เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#บันทึกนักเดินกินPiritozz
#บันทึกนักเดินกิน EP.1 Finally ได้ทานสักที อาหารอินเดีย
  •  "โอ้โห!! มันอร่อยจนอยากซื้อบ้านแถวนี้ จะปั่นจักรมาซื้อ Lassi ทู๊กวันนนน"               

                         ความเดิมตอนที่แล้ว.....ที่น้องมีความอยากทานอาหารอินเดียมากแต่ไม่ได้ไปสักที
    วันนี้!!! ได้ทานแล้วจ้าาาาาาา  (น้ำตาจะไหลขอแชร์ ?T T เป็น Twice เลยจ่ะ)

                        ร้านที่เราจะพาไปกินวันนี้ก็คือ!! ร้าน Sallim Restaurant นั่นเอง ซึ่งเค้าเคลมว่าเป็นร้านอาหารสไตล์ อินเดีย + ปากีสถาน ????

    ?เรื่องราวของที่ตั้งเนี่ยก็ไม่ได้หายากเลยจ้าสังคม เข้าซอยเจริญกรุง 32 ไปนิ๊ดดดดเดียวเท่านั้น

    (เจริญกรุงนะจ้ะสาว ๆ ใครไปเจริญนคร ก็คือหาอย่างอื่นทานได้เลยจ่ะ)

    ลายแทงค้าบบบบ Search หา Sallim restaurant ก็เจอเลยจ้า

    บางคนอาจจะถามว่า  เอ๊ะ! คุณครูครับๆ ซอยเจริญกรุง 32 เนี่ยมันอยู่ตรงไหนเหรอครับ ??

    มาจ่ะ คุณครูจะบอกให้นะคะ ว่ามันติดกับไปรษณีย์กลางบางรักเลยจ่ะเด็ก ๆ ไปง่ายมากๆ แถมย่าน
    บางรักเนี่ยก็มีร้านอาหารอีกประมาณ 3 ล้าน แห่ง!!

    (โอ้โห!! ทำไมมันเยอะเวอร์ขนาดนั้นล่ะครับ)

    ใช่จ่ะ ครูขี้เวอร์เอง 55555 ?

    แต่ถึงมันจะไม่ได้เยอะขนาดนั้นแต่ก็มีร้านเยอะพอตัวเลยนะคะ อย่างที่ใกล้ ๆ เลยก็มี 
    The hidden milkbar ร้านสีชมพูๆ แดงๆ หวานๆ (ไว้ว่าง ๆ จะพาไปเดินกินที่นั่นนะคะ ?)

    แต่วันนี้เราจะมา focus on Sallim กันนะค้าาาาา

    วันนี้เราไปถึงร้านช่วงบ่าย 2 โอ้โห!!! เยอะ!!)

    (คนเยอะ!!)

    ยุงเนี่ยแหละ!! เงียบเป็นป่า พ่อค้าแม่ค้านั่งตบยุงกันมือระวิง

    (?)

    อรรถรสน่าาา 5555

    แต่เรื่องเงียบเป็นป่าก็คือจริงเวอร์ ลูกค้าหนึ่งเดียวในร้านคือเราเองจ่ะ นอกนั้นก็มีพี่บุรุษไปรษณีย์มาแวะซื้อชงซื้อชาที่ร้านบ้างต่าง ๆ

    Today's menu น้องขอเสนอ 4 อย่างด้วยกัน นั่นก็คือ....

    - Butter Chicken
    - Japati
    - Iced milk tea
    - Lassi

    มาแค่เห็นชื่อก็สงสัยแล้วว่า อะไรวะ? แต่รับรองว่าถ้าคนที่ไม่เคยทานอาหารอินเดียมาก่อนจะรู้สึกว่ารสชาติไม่เหมือนหน้าตาอาหารอย่างแน่นอน!!!

