ผมทิ้งแฟนเก่าของผมอีกแล้ว
ตอนแรกผมคิดว่าทุกอย่างจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นแต่สุดท้ายแคนก็ไม่ได้ต่างจากแฟนคนก่อน ๆ ของผมเลยสักนิดเธอนอกใจผมโดยการแอบไปคุยกับเพื่อนผู้ชายอย่างลับ ๆ ซึ่งโชคดีที่ผมจับได้ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะโดนสวมเขาไปอีกนานแค่ไหน สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายทิ้งแฟนอีกครั้งไม่รู้จะอีกกี่คน…อีกนานแค่ไหนที่ผมต้องกลับกินวิสกี้ย้อมใจที่บาร์เส็งเคร็งนี่เวลาอกหัก
“ขอโทษนะคะ ตรงนี้มีใครนั่งไหม?” ใครบางคนถามขึ้น ผมจึงหลุดจากภวังค์ความคิดเมื่อหันไปมองก็พบว่าเจ้าของเสียงใสคือหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับผมเธอแต่งหน้าเข้มทีเดียว แต่ยังกลบเครื่องหน้าที่สวยหวานไม่ได้ – สาวสวยยิ้มให้ผมอีกครั้งเพื่อขอคำตอบ ผมจึงพยักหน้าผายมือไปยังเคาท์เตอร์ข้าง ๆ
“เชิญครับ”
เธอนั่งลงข้าง ๆผมแล้วสั่งมาตินี่กับบาร์เทนเดอร์ ก่อนจะหันกลับมามองผมอีกครั้ง แล้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกำลังพิจารณา
“เพิ่งอกหักมาหรือคะถึงมานั่งแกร่วคนเดียวแบบนี้” การที่เธอจู่โจมแบบนี้ทำให้ผมเหวอไปเลยทีเดียวพลางคิดว่า…คนนี้แรงแฮะ เจอกันไม่กี่นาทีก็เล่นถามงี้เลย แต่ผมไม่ถือหรอก แคนน่ะแรงกว่าเธอเยอะ
“มันมองออกง่ายขนาดนั้นเชียว?”ผมแค่นยิ้ม “คุณรู้ได้อย่างไรครับเนี่ย”
“ก็คุณเล่นมานั่งแกร่วคนเดียวก้มหน้าก้มตา กินวิสกี้…และฉันก็ขอเดาว่านั่นคือแก้วที่สามแล้วใช่ไหม”เธอชี้ไปที่แก้วซึ่งใส่น้ำสีอำพันในมือ ผมเขย่ามันเบา ๆ ยักไหล่แต่ไม่ได้ตอบอะไร
“คุณรู้ไหมว่าผมก็มาเจอแฟนเก่าของผมครั้งแรกที่นี่แหละ”ผมเอ่ยอย่างเลื่อนลอย “ขณะที่ผมกำลังดื่มวิสกี้แบบนี้เลยเพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีเธออยู่ข้าง ๆ”
“เสียใจด้วยนะคะเธอคงทำให้คุณเจ็บน่าดู” สาวหน้าหวานกล่าวขณะรับแก้วมาตินี่จากบาร์เทนเดอร์“ผู้หญิงคนนั้นกล้าทิ้งคนหล่อ ๆ แบบคุณได้ไงเนี่ย”
ผมหลุดหัวเราะ “เอ่อ จริง ๆ ผมนี่แหละครับที่เป็นฝ่ายทิ้งเธอ” ผมหันไปมองหน้าหญิงสาวข้างๆ เธอกำลังจิ้มมะกอกเข้าปาก…
…แคนงับมะกอกที่จิ้มจากแก้วมาร์ตินี่พลางเท้าคางเราสองคนสบตากัน ผมชอบจริง ๆ เวลาสายตาคมกริบที่เกิดจากการเขียนอายส์ไลน์เนอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
“ฉันขอถามจริง ๆ เลยเถอะนะ”เธอว่าพร้อมกับใช้ไม้จิ้มฟันชี้มาที่ผม ทำหน้าเจ้าเล่ห์ “คุณเป็นฝ่ายทิ้งแฟนเก่ามากี่คนแล้ว?”
