เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Everything Sweden : ตัวอยู่ไกล ใจอยู่สวีเดนMaya Jett
Let's have a Fika! - ฟิก้า วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนสวีเดน
  •     ใครมีเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นคนสวีเดน หรืออาจเคยไปเที่ยวน่าจะเคยได้ยินคำว่า “ฟิก้า” มาจากปากชาวสวีกันบ้าง เพราะฟิก้าเป็นอะไรที่ชาวสวีเดนภูมิใจนำเสนอและจะคอยแนะนำให้เพื่อนที่มาจากต่างถิ่นรู้จักทุกครั้ง แรกๆ ก่อนเราจะไปสวีเดน เราก็ได้ยินมาบ้างจากในหนังสือนำเที่ยว ในหนังสือสอนภาษา และในยูทูบ นู่นนี่นั่น แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนกระทั่งมาเจอเพื่อนใหม่ๆ จากสวีเดนก็รู้แล้วว่าพวกนางภูมิใจนำเสนอมากกกก


    ว่าแต่ ฟิก้าคืออะไรอ่ะ?





        ฟิก้า หรือ Fika แปลว่า “เวลาดื่มกาแฟ” ของชาวสวีเดน โดยเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมานานมากกกก เคยอ่านเจอ (ที่ไหนจำไม่ได้ละ) ว่าคำว่า Fika เนี่ยมาจากโค้ดลับของชาวไว้กิ้งที่สลับที่มาจากคำว่า Kaffi หรือ Coffee ที่แปลว่ากาแฟนั่นเอง แต่สลับทำไมแล้วฟิก้าเริ่มมาจากไหนหรืออะไรยังไงก็ลองไปหาวิกิเอาเอง 5555 สรุปนี่จะให้ข้อมูลหรือมาเล่าเรื่องนะ ชักงงๆ 


        อ่ะ แต่ยังไงก็จะมาบอกเล่าให้รู้จักฟิก้าคร่าวๆ ว่าฟิก้าเป็นช่วงเวลาพักเบรคดื่มกาแฟ ที่อาจจะเป็นชา น้ำมะนาว หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่สมัยใหม่นำมาประยุกต์ และมักมีขนมกินเป็นเครื่องเคียง ขนมที่ฮิตสุดๆ และขึ้นชื่อของสวีเดนน่าจะเป็น Cinnamon Buns, Cinnamon Rolls ที่มีกลิ่นหอมซินนามอนมาก หรือถ้าไม่ชอบก็อาจจะเลือกเป็นช็อคบอล เค้ก คุกกี้ หรือขนมอื่นๆ ก็ได้  


    Cinnamon Buns / Photo : http://ropcorn.com


        ฟิก้าของชาวสวีเดนนั้นไม่ได้เป็นแค่เวลาดื่มกาแฟธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ฟิก้าถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้พบปะ สังสรรค์เพื่อนๆ ญาติพี่น้อง หรือแม้กระทั่งคนที่ทำงาน ทุกๆ ที่ทำงานของชาวสวีเดนนั้นก็จะมีช่วงเวลาให้พักเบรค Have a fika กันเป็นธรรมเนียม เออ แล้วอีกเรื่องนึงก็คือฟิก้าไม่ได้มีแค่ในสวีเดนเท่านั้น แต่ที่ประเทศฟินแลนด์ก็มีกับเค้าเหมือนกันนะ

        ทุกครั้งที่นัดกับเพื่อนชาวสวีเดนออกไปเที่ยวหรือไปไหนก็ตาม ทุกคนจะต้องพูดประมาณว่า “ไปฟิก้ากันมั้ย” ทุกครั้ง และทุกวัน ฟิก้าอาจไม่ได้มีเวลาตายตัวสำหรับใครสักคน แต่มีได้ทุกวัน ทุกหลายๆ ชั่วโมง แล้วแต่จะถนัดกันไป (อันนี้เล่าจากประสบการณ์ที่เจอ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็สามารถบอกได้นะ เพราะไม่ได้อยู่ที่สวีเดนจริงๆ) 