    มาที่จานแรกกันก่อนจ้า Butter Chicken
    เสิร์ฟมาในจานราชาชูรส แหม่...รู้เลยนะคะว่าทานเสร็จแล้วต้องซื้อยาปลูกผม 555

    เห็นภาพแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน

    สำหรับคนที่ยังไม่เคยทาน Butter Chicken มาก่อน เราอยากให้ลองพิจารณาภาพตรงหน้าแล้วจินตนาการถึงรสชาติ ของอาหารจานนี้ดูค่ะ แล้วมาลองดูกันว่ารสชาติจะเป็นแบบที่คุณคิดหะหรือหะไม่

    .

    .

    .

             มาจ่ะ ถ้าเป็นเราครั้งแรกที่เห็นคงรู้สึกว่า โอ๊ะ! พแนง ?55555 แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย
    นะคะคุณผู้ชมขา มันไม่มีกะทิเลยยยยยย (ถ้าใครได้อ่าน #บันทึกนักเดินกิน EP.0 อาจจะได้อ่านผ่านที่เราบอกว่าเราไม่ชอบอาหารที่มีกะทิ) เป็นแกงใส่ไก่ ที่ราดด้วยเนยละลาย ให้กลิ่นหอมกรุ่นมันเนย แล้วเครื่องแกงก็จะออกรสชาติเผ็ดๆ แต่กลิ่นไม่แรงเลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศ รับรองเลยว่ามาทานที่ร้าน Sallim แล้วจะติด ใจ...ใจ..ใจ..ใจ..ใจ

           ขนาดตักเข้าปากไปจนหมดชามก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าส่วนผสมน้ำแกงนี่คืออะไร เพราะมันแอบมีเนื้อๆ ข้นๆ เล็กน้อย ไม่ได้เป็นแกงน้ำใสเหมือนพวกต้มยำบ้านเราน่ะค่ะ

          แต่ถ้าให้เราเดานะคะ เราจะเดาว่ามันคือมันฝรั่ง ทุกคนเคยทานซุปไก่มั้ยคะที่จะใส่ มันฝรั่ง 
    มะเขือเทศ ไก่ ต้มไปด้วยกันแบบนี้อะค่ะ แล้วมันฝรั่งมันจะยุ่ยๆ ออกมา ลักษณะในแกงบัทเทอร์เป็นแบบนั้นเลยจ้าาาาา

    ส่วนถ้าใครไม่ชอบทานไก่ที่ร้านก็มีเนื้อสัตว์แบบอื่นให้เลือก มีทั้งเนื้อ ทั้งแพะ 

    แต่ๆๆๆ อย่าไปถามหมูนะจ้ะ เด็กๆ

    มากินอาหารอินเดียจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้ นั่นก็คือ.....แป้ง นั่นเองงงง

    ความจริงแล้วที่อินเดียก็มีแป้งหลายแบบไม่ได้มีแค่ นาน อย่างเดียวนะค้าคุณผู้ชมขา

    วันนี้เราสั่งแป้ง Japati มาจิ้มกับ Butter Chicken หน้าตาก็จะเป็นแบบ นี้!
    ความจริงจาปาตี้จะเป็นแป้งกลมๆ แผ่นใหญ่ แต่ที่ร้านก็คือตัดมาให้เรียบร้อยแล้วจ้า


    บอกเลยว่า Japati คือเริ่ด!

    มันนุ่ม แบบ นุ่มมม แบบ โอ้ยยยยยย! นู้มมมมมมมมม

    หน้าตามันก็ดูคล้าย ๆ โรตีแต่สัมผัสไม่เหมือนเลยค่ะ มันเป็นสัมผัสแบบถ้าเป็นโรตีคงเป็นโรตีดิบ555

    เอ่อ...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่เคยทานโรตีดิบนะคะ สาสุขอย่าพึ่งทุบหนู

    คือข้างในจะเป็นแป้งนิ่มๆ ถ้าเทียบกับคุ้กกี้ ก็จะเป็น soft cookies อะไรแนวๆ นั้นน่ะค่ะ