ผมไม่ได้ตอบในทันทีเพียงแต่สบตาเธอนิ่งๆ เป็นเชิงถามว่า ‘เอาจริงหรือ?’ แต่แม่เสือสาวในชุดแจ๊คเก็ตหนังสีดำตรงหน้าไม่ยอมละสายตาผมจึงยอมแพ้ “…สอง”
“แล้วคุณมีแฟนมากี่คนแล้ว?”แคนยักคิ้ว น้ำเสียงเย้าหยอก “คนหน้าตาดีแบบคุณฉันเดาว่ามากกว่าสิบชัวร์”
ผมหัวเราะ “งั้นคุณต้องไม่เชื่อแน่ ถ้าผมบอกว่า ผมเคยคบมาก่อนหน้าคุณแค่สองคน”
“บ้าน่า! อย่างคุณเนี่ยนะ?” แคนดูท่าจะไม่เชื่อแต่ผมพูดความจริง
“เห็นงี้ผมก็คิดหลายรอบก่อนจะยอมเป็นแฟนใครนะ…ตอนที่ผมมีแฟนคนแรก ผมทุ่มเทให้เธอมาก” ผมเหม่อเล็กน้อยใบหน้าของปลายฝน แฟนคนแรกของผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัยลอยขึ้นมาแก้มของเธอบุ๋มข้างเดียวเวลายิ้ม เหมือนกับเอิง แฟนผมคนก่อนหน้าแคนไม่มีผิด “แต่แล้วเธอก็นอกใจผม ผมเจ็บมาก เลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่าก่อนคบใครต้องคิดให้ดีก่อน”ผมมองหน้าแคน สีหน้าของเธอสลดลงเล็กน้อยแต่ไม่นานก็กลับมาสดใสดังเดิม แล้วเธอก็จ้องหน้าผมอย่างเจ้าเล่ห์
“แต่แบบนี้ก็แสดงว่าคุณเป็นฝ่ายทิ้งแฟนทุกคนตลอดเลยน่ะสิ” แคนหรี่ตาลง “ฮั่นแน่ ร้ายไม่เบาเลยนะพ่อหนุ่ม” เธอพูดพลางยิ้ม…
…รอยยิ้มที่ทำให้ลักยิ้มข้างหนึ่งบุ๋มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอิงผมเสมองกลับมาที่แก้ววิสกี้ของตัวเองแล้วเอ่ย
“แล้วจะให้ทำไงล่ะก็แฟนเก่าของผมเป็นฝ่ายนอกใจ” ผมเล่า “ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากทิ้งหรอก ผมเคยรักปลายฝนมาก เพียงแค่ซื่อสัตย์กับผม…เราก็คงไม่ต้องจบกันแบบนี้”
สักพักหนึ่งมือนุ่มก็เอื้อมมาจับไหล่ของผม ผมจึงหันไปมองสาวที่นั่งข้าง ๆ เธอยิ้มให้ผมอีกแล้วรอยยิ้มนั้นช่างชวนให้ผมคิดถึงปลายฝนเสียจริง
“ฉันรู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไปแล้วก็อาจจะเสียมารยาท” เอิงเอ่ยด้วยเสียงขวยเขิน “แต่ถ้าคุณเคยเจ็บช้ำกับผู้หญิงคนนั้นที่เคยนอกใจ…คุณลองให้โอกาสฉันดูได้ไหมฉันขอสัญญาว่ามันจะไม่เป็นแบบคนก่อน”
ผมนิ่งไปครู่ใหญ่ทีเดียวใจหนึ่งก็เพราะช็อค ผมเพิ่งเลิกกับแฟนเก่ามาหมาด ๆ แต่จู่ ๆผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาขอเป็นแฟนเนี่ยนะ มันเร็วไปไหม
“คุณจะให้โอกาสฉันดูไหมคะ?” เอิงถามพร้อมกับยื่นมือที่สวมกำไลเชือกหลายเส้นมาตรงหน้า…
…กำไลเชือกสีสดใสคล้องอยู่รอบข้อมือข้างที่ถือแก้วมาร์ตินี่ของหญิงสาวเธอยื่นมาข้างหน้าเพื่อขอชนแก้ว ผมจึงหยิบแก้ววิสกี้ของตัวเองขึ้นมา แล้วชนมันส่งเสียงเคล้งเบา ๆ แต่เสียงอื้ออึงในร้านดังกลบมันไปหมด