        เราเองไม่ได้เป็นคอกาแฟจ๋าถึงขนาดจะบอกได้ว่ากาแฟร้านไหนของสวีเดนที่ดีที่สุด ตัวเราเองชอบกาแฟ ชอบโกโก้ เลยไม่ได้โฟกัสกับอะไรเป็นพิเศษ แต่รู้อย่างนึงว่าที่สวีเดนมีสตาร์บัคส์น้อยมากกกก

    ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่ามีร้านกาแฟเฟรนไชส์ที่มีชื่อว่า ESPRESSO HOUSE อยู่ครองเมืองทุกเมืองในสวีเดน และในสตอกโฮล์มก็มีอยู่แทบจะทุกๆ หัวมุมถนน (พอๆ กับร้านอาหารไทย)


    ESPRESSO HOUSE / Photo : Wikipedia

        ESPRESSO HOUSE เป็นร้านกาแฟสัญชาติสวีเดนที่น่าจะเปิดมาเป็นใหญ่ครองเมืองจนไม่ค่อยให้โอกาส Starbucks ซุปตาร์ดังของโลกสักเท่าไหร่ เราเองไปสตอกโฮล์มมาสองสามครั้งก็เห็นสตาร์บัคส์แค่สองสามที่ ไม่ได้สังเกตอะไรมาก แต่จากการที่เคยแวะ ESPRESSO HOUSE มาไม่น้อย ก็รู้สึกว่าร้านเค้าเป็นสถานที่ยอดฮิตที่นึงของวัยรุ่นในเมืองเลยก็ว่าได้ ยิ่งช่วงปีที่ผ่านมามี Pokemon Go ดังพลุแตก เด็กตัวเล็กตัวน้อยรวมทั้งวัยรุ่นก็ชอบเข้ามาจับจองที่นั่ง รอโปเกม่อนดีๆ รอหมุนเสารัวๆ เพราะที่ฮิตๆ มักมีคนปล่อยดอกซากุระมาเยอะ... แต่เราเลิกเล่นไปนานละ เสียดาย 

        ESPRESSO HOUSE มักทำเป็นร้านขนาดใหญ่พอๆ กับสตาร์บัคส์บ้านเรา หรือบางร้านอาจใหญ่กว่า มีที่นั่งเยอะมาก มีขนมและอาหารให้เลือกเยอะมากกว่าสตาร์บัคส์ และเป็นทั้งของคาวและของหวาน ใครไม่มีที่ไปก็สามารถมาทำงานเอาเน็ตฟรี (จากการซื้อกาแฟ) นั่งแช่เป็นวันๆ หรือจะนัดใครมาเจอที่นี่ก็ได้ ง่ายดี ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะมาก ของโปรดเราคือโกโก้ร้อนที่ไว้สั่งเวลาอากาศข้างนอกหนาวๆ แต่ความพีคคือมีครั้งนึงสั่งมอคค่าเย็น ไม่รู้ผีอะไรเข้าถึงสั่งเย็น แต่พอได้เครื่องดื่มมาแล้วปรากฏว่าไม่มีที่นั่ง เลยต้องออกไปเดินเล่นรอบๆ Old town กับเพื่อนในอุณหภูมิประมาณ 2 องศา... สุดท้ายก็สั่นงกๆ จนต้องเดินเข้านิทรรศการแอนน์ แฟรนค์แถวนั้นเพื่อหาความอุ่น 5555 


