(OS)
Love and Kisses
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงเสียงออดประจำโรงเรียนดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหมดเวลาในการเรียนคาบนั้นๆ และเตรียมตัวเพื่อที่จะเรียนในคาบวิชาอื่นๆ ต่อไป
‘บยอน แบคฮี’ สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผมหน้าม้าสีดำสลวยนั้นตัดกับผิวขาวสว่างส่องประกายและดูสุขภาพดีนั้นเหวี่ยงเรียวแขนไปทางด้านหลังของเจ้าตัวเพื่อล้วงหยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงซึ่งถูกเก็บอยู่ในกระเป๋านักเรียนขึ้นมาเพื่อกดโทรหาใครบางคน
ตู๊ด… ตู๊ด… ตู๊ด… ตู๊ด…“ทำไมไม่ยอมรับซักทีนะ ยัยคยองจู” ริมฝีปากบางอมชมพูขบเม้มแน่นและมีสีหน้าที่ร้อนรน เนื่องจากเพื่อนสนิทตัวแสบของเธอไม่ยอมเข้าเรียนมาสองวิชาแล้ว ทั้งๆ ที่เจ้าตัวมาถึงโรงเรียนด้วยรถยนต์คันหรูของตระกูลขับมาส่งตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว และคาบเรียนต่อไปก็เป็นวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งสอนโดย อ.อีซูโด อาจารย์และหัวหน้าฝ่ายปกครองจอมเฮี้ยบประจำโรงเรียนเสียด้วย
ติ๊ด![อือ…ว่าไงแบคฮี มีไร?] ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ย่าห์! ยังมีหน้ามาถามอีกนะว่า ‘มีไร’ เธอลืมไปแล้วเหรอว่าคาบต่อไปเรียนกับใครน่ะ” แบคฮีแทบจะตะโกนกรอกใส่โทรศัพท์ที่แนบอยู่ข้างหู แต่เธอเองก็เกรงใจเพื่อนรอบข้างที่ยังนั่งกันอยู่เต็มห้องเรียนเหมือนกัน จึงทำได้แค่ท่าทางแบบเล่นใหญ่และคุมระดับน้ำเสียงเท่านั้น
[เหอะ ไม่ไปอ่ะ เบื่อหน้าคนสอน] ปลายสายที่ดูเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคาบต่อไปต้องเรียนกับใครตอบกลับแบคฮีด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
“เฮ้อ…แล้วนี่อยู่ไหน?” จริงๆ แล้วแบคฮีก็ถามปลายสายไปอย่างนั้นแหละ เพราะว่าคำตอบก็น่าจะเป็น ’ห้องพยาบาล’ เหมือนที่เจ้าตัวตอบซ้ำๆ ในทุกๆ วันที่มาเรียน
[ฉันนอนเล่นอยู่ห้องพยาบาล]
“นั่นไง ว่าแล้ว” เคยเดาผิดซะที่ไหนกันล่ะ
[มีอะไรอีกมั้ยอ่ะ ฉันจะนอนต่อแล้ว]
“…” ขนาดขู่ด้วยการบอกว่าคาบต่อไปต้องเรียนกับใครแล้วนะ ยังไม่ได้ผลเลย - พี่ชานยอลช่วยแบคฮีด้วย แบคฮีท้อแท้
สงสัยว่าคงต้องใช้ไม้ตายเพื่อลากยัยตัวแสบให้เข้าเรียนวิชาของอ.อีซูโด ซะแล้วสิ“แต่ถ้าเธอไม่ยอมเข้าเรียน จงอินอาจจะถูกยัยซุนมีคาบไปกินในน้ำก็ได้ เธอทนได้เหรอ เนี่ย..ตอนนี้ยัยนั่นน่ะ กำลังอ่อยจงอินสุดๆ เลยนะ” สาวน้อยเชียร์ลีดเดอร์ประจำโรงเรียนพยายามพูดใส่ไข่ใส่ไฟใส่กระทะโดยใช้ชื่อของผู้ชายสุดฮอตประจำโรงเรียนอย่าง ‘คิม จงอิน’ ที่ยัยตัวแสบแอบชอบตั้งแต่ไฮสคูลปี1 มาเป็นตัวล่อ
[ย่าห์!! เธอว่าไงนะ]
