เป็นคืนวันศุกร์ก็เลยนอนประมาณตีหนึ่งตีสอง ไม่ได้เที่ยวเตร่อะไร ก็แค่ดูซีรี่ ไม่ใช่เรื่องจุงกิที่ชาวบ้านเค้ากำลังฮิตกันหรอกนะ ส่วนเป็นเรื่องอะไรนั้น วันหลังถ้ามีโอกาสก็จะมาเขียนถึงให้อ่านกัน
เมื่อกี้ถึงไหนแล้ว อ่อ เพราะนอนตีหนึ่งตีสอง จึงตื่นตอนประมาณสิบโมงกว่า ด้วยเพื่อนโทรมาคุยธุระ มันถามว่าทำอะไรอยู่ ก็ตอบไปตรงๆ ว่านอนหลับอยู่เฟ้ย...มีเสียงหัวเราะตอบกลับมาว่าเอ้า! ไม่ทำงานเหรอ...ไม่ทำเฟ้ย เสาร์อาทิตย์...เป็นเสียงหัวเราะ ตอบกลับมาอีก ดูมีความสุขนะเพื่อนนะ แล้วก็คุยธุระกัน...หลังจากนั้นเราก็ลุกจากที่นอน ตอนสิบโมงกว่าๆ
ลุกจากที่นอนได้แล้วก็อาบน้ำอย่างเอ้อระเหย กว่าจะยุรยาตรมาถึงป้ายรถเมล์ได้ก็สิบเอ็ดโมงกว่า แสงแดดช่างร้อนระอุ โอ้ ตรูช่างกล้าแกร่ง เอาละ นั่งรอรถเมล์พอประมาณ แล้วก็จะได้ขึ้นไปเสพความเย็นของเครื่องปรับอากาศแล้ว เพราะรถที่ตรูจะนั่งเป็นรถแอร์ วะฮะฮ่า
เดินทางไปสนามหลวงไม่ใช่เรื่องยากส์(ออกเสียงเพื่ออรรถรส) ชาวเราลาดพร้าวเนี่ยนขอให้มองหาสาย 44 แล้วก็ดูป้ายที่ขึ้นตรงหน้ารถด้วยละว่า "สนามหลวง" ถ้าขึ้นไว้ว่า "จตุจักร" จะไม่ใช่คันที่ถูกต้อง ห้ามขึ้นคันนั้นๆ นะเดี๋ยวต้องเกา ถุย!! คนละคันเฟ้ย หมายถึงว่ามันจะไปสิ้นสุดแค่บีทีเอสจตุจักร แลด้วยอรรถรสในการนั่งสาย 44 ไปสนามหลวงก็คือ ขึ้นแล้วก็หลับเลย ยาวไปๆ หลับไปๆ เพราะมันไกลมาก ถ้าอรรถรสจะต้องสะดุดด้วยการลงที่จตุจักรแล้วก็ต้องรอรถอีกรอบ มันไม่ใช่!!!!
สรุปแล้วว่า ดูป้ายจุดหมายปลายทางด้วย ก่อนขึ้นรถเมล์...
ทุกคนคงเข้าใจการยุรยาตรของเราแล้วสินะ ดูสิขนาดแค่การขึ้นรถเมล์มันยังยาวยืดเยื้อได้ขนาดนี้
เอาละสมมุติว่าขึ้นรถเมล์แล้ว บอกป้ายปลายทางว่าสนามหลวงแล้ว ก็นอนได้ค่ะท่านผู้โดยสารทุกท่าน เมื่อพนักงานของเราตะโกนว่า กองสลาก! กองสลาก! ก็ให้ตื่นแล้วเตรียมตัวลง เพราะว่าใกล้จะถึงแล้ว
ไม่ใช่ลงตรงกองสลากนะ รออีกนิดให้พนักงานของเราตะโกนว่าสนามหลวงก่อน แล้วค่อยลง โอเคนะผู้โดยสารทุกท่าน
เมื่อถึงสนามหลวงตอนบ่ายโมงกว่า...แสงแดด ณ สนามหลวงช่างแรงกล้า สิ่งที่ต้องทำคือการเดินผ่ากลางสนามหลวงเพื่อข้ามฟาก "จากถนนราชดำเนินในไปถนนหน้าพระธาตุ" แสงแดด ณ สนามหลวงช่างแรงกล้า โอ้ ตัวเรานั้นช่างกล้าแกร่ง เพราะบ่ายโมงกว่าแล้ว ให้จำเป็นต้องรีบเร่งหาได้มีเวลามาพิรี้พิไรใดๆ....
หากแม้นจะพิร่ำพิไรใดๆ ตอนนี้ ก็ใคร่จะขอตักเตือนให้พวกเจ้าที่คิดจะมาเยือนสนามหลวงตอนบ่ายโมงกว่าๆ ได้ฟัง ว่า จงจัดเตรียมสัมภาระอันได้แก่หมวกปีกกว้างใบใหญ่ หรือไม่ก็ร่มมาสักคัน นะเฟ้ย!!!!!!! แสงแดดมันแรงกล้ามากจริงๆ เราผู้มีหมวกปีกไม่กว้างมาก เดินผ่ามาแล้ว ผิวหน้าเข้มขึ้นหนึ่งเฉด!!! ยืนยัน!!!
พอถึงถนนหน้าพระธาตุแล้วก็ขวาหัน...หมายถึงให้เดินไปทิศตรงข้ามกับวัดพระแก้วน่ะ
เพื่อจุดหมายปลายทางของเรา...โรงละครโรงเล็ก โรงละครแห่งชาติ...
เอาละ นี้แหละสิ่งแรกที่จะมาทำ แถวๆ สนามหลวง ก็คือการดูโขนเรื่อง "องคตยศยง" นั้นเอง
.........ติดตามได้ในตอนสอง
ความจริงข้ามไปอ่านตอนสองก็ได้เลยนะ เนื้อล้วนๆ ตอนหนึ่งแค่อารัมภบท มีแต่น้ำ // แล้วมาบอกอะไรตอนนี้นะตัวเราาาาาา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in