เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I write, therefore I am.whenwehavetime
ฝันร้าย
  • ทุกอย่างจะเริ่มต้นเหมือนเดิมในทุกครั้ง

    มันเหมือนตัวเองค่อยๆ หล่นลงสู่ก้นทะเลสาบ

     มวลน้ำอ่อนนุ่มและเยียบเย็น ฉันล่องไปยังเบื้องล่างคล้ายนกที่ถลาลมสู่พื้นดิน 

    รอบข้างเวิ้งว้าง ไร้สุ่มเสียง มองออกไปเห็นเพียงความเข้มของสีน้ำเงินที่เกือบดำสนิท 

    แล้วความหวาดกลัวก็เข้ากุมหัวใจ


    1.


    ในวินาทีแรกๆ นั้นจะตกใจ คล้ายรู้สึกตัวว่าอีกไม่นานจะต้องตาย 

    เพราะมนุษย์ไม่สามารถหายใจในน้ำได้ แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น 

    ร่างกายบนเตียงอาจกระตุกวูบหนึ่งแล้วหายใจต่อไป ส่วนร่างกายที่อยู่ในน้ำนั้นก็ระคนไปด้วยความประหลาดใจ และนึกไปว่านางเงือกก็คงเป็นเช่นนี้


    ไม่นานนักเท้าก็สัมผัสลงพื้น เงยหน้าไปไม่เห็นแม้ผิวน้ำ 

    ไม่รู้ว่าตัวเองลงมาทำอะไรที่นี่ ทั้งๆ ที่จมูกหายใจเอาอากาศเข้าไปได้ 

    แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากพูดหรือตะโกนคำใดๆ ออกมา 


    เพราะกลัวจะสำลักน้ำตาย 

    กลัวความตายและความมืด ยิ่งกลัวมากขึ้นขณะคิดว่าจะติดอยู่ที่นี่เพียงลำพังตลอดไป

    เมื่อพยายามจะคิดถึงความหวัง ผลที่ได้คือฉันเห็นเพียงความว่างเปล่า 

    นึกหน้าใครไม่ออกทั้งสิ้น แม้แต่หน้าตัวเอง ดูไร้ตัวตนยิ่งกว่าการมีอยู่ของทะเลสาบ 


    สิ้นหวัง เจ็บร้าว และเริ่มร้องไห้ 


    น้ำตาที่หลั่งไม่ไหลลงอาบแก้ม แต่มันปะปนไปกับผืนน้ำที่อยู่รอบตัว 

    มันรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนไม่รู้แน่ว่าตัวเองแสร้งร้องไห้อยู่หรือเปล่า 


    แล้วอยู่ๆ เสียงใสกังวานก็ดังขึ้น 


    "เมื่อเธอร้องไห้ น้ำในทะเลสาบจะสูงขึ้น 

    ตัวเธอจะเล็กลง เล็กลง และเล็กลง เธอไม่มีวันจะไปจากที่นี่ได้ นอกจากจะหายไปเมื่อร้องไห้ออกมาจนหมด ตัวที่เล็กลงจะดับสูญ และขอให้เธอรู้ไว้ว่าทะเลสาบนี้เกิดขึ้นจากน้ำตา จากคนร้อยพันที่พาตัวเองมาสู่ความโดดเดี่ยว 

    จากหัวใจที่โดนทำร้ายจนโหยหาเพียงความตาย เธอจะหายไปและไม่หลงเหลือสิ่งใดไว้เลยบนโลก...
    .... แม้เศษเสี้ยวความรักสักส่วนหนึ่งก็ไม่มี"







  • 2.

    ฉันจำได้ว่าเคยเห็นระลอกคลื่นแบบนั้นจากที่ไหนสักแห่ง แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นมันที่ไหน ฉันติดอยู่กับภาพทะเลในฝันเสมอ

    จังหวะคลื่นแบบนั้น แดดระยับแบบนั้น
     ทะเลเปล่งประกายแพรวพราวเล่นกับพระอาทิตย์เหมือนเด็กน้อยสองคน

     มันทั้งสงบและอบอุ่น งดงามและบอบบาง นิ่งงันและเคลื่อนไหว 
    นิ่งจากชัตเตอร์ที่ถูกกด เคลื่อนจากความทรงจำสู่ภาพถ่าย

     ฉันสลัดภาพระลอกคลื่นนั่นออกจากหัวไม่ได้
    ราวกับว่ามันเชื้อเชิญให้ฉันกลับไปค้นหาบางอย่าง

    สำหรับทะเลคือสิ่งน่ากลัวเสมอมา
    และเป็นธรรมชาติที่ฉัน ชอบมองหาและชื่นชมมากที่สุด

     บางสิ่งที่กระแสน้ำซัดให้หายไป บางใจที่ตกหล่นอยู่ก้นทะเลขุ่น บางจังหวะที่มหาสมุทรอ้างว้าง
    และฉันลอยคว้างอยู่กับห่วงยางหน้าตางี่เง่า บางเวลานั้นฉันได้สูญเสียสิ่งใดไป...


    3.

    ฉันฝันถึงทะเลเสมอ
    ทุกครั้ง  ในฝันฉันเกือบจะร้องไห้ แต่เมื่อตื่นนอน ฉันไม่เคยหยุดน้ำตาไว้ได้
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in