โธ่! ก็ดูสิครับ เดินอยู่แถวโอโมเตะซังโด (ที่อยู่ใกล้กับฮาราจุกุ) ประเดี๋ยวก็จะเห็นเด็กๆ แต่งตัว
เหมือนพังก์เปี๊ยบ ดูลุคแล้วน่าจะเกเรเกตุงไม่น้อย แต่ดันเข้าคิวซื้อตั๋วคอนเสิร์ต ซื้อไอติมกันเป็นระเบี๊ยบระเบียบชนิดที่คุณระเบียบรัตน์ไม่ต้องมองค้อนกันเลยทีเดียว เดินไปอีกนิดก็เจอคุณป้าแสนชรา ดูแล้วน่าจะชรามาตั้งแต่ยังสาวกว่านี้เยอะ ใส่เกี๊ยะใส่กิโมโนเดินช้าๆ (อาจเพราะปวดเข่า!) ย่างเชิดๆสวนไป
กับสาวกระโปรงเหี่ยน เอ๊ย! สาวนักเรียนญี่ปุ่นกระโปรงสั้นได้โดยไม่มีใคร ถลึงตาใส่ใครว่าเชยหรือทำตัวเปรี้ยวเกินเหตุ
คนเหล่านี้อยู่รวมกันได้ยังไง
มองดูแล้วผมแทบอยากแล่นเข้าไปชวนคุณป้าคุณน้าหรือน้องนักเรียนสาวๆคุย (เอ่อ อย่าคิดอกุศลเป็นอันขาดนะคุณ เพราะนี่คือการทักทายประสาประเทศเพื่อนบ้าน) อยากรู้ว่าพวกเธอและเธอคิดอะไรกันอยู่ในหัว และมองเห็นโลกเป็นยังไงกันแน่ แต่ก็นั่นแหละครับ อันตัวผมดันเป็น ‘ไกจิน’ ที่สิ้นไร้ไม้ตอกเรื่องภาษาญี่ปุ่น จะไปอาโนเนะอะไรก็คงใบ้รับประทาน เลยได้แต่เดินไปเดินมาแอบมองผู้คน
ราวกับเป็นโรคจิต พลางสงสัยอยู่ได้เป็นวรรคเป็นเวรว่า คนญี่ปุ่นที่เห็นอยู่ตรงนั้นเขาคิดอะไรกันอยู่
พูดง่ายๆ เราเห็นคนญี่ปุ่นข้างนอกว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่า ‘ข้างใน’ ของเขาเป็นอย่างไร
อ๊ะ! ไม่ใช่ ‘ข้างใน’ ประเภทที่ไปซื้อกล้องวิดีโอมา ส่องทะลุเสื้อผ้านะคุณไอ้นั่นน่ะถึงทะลุแล้วก็ยังเป็นข้างนอกอยู่ดีนั่นแหละ แต่ ‘ข้างใน’ ของผมน่ะ ต้องเรียกว่าเป็น ‘ข้างในอก’ หรือข้างใน ‘อุระ’ กันเลยทีเดียว
ตอนนึกสงสัยอย่างนั้นก็ไม่รู้หรอกว่า คำว่า ‘อุระ’ ที่แปลว่าอกของเรา มันจะเกี่ยวข้องอย่างลึกลับกับคำว่า ‘อุระ’ ในภาษาญี่ปุ่นด้วย
จนเมื่อเดินลอยชายไปมาบนโอโมเตะซังโด แล้วได้พบกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งเข้านั่นแหละ!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in