เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
hbrxnct ft. #onewordprompthbrxnct
09 : วาฬ 52Hz #jaedo





  • [ 0 ]

    ในปีคริสตศักราช 1989 ทีมนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ค้นพบคลื่นเสียงแปลกประหลาดที่มีความถี่สูงถึง 52Hz ทว่าไม่มีใครรู้ว่าคลื่นความถี่นั้นมาจากไหน

    กระทั่งในปีคริสตศักราช 1992 พวกเขาจึงค้นพบว่าคลื่นเสียงดังกล่าวนั้นเป็นของวาฬบาลีนตัวหนึ่ง

    โดยปกติแล้วนั้น คลื่นเสียงที่วาฬใช้สื่อสารกันในฝูงจะมีความถี่อยู่ที่ 10-39Hz และนั่นก็ทำให้วาฬตัวดังกล่าวไม่สามารถติดต่อกับวาฬตัวอื่น ๆ ได้เลย เนื่องด้วยความถี่คลื่นเสียงที่สูงกว่าใครเพื่อนของมัน

    วาฬ 52Hz จึงกลายเป็นตัวแทนของความเหงาและความโดดเดี่ยวตั้งแต่นั้นมา





    [ 1 ]

    สาธารณรัฐเกาหลี, คริสตศักราช 4010

    มนุษยชาติเข้าสู่ภาวะวิกฤติมานานแล้ว

    นั่นเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนต่างรู้กันดี และแม้แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็ไม่อาจหยุดยั้งเรื่องนี้ได้

    เมื่อราวหนึ่งพันห้าร้อยปีก่อน มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ทำการค้นคว้าและวิจัยวิธีการปรับแต่งพันธุกรรมของมนุษย์เพื่อให้เซลส์ในร่างกายมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองจากโรคร้ายที่เป็นอยู่

    ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากนั้นคือมนุษย์ทุกคนที่เข้ารับการปรับแต่งพันธุกรรมจะมีร่างกายที่แข็งแรง ทนทานต่อโรค และมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้น

    การวิจัยดังกล่าวส่งผลให้ในหลาย ๆ ประเทศทำการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการทดลองในมนุษย์ และให้ทุนสนับสนุนเพื่อแลกกับผลประโยชน์หลังจากที่การวิจัยประสบความสำเร็จ

    เกิดการประท้วงเกี่ยวกับจรรยาบรรณและจริยธรรมของนักวิจัยขึ้นหลายแห่งบนโลก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนป่วยหนักใกล้ตายจำนวนมากตบเท้าเข้าไปลงชื่อยินยอมให้ใช้ร่างกายของตนในการวิจัย ด้วยหวังว่าตนจะหายจากโรคร้ายที่เป็นอยู่

    และศตวรรษถัดมา หลังจากที่การวิจัยดังกล่าวดำเนินต่อไปอย่างเปิดเผย ในที่สุดการปรับแต่งพันธุกรรมก็เป็นผลสำเร็จ

    บรรดาผู้ป่วยหนักใกล้ตายเมื่อแรกเข้ารับการทดลองต่างพากันเดินออกจากศูนย์วิจัยด้วยสภาพร่างกายสมบูรณ์พร้อม โดยไม่มีใครรู้เลยสักนิดว่าพันธุกรรมที่ถูกปรับแต่งในร่างกายของพวกเขาเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงมนุษยชาติไปตลอดกาล

    พันธุกรรมดังกล่าวได้วิวัฒนาการขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา มันทำให้มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้แข็งแรงและมีอายุยืนยาว ทว่าอัตราการเกิดของมนุษย์นั้นกลับต่ำลงเรื่อย ๆ จนน่าสะพรึงกลัว

    ฐานของพีระมิดประชากรในทุกประเทศค่อย ๆ แคบลงทีละนิด

    และนั่นจึงทำให้รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศกำหนดให้การมีบุตรของคู่แต่งงานกลายเป็นกฎหมายบังคับ รวมถึงให้การสนับสนุนงานวิจัยที่จะช่วยเพิ่มอัตราการเกิดของประชากรด้วย และหนึ่งในนั้นก็คืองานวิจัยที่ใช้ในการจัดหาคู่แต่งงานของมนุษย์ที่มีความเข้ากันทางพันธุกรรมและทำให้อัตราการเกิดเพิ่มมากขึ้น

