทยส่วนใหญ่จะชอบอ่านหนังสือ” ทำให้การทำใก้เนื้อความมีความน่าสนใจก็สำคัญ อาจมีการใช้รูปให้เข้าใจง่าย มีสถิติให้ดู การอ่านตัวหนังสือเฉยๆ อาจทำให้เบื่อ (ทุกคนจำประโยคที่เราพูดตัวหนาไว้นะะะ)


    Q : แล้วเราคิดว่าข่าวที่นำเสนอในตอนนี้มีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน มีปัญหาตรงไหน


    A : หนูว่าข่าวที่นำเสนอในตอนนี้ส่วนใหญ่จะพูดถึงปัญหาอย่างเดียวว่า มีฝุ่นเยอะ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องผลกระทบของคนที่อยู่ในพื้นที่ ทำให้มันไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาจริงๆสักที


    อาจารย์ดูตึงมากค่ะ แต่เราก็สั่นสู้ 


    จากนั้นนน ก็มีแฟ้มวางอยู่ตรงหนัาเราเลือกแล้วอาจารย์ก็บอกให้เราเลือกข่าวมา 1 อันแล้วอธิบายว่าข่าวมันยังไง คิดเห็นยังไง 


    มีข่าว 

    -แอม วางยาไซยาไนด์ 

    -จีจี้ ที่ถูกยิง

    -แฮร์รี่กับเนแกน

    -pm2.5

    -open ai chatGTP อันนี้เราไม่รู้อันเดียว

    ของเราโดนจารย์บอกว่า แต่เราเลือกฝุ่นไม่ได้แล้วนะ เราแบบ อ้ย ละก็แม่นอันนี้ที่สุด เลยเลือกแฮรี่กับเมแกนไปไม่รู้ทำไมเหมือนกัน


    A : เราก็บอกไปว่า ข่าวที่หนูตามก็คือ เมื่อแฮร์รี่แต่งงานกับเมแกนเขาก็ขอออกจากราชวง ไม่เดี่ยวข้องกันอีกและยังมีอีกประเด็นคือหนังสือที่แฮรี่เขียน ซึ่งในหนังสือก็มีการพูดถึงเบื้องหลังในราชวงศ์เอง ซึ่งก็มีคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่แฮรี่เขียน


    Q : ละเหมือนเราแบบตอบไม่ตรงคำถามมั้ง อาจารย์เลยถามเราว่าแล้วข่าวที่ออกมามันมีประโยชน์อะไรไหมอาจารย์ดูช่วยเราสุดๆ


    A : เราเลยบอกไปว่า สำหรับคนในประเทศเขาก็เป็นเรื่องที่น่าจับตามองค่ะ แต่สำหรับหนูที่ไม่ได้อยู่ในประเทศนั้นก็เป็นข่าวนึงที่หนูไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น


    Q : แล้วอาจารย์ผชถามว่า เป็นว่าเรียนศิลป์จีน ได้มีการติดตามข่าวจีนเพื่อเรียนหรือพัฒนาภาษาจีนมั้ย


    A : เราตอบไปว่า เราพัฒนาภาษาผ่านทางสื่อบันเทิงของจีนมากกว่า (จริงๆคือไม่ค่อยตามจีนเลย ในใจมีแต่shipหายยยย)


    Q : แล้วก็ถามต่อว่า ตอนนี้จีนเริ่มเปิดประเทศแล้ว ถ้าเราเป็นนักข่าว เราจะนำเสนอข่าวอันนี้ยังไง


    คำถามนี่เครียดเลยค่ะ เราไม่ถนัดข่าวเลย เราถนัดนิยาย กี๊ดดดดด แต่ก็ต้องสู้!!!


    อันนี้เราจำไม่ค่อยได้ เพราะเราแถค่ะ เราน่าจะตอบไปประมาณว่า


    A : ในตอนนี้โควิดก็เริ่มซาแล้ว เริ่มดีขึ้น หลายๆประเทศก็เปิด ซึ่งจีนก็ได้เปิดประเทศแล้วเหมือน การที่มีนักท่อวเที่ยวจีนเข้าประเทศ ก็หมายความหมาย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆก็ดีขึ้นค่ะ


    Q : ต่อไปจะเป็นการรับกรรมของคำพูดตัวเองค่ะ อ.ผช ถามเราว่าเห็นบอกว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือประมาณนี่แล้วเราจะทำยังไงให้หนังสือหรือวรรณกรรมไทย มีความน่าสนใจมากขึ้น


    A : เราตอบไปว่าโดยส่วนตัวหนูแล้ว 

    หนังสือไทยในตอนนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าของต่างประเทศ ที่เราได้แปลเข้ามา ส่วนตัวหนูชิบิ่านวรรณคดีแต่ว่าวรรณคดีนั้นอ่านยากเพราะมีการใช้ร้อยกรอง สำหรับหนูมันสนุกมากค่ะ แต่ว่ามันก็ทำให้ใครหลายคนไม่อยากอ่าน แต่ในตอนนี้วรรณคดีมีการดัดแปลงแปลบทเหล่านั้นให้อ่านง่ายมากขึ้น หนูก็อยากจะนำเสนอถึงความสนุกในตัวเนื้องาน ทำให้ชูความเป็นไทยในของหนังสือได้ค่ะ 




