Day 6 : Fool (Please come back) | #novelber
Author : Sean
Pairing : Mark Darcy x Daniel Cleaver
Rating : No Rate
( #Nowlistening : Stay - Hurt )
วันนี้ควรเป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิตวันหนึ่ง..เพราะผมเคยหวังไว้แบบนั้น
แต่พอวันนั้นมันมาถึงจริงๆ มันเป็นกลับเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเอาเสียเลย
ผมยืนอยู่หน้าประตูโบสถ์เป็นครั้งที่สองในรอบปี มันเกือบจะเหมือนครั้งก่อนๆที่ทำเพียงแค่เดินผ่านประตูเข้าไป
ต่างกันที่ครั้งนี้..ผมไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาเข้าไป
มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเพื่อนฝูง บรรดาแฟนเก่าและครอบครัวของเขา แต่ที่แปลกคือมันทำให้ศัตรูของเขา อย่างผมนั้นรู้สึกเหมือนใจแทบสลาย
“มาร์ค..เราเข้าไปกันเถอะ”
“อืม..”
ผมบิดกลอนประตูไม้บานใหญ่ให้กับคามิลลา ผู้หญิงที่ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาของผมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
พยายามอย่างมากที่จะไม่มองไปยังรูปหน้าโลงศพนั่น
ดังนั้น..
วันนี้ผมจะยกหน้าที่ผู้นำทางให้กับเธอเพื่อเลือกที่นั่ง
ผมพยายามบังคับสายตาให้จ้องมองเพียงแต่แผ่นหลังเล็กๆของผู้หญิงตรงหน้าเท่านั้น
พยายามไม่ปล่อยตัวเองให้คิดอะไรไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นระหว่างผมและเขา
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…
และไม่น่าปล่อยคนอย่างเจ้านั่นเข้ามาทำชีวิตที่ดีอยู่แล้วให้ต้องมายุ่งเหยิงไปกว่าเดิม
(ไม่อยากจะขอบคุณหรอกนะ แต่รอยยิ้มนายมันทำให้ฉัน..)
“สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน ไม่นานมันก็กลายเป็นเรื่องของเมื่อวาน..” บาทหลวงที่ทำพิธีกล่าวขึ้นหลังจากประตูโบสถ์ปิดลง “..หลงเหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำให้ระลึกถึงเท่านั้น”
“มาร์ค..คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” คามิลลาแตะแขนผมเบาๆ ความอุ่นจากมือเล็กและสายตาคู่นั้นแสดงถึงความเป็นห่วง
“เปล่า..ผมสบายดี” ผมพยายามจะปั้นหน้ายิ้มให้กับเธอ และเหมือนว่าเธอจะดูออก
คามิลลาไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น ฝ่ามือเล็กยื่นมาบีบมือที่ชื้นเหงื่อของผมเบาๆ
“เพื่อเป็นการให้เกียรติกับผู้วายชนม์ พ่อขอเชิญให้เพื่อนสนิทของคุณแดเนียล วิเวียน คลีฟเวอร์ขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์แก่เขาเป็นครั้งสุดท้าย..”
ใจผมสั่นระรัวแทบจะไม่เป็นจังหวะ แต่ไม่นานก็มีสาวสวย ตัวสูง ผมสีบลอนด์ทองลุกขึ้นและเดินไปยังแท่นพิธี
“แดเนียลเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งที่ฉันเคยพบ..” เธอเริ่มกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มๆแต่น้ำเสียงกลับเศร้าสร้อย “เขาเคยมอบบทกลอนหนึ่งให้กับฉัน ตอนที่เราอยู่ริมทะเลสาบด้วยกัน..” แล้วเธอก็กล่าวบทกลอนรักที่ว่านั่นออกมา
ผู้หญิงหน้าสวย หุ่นนางแบบหลายคนหันมองหน้ากันด้วยความงงงวย
“หึ..” ผมหลุดพ่นลมหายใจตัวเองออกมาอย่างลืมตัว
ไม่แปลกใจ..หมอนั่นมันยิ่งกว่าแมงดาเสียอีก
ผมได้แต่นั่งกุมมือตัวเองอยู่ที่หน้าตักของตัวเอง บังคับไม่ให้ฟังเสียงรอบข้าง ไม่ให้สนใจผู้คนรอบตัว ปล่อยให้สมองว่างเปล่า มีเพียงหูที่อื้ออึงกับดวงตาที่ร้อนผ่าว - - จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้นะ แต่ผมเพียงแค่ไม่อยากรับรู้อะไรในตอนนี้
..ก็เท่านั้น