“ฉันชื่อซันนะคะ ยินดีที่ได้รู้จัก” เธอแนะนำตัวพลางจิบมาร์ตินี่
ผมแนะนำตัวกลับแต่ไม่ได้ดื่มวิสกี้ที่เหลือในทันที
…ผมก็ไม่ใช่กูรูด้านความรักอะไรหรอกนะแต่พูดกันตรง ๆ ผมสัมผัสได้ว่าซันต้องการอะไร มันมีออร่าบางอย่างแผ่ออกมาเธออยากรู้จักผมมากกว่านี้แน่ ๆ – แต่กับผมซึ่งเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าคนที่สามด้วยเหตุผลเดิมๆ อีกครั้งเนี่ยนะ? จะพร้อมรับมือกับความรักครั้งใหม่ทั้งตอนนี้ผมก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการถูกนอกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหลือเกิน
แต่อะไรบางอย่างในใจกระตุ้นให้ผมเดินหน้าผมจึงยกแก้วร็อคขึ้นซดเหล้ารวดเดียวหมดแก้ว เอาวะ ผมขอลองเสี่ยงกับผู้หญิงคนนี้ดูหน่อยแล้วกัน…
*************************
“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับผมซันผมทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ? คุณถึงต้องทำกับผมแบบนี้!!!”
ผมตะคอกด้วยเสียงเกรี้ยวกราดถึงไม่เห็นแต่ก็รู้ว่าตาของตัวเองต้องแดงก่ำอยู่แน่ซันมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่มีหลายอารมณ์ปะปน …เราย้ายมาอยู่ด้วยการเกินห้าเดือนแล้วความรักเหมือนจะไปได้ด้วยดี ต่างจากแฟนเก่าทุกคนของผมที่ผ่านมา แต่แล้วผมก็พบว่าหลายครั้งเธอแอบคุยอย่างสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น
“ก็บอกแล้วไงว่านั่นมันแค่พี่ที่รู้จัก!!!เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว” ซันพยายามอธิบาย“ทำไมคุณไม่ยอมฟังฉันบ้างเลย…คุณต้องใจเย็นๆ นะ มันไม่มีอะไรจริง ๆ ฉันมีหลักฐาน”
“หลักฐานที่คุณกุขึ้นมาน่ะสิ! คุณอย่าคิดนะว่าผมมองไม่ออก ว่าคุณคิดกับมันยังไง” ผมชี้หน้าเธอ“ผมเห็นนะทุกครั้งสายตาที่คุณคุยกับมันทุกคำหวานที่คุณหยอดให้มัน!”
“โธ่เอ๊ย!!!ทำไมคุณไม่มีเหตุผลแบบนี้นะ พี่เขาก็มีแฟนอยู่แล้วฉันจะไปทำแบบนั้นทำไม ฉันรักคุณนะ” ซันมีท่าทีเริ่มหมดความอดทนหึ…สุดท้ายเธอก็จะทนไม่ไหวแล้วก็หลุดออกมาเองล่ะว่าเธอชอบมัน
“ก็เพราะคุณมันส่ำส่อนไง!!!ซัน คุณน่ะชอบใครเขาไปทั่ว ทุกครั้งที่คุณแอบคุยกับคนอื่น ผมรู้นะ เพียงแต่ผมรักคุณมากผมถึงยอม แต่กับคนนี้…ทำไมล่ะซัน” ผมคว้าไหล่ของหญิงสาวมาบีบน้ำตาไหลอาบแก้ม “ทำไมคุณต้องนอกใจผม!!! ทำไม!?”