“จริงๆนะ ถ้าเธ--”
ตู๊ด… ตู๊ด… “แหม พูดถึงจงอินไม่ได้เลยนะ คิคิ” แบคฮีพูดพึมพำเบาๆ อย่างล้อเลียนเพื่อนสาวคนสนิทหลังจากที่ถูกกดวางสายใส่ ก็แหม…ยัยคยองจูน่ะ เห็นเป็นสาวฮอตร้อนแรงดั่งฟายเยอร์แบบนี้แต่ก็รักเดียวใจเดียวนะ แอบชอบจงอินแต่ก็ทำซึนไม่ยอมบอกเขาซะทีนึง โชคดีที่จงอินเองก็ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนกัน
เชื่อดิ อีกไม่ถึง 5 นาที ยัยคยองจูมาเรียนแน่นอนแกร๊ก… แอด…ปึง!เสียงใครบางคนเปิดประตูเข้ามา แบคฮีที่นั่งอยู่โต๊ะเรียนหลังห้องและกำลังรัวจิ้มมือถืออย่างรวดเร็วเพราะว่าเธอกำลังคุยแชทกับแฟนตัวสูงที่เรียนอยู่ห้องถัดไป ใบหน้าแสนน่ารักน่าบีบเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเปิดประตู เดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นใคร
ราวกับว่ามีแสงสว่างวาบลอดเข้ามาในเวลาที่ประตูห้องเรียนอ้าออก ทุกคนในห้องเรียนยกเว้นหัวหน้าห้องซึ่งนั่งอยู่แถวหน้ามองไปที่ประตูห้องกันเป็นตาเดียว เด็กสาวผมบ็อบความยาวผมระดับคางและไว้หน้าม้า เรือนผมสีน้ำตาลเข้มพริ้วไหวตามการเคลื่อนร่างกายเดินเข้ามาพร้อมกับที่ในปากนั้นมีChupa Chupsของโปรดคาอยู่ องค์ประกอบบนใบหน้าที่โดดเด่นไปซะทุกอย่าง ทั้งคิ้วเข้มทรงตรง ดวงตากลมโต จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอมชมพูรูปหัวใจ และผิวใสออร่าแทบไม่มีรอยหลุมสิวหรือจุดด่างดำ เจ้าของใบหน้าสวยที่ใครเห็นต่างก็พากันมองจ้องอย่างไม่วางตานั้นใช้เรียวมือสวยหยิบก้านอมยิ้มสีหวานออกและใช้มือข้างนั้นโบกไปมาเพื่อทักทายเพื่อนสาวซึ่งนั่งอยู่หลังห้อง เรือนร่างอ้อนแอ้นและมีสัดส่วนที่น่ามองในชุดยูนิฟอร์มไฮสคูลเดินตรงลิ่วมายังโต๊ะของแบคฮี
แต่ก็ไม่ลืมชำเลืองตามองหัวหน้าห้องด้วยในเวลาที่เดินผ่านโต๊ะของเขา“ไง” แบคฮยอนเอ่ยทักทายสั้นๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มแห้งๆ ใส่คยองจู
“แบคฮี เธอหลอกฉัน ยัยซุนมีไม่ได้นั่งกับจงอินซะหน่อย” เจ้าของน้ำเสียงหวานบ่นเบาๆ เมื่อเธอหย่อนก้นอวบๆ ลงบนเก้าอี้ คยองจูยู่ปากและส่งสายตาคาดโทษไปให้แบคฮีซึ่งนั่งอยู่ก่อนนานแล้ว
“แล้วได้ผลมั้ยล่ะ สุดท้ายไม่ว่าฉันจะพูดอะไร ขอแค่มีชื่อจงอินอยู่ในรูปประโยค เธอก็พร้อมที่จะวิ่งออกจากห้องพยาบาลมาที่ห้องเรียนทันทีเลยนี่จ้ะ”
“ชิส์” คยองจูจึ๊ปากอย่างขัดใจเพราะไม่มีอะไรจะเถียง แบคฮีพูดถูกทุกอย่าง
“นี่ ถามอะไรหน่อยสิ”
“หือ? ว่า”
“เมื่อไหร่เธอจะบอกชอบให้จงอินรู้ซะทีล่ะ เธอกลัวอะไร กลัวนก?”
“เปล่า ไม่ได้กลัวนก”
“แล้วกลัวอะไรล่ะ”
“ก็…ฉันกับจงอิน เราแทบไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ--”
“เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ?”