“มีใครอยากจะกล่าวอะไรอีกเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า” บาทหลวงที่ตอนนี้กลับมายืนบนแท่นพิธีอีกครั้ง ท่านถามด้วยท่าทีที่สงบ หลังจากแฟนเก่าสาวผมบลอนด์ของแดเนียลได้เดินลงไปจากแท่นพิธี
ทั้งโบสถ์ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“งั้นพ่อขอ..” ไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆบาทหลวงก็เงียบไปพร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคน
“อ่า- ยังเหลืออีกคนหนึ่ง..” บาทหลวงมองลอดแว่นตารูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว “เดินมาทางนี้เลยลูกชาย..ไม่ต้องอาย”
“เอาล่ะ พูดทุกอย่างที่เธออยากพูดกับเขาเป็นครั้งสุดท้ายนะ” ชายชราในชุดสีขาวลากยาวจนเกือบจะจรดพื้นกล่าวกระซิบที่ข้างหูของชายร่างสูงซึ่งยืนอยู่ข้างๆท่าน
“ผม..มาร์ค ดาร์ซี่” ผมแนะนำตัว มองไปข้างหน้าและพยายามที่จะไม่สบสายตากับใครทั้งนั้น เพียงแค่กวาดตามองไปรอบๆ “ผมเคยเป็นเพื่อนสนิทของคลีฟเวอร์” และตอนนี้เราก็เป็นศัตรูกัน
“ผมกับคลีฟเวอร์เคยเรียนที่เคมบริดจ์ด้วยกัน– ผมจะไม่พูดถึงอุปนิสัยของเขาหรอกนะ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนคงรู้หมดแล้ว” ผมหันไปมองโลงไม้สักที่อยู่ด้านหลังของผม
“ผมไม่รู้ว่าเขาจะกล่าวถึงผมกับพวกคุณด้วยคำพูดแบบไหน ผมไม่เคยรู้และไม่เคยสนใจคำพูดพวกนั้น” ผมเว้นจังหวะ “แต่ผมไม่เคยเลย..ไม่เคยที่จะกล่าวร้ายเขา”
“ลึกๆแล้วเขาเป็นคนดีนะ เป็นเพื่อนคนแรกและเป็นเพื่อนที่ดีของผม..”
“..ถึงแม้ว่าปัญหานั่นมันจะไม่ใช่ปัญหาของเขา เขาจะอยู่ข้างๆผมเสมอ– ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง”
“ผมอยากจะขอบคุณเขาอีกสักครั้ง แต่ผมรู้ว่ามันคงสายเกินไป”
“แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำเรื่องแย่ๆหรอกนะ..นั่นก็เยอะมากจนแทบจะนับไม่ไหวเลยล่ะ” ผมหัวเราะงและก้มลงมองมือของตัวเอง “แต่ก็นั่นแหละ เรื่องทุกเรื่องมันก็มีคำว่าที่สุดเหมือนกันหมด– เช่นเดียวกับคำว่าขีดจำกัด”
“..ผมและเขามาถึงจุดหนึ่งที่แตกหัก..” ผมเงยหน้าขึ้นและพยายามกรอกตาไปมาเพื่อไล่น้ำตาที่ไหลมาคลอ “ผมเป็นแค่ไอ้โง่ที่ทำตามใจตัวเองจนเผลอพูดคำที่แย่ที่สุดในชีวิตกับเขา”
“นั่นทำให้เขาจากไป..” “และไม่ว่าเราจะบังเอิญเจอกัน หรือผมจะตั้งใจเจอเขาที่ไหน เขาจะทำเหมือนผมเป็นเพียงแค่คนเดินสวนทางกันเท่านั้น”
“แต่ไม่เป็นไรแล้ว- ผมได้ยืนอยู่ใกล้ๆกับเขาอีกครั้ง..ในตอนนี้”
“ขอบคุณครับ”
แทนที่ผมจะเดินกลับที่นั่งของตัวเอง แต่ผมกลับเดินมาที่โลงไม้สักสีน้ำตาลอ่อน ผมรู้ว่านี่เป็นโลงเปล่าและไม่มีเขาอยู่ในนั้น ผมวางมือลงบนโลงไม้นั่นเบาๆ ฝาโลงมันเย็นจนมือที่ชาของผมรู้สึกได้
ข้างในคงจะเย็นกว่านี้...
“ตอนที่ฉันรู้..เขาบอกว่านายหายไป แต่นั่นก็ใช่ว่านายไม่กลับมา ตราบใดที่เขายังไม่พบนาย...”
“ฉันยังรอนายอยู่นะ..”
“คลีฟเวอร์ ฉันขอโทษ..ในสิ่งที่ฉันเคยพูดไป...”
“ฉันยอมแพ้นายแล้ว...กลับมานะ..กลับมาให้ฉันได้ขอโทษนายสักครั้ง”
..
ฉันรู้ที่ผ่านมานายโกหกฉันเพื่อให้ฉันสบายใจ ทั้งๆที่นายไม่มีความสุขเลย
ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ไอ้โง่ที่ขอให้นายทำทุกอย่าง แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อนายเลย
ฉันรู้ว่านายเสียใจแค่ไหนกับคำพูดที่ฉันพูดออกไป ฉันเองก็เสียใจเหมือนกัน
ฉันขอโทษที่ไม่เคยมองเห็นนายเลย จนวันนี้..
ฉันสารภาพว่าฉันโกหก.. โกหกที่บอกว่าฉันเกลียดนาย
..กลับมานะคลีฟเวอร์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in