2
ตั้งแต่จำความได้ ชื่อของ โตมร ศุขปรีชา ก็เข้ามาอยู่ในการรับรู้ ไม่ว่าเราสนใจเรื่องอะไร
ตัวหนังสือของโตมรก็ตามมาอยู่เสมอๆ ไม่ต้องไปไหนไกล เอาแค่หนังสือที่เขาตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แซลมอน ก็มีหลากหลายประเภทจนยากที่จะบอกได้ว่าเราไม่มีหนังสือแนวไหนของโตมรบ้าง
จนบ่ายวันหนึ่ง เขาทักทายมาหา พูดถึงหนังสือที่ห่างหายจากแผงไปนานแสนนาน หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า ย่องเบาเข้าญี่ปุ่น
สารภาพตามตรงว่าเราใช้เวลาอยู่นานในการนึกถึงหนังสือเล่มนี้ คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่น (แน่นอนสิ!) ซึ่งทุกวันนี้แทบจะถูกเขียนถึงทุกซอกทุกมุมไปแล้ว
แต่เมื่อมีคำว่า แทบ ย่อมแปลว่ายังมีบางสิ่งหลุดรอดสายตาไปอยู่
ท่ามกลางปริมาณหนังสือของโตมรที่มีจำนวนไม่หวาดไม่ไหว เราแหวกว่ายไปนำหนังสือเล่มนี้กลับมาอ่านอีกครั้ง ค่อยๆ ย่องไปตามฝีก้าว แล้วเราก็เหมือนได้ดำผุดดำว่ายไปหารากเหง้าของญี่ปุ่นจากเรื่องเล่าของโตมร
หากการย่องเบา มีเป้าหมายคือไม่ให้คนอื่นรู้ตัว จังหวะก้าวของโตมรในสารคดี (กึ่งนิยาย) เล่มนี้ก็แนบเนียนไปกับบรรยากาศและสภาพแวดล้อม เขาแทรกซึมเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมญี่ปุ่น จนแม้แต่เจ้าถิ่นก็อาจแยกไม่ออกว่าในช่วงเวลานั้น มีสิ่งแปลกปลอมปะปนเข้ามา แถมยังไม่รู้ตัวอีกว่าโดนโตมรล้วงเอา จิตวิญญาณ ‘ข้างนอก’ ‘ข้างใน’ มาร้อยเรียงไว้ในหนังสือเล่มนี้เรียบร้อยแล้ว
ย่องเบาเข้าญี่ปุ่น ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2008 โดยสำนักพิมพ์ GM Books หากมองเพียงแค่เวลา คุณอาจคิดว่าเรื่องราวทั้งหลายผ่านไปนานแล้ว แต่การทำความรู้จักตัวตนบางสิ่งบางอย่าง—ไม่ว่าจะเป็นคนหรือประเทศก็ตาม ช่วงเวลาที่ผ่านไปก็ล้วนน่าศึกษา
และจากที่เราเคยคิด ว่าอ่านผลงานของโตมรไปแล้วทุกแนว ตีพิมพ์ผลงานของเขาไปแล้วทุกประเภท ก็ต้องกลับมาคิดดูใหม่
ว่ามีเรื่องราวแบบไหนของโตมรที่เราลืมเลือนไปอีก
สำนักพิมพ์แซลมอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in