สภาพอากาศขมุกขมัวของลอนดอนตอนฝนตกนั้นไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่สำหรับคิมโดยอง
เขาเกลียดฝนและเกลียดยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมันพากันตกลงมายามที่เขาไม่มีสิ่งใดใช้กำบัง
ชายหนุ่มร่างผอมโปร่งในห่อไหล่ทั้งสองของตนที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อโค้ทตัวโคร่งเข้าหากัน มันเป็นเสื้อโค้ทที่เขาได้รับมรดกตกทอดมาจากพี่ชายที่ตัวใหญ่กว่า
ฝนที่กำลังตกอยู่ในตอนนี้มาพร้อมกับลมพายุที่หนาวเยือก ขาเรียวยาวก้าวไปตามฟุตปาธอย่างเร็วรี่ ดวงตากลมสอดส่ายหาร้านอาหารหรือไม่ก็คาเฟ่สักแห่งที่มีพอจะมีโต๊ะว่างอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเหลือเกิน
ยามที่ฝนตกหนักแบบนี้ไม่ว่าใครก็ต้องรีบหาที่หลบกันทั้งนั้น
ลมพายุพัดมาอีกระลอก เม็ดฝนห่าใหญ่พากันโถมเข้าใส่ตัวเขาโดยไร้สัญญาณเตือน
รองเท้าผ้าใบชื้นแฉะ เรือนผมเปียกลู่แนบกับใบหน้าเรียว
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจ
ไม่สำคัญอีกต่อไปว่าร้านคาเฟ่ที่อยู่ตรงหน้าเขาจะมีโต๊ะว่างอยู่หรือไม่ ในตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่เครื่องดื่มอุ่น ๆ สักแก้ว ต่อให้ภายในร้านไม่มีโต๊ะนั่ง เขาก็ยินดีที่จะยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์
เพราะในตอนนี้เขาสุดจะทนกับไอ้พายุฝนนี่แล้ว
มือเรียวเอื้อมผลักประตูก่อนจะก้าวเข้าไปหาอากาศที่อุ่นกว่าด้านใน และโชคยังดีที่ในร้านยังพอมีโต๊ะว่างอยู่บ้าง
เขาสั่งคาราเมลมัคคิอาโต้ร้อนกับพนักงานเสิร์ฟแล้วหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ท ใช้ปลายนิ้วเรียวพิมพ์ข้อความคุยกับเพื่อนของตัวเองเกี่ยวกับฝันสยองขวัญที่เจอมาเมื่อคืน ขณะเดียวกันก็รอคอยให้ฝนด้านนอกหยุดตกเสียที
ในวัยเด็กคิมโดยอง
ไม่เคยฝันเลยสักครั้ง เขาไม่เคยพบเจอสิ่งใดยามที่เขาหลับตานอน ไม่เคยรู้ว่าความฝันเป็นแบบไหน หรือมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
พี่ชายของเขาเคยบอกเอาไว้ว่าความฝันนั้นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยามหลับ มันให้ความรู้สึกราวกับตัวเราหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง
มีทั้งโลกที่ดี มีทั้งโลกที่แย่
แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกเหล่านั้นไม่ใช่ความจริง
เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ทว่าก็พยักหน้าอือออแสร้งไปว่าเข้าใจแล้ว เพื่อที่พี่ชายจะได้ไม่ต้องปากเปียกปากแฉะอธิบายซ้ำอีกเป็นรอบที่สี่
เขาไม่เคยฝันเลยสักครั้งจนกระทั่งอายุสิบขวบ
ในคืนนั้น เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นกลัวและระทึกขวัญ เขานั่งบื้อใบ้บนเตียงด้วยความตกใจอยู่ค่อนนาที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาเสียงดังจนพี่ชายที่นอนอยู่ห้องข้าง ๆ ได้ยินและต้องเข้ามาปลอบจนเขาสงบลง
ในคืนนั้นเขาร้องขอให้พี่ชายนอนเป็นเพื่อนเพราะกลัวเกินกว่าจะนอนคนเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็นอนหลับต่อไม่ลงอยู่ดี
ความฝันแรกในชีวิตที่เขาได้พบคือฝันร้าย และหลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็พบเจอแต่ฝันร้ายมาโดยตลอด การสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกกลายเป็นสิ่งที่เขาคุ้นชิน นั่นจึงทำให้เขาสามารถผล็อยหลับได้ทุกเมื่อที่ต้องการ มันคือความสามารถพิเศษ อย่างน้อยก็เป็นความสามารถพิเศษสำหรับเขา
สิ่งที่ติดอยู่บนผนังของร้าน เหนือโต๊ะที่เขากำลังนั่งอยู่นั้นคือชั้นหนังสือเล็ก ๆ ที่มีหนังสือวางอยู่ไม่ถึงสิบเล่ม คิมโดยองสุ่มเลือกหนึ่งในนั้นออกมาเปิดดูอย่างไม่คาดหวังอะไรนัก ฉับพลัน ใบปลิวหน้าตาแปลกประหลาดใบหนึ่งที่ถูกสอดไว้ในหนังสือเล่มนั้นก็ร่วงหล่นลงมา
แรงโน้มถ่วงของโลกฉุดดึงให้มันลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะ และมันก็ฉุดดึงสายตาของคิมโดยองต่ออีกทอดหนึ่ง
__________________________________________________________
คุณรู้หรือไม่ว่าความฝันของคนเรานั้นมีพลังอำนาจลึกลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ หากทำการเก็บเกี่ยวและบำรุงรักษามันไว้ได้อย่างถูกวิธี ความฝันนั้นก็จะมอบโชคให้แก่ผู้ครอบครอง
ฝันที่ดีจะมอบโชคที่ดี ยิ่งความฝันนั้นดีมากเท่าไหร่ อานุภาพของโชคดีที่มันมอบให้ก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น
แล้วถ้าหากเป็นฝันร้ายล่ะ?