    วิธีการรับประทานนะคะ คือ ตักไก่มาแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำ ฉีก japati ออกมา ห่อไก่เอาไว้ นำปลายด้านหนึ่งของ japati ห่อไก่ลงไปชุดกับน้ำแกง แล้วใส่เข้าปาก ค่อย ๆ เคี้ยวซึมซับรสชาติ เผ็ด เค็ม จาก Butter Chicken ผสมกับความหวานนิดๆ จาก Japati 

    โห...ไม่มีคำไหนจะดีไปกว่าคำว่า 'ลงตัว'

    บางคนอาจจะกลัวเลี่ยน แต่เราบอกเลยว่า 'เห้ย! อย่าไปกลัว'

    เพราะที่ร้านเตรียมผักสด ?เป็นเครื่องเคียงไว้ให้แบบนี้เลยค่า
    ถ้าจะทานหอมใหญ่ก็ต้องระวังกันนิดนึงนะคะ เพราะถ้าต้องไปหาลูกค้าต่อ
     ก็คือต้องพกแปรงสีฟันมาแปรงด้วยนะคะ 555

    (โอ้ยๆๆๆ.....มีแต่อาหาร คอแห้งแล้วค่าคุณครู)

    อย่าไปกลัวจ่ะเด็กๆ คุณครูจะพาไปดื่มน้ำนะคะ

    มาถึงร้านอินเดีย ก็ต้องดื่มชาใช่มั้ยคะ แก้วแรกที่จะพาไปชิม ก็คือ...


    ชานมเย็น นั่นเองงงง!!

    แต่ว่า ๆ เราค่อนข้างผิดหวังกับเมนูนี้เพราะคิดว่ามันน่าจะหอมนะ มากินถึงร้านอินเดียเลยนะ แต่มันกลับกลายเป็นว่าไม่เข้มขันเลย ชาไม่หอมด้วย มันแบบจาง จางในจางเลยจ่ะ


    ไม่รู้ว่าเพราะปกติเราดื่มชาไม่ใส่นม กาแฟไม่ใส่นมหรือเปล่า เลยทำให้ปกติจะได้กลิ่นชาที่ชัด พอมาเจอชาอันนี้ที่ไม่มีกลิ่น ไม่มี after taste เลย เลยแบบ เห้ออออ.....


    เจอแบบนี้มันเซ็งเข้าใจมั้ย
    แต่ว่าฉันไม่ถึงกับโกรธ
    แบบว่ามันงงๆ
    และคงไม่อาจเข้าใจ

    เซ็ง - ไมค์ พิรัชต์

    เพลงปลากรอบบ่งบอกยุคสมัยมากนะฮะ 5555

    นั่นแหละค่ะ เอาเป็นว่าสำหรับเรา เราไม่ค่อยชอบ

    แต่ว่า ๆ ยังดีที่รสชาติไม่หวานเกินไป ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

    มาถึงเมนูสุดท้าย ที่เราของยกให้เป็น A must แห่ง Sallim Restaurant นั่นก็คือ

    Lassi !!!!!!



    ง่าย ๆ เลยนะคะ Lassi เป็นโยเกิร์ตสไตล์อินเดีย เอาไปปั่น ดื่มเย็นๆ ชื่นใจ 

    สัมผัสมันจะเหมือนพวกโยเกิร์ตพร้อมดื่มเลยค่ะ แต่รสชาติมันจะเหมือนหมักจนเป็นแก๊สนิด ๆ 
    เป็นรสชาติซ่าๆ นิดนึง ดื่มไปแล้วได้กลิ่นหอมๆ อบอวลอยู่ในปาก เริ่ดดดดดดดด

    คือถ้าใครมีโอกาสได้ไปทานนะคะบอกเลยว่า Lassi คือเมนูที่แบบ....

    ต้องลองให้ได้!!!

    วันนี้ก็จะประมาณนี้นะคะสำหรับ #บันทึกนักเดินกิน ในครั้งนี้ ครั้งหน้าเราจะพาไปเดินกินที่ไหนอย่าลืมติดตามกันนะคร้าาาา

    ปล. ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วมีร้านที่อยากให้เราลองเดินไปกินก็ทิ้ง comment แนะนำไว้ได้เลยนะคะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in