    โกโก้ร้อนที่ ESPRESSO HOUSE สาขา Slussen, Stockholm


        อีกเรื่องนึงที่ประทับใจกับช่วงเวลาฟิก้าของที่นี่ก็คือ “เครื่องดื่มทุกชนิดไม่เน้นหวาน” เราคนไทยมาจากเมืองไทย เมืองร้อน ที่วันๆ อุณหภูมิอาจสูงถึง 36 ได้แม้กระทั่งปลายๆ ปี เราเลยต้องพึ่งของหวานเพื่อความสดชื่น คนไทยอาจติดกินหวานมาก แต่ตัวเราเองพยายามเลี่ยง ซึ่งทำไม่ค่อยได้ แต่พอมาที่สวีเดนเครื่องดื่มชงต่างๆ ทั้งชา กาแฟ โกโก้ และอื่นๆ เค้าทำไม่หวานเลย และรสชาติไม่จืดจนไม่อร่อย แต่มันเป็นความพอดีที่ลงตัวมากๆ (แต่อย่าหาว่าคนสวีเดนไม่กินหวานนะ ชนชาตินี้ติดขนมหวานกันเป็นว่าเล่นเลยล่ะ) ใครที่ติดหวานอาจจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ก็บอกพนักงานได้ 


        ก่อนจะจากกันไปขอเล่าอีกเรื่องให้ฟังจากความประทับใจส่วนตัว คือที่สตอกโฮล์มจะมีย่านเมืองเก่า ที่เรียกว่า Gamla Stan (ที่จะเล่าให้ฟังแบบละเอียดในตอนหน้า) ที่นี่เป็นเมืองเก่าจริงๆ แบบมีตึกเก่าที่มีเอกลักษณ์ มีความคลาสสิกและสดใสอยู่ในตัว เราหลงรักที่นี่มากตั้งแต่ครั้งแรกที่มา และมากี่วันๆ ก็ไม่เคยเบื่อเพราะมีคาเฟ่น่ารักๆ ให้ฟิก้าได้ทั้งวัน เสน่ห์ของคาเฟ่ต่างๆ คือมีความอบอุ่นในตัว แบบที่เปิดประตูร้านเข้าไปแล้วคนแน่นๆ นั่งเบียดๆ แต่บรรยากาศดีเว่อร์ ที่สำคัญคือบางร้านมีชั้นใต้ดิน ที่ลงไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในหนังยุค Medieval อะไรประมาณนี้เลย แบบเทียนสลัวๆ เสียงจานชามช้อนส้อมกระทบกัน เสียงคนคุยกัน แถมขนมก็อร่อยมากกกกกกก ดีใจที่เคยได้มีเวลาฟิก้าดีๆ กับคนดีๆ และที่ดีๆ ที่นี่

    บรรยากาศในร้านนึงในย่านเมืองเก่า
    (คือของจริงสวย แต่ถ่ายมากาก 555)

    อีกมุมนึง (จริงๆ ร้านคนเยอะมาก แต่ถ่ายมาตอนจังหวะคนออก)

    นี่ไงฟิก้า.. ประกอบไปด้วย: แพนเค้กสวีเดนที่เสิร์ฟพร้อมวิปครีมข้นอร่อยมาก ไม่หวาน มีแยมให้, เค้กอะไรจำไม่ได้, ในถ้วยใหญ่ๆ คือโกโก้ร้อน อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก ใส่วิปครีมมาด้วย อร่อยแบบ เหี้ยยยอร่อยสัส แต่ขนาดก็ใหญ่มากแบบคนไทยกินไม่หมด 

        กลับมาไทยก็รู้สึกว่า อ่าว เรารู้จักฟิก้าแล้ว แต่ไหงไม่รู้ว่ากาแฟอะไรของสวีเดนที่เด็ดๆ หรือชาเจ๋งๆ ครั้งหน้าไปจะศึกษามาใหม่และซื้อมาฟิก้าเองที่เมืองไทยดูบ้าง ส่วนตอนนี้ขอไปเผยแพร่วัฒนธรรมฟิก้าที่ทำงานก่อนดีกว่า ไม่รู้จะมีคนอินด้วยมั้ยนะ 5555


    ใครสนใจเรื่องเล่าอื่นๆ จากประเทศสวีเดน เชิญติดตามได้ที่ Everything Sweden เลยจ้า

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
good good