    นั่นจึงทำให้เด็กทุกคนที่เกิดมาต้องทำการลงทะเบียนและมอบข้อมูลทางพันธุกรรมให้กับรัฐบาลเพื่อนำไปวิเคราะห์หาคู่แต่งงานของตน

    ทุกคนบนโลกใบนี้จำเป็นที่จะต้องมีคู่แต่งงานเพื่อให้กำเนิดบุตร ส่วนเรื่องความรู้สึกรักนั้นถือเป็นเรื่องรอง จะมีหรือไม่มีก็ได้

    ดังนั้นความสัมพันธ์ของมนุษย์จึงยุ่งเหยิงมากขึ้นไปอีก มีผู้คนมากกว่าครึ่งที่ไม่ได้รักคู่แต่งงานของตน ท้ายที่สุดแล้วคนทั้งสองจึงเป็นเพียงแค่พ่อและแม่ของเด็กคนหนึ่งที่มีฐานะของสามีภรรยาตามกฎหมายเป็นบ่วงผูกรัดคำว่าครอบครัวเอาไว้ โดยที่ต่างฝ่ายนั้นต่างก็มีคนรักของตัวเองที่เป็นคู่แต่งงานของคนอื่นเช่นกัน

    โลกดำเนินไปเช่นนี้ และยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุด





    [ 2 ]

    คิมโดยองกดปิดโฮโลแกรมที่ฉายหน้าหนังสือ 'เรื่องเล่าชาวโลกในคริสต์ศตรรษที่21' ตรงหน้าของตนลง ก่อนจะซบใบหน้าลงบนโต๊ะไม้สังเคราะห์อย่างเกียจคร้าน

    ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยในช่วงใกล้สอบคลาคล่ำไปด้วยบรรดานักศึกษาที่แวะเวียนมายืมคีย์การ์ดที่ใช้ในการดาวน์โหลดข้อมูลหนังสือ และเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

    เรื่องราวของวาฬ 52Hz ที่เขาอ่านเจอเมื่อครู่ยังคงติดอยู่ในหัวของเขา

    ในยุคนี้ การแต่งงานกับคู่แต่งงานที่รัฐบาลจัดหาให้เพื่อให้เพื่อเพิ่มประชากรคือกฎหมายบังคับ น้อยคนนักที่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะต่อให้ไม่มีคนรัก อย่างน้อยก็ยังมีคู่แต่งงานของตนอยู่อีกหนึ่งคน

    ทว่าคิมโดยองกลับเป็นหนึ่งในน้อยคนนักที่ว่า

    เขาไม่มีทั้งคนรัก และไม่มีแม้กระทั่งคู่แต่งงาน

    พันธุกรรมของเขาไม่เข้าคู่กับพันธุกรรมของเพศหญิงคนใดเลยตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา

    ถ้าอย่างนั้นมันก็หมายความว่าเขาคือวาฬ 52Hz ในคริสต์ศตวรรษที่41 สินะ...

    เหอะ ๆ โคตรตลกร้าย

    เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างปลงตก ดวงตากลมค่อย ๆ หรี่ปรืออย่างง่วงงุน เขาเหลือบมองเวลาบนสมาร์ทดีไวซ์ตรงข้อมือ และพบว่าตนยังมีเวลาเหลืออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่คลาสเรียนถัดไปจะเริ่มต้นขึ้น

    คิมโดยองตัดสินใจโยนเรื่องวาฬ 52Hz ทั้งของคริสต์ศตวรรษที่21 และ 41 ในหัวของตนทิ้งไป ใช้ปลายนิ้วตั้งเวลาในการปลุกอีกยี่สิบนาทีข้างหน้า และหลับตาลง





    [ 3 ]

    เมื่อถึงเวลาที่ตั้งปลุกเอาไว้ ร่างผอมโปร่งก็ผงกศีรษะขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขายกมือเรียวขึ้นขยี้ตาและลูบใบหน้าเพื่อไล่ความง่วงที่ยังคั่งค้างอยู่ให้หายไป ก่อนที่ในอีกไม่กี่วินาทีถัดมาจะพบว่ามีใครบางคนกำลังนั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ และกำลังจับจ้องใบหน้าของเขาอยู่อย่างถือวิสาสะ

    "สวัสดีคุณคิมโดยอง ผมชื่อจองแจฮยอน เป็นคู่แต่งงานของคุณ"

    ห๊ะ...