ฝันร้ายเองก็มอบโชคให้กับผู้ครอบครองเช่นกัน ทว่าโชคที่มันจะมอบให้นั้นคือโชคร้าย
ฟังดูน่ากลัวใช่ไหม? แต่คุณไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกนะ เพราะถ้าหากคุณเกิดฝันร้ายขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ ขอให้คุณมาที่ร้านค้าของเรา
ร้านค้าฝันของเราจะรับซื้อความฝันของคุณเอาไว้เอง
หมายเหตุหนึ่ง ร้านค้าของเราไม่ได้รับซื้อเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น เรารับซื้อฝันดีด้วยเช่นกัน
หมายเหตุสอง ร้านค้าของเราไม่ได้รับซื้อความฝันเพียงอย่างเดียว แต่เรายังมีฝันดีที่ถูกเก็บและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีจำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผลอีกด้วย
* ทางร้านยินดีรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้า ภายใน 3วันทำการนับตั้งแต่คุณลูกค้าได้รับสินค้า หากเกินวันเวลาดังกล่าว ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับเปลี่ยนหรือคืนสินค้า *
__________________________________________________________
ทุกตัวอักษรที่เขียนอยู่ในนั้นทำให้คิมโดยองนึกขัน ร้านค้าฝันที่รับซื้อฝันอย่างนั้นเหรอ ฟังดูเหนือธรรมชาติเกินไปไหม ไอ้ใบปลิวนี่น่ะของหลอกเด็กชัด ๆ
ถึงจะแอบก่นด่าในใจอย่างนั้น ทว่าดวงตากลมก็ยังคงจับจ้องอยู่ตรงประโยคที่บอกว่าร้านค้าฝันจะรับซื้อฝันร้ายเอาไว้ไม่ละไปไหน
แล้วถ้ามันทำได้จริง ๆ ล่ะ?
ในชีวิตของเขานั้นพบเจอกับความฝันแย่ ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน บ่อยครั้งที่เขาฝันถึงเรื่องราวต่อจากเดิมเมื่อหลายคืนก่อน เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาฝันเกี่ยวกับเรื่องเดิม ๆ ติดกันอยู่เกือบปีจนทำให้รู้สึกขยาดการนอนไปเลย
ฝันเหล่านั้นมันเหมือนจริงมากเสียจนทำให้เขาแอบรู้สึกว่าบางที วิญญาณของเขาอาจจะหลุดออกไปสิงร่างของใครสักคนที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์เหล่านั้นอยู่สักแห่งบนโลกใบนี้จริง ๆ
นาทีถัดมา เขาสะบัดศีรษะและพยายามจะไล่ความคิดเพ้อเจ้อในหัวของตนออกไป
แต่...
