หญิงสาวนั่งจ้องมองหนังสือพิมพ์เป็นเวลานานเกือบชั่วโมงหลังจากที่เพื่อนสาวนำข่าวเข้ามาบอกในตอนสายวินาทีนี้หัวใจแทบแตกสลายลง เขาจะไม่เป็นอย่างที่ในข่าวบอกออกมาใช่ไหม
ณัฐกฤตาถอนหายใจจนนับครั้งไม่ถ้วนครั้นเมื่อชำเลืองสายตามองภาพที่ทนรับไม่ได้ แค่ข่าวออกมาก็พอว่าอยู่แต่นี่เล่นมีภาพหลุดออกมาว่าเขาจับมือกับวศินพระเอกชื่อดังอีกเธออยากจะร้องไห้จริงๆ
“ไม่จริง ! ข่าวที่ออกมาต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ เลยคุณแทนของฉันไม่ได้เป็นเกย์...” ณัฐกฤตาบ่นพร่ำออกมาด้วยความเสียใจ
วรรณรดาปาปารัสซี่สาวมองหน้าตาของเพื่อนที่แสดงถึงความเศร้าเสียใจเมื่อผู้ชายที่แอบปลื้มแอบชอบดันมีข่าวว่าเป็นเกย์แถมทั้งภาพที่ออกมาก็บอกอยู่เต็มตาว่าคือ แทนไท !
“ยอมรับความจริงซะ ถึงยังไงแกก็ไม่มีทางสู้ผู้ชายได้หรอกนะ”
ดูเหมือนจะเป็นคำปลอบใจที่แทงใจคนฟังน่าดู
“เปล่า ๆ ฉันก็แค่บอกว่าแกจะใช้ความสวยไปสู้กับผู้ชายเนี่ยนะมันดูไม่แปลกไปหน่อยหรือไง”
“ไม่ ! ฉันเชื่อว่าคุณแทนยังมีจิตใจที่เป็นชายอยู่...บ้าง”
คำว่าบ้าง ช่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินวรรณรดาขำกับคำพูดของเพื่อนสาวที่ยังปักใจเชื่ออยู่ว่าแทนไทนั้นไม่ได้เป็นเกย์
“พยายามปลอบใจตัวเองซะจริง แกจะทำยังไงในเมื่อแกกับเขาน่ะเคยคุยกันแค่ไม่กี่คำ”วรรณรดาพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟาราคาแพง
“ไม่รู้สิ แต่ฉันชอบเขาจริง ๆ นะ” เธอถอนหายใจออกมามองใบหน้าของเพื่อนสาวที่ก้มลงหยิบกระเป๋าข้างตัวขึ้นมา
“แกจะไปไหน ? อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิตอนนี้ฉันต้องการกำลังใจ”
“ไปทำงาน ถ้าหาข่าวไม่ได้ฉันตกกระป๋องแน่ ส่วนแกตัดใจกับคุณแทนซะเถอะผู้ชายดี ๆ ที่ไม่เป็นเกย์ยังมีให้แกเลือกอยู่เยอะ...ก็แค่นั้นแหละ”เมื่อพูดจบวรรณรดาเดินออกจากห้องไปทิ้งเพียงณัฐกฤตาที่นั่งทำสายตาละห้อยเหล่มองไปที่ภาพในข่าวยิ่งเห็นยิ่งปวดใจแทงใจไปทุกครั้ง
จะต้องปล่อยเขาไปจริงๆ น่ะเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก !เธอไม่เชื่อว่ามารยาผู้หญิงจะแพ้มารยาของผู้ชาย !
ณัฐกฤตาเกิดมาร่ำรวยด้วยเงินทอง ทั้งยังมีใบหน้าสะสวย จึงเป็นที่หมายปองของผู้ชายแต่หลายปีนี้เธอไม่คิดจะตอบรับหรือปักใจกับใครที่เข้ามาหาเลยสักนิดเพราะว่าเธอรักงานที่ทำจึงไม่เคยสนใจเรื่องความรักเลยสักนิด
งานออกแบบเสื้อผ้านักแสดง ดาราและนางแบบนายแบบนิตยสารคืองานของเธอที่ทำอยู่ในตอนนี้ มันเป็นงานอิสระที่เธอชอบทำ ถึงแม้ว่าทางบ้านจะมีธุรกิจอยู่แล้วก็ตามแต่เธอโชคดีที่มีพี่ชายสุดหล่อและโหดสามารถที่จะรับช่วงต่อแทนได้ทว่าตอนนี้พี่ชายของเธอนั้นยังทำงานอยู่ประเทศอเมริกาซึ่งเป็นบริษัทหุ้นส่วนของครอบครัวเธอกว่าจะกลับมาก็คงอีกหลายเดือน
ร้านรับออกแบบเสื้อผ้าและตัดเย็บชุดหรูตั้งอยู่ในย่านแหล่งการค้า
หญิงสาวลุกขึ้นเก็บงานบนโต๊ะให้เรียบร้อยสายตาชำเลืองมองไปที่หนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความเจ็บปวดใจพลางถอนหายใจออกมาก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องทำงานไป
“ฝากปิดร้านด้วยนะ”ณัฐกฤตายิ้มให้ก่อนที่จะผลักประตูร้านเดินออกไปก้าวตรงไปที่รถยนต์คันหรูก่อนจะขึ้นรถและขับออกจากร้านทันที
