เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MOVIEVorawoot Ton
AVATAR
  •            พล็อตเรื่องง่ายๆคือมนุษย์ไปรุกรานโลกอื่น เพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบของเงินตรา แต่ผู้กำกับก็สามารถเขียนบทแยกย่อยลงไปในนั้น ที่ทำให้พล็อตง่ายๆ แต่สามารถสะกดคนดูให้ลื่นไหลไปตามตัวละครได้รับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร รวมทั้งเหตุและผล

     การเขียนเรื่องนั้นที่ให้เราได้เข้าไปเรียนรู้พวกชาวนาวีทำให้เราเกิดอารมณ์รักในตัวพวกเขา รักในวิถีชีวิตของพวกเขา ที่พึ่งพาธรรมชาติอยู่กับธรรมชาติขณะที่ฝ่ายมนุษย์อย่างเรา อยู่กับความโลภ อยู่กับการใช้กำลังข่มเหงผู้อ่อนแอกว่าทั้งๆที่ สิ่งที่ชาวนาวีปฏิบัติ คือสิ่งที่มนุษย์ทำมาก่อน ก่อนที่จะทำลายลงโดยมนุษย์กันเองเช่นกัน

    ชาวนาวีเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือบรรพบุรุษเราในอดีต ที่ยังคงอยู่กับธรรมชาติแบบพึ่งพากันและเทคโนโลยีและความโลภนี่แหละ ที่เราได้ฆ่าชาวนาวีในโลกของเราไปจนหมด  จนทุกวันนี้ก็เหลือแต่มนุษย์ที่มีแต่ในหนังขณะที่มนุษย์ที่ยังคงเลือกวิถีแบบชาวนาวีกลับมีน้อยลงเหลือเกิน


    เรื่องย่อ

    ผู้ชมจะเข้าสู่โลกแพนโดราผ่านสายตาของเจค ซัลลี่ อดีตนายทหารเรือผู้พิการที่ต้องนั่งบนรถเข็น แม้ว่าร่างกายไม่สมประกอบแต่เจคก็ยังมีหัวใจนักรบ เขาได้รับเลือกให้ร่วมเดินทางหลายปีแสงไปยังดาวแพนโดราที่ซึ่งมีเหมืองแร่ล้ำค่าหายากที่เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนของโลกและเพราะชั้นบรรยากาศของดาวแพนโดราเป็นพิษต่อมนุษย์พวกเขาจึงต้องพัฒนาโปรแกรมอวตาร เพื่อแปลงสภาวะจิตของคนให้ไปอยู่ในร่างอวตารและให้ควบคุมร่างกายได้ในภาวะอากาศที่เบาบาง ร่างอวตารนี้เป็นส่วนผสมทางพันธุกรรมของดีเอ็นเอมนุษย์และดีเอ็นเอจากสิ่งมีชีวิตบนดาวแพนโดราที่มีชื่อเรียกว่า "นาวี" 


              ในร่างอวตาร เจคสามารถเดินได้อีกครั้งหนึ่ง และมีภารกิจต้องแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มนาวีชนเผ่าพื้นเมืองที่เป็นอุปสรรคสำคัญของชาวโลกในการเข้าถึงเหมืองแร่ล้ำค่า  แต่นาวีสาวสวยชื่อ นาทิรี ได้ช่วยชีวิตเจคไว้และแผนการทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง  เจคได้เข้าร่วมชนเผ่าของเธอเขาได้ผ่านการทดสอบและการผจญภัยต่างๆ จนได้เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น   ความสัมพันธ์ของเจคและนาทิรีเริ่มลึกซึ้งขึ้นพร้อม ๆ กับความนับถือในกลุ่มนาวี ในที่สุดเขาต้องพบการทดสอบและความขัดแย้งที่จะตัดสินชะตากรรมของโลก





    การออกแบบภาพของเรื่องนี้โดดเด่น สวยงามและตระการตามากเท่าที่ภาพยนตร์เรื่องนึงๆจะทำได้แล้วเริ่มจากการออกแบบสิ่งมีชีวิตต่างๆบนแพนดอร่า และเทคโนโลยีต่างๆของมนุษย์ที่ถึงแม้จะไม่ได้สดใหม่ทุกอย่าง แต่ก็สวยงามและตอบสนองการเดินเรื่องและอารมณ์ของผู้ชมได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ยานรบ ลำเลียงคุ้มกัน อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตบนแพนดอร่าอย่าง อิกรานทาร์นาธอร์ โทลุค หรือกระทั่งเมล็ดพันธ์แห่งจิตวิญญาณ และเรื่องนี้ยังออกแบบสภาพแวดล้อมบนแพนดอร่า ได้สวยงามและอลังการมาก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ยักษ์ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า   ทฤษฏีภูเขาลอยได้หรือป่าไม้เรืองแสงในยามค่ำคืนของแพนดอร่า

               เรื่องนี้เรียกว่าใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น การพลิ้วไหวของใบหญ้า เปลวเพลิงหรือการ
    กระเซ็นของน้ำ และเรื่องนี้ยังโดดเด่นด้านการคอมโพสต์แสงสีโดยแต่ละฉากเรียกว่า จัดองค์ประกอบของสีได้ดีมาก เช่นฉากที่เจคอวตารกลับไปหลังจากโฮมทรีถูกทำลายไปแล้วใช้โทนสีเทาสื่อถึงความมืดหม่นและสูญเสียได้ดี ฉากผืนป่ายามค่ำคืนที่เจค และนาทิรีอยู่ด้วยกันโดยมีพืชต่างๆแข่งกันเปล่งแสง อวดความงามของตน ฉากนี้เรียกได้ว่ามีองค์ประกอบภาพที่สวยงามและสมบูรณ์มาก ทำให้รู้สึกเป็นประสบการณ์ใหม่ในการชมภาพยนตร์เลย Avatar ยังมีการกำกับการเคลื่อนไหวที่นุ่นนวล เหมือนจริงไม่ว่าจะเป็นตัวเนวี การวิ่งหรือกระโจนของทาร์นาธอร์ การกระพือปีก การโฉบหรือการร้องคำรามของอิกรานและโทลุค ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและสมจริงมาก

                Avatar สะท้อนให้เห็นความเป็นทั้ง"ผู้สร้าง" และ "ผู้ทำลาย" ของมนุษย์อยู่ที่ว่ามนุษย์จะเลือกเป็นแบบไหน ในความเป็นผู้ทำลายมาจากความเห็นแก่ตัวที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนหรือพวกพ้องโดยมีความโลภเป็นแรงกระตุ้น และมีอำนาจเป็นเครื่องมือให้บรรลุเป้า  ซึ่งเราจะเห็นว่าอำนาจเมื่ออยู่ในมือคนผิดสิ่งที่ตามมาคือ ความเสียหายใหญ่หลวงต่อส่วนรวม ขณะที่ในความเป็นผู้สร้าง เกิดจากสติปัญญา ความรู้ จิตสำนึกแห่งดีชั่ว และคุณธรรมหล่อหลอมให้มนุษย์ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม  นึกถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in