เมื่อพูดถึงความรัก สิ่งที่เรานึกถึงคือ "แมวตัวนึง" ที่ทำให้เรารู้ว่าการได้รับความรักมันเป็นยังไง? ภาพนี้คือภาพสุดท้ายที่เราได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ภาพนี้จึงเป็นภาพที่สำคัญกับเรา วันทีี่เขามานอนกับเรา คุยกับเรา ก่อนที่ไม่กี่วันต่อมา เขาจะจากไปแบบไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ... และนี่คือบันทึกถึงแมวที่จากไป...
15 ธันวาคม 2016 เวลาสี่ทุ่มกว่าๆ กับการจากไปของ "โลตัส" แมวที่เราเลี้ยงไว้มา 12 ปี และกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 13 ในไม่ช้านี้ แต่ก็มาจากกันไปในที่ที่ไกลแสนไกลซะก่อน
ปี 2004 ย้อนไป 12 ปีที่แล้ว แมวที่ที่บ้านเราเลี้ยงไว้คลอดลูกออกมา 2 ตัว.. ตัวนึงลายเสือสีเทา หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเอามากๆ แถมยังขี้อ้อนสุดๆ กับอีกตัวนึงเป็นลูกแมวผอมแห้ง สีดำทะมึน หน้าตาดูขี้โรค ถ้าถามว่าโลตัสคือตัวไหน ก็คงต้องบอกว่า โลตัส คือเจ้าแมวผอมแห้ง สีดำ ขี้โรค ที่ตอนเกิดมาแค่ไม่กี่เดือนก็วิ่งไปท้องเสียอึไหลไปตามทางที่วิ่งเล่น เราก็วิ่งตามเช็ดให้ตลอด จริงๆตอนนั้นก็คิดกลัวนะว่า มันจะต้องอายุสั้นแน่ๆเลย ขี้โรคตั้งแต่เด็กแบบนี้ แถมยังไม่มีใครเล่นกับมัน ไม่มีใครสนใจมันเลย เพราะมันไม่ได้น่ารัก แถมยังตัวเลอะอึตลอดเวลา เราก็เลยเล่นกับมันแค่คนเดียว กอดมัน ลูบหัวมัน คุยกับมัน ไปๆมาๆจากที่คิดว่าโลตัสคงจะอายุสั้น แต่กลายเป็นว่าเจ้า โรตี แมวลายเสือดันจากไปซะก่อนตั้งแต่เกิดมาแค่ไม่กี่เดือน เพราะดันซนวิ่งไปข้างนอกจนโดนหมาหวดมา จนสุดท้ายที่บ้านก็เหลือโลตัสที่เป็นแมวเหลืออยู่แค่ตัวเดียว
ในเวลาไม่กี่ปี จากแมวผอมแห้ง ขนกรัง ตัวเปรอะ ก็กลายเป็นแมวสีดำขนสลวย อ้วนพุงพลุ้ย ตัวใหญ่เบอเริ่ม เพราะพาไปทำหมันมาเรียบร้อย ตัสเป็นแมวที่ไม่ดุเลย แม้จะชอบแอบหนีไปเที่ยวข้างนอกบ้าง แต่ก็ฉลาดที่จะกลับบ้านถูก ไหนจะความฉลาดที่ต้องมองซ้ายขวาก่อนข้ามถนน ชอบเดินไปกินหญ้า กินสมุนไพรรักษาตัวเอง ชอบกินปลาทูต้มกับตะไคร้เยอะๆ แล้วก็ราดน้ำตะไคร้แฉะๆลงไปที่ข้าว ฉลาดที่จะเข้าไปฉี่และอึในห้องน้ำ พอมีหมาหลงทางมาที่บ้านเรา เราก็เลยเลี้ยงไว้ ตัสก็เป็นเพื่อนที่ดีของหมาเรา พอหมาเราคลอดลูกแล้วก็ตายจากไป โลตัสก็กลายเป็นแม่ของเจ้าสองลูกหมาแทน ยอมให้เจ้าลูกหมาทั้งสองมาดูดนมตัวเอง ทั้งๆที่ไม่มีน้ำนมแท้ๆ คอยดูแล ปกป้อง เจ้าหมาทั้งสองตัวตลอดเวลา
เวลาผ่านไป โลตัสก็มีโรคประจำตัว เป็นโรคไต ฉี่ไม่ค่อยออก ต้องกินยาเรื้อรังมานานหลายปี เราพยายามทำใจตั้งแต่ตอนนั้น แต่ผ่านมาหลายปีโลตัสก็ยังอยู่กับเราเสมอ โลตัสเป็นแมวขี้อ้อน อ้อนเรามากๆ ชอบวิ่งตามเราไปทุกที่ เวลากลางคืนจะชอบวิ่งมาขวางไม่ให้เราเข้าห้อง ชอบนอนหงายท้องให้เราเล่นด้วย เวลาทำเป็นไม่สนใจก็จะเอื้อมมือเอาเล็บมาเกี่ยวกางเกงเราไว้ ตอนเด็กๆตัวเล็กๆก็ชอบมานอนบนตัวเรา แต่พอตัสตัวโตขึ้นกลับไม่ชอบให้อุ้ม แต่ชอบให้ลูบหัว ลูบหาง แล้วก็นั่งคุยด้วย ตัสทำเสียงได้หลายเสียง เวลาปวดท้องจะทำเสียงทุ้มๆ เวลาเรียกเราจะทำเสียงแหลม แล้วก็เสียงดังโวยวายถ้าเราไม่สนใจ เวลาคุยกับตัส ตัสจะขานรับตลอดเลย ตัสจะคุยด้วยเสมอๆ ตัสจะมีความสุขมากๆที่ได้เข้ามานอนกับเราในห้องนอน ได้อ้อน ได้ซุก ได้นวดให้เรา ตอนเช้าก็จะวิ่งมาปลุกเราที่ห้องนอน โวยวายให้ตื่น แต่ถ้าเราไม่ตื่นก็จะมานอนด้วยแทนซะเลย ตัสจะพูดรู้เรื่องทุกอย่าง แต่บางทีก็ดื้อ มีความสามารถในการเปิดฝาชีขโมยปลาไปกินบ่อยๆ ไหนจะคาบลงมาเผื่อหมาอีก เราใช้ชีวิตแบบนี้กับแมวเราในทุกๆวัน จนถึงวันนี้...
เราไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนเช้าเรายังนอนเล่นกันอยู่เป็นปกติเลย แม่เราทักมาช่วงหัวค่ำว่า ตัสน่าจะไม่ไหวแล้วนะ รีบกลับมาดูมันหน่อย กว่าเราจะถึงบ้านก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เราเดินเข้ามาในห้อง เราเห็นตัสนอนอยู่ในกล่อง นอนนิ่งๆ ไม่ขยับแม้กระทั่งหาง รวมทั้งหมาเราที่นอนน้ำตาไหลอยู่ไม่ไกลจากกล่องนั้นเลย เราน้ำตาไหลพราก นั่งลงลูบหัวโลตัส เราสัมผัสได้ถึงร่างกายที่ไร้ชีวิต ตัวเริ่มแข็ง เรารู้นะว่าวันนึงวันนี้มันจะต้องมาถึง แต่นี่มันไม่มีสัญญาณอะไรเลย ไม่มีอาการป่วย หรือเบื่ออาหารให้เป็นห่วงเลยซักนิด แม่เราบอกว่า มันพยายามรอเราแล้ว มันชักมาสามรอบแล้ว แต่ก็ไม่ไปซักที จนตอนนี้ก็น่าจะไปแล้ว แต่เราสังเกตเห็นนะว่ามันยังหายใจอยู่ เราลูบหัว เราลูบตัว เราร้องไห้ เราพยายามบอกให้ตัสตายไปอย่างสงบ เราไม่รั้งตัสไว้ เรารู้ว่าตัสทรมานมานานพอแล้ว เราอยากให้เค้าไปแบบสบายๆ แต่เค้ากลับขยับหู รับรู้ว่าเราพูด เค้าขยับแขน รับรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ เค้าพยายามหายใจอย่างแรงเป็นเฮือกสุดท้าย เพื่อบอกให้รู้ว่าเค้ารู้เรื่องนะ เราตกใจที่ตัสยังไม่ไป เราก็ได้แต่บอกให้ตัสจากไปได้แล้ว ไปอยู่ในที่ดีๆ ที่ที่ไม่ทรมาน เราละออกมาจากตัส ลุกเดินออกมาข้างนอก แล้วเราก็ได้ยินเสียงแมวร้องเสียงดังมากๆ พ่อกับแม่เราก็บอกว่า ตัสชักอีกแล้ว เราได้ยินเสียงตัสร้องครวญคราง เราทรมาน เราทนไม่ไหว เราไม่กล้าเข้าไปดู แค่ได้ยินเสียงก็ใจจะขาดแล้ว เราร้องไห้โฮอยู่หน้าประตูห้อง เราทำใจเข้าไปเห็นตัสทรมานไม่ได้จริงๆ จนตัสสงบลง แม่เรายกกล่องออกมาด้านนอก เราภาวนาให้ตัสไม่ลุกขึ้นมาอีก เราไม่อยากให้ตัสชักอีกแล้ว มันดูทรมานและเราไม่อยากเห็น เราเลยตัดสินใจจะเดินเข้าห้องน้ำ แต่ตัสกลับลุกขึ้นมาและลืมตามองหน้าเรา เราสบตากัน สบตากันเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เห็นกัน เราทนไม่ได้เราเดินหนีตัสมา เรากลัวเหลือเกิน กลัวเค้าจะไม่ไปอย่าสงบ เรากลัวเค้าชักอีก กลัวเหลือเกิน ทุกครั้งที่เค้าชักหรือลุกขึ้น คือทุกครั้งที่เราลุกขึ้นเดินออกมาจากเค้า มันคือชีวิตปกติของพวกเรา ทุกครั้งที่เราเดินไปไหน ตัสจะลุกตามไปเสมอ... ตอนนี้ตัสก็นิ่งแล้ว จากไปแล้วจริงๆ เราคงไม่ได้ไปฝังเค้าด้วยตัวเอง เราไม่กล้าจริงๆ เราคงทนเห็นเค้าอีกไม่ได้
บันทึกนี้จะเป็นบันทึกถึงแมวที่เรารักและผูกพันมากกว่าครึ่งชีวิตของเรา เค้ารักเรามากที่สุด ผูกพันกับเรามากที่สุด เราก็เช่นกัน... จากนี้คงไม่มีใครมาปลุกตอนเช้า ไม่มีใครมาคอยอ้อน ไม่มีใครมาเดินตาม ไม่มีใครให้มานั่งคุยด้วย ไม่มีใครมาให้กอดอย่างเคย
"เจ้รักหนูนะตัส เจ้จะไม่ลืมหนูไปตลอดชีวิตนี้เลย คิดถึงเสมอนะ ไปอยู่ในที่ที่สบายแล้วก็อย่าลืมคิดถึงกันบ้างนะ สักวันเราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน เจ้เชื่อแบบนั้น.."
15.12.2016 ..When I lost my lovely cat forever..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in