ใช้เวลาไม่นานมากนักเพราะวันนี้รถไม่ติดจึงถึงบ้านเร็วกว่าที่คาดไว้หญิงสาวจอดรถที่ใต้ชายคาบ้าน ประตูรถถูกเปิดออก เอี้ยวตัวลงไปหยิบงานที่วางอยู่เบาะข้างๆขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูกลับมาแล้วหรือคะ คุณท่านกับคุณผู้หญิงกำลังเรียกหาเลยค่ะรออยู่ที่ห้องทำงานของคุณท่านค่ะ” นมยงแม่บ้านคนเก่าคนแก่ประจำบ้านออกมายืนรอรับเพื่อรายงานตามคำสั่ง
ณัฐกฤตาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินเข้าไป สีหน้าแสดงถึงความสงสัย
ประตูห้องทำงานบานใหญ่ค่อย ๆ แง้มเปิดออกหญิงสาวส่งสายตามองผู้เป็นพ่อแม่ก่อนจะเดินเข้ามาอย่างช้า ๆบรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนเธอเริ่มระแวงถึงภัยร้ายที่คืบคลานเข้ามาหาทีละน้อย
ณัฐกฤตาเดินเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ แล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างทันทีด้วยความสงสัย“คุณพ่อคุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงมองขวัญด้วยสายตาแบบนี้”
“คุณว่าดีแล้วเหรอฉันว่าปฏิเสธไปก็ได้นะ ไอ้สัญยงสัญญาแรมปีนั่นน่ะเราค่อยเคลียร์กันก็ได้” ทัสนันทน์พูดด้วยน้ำเสียงซีเรียส
“คุณก็รู้ว่าผมเป็นคนรักษาคำพูด”เทพทัตผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เครียดไม่แพ้ไปกว่าภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ตกลงคุณพ่อกับคุณแม่มีอะไรกันเหรอคะ ถึงดู...”
“ลูกขวัญปีนี้ลูกอายุเท่าไหร่แล้ว” ทัสนันทน์ถาม
หญิงสาวขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ
“ยี่สิบเจ็ดค่ะคุณแม่ถามทำไมคะ”
“แล้วตอนนี้เราไม่ได้คบกับใครใช่ไหม ?” ผู้เป็นบิดาจ้องเค้นคำตอบ
“ไม่ค่ะ คุณพ่อก็รู้ว่าขวัญทำงานจนไม่มีเวลาให้ใครอีกอย่างขวัญไม่สนใจเรื่องแต่งงานด้วยค่ะ” หญิงสาวตอบ ความจริงแล้วเธอสนแต่เธอสนเขาเพียงคนเดียวต่างหาก คนอื่นเธอไม่สน !
“งั้นก็ดี พ่อกับแม่จะได้สบายใจไปครึ่งหนึ่ง”
เทพทัตกล่าวด้วยความโล่งอก
“สบายใจเรื่องอะไรกันคะ ?” ณัฐกฤตาถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“แม่จะมาถามความสมัครใจจากลูกก่อน คืออันนี้เป็นสัญญาที่เราพูดกันไว้เล่น ๆตอนทำธุรกิจร่วมกับทางครอบครัวโน้นน่ะ ทางเรานำสินค้าเขาส่งออกต่างประเทศบ่อย ๆจนสนิทกัน ก็เลยพูดขึ้นว่าถ้าหากแม่ได้ลูกสาวให้แต่งงานกับลูกชายบ้านเขาตอนโตแต่นี่แม่เห็นว่านานแล้วฝ่ายโน้นไม่ทวงสัญญาก็เลยคิดว่าลืมกันไป แต่อยู่ ๆวันนี้โทรมาทวงสัญญาเข้าแม่ก็เลย...”
“ขวัญไม่แต่งเด็ดขาด แม่ไปสัญญากับเขาไว้ ขวัญไม่ได้สัญญานี่คะ”เธอแทรกเถียงขึ้นทันควันทั้งที่ยังฟังไม่จบ
“เห็นไหมฉันบอกแล้วแค่นี้ยังไม่แต่งเลย ถ้าขวัญรู้ว่าเป็นเกย์อีกลูกคงไม่อกแตกตายหรือไงล่ะคุณ”
ณัฐกฤตาฟังพร้อมกับคิดตามไปด้วยเป็นเกย์ ?
“ใครเป็นเกย์คะ ?”
“ขวัญไม่ได้อ่านข่าวหรือแทนไทรองประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางบริษัทเกรท บิวตี้น่ะ เป็นเกย์...”ทัสนันทน์พูดขึ้นพร้อมทำท่าทางขนลุก
“คุณแม่หมายถึงคุณแทนไทเหรอคะ”
เธอถามทั้งที่ในใจก็แอบลุ้นให้เป็นเขาอยู่รอมร่อ
“ใช่แล้วล่ะ” เทพทัตตอบ
แทนที่ณัฐกฤตาจะดูเศร้าเสียใจ แต่กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข สวรรค์โปรด !ใครจะโง่ไม่แต่งงาน ต่อให้เขาเป็นเกย์คิดหรือว่าจะยอมให้เป็น
ไม่มีทาง !
“ขวัญจะแต่งงานค่ะ !”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in