    คิมโดยองนั่งนิ่งงันอย่างไร้คำพูด ดวงกลมกระพริบปริบ ๆ

    เมื่อกี้ไอ้หมอนี่มันพูดว่าอะไรนะ คู่แต่งงานใช่หรือเปล่า?

    "เหอะ ๆ"เขากระพริบตาอีกหลายทีก่อนจะส่งเสียงหัวเราะแห้งในลำคอ "เรื่องล้อเล่นอะไรกันเนี่ย ตลกนักเหรอ?"

    "ผมไม่ได้ล้อเล่น และมีใบแจ้งผลคู่แต่งงานที่ทางสถาบันวิจัยแห่งชาติส่งมาให้เป็นหลักฐานด้วย อันที่จริงคุณก็น่าจะได้รับแล้วนะ มันถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"

    คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คิมโดยองรีบเช็คข้อความในสมาร์ทดีไวซ์ของตนเองทันที

    และมันก็มีอยู่จริง ๆ

    ไอ้ใบแจ้งผลคู่แต่งงานพร้อมรอยประทับตรายืนยันจากทางรัฐบาลที่ระบุเอาไว้ว่าจองแจฮยอนคือคู่แต่งงานของเขานั่น

    "นี่...นี่มัน"

    คิมโดยองพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไป

    นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย สาเหตุที่ต้องบังคับให้คู่แต่งงานต้องแต่งงานกันก็เพื่อต้องการเพิ่มอัตรการเกิดของเด็ไม่ใช่หรือไง แล้วผู้ชายกับผู้ชายมันให้กำเนิดบุตรด้วยกันได้ที่ไหน รัฐบาลเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า!

    "นี่มันคือใบแจ้งผลของจริง เห็นไหมว่าผมไม่ได้โกหกคุณ"

    "แต่ฉันเป็นผู้ชาย!"

    "ครับ ผมเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน" อีกฝ่ายเอ่ยก่อนจะไหวไหล่เบา ๆ "แต่ทำไงได้ กฎหมายก็คือกฎหมาย ผมไม่อยากติดคุกน่ะ ยังไงก็ขอฝากตัวในฐานะคู่แต่งงานด้วยนะครับ...พี่โดยอง"

    คิมโดยองมึนงงไปหมดแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้มันกะทันหันเกินไปสำหรับเขา และที่สำคัญเลยคือเขาไม่มีวันแต่งงานกับคนที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนในชีวิตอย่างแน่นอน

    ไม่มีวัน!

    เขาขอสาบานด้วยเกียรติของวาฬ 52Hz ในคริสต์ศตวรรษที่41 เลย!





    [end.]
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Gift N. T. (@giftnt1402)
เหยยย เป็นปฐมบทที่น่าสนใจมาก ถ้ามีโอกาสไปต่อ เราปักหมุดเลยค่ะ เคยอ่านฟิคโซลเมทกับฟิคแนวเบื้องบนจับคู่ให้แล้ว แต่อันนี้เอาคนที่อยู่นอกวงจรพวกนั้นมาคู่กัน ลุ้นมากว่ารัฐบาลมีวัตถุประสงค์อะไรถึงจับคู่คนมีลูกไม่ได้ แล้วประเด็นการจับคู่ให้ vs ความรู้สึกจริงๆ อีก

ตอนอ่านเราแอบคิดว่าแจฮยอนดูเป็นคนกวนๆ นะคะ ฮ่าๆ โดยองก็น่าจะดื้อใช้ได้ นิสัยดูน่าจะตีกันเยอะ แต่ไหนๆ เป็นวาฬที่คลื่นตรงกัน เราก็อยากเห็นเขาค่อยๆ เรียนรู้กันไปจัง มโนในหัวเสร็จสรรพว่าน่าจะเป็นเรื่องที่หม่น แต่ก็คงจะอบอุ่นได้