    แถมาก ขอร้อง ก็ประมาณนี้เลย ของเราไม่โดนถามงานในพอร์ตเลย

    การสอบสัมภาษณ์ครั้งนี้แต่ละคนได้คำถามเฉพาตัวมากๆเลย ตอนเราไปสัมภาษณ์มีการรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่มาสัมด้วยกันด้วยนะ จอยๆกันดี พอสัมเสร็จก็มาแชร์ แต่คนคือไม่เหมือนกันเลยย คนหนึ่งบอกชิลมาก อาจารย์ชวนคุยสุบ อีกคนหนึ่งบอก อาจารย์ถามแต่ผลงานตัวเอง คนหนึ่งบอกอาจารย์ถามถึงพรรคการเมืองที่เชียร์ ส่วนเรากับเพื่อนอีกคนที่ได้สัมห้องเดียวกัน รู้สึกตึงมาก อาจารย์ผู้ชายตึงมากๆ แงงงง แต่ก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งงง ที่ได้สัมห้องเดียวกันบอกอาจารย์ก็เฟรนลี่นะ เราคือโอเค รู้ชะตากรรมตัวเอง (แต่ในใจยังแอบหวังนะะะ)





    สัมภาษณ์เสร็จก็ปล่อยวาง ไปเที่ยวนะ เอนจอยชีวิตรอประกาศผล และ เย้ ไม่ผ่าน ร้องไห้ ฮือออออ

    แต่ก็เป็นประสบการณ์สำหรับเราดี อาจารย์บอกว่าถ้าเราไม่ผ่านคือเราอาจจะไมรเหมาะกับสาขานี้แต่ยังมีสาขาอื่นให้เราเรียนนะ แต่เราก็ไม่ติดจุฬาอยู่ดี55555 อดเลยสาวนิจุ ไปเป็นสาวเมืองทองแทน


    เดี๋ยวนี้มีไลน์โอเพ่นแชท กลุ่มมหาลัย คณะต่างๆ มีรุ่นพี่คอยตอบคำถาม แนะนำอะไรต่างๆให้ ลองหาดูน้า 


    จบไปแล้วกับการรีวิวประสบการณ์และให้ข้อมูลรอบโควตาของเรา อยากจะฝากถึงน้องๆ หรือเพื่อนๆที่ซิ่วกันหรือทุกคนที่กำลังเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ขอให้ทุกคนได้เข้าคณะ ได้เขามหาลัยที่ตั้งใจน้าาาา แต่อย่าหักโหมและกดดันตัวเองมากเกินไปเลยนะ คณะในฝันของเรา เราไม่อยากให้มันกลายเป็นแค่คณะในฝันนะ ถ้าเกิดพ่อแม่ไม่เข้าใจเรา เราพยายามคุยดู แต่ถ้าไม่ได้ถึงมันจะไม่วิธีที่ดีแต่ในมุมเราชีวิตเราครั้งหนึ่งเราก็อยากทำตามความฝัน ถ้าไม่ทำตอนนี้จะทำเมื่อไหร่ สมัครเลยคณะที่เราอยากเข้า


    นอกจากจะต้องอ่านหนังสือแล้ว อยากให้ทุกคนสนุกกับชีวิตในรั้วโรงเรียนด้วยนะ อย่าอ่านหนังมือหนักจนลืมใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ เพื่อนๆในข่วงมัธยมเจอกันอีกทีคงจะโตกันหมดแล้วหรือเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเพราะงั้นอย่าลืมสนุกกับเพื่อนๆกับชีวิตมัธยมด้วยน้าาาา  


    ใครยังไม่เจอตัวเอง สภาพสังคมในตอนนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะตามหา แต่คิดในแง่ดีเราพึ่งจะใช้ชีวิตมาแค่10กว่าปีเอง ยังมีเวลาที่เราจะได้ออกไปโบยบินอีกเยอะ อย่าคิดว่าไม่เอาไหน ไม่มีดีและอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเลยนะ


    ถ้าใครไม่ติดคณะที่ตั้งใจไว้หรือไม่ติดที่ไหนเลย เรายังมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้อยู่ ช่วงเวลาของการเรียนรู้คือทั้งชีวิต ถ้าอยากจะลองปีหน้าใหม่อีกครั้ง ก็ลองเลย 


    ไม่ว่าทุกคนจะเป็นยังไงในตอนนี้ อนาคตเราจะเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่เรารู้เป้าหมายของเรา พยายามต่อไป มีผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง แต่เราจะได้รับสิ่งตอบแทนกลับมาแน่นอน ซึ่งมันก็จะมาจากตัวเราเอง สู้ๆน้าาาาา



    Twitter : @soulexsex ทักมาถามหรือขอดูพอร์ตได้น้าาา หรือถ้าคำถามไหนเราไม่รู้ เราจะถามเพื่อนและรุ่นพี่ที่รู้จักให้ หรือคำถามอะไรก็ได้ ทักมาได้เสมอน้าาาา

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in