ในค่ำคืนของวันเฉลิมฉลอง ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ ที่หนึ่ง เต็มไปด้วยพลุไฟ แสงสีจากไฟคอนเสิร์ต ต่างร่วมร้องเพลง พร้อมเสียงกรี๊ดตะโกนอย่างมีความสุข รอนับเวลาถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ ด้วยการกล่าวว่า “Happy new year”
เช่นเดียวกัน ณ ที่หนึ่ง ปราศจากพลุไฟเฉลิมฉลองแทนที่ด้วยฉนวนระเบิดที่ถูกจุดขึ้น ปราศจากแสงสีไฟสปอตไลท์ แต่กับเป็นเพลิงไหม้โหมกระหน่ำทุกทิศทาง ปราศจากเสียงกรี๊ดตะโกนของความสุขแทนที่ด้วยความเศร้าโศก สิ้นหวังจากร่องรอยน้ำตา ปราศจากการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ แต่เป็นการนับถอยหลังสู่ความล่มสลาย สภาพซากศพเกลื่อน เช่นเดียวกับซากปรักหักพังเคลื่อนถล่มลง
อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส หนึ่งในเหตุการณ์ความรุนแรงภาคใต้ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีลอบวางระเบิดที่บริเวณหลุมขยะข้างร้านขายก๋วยเตี๋ยว โดยประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่องวางไว้ในท่อเหล็ก แล้วนำมาซุกซ่อนเอาไว้บริเวณใกล้หลุมขยะ อาศัยการลวงทหารด้วยการเผายางรถยนต์สร้างสถานการณ์ เมื่อทหารเข้ามาในพื้นที่แล้วจึงจุดชนวนระเบิด
ความรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง แต่เป็นมนุษย์เราที่เลือกใช้มัน เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้ง ความคิดเห็นไม่ตรงกัน แม้เราพูดคุยเจรจา แต่กลับไม่ได้รับฟังความคิดเห็นกันและกัน ยึดทิฐิความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เอาแต่ใจเราปราศจากใจเขา การใช้กำลังจึงเป็นทางออกของการค้นหาคำตอบ ก่อเป็นความขัดแย้ง จนบานปลายกลายเป็นสงคราม
ดังในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏอัจฉริยภาพสิ่งหนึ่งทางวิทยาศาสตร์ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ด้วยทฤษฎีสัมพัทธภาพ และสิ่งหนึ่งนี้ได้คร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ไม่ใช่เพราะเราควบคุมไม่ได้ แต่เป็นเพราะเราเลือกที่จะใช้มัน
ความรุนแรงกิดขึ้นเมื่อไหร่ สันติสุขก็หายไปเมื่อนั้น เสียงปืนดังขึ้นเมื่อไหร่ ความหวาดระแวงเกิดขึ้นเมื่อนั้น หากยุติความรุนแรง ล้มเลิกแผนการเลวร้าย สร้างเสียงตะโกนโวยวาย ร้องไห้ให้กลายเป็นเสียงตะโกนดีใจ โห่ร้อง หมดสิ้นกันที่กับความรุนแรง เปลี่ยนแปลงเกิดเป็นสันติสุข
ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เพียงแค่หายใจเข้า-ออก สร้างสิ่งหนึ่งและสลายสิ่งหนึ่ง สลายความเห็นแก่ตัว สลายความคิดที่เป็นใหญ่ สร้างมิตรผูกไมตรี สร้างหัวใจที่เปิดกว้างยอมรับในตนเอง
เมื่อนั้นโลกของควันสีเทาขมุกขมัวจะจางและถูกสร้างใหม่ด้วยฝีแปรงของจิตรกรในตัวของเราเอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in