“เออสิ ขนาดฉันเดินผ่านทุกวัน จงอินยังไม่ค่อยมองหน้าฉันเลย นี่ฉันไม่สวยเหรอ?” คยองจูยกเรียวมือทั้งสองข้างขึ้นมาแนบที่แก้มนิ่มซึ่งมีบลัชออนสีส้มพีชแต่งแต้มอยู่
“โอ้ย! อย่างเธอถ้าไม่เรียกว่าสวย คนอื่นก็ไม่สวยแล่ว! คิดมากน่า”
“จริงๆนะ”
“จริงสิ ฉันไม่โกหกเธอหรอก ถ้าจงอินไม่ยอมมอง เธอก็พาตัวไปให้เขามองใกล้ๆ เลยสิ”
“ยังไงอ่ะ”
“เอาหูมาใกล้ๆดิ” แบคฮีสะกิดที่แขนเสื้อของเพื่อนสาวผมบ็อบและดึงหูให้เข้ามาใกล้ๆ เพื่อกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง ส่วนคยองจูก็ตั้งใจฟังในสิ่งที่แบคฮีบอกพลางพยักหน้าเล็กน้อยและหัวเราะคิกคักเบาๆ
หลังจากสองสาวที่นั่งอยู่หลังห้องเรียนกระซิบกระซาบเกี่ยวกับเรื่องอะไรบางอย่างจนเสร็จสิ้น คยองจูจึงลุกจากที่ๆ ตัวเองนั่งอยู่ประจำ เดินตรงไปยังแถวหน้าห้องเรียน เป็นที่ๆ มักจะเป็นตัวกำหนดแบ่งแยกกันเป็นเรื่องธรรมดาระหว่างเด็กตั้งใจเรียนกับเด็กไม่ตั้งใจเรียน และแถวหน้าสุดของโต๊ะเรียนภายในห้องเป็นที่ที่ซึ่งหัวหน้าห้อง B สองปีซ้อนอย่างคิมจงอินและรองหัวหน้าห้องคิมจงแดนั่งอยู่ข้างๆ กัน
“จงแด” เสียงหวานใสถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากรูปหัวใจเพื่อใช้เรียกชายหนุ่มอารมณ์ดีและมีทรงผมสั้นอย่าง ‘คิม จงแด’ ผู้ซึ่งเป็นรองหัวหน้าห้องและมีคะแนนสอบเป็นอันดับ 2 ให้หันมามองตน เพื่อที่จะขอร้องอะไรบางอย่าง
และคิมจงอินก็หันมามองคยองจูด้วย“อ้าว คยองจู เรียกเรานี่มีอะไรรึเปล่า?” จงแดถามอย่างสงสัย
“ก็.. คืองี้ เราลืมหยิบหนังสือเรียนแคลคูลัสมาจากบ้านอ่ะ แบคฮีก็ลืมเหมือนกัน”
“อ่า.. แล้ว?”
“เราจะขอสลับที่กับนายแค่คาบนี้อ่ะ นายไปนั่งกับแบคฮีได้ป่ะ”
“จะดีเหรอ ถ้าชานยอลมันรู้อ่ะ เราไม่โดนกระทืบตายเหรอ ไม่เอาๆ” จงแดปฎิเสธพร้อมกับสั่นหัวไปมาเพราะรู้ว่า ‘ปาร์ค ชานยอล’ ชายหนุ่มตัวสูงซึ่งเรียนอยู่ห้อง C เป็นคนขี้หวงและขี้หึงแฟนสาวของตัวเองมาก ซึ่งก็สมควรให้ชานยอลมันหวงอยู่หรอก เพราะว่าแบคฮีน่ารักและมีเสน่ห์มากๆ แถมยังมีอัธยาศัยดีและเข้ากับคนง่ายด้วย
“ดีดิ่ เราไม่บอกชานยอลหรอก นะๆ น้า~” คยองจูพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนชวนใจละลาย พร้อมๆกับที่มือน้อยๆ ทั้งสองข้างจับไปที่หัวไหล่และส่งสายตาเป็นประกายเหมือนแมวเหมียวตัวน้อยเวลาขออาหารเม็ดไปยังรองหัวหน้าห้อง
ในระหว่างที่คยองจูกำลังรอคำตอบจากจงแดอยู่นั้น สาวน้อยก็ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกคนที่นั่งๆ ข้างรองหัวหน้าห้องตีเนียนแอบมองอยู่ เมื่อริมฝีปากรูปหัวใจบึนใส่เพื่อนของเขา จงอินจึงทำเป็นหันกลับมามองหนังสือเรียนที่กางเอาไว้ หัวคิ้วทรงตรงก็ขมวดชนเข้าหากันเนื่องจากกำลังกลั้นยิ้มเอาไว้เพื่อเก็บอาการคีพลุคคูลๆ ตามสไตล์คนขี้ซึน2017
เวลาคยองจูทำหน้าอ้อน โคตรน่ารักเลยเว้ย อยากจับแก้มมาบีบๆ ชะมัด หมั่นเขี้ยว~
ไอ้จงแด! มึงรีบๆ ตอบตกลงดิ้!“เฮ้อ.. ก็ได้ แต่แค่คาบนี้คาบเดียวนะ”
“เย้~ จงแดใจดีที่สุด”
เมื่อพูดจบ จงแดจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปยังที่นั่งของคยองจูซึ่งอยู่แถวหลังห้องเรียน ส่วนคยองจูก็หย่อนก้นอวบๆ ลงนั่งที่เก้าอี้ของรองหัวหน้าห้อง
“จงอิน คาบนี้เราขอนั่งด้วยคนนะ” สาวผมบ็อบไว้หน้าม้าหันไปพูดด้วยเสียงใสพร้อมกับระบายยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“อะ..อื้อ ตามสบายเลย” จงอินตอบกลับเบาๆ พร้อมกับยกมือข้างนึงจับติ่งหูอย่างเขินๆ ถึงจะพยายามเก็บอาการเขินอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตามเถอะ
จะไม่ให้เขินได้ไง เล่นส่งยิ้มตาหยีแบบลูกแมวมาให้แบบนี้ –
จงอิน มึงต้องอดทน! มึงต้องคีพคูล มึงจะหลุดไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาดส่วนคยองจูก็ไม่ลืมที่จะหันหลังกลับไปมองยังบริเวณโต๊ะเรียนที่ซุนมีนั่งอยู่ ซึ่งอยู่ห่างออกประมาณ 2 ช่วงโต๊ะ ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มแบบผู้ชนะไปให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่แข่งด้านความรักของเธอ
ในระหว่างที่กำลังรออ.อีซูโดเข้าสอนนั้น คยองจูล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของเสื้อคลุมตัวนอกสีน้ำเงินเข้มเพื่อหยิบเอาchupa chups อีกอันขึ้นมาแกะห่อพลาสติกซึ่งคลุมตัวอมยิ้มสีหวานออก นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบก้านสีขาวและพาตัวอมยิ้มเข้าปาก ในขณะที่เรียวแขนสีขาวน้ำนมอีกข้างก็ถูกใช้เพื่อเท้าคางรองรับน้ำหนักใบหน้าหวาน
คนอะไรดูดีเป็นบ้า เสียงความคิดในใจดังขึ้นในหัวของคยองจู เมื่อเธอมองไปยังหัวหน้าห้อง B ร่างสูงและมีหุ่นที่ดูดีมากเป็นพิเศษในสายตาของคยองจู และยิ่งดูดีมากขึ้นเมื่อจงอินแต่งตัวถูกระเบียบในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนสีน้ำเงินเข้ม คยองจูอาศัยในจังหวะที่จงอินไม่สนใจเธอเพื่อมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ในตอนนี้ ทั้งสายตาที่จดจ้องไปยังหน้ากระดาษของหนังสือเรียน เส้นผมสีชมพูนมเย็นที่เงางามและเรียงตัวสวยตามลักษณะของทรงผม สันกรามคมนูนเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่ม และผิวสีแทนสวยชวนสัมผัส องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้คยองจูตกหลุมรักจงอินอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจนไม่เหลือสายตาไว้มองเด็กนักเรียนชายคนอื่นๆ
“อ้าว วันนี้เธอเข้าเรียนด้วยเหรอ คยองจู” อ.อีซูโด หัวหน้าฝ่ายปกครองซึ่งเดินเข้ามาให้เรียนเปล่งเสียงทักทายนักเรียนสาวผมบ็อบซึ่งไม่ค่อยได้เห็นหน้า
“ค่ะ อ.อีซูโด”
“สงสัยวันนี้ฝนจะตกซะแล้วละมั้ง”
“…”
“นั่งข้างๆ จงอินแบบนี้ก็อย่าไปกวนเขาล่ะ เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจค่า” คยองจูพยายามกดน้ำเสียงเอาไว้เพื่อไม่ให้อ.อีซูโดรู้ว่าเธอรำคาญอาจารย์คนนี้มากขนาดไหน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตามองไปข้างบนในขณะที่อาจารย์อีกำลังหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาเพื่อใช้สอน
คยองจูไม่ได้ตั้งใจฟังในเนื้อหาที่อาจารย์หัวหน้าฝ่ายปกครองกำลังสอนเลยสักนิดเดียว แต่เธอก็พยายามมองหน้ากระดาษซึ่งมีแต่ตัวเลขเต็มไปหมดด้วยความไม่เข้าใจเพราะไม่ใช่วิชาที่ชอบด้วย หนังสือเรียนแคลคูลัสของจงอินถูกกางและวางอยู่ระหว่างโต๊ะเรียนสองตัวซึ่งอยู่ชิดติดกัน ใบหน้าหวานเคลื่อนเข้าไปใกล้ๆ หนังสือเรียนเพื่อที่เธอจะได้มองเห็นชัดๆ ทำให้แขนเรียวสวยสีน้ำนมชนเข้ากับท่อนแขนสีแทนอย่างไม่ตั้งใจ
แต่จริงๆ คยองจูก็ตั้งใจให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของสาวผมบ็อบซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขาลอยกระทบกับปลายจมูกโด่งมนในยามที่คยองจูขยับตัวเข้าไปใกล้จนชายหนุ่มผมสีชมพูนมอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อกอบโกยกลิ่นหอมหวานนี