บุคคลผู้ประกาศตนว่าไม่ชอบดูซีรีส์ ...
เพราะอะไรน่ะเหรอ ??
-1-
ถ้าตามติดแบบตอนต่อตอน ก็ต้องกัดฟันรอตอนหน้าที่กว่าจะมาก็ดูนานราวกับอีก 2 ปี เท่านั้นไม่พอ ฉากจบทิ้งท้ายเจ้ากรรมก็ชวนติดตามจนอยากจะทุบจอพร้อมตะโกนก่นด่าว่า ทำไมต้องตัดจบแบบเน้!!!
-2-
ถ้าต้องรอให้ซีรีส์จบค่อยดูแบบฉายม้วนเดียวยาวๆ ก็คงได้แปลงร่างเป็นอมนุษย์ที่มีความสามารถถ่างตาดูซีรีส์แบบ 2 วัน 2 คืนติด หรือถ้าใครคิดมาขัดจังหวะตอนดูคงมีแอบบ่นสาปในใจ ฮ่าๆ (เรื่องเรียนทุ่มเทขนาดนี้มั้ย ถามใจดู)
เราได้หลีกเลี่ยงการดูซีรีส์ที่ชาวโซเชียลถาโถมโหมกระหน่ำกระแสรัวๆ เรารู้ลิมิตตัวเองว่าถ้าเราก้าวเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว เราต้องถอนตัวไม่ขึ้นแน่ๆ เพราะเป็นคนที่ชอบเปย์หนักมาก ถ้าได้เสพติดเรื่องไหนสักเรื่องแล้ว จะซื้อทุกอย่างที่เป็นของลิขสิทธิ์เรื่องนั้นๆ
นั่นแหละค่ะ ถ้าชีวิตจะล้มละลายก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรเลย
และแล้วก็หนีไม่พ้น
ปกติไม่ชอบซีรีส์ที่ดราม่าหนักๆ เพราะชีวิตจริงก็ดราม่ามากพออยู่แล้วค่ะ ยอมรับว่าเรื่องนี้ชีวิตนางเอกก้ดราม่ามากเหมือนกัน จะอาภัพอะไรเบอร์นั้นอะเธอออ
เสน่ห์ของเรื่องนี้คือไม่ว่าชีวิตนางเอกจะโดนกลั่นแกล้งสารพัด ไหนจะเรื่องที่เธอต้องทวงความยุติธรรมคืนให้กับคุณย่าของเธอ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองแบบสุดๆ มีสติในการพร้อมรับปัญหาต่างๆเสมอ มีพระเอกที่คอยเข้าใจและคอยสนับสนุน(อบอุ่นหัวใจเหลือเกินเจ้าค่ะ)
การที่เราจะชอบเรื่องๆหนึ่งมากๆจนขึ้นหิ้งซีรีส์โปรด บางทีอาจเพราะมีอะไรคล้ายกับชีวิตจริงของเรา
อาจจะเป็นเรื่องราวชีวิตตัวละครหรืออาจจะเป็นลักษณะนิสัยของตัวละคร
มีผู้ชายคนหนึ่งในชีวิตจริงของเราที่นิสัยคล้ายกับพระเอกในซีรีส์
เป็นผู้ชายที่เข้าใจเราเสมอ
เป็นผู้ชายที่คอยเตือนเราเวลาที่เราทำอะไรที่จะส่งผลด้านลบกับตัวเอง
เป็นผู้ชายที่คอยให้กำลังใจเราเสมอ
เป็นผู้ชายที่พร้อมจะอ้าแขนโอบกอดเรา ในวันที่เรารู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีใครต้องการ
พระเอกในชีวิตจริงของเรา พระเอกที่ไม่ใช่แค่ในซีรีส์ มีอยู่จริงๆนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in