“คุณมันเป็นบ้าอะไรเนี่ยปล่อยฉัน!!!” ซันพยายามสะบัดมือของผมออกแต่มันกลับยิ่งทำให้ผมบีบไหล่บางนั่นแน่นเข้าไปอีก “ทำไมคุณมาพูดจาแบบนี้!!!ฉันไม่เคยนอกใจคุณเลยสักครั้ง มันมีแต่คุณนั่นแหละที่บ้าไปเองคิดไปเอง!...” เธอเงียบไปชั่วขณะ ถลึงตาใส่ผม “อ๋อ…เพราะงี้สินะ คุณถึงทิ้งแฟนเก่าทุกคนด้วยเหตุผลนี้แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะ…ไอ้เรื่องนอกใจน่ะมันเป็นเรื่องประสาทๆ ที่คุณคิดไปเองทั้งนั้น!!! คุณมันระแวงจนป่วยจิต ไปหาหมอซะ!”
ผมนิ่งไป …บ้างั้นหรือ ซันพูดเหมือนแคนไม่มีผิด…ไม่สิไม่ต่างจากเอิง หรือปลายฝนด้วยซ้ำ พวกเธอทุกคนชอบพูดแบบนี้เวลาความจะแตกสินะ หึ เสียใจด้วยนะแต่ผมน่ะจับไต๋ได้หมดแล้ว พวกเธอมันหลายใจ พอถูกจับได้ขึ้นมาก็โยนความผิดให้ผมเสมอทำเหมือนว่าตัวเองบริสุทธิ์เสียเต็มประดา ดังนั้นการที่ซันพูดแบบนี้…มันยิ่งเป็นการยืนยันว่าเธอนอกใจผมจริง ๆ
ผมมองหน้าแฟนของผม…ก่อนจะค่อย ๆเลื่อนมือสองข้างขึ้นไปประสานกันที่ลำคอระหงของเธอ ซันมองตามด้วยความฉงนจนกระทั่งผมเริ่มลงมือบีบมัน…
“ปล่อยนะ!!! ปล่อยฉัน!!!!!”ซันพยายามดิ้น เธอใช้นิ้วทั้งจิกทั้งข่วนผมแต่เธอคงไม่สังเกตถึงรอยครูดเก่า ๆ มากมายใต้แขนเสื้อที่ผมซ่อนไว้มาตลอดไม่งั้นก็คงรู้ว่ามันเปลืองแรงเปล่า ๆ …ผมออกแรงมากขึ้นเพื่อให้เธอหุบปากซึ่งได้ผลในทันที เสียงที่เล็ดลอดขอความช่วยเหลือนั้นฟังไม่เป็นประสาผมบีบคอนั้นอย่างชำนาญชำการ ขณะเดียวกันก็มองตาเธออย่างไม่กะพริบดวงตากลมสีดำมองมาที่ใบหน้าของผมอย่างสับสน หวาดกลัว ไม่เข้าใจ …ซึ่งผมคุ้นเคยกับมันดี
“คุณรู้ไหมซัน…สีหน้ากับแววตาของคุณตอนนี้น่ะ มันไม่ต่างจากแคน เอิง หรือปลายฝนเลยนะ”ผมเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล “พวกคุณแต่ละคนน่ะนิสัยไม่เหมือนกันเลยสักนิดแต่สิ่งหนึ่งที่พวกคุณมีเหมือนกันเลย คือการนอกใจผม…กับสีหน้ากลัวตายในตอนที่ผมบีบคอพวกคุณแต่ละคน”
ผมหลับตาลงใบหน้าของแฟนเก่าของผมทุกคนเริ่มซ้อนขึ้นทับกับตัวซันในสมองเธอแต่ละคนจะมองมาที่ผมด้วยความหวาดกลัวอย่างเป็นที่สุด รูม่านตาขยายกว้างปากอ้าเพื่อไขว้คว้าหาอากาศเพียงน้อยนิด …น่าเสียดายถ้าพวกเธอเพียงจะสำเนียกว่าไม่ควรนอกใจแฟนตัวเอง เธอคงไม่ต้องลงเอยแบบนี้หรอกทั้งที่เธอทุกคนต่างพร่ำบอกรักผมมาตลอด แต่ทำไมพวกเธอต้องไปคุยกับผู้ชายคนอื่นนะพอถูกจับได้ก็ปฏิเสธลูกเดียว ผมสัมผัสได้นะว่าพวกเธอมันหลอกลวงแต่แม้แคนที่ผมคิดว่าเราจะได้ลงเอยกันแล้ว เธอยังไปเป็นชู้กับพี่ชายตัวเองเลย และทั้งที่ผิดศีลธรรมขนาดนั้นเธอยังกล้าปฏิเสธ ผมล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ
“ลาก่อน ซัน” ผมออกแรงสุดแรงไปที่มือ ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงกระดูกคอก็ดังกร๊อบซันส่งเสียงเฮือกสั้น ๆ …แล้วเธอก็แน่นิ่งไปดวงตาของเธอยังเบิกโพล่งตอนที่เธอหยุดหายใจไปแล้ว น้ำตาไหลเปื้อนลงมาถึงข้อมือผม…ผมวางร่างของเธอลงบนพื้น แล้วใช้นิ้วเรี่ยบนเปลือกตาเพื่อปิดมันลง
*************************
ณ กลางทะเลแห่งหนึ่งในยามดึก
ผมจอดเรือส่วนตัวเมื่อถึงตำแหน่งที่ต้องการเรือสั่นโคลงเคลงไปตามคลื่นเล็กน้อยแต่ไม่แรงมาก ผมใช้สายตาสอดส่องไปรอบ ๆ …เปลี่ยวและมืดสนิท มีเพียงแสงจากเรือของผมกับดวงจันทร์บนฟ้าเท่านั้นซึ่งดีมากผมจึงก้มลงเพื่ออุ้มถุงสีดำขึ้นมา แล้วพาดมันด้วยสองแขนในท่าอุ้มเจ้าสาวก่อนจะค่อย ๆ สืบเท้ามายังริมเรือ
ผมวางมันลงบนขอบเรือแล้วแง้มมันออกเล็กน้อยปรากฏใบหน้าของซันที่ซีดเผือด ปากของเธอไร้สีใด ๆ ภายในคอหูและจมูกมีสำลีที่ผมอุดไว้เพื่อกันน้ำเหลืองไม่ให้ซึมออกมา ตอนนี้ร่างกายของเธอเปลือยเปล่าผมทำความสะอาดมันเรียบร้อยแล้วจนมั่นใจว่าไม่มีร่องรอยใด ๆ จากตัวผมติดอยู่โชคร้ายที่ตรงลำคอของเธอยังมีรอยช้ำสีม่วงจากการออกแรงมากเกินไปเสียหน่อย
ผมยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับร่างไร้วิญญาณของแฟนเก่าผมยังรักเธอ ผมไม่อยากให้เธอนอกใจผมเลย เช่นเดียวกับแฟนเก่าของผมทุกคน แคนเอิง ปลายฝน เพียงถ้าก่อนหน้านี้แฟนของผมยึดมั่นในความรักของเราสองคนพวกเธอคงจะไม่ต้องมามีจุดจบแบบนี้
ผมร่ำลาในใจ แล้วรูดซิบถุงดำปิดถุงนั้นหนักมากจากหินที่ผมใส่เพื่อถ่วงน้ำหนักลงไปด้วยเพื่อรับประกันว่าในภายหลังมันจะไม่ลอยขึ้นมาเตะตาชาวประมงคนไหนเข้า
ผมสอดมือขวาเข้าไปใต้ถุงดำแล้วค่อยๆ ออกแรงยกมันอีกครั้งอย่างทะนุถนอม …ก่อนจะทิ้งถุงสีดำนั่นลงทะเล อีกครั้งน้ำมหาสมุทรสีดำทมิฬกลืนร่างของซันลงไปทันทีเหมือนกับผ้าห่มผมหลับตาลงอย่างไว้อาลัย แต่แล้วจู่ ๆ ภาพของแฟนเก่าของผมแต่ละคนในถุงดำก่อนจะทิ้งศพของพวกเธอลงทะเลก็แวบขึ้นมาในโสตประสาทผมระบายลมหายใจพลางรำพึงรำพันกับตัวเองด้วยความสลดว่า…
ผมทิ้งแฟนเก่าของผมอีกแล้ว
*************************
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in