ลองไปดูสักครั้งก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
ชายหนุ่มตัดสินใจพับใบปลิวดังกล่าวแล้วเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อโค้ท
ไว้ค่อยลองไปพรุ่งนี้แล้วกัน
กริ๊ง
เสียงกังวาลใสจากกระดิ่งที่แขวนติดอยู่กับมือจับประตูดังขึ้น ยามที่ร่างสูงโปร่งของคิมโดยองผลักประตูร้านค้าแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกกลางกรุงลอนดอนของให้เปิดออก
เสียงดังกล่าวนั้นเรียกความสนใจจากชายหนุ่มอีกคนที่กำลังยืนเช็กจำนวนขวดโหลขนาดต่าง ๆ ที่วางเรียงรายอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์คิดเงินให้หันมามองและเอ่ยทักพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร ลักยิ้มตรงข้างแก้มที่บุ๋มลงเองนั้นก็ยิ่งเพิ่มความน่ามองให้แก่ใบหน้าหล่อเหลาอีกหลายเท่าตัว
"สวัสดีครับคุณลูกค้า ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"
"อ่า..." คิมโดยองมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย มือเรียวยื่นใบปลิวที่เขาแอบหยิบออกมาจากหนังสือของคาเฟ่เมื่อวานไปให้คนตรงหน้า "ที่นี่คือ...ร้านนี้ใช่ไหมครับ"
จองแจฮยอนคือชื่อของชายคนนั้น อีกฝ่ายเป็นผู้จัดการร้านของร้านค้าฝันแห่งนี้ หน้าที่ของเขานั้นคือดูแลความเรียบร้อยของร้าน ไปจนถึงจำหน่ายและรับซื้อความฝันด้วย
คนที่จะกลายมาเป็นพนักงานขายของร้านได้นั้นจะต้องมีความสามารถในการรับรู้ความฝันของผู้อื่น ซึ่งความสามารถนี้นั้นสืบทอดผ่านสายเลือด เขาศึกษาศาสตร์แห่งการเก็บเกี่ยวและเลี้ยงดูความฝันตั้งแต่เด็ก ก่อนจะกลายมาเป็นผู้จัดการร้านค้าแห่งนี้ที่เป็นสาขาย่อยของกิจการครอบครัว
ความสามารถดังกล่าวนั้นทำให้เขาไม่เคยฝันเลยสักครั้ง
เขาไม่มีวันฝัน ไม่มีวันได้เข้าไปโลดแล่นในโลกแห่งนั้น
มันคือกฎ
จองแจฮยอนสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของไอความฝันสีดำสนิทที่ลอยฟุ้งอยู่รอบกายของชายร่างผอมโปร่งตรงหน้า และความรู้สึกที่เขารับรู้ได้นั้นก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนัก
ความฝันแต่ละเรื่องจะทิ้งร่องรอยบางอย่างให้ตกค้างอยู่ในใจของผู้ที่ฝันถึงมันเสมอ โดยส่วนใหญ่แล้วร่องรอยเหล่านั้นมักจะเป็นความรู้สึกที่สามารถเข้าใจได้ง่าย เช่นสุขเพราะสมหวังในปราถนาบางอย่าง หรือโศกเสียใจเพราะพบเจอในสิ่งที่ไม่ต้องการ นาน ๆ สักครั้งจึงจะมีฝันที่ให้ความรู้สึกลึกซึ้งและซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ
เขาเป็นผู้จัดการร้านของร้านค้าฝันแห่งนี้มานานหลายปี เห็นความฝันของลูกค้ามานักต่อนัก ทว่าฝันที่มอบความรู้สึกสิ้นหวังและน่าสะพรึงกลัวจนชวนให้ขนลุกอย่างฝันที่กำลังประสบพบเจออยู่ในตอนนี้นั้น เขากลับไม่ค่อยได้เจอมันบ่อยสักเท่าไหร่
มันคือความแปลกใจที่แฝงเร้นไปด้วยความยินดี
อย่างไรแล้วการได้เจอกับคนที่เต็มไปด้วยฝันร้ายนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา เพราะนั่นหมายความว่าเขาจะมีฝันร้ายที่มีคุณภาพให้เก็บเกี่ยวได้อย่างเหลือเฟือ
ชายหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อย
ดูท่าเขากับคุณลูกค้าที่อยู่ตรงหน้านี้ คงจะได้ทำการค้าขายด้วยกันไปอีกนานเลยทีเดียว
[end.]
สำหรับคาแรคเตอร์ก็ชอบมากเลย ชอบความเคลือบแคลงแต่ก็จะลองดูของโดยอง น่าจะเป็นกระต่ายที่ทั้งฉลาดและดื้ออยู่ แจฮยอนก็ดูมีเสน่ห์แบบลึกลับ น่าจะมาแนวยิ้มแย้มแต่ข้างในมีอะไรเยอะ แล้วพอนึกถึง i like me better ของแจฮยอนไปด้วยก็ยิ่งอินกับเซ็ทติ้งลอนดอน (แม้ในฟิคจะอากาศไม่แจ่มใสก็ตาม ฮ่าๆ) ถ้าได้เห็นโดยองกับแจฮยอนไปผจญภัยในเมืองก็น่าจะดี เป็นอีกเรื่องที่สนใจมากๆๆ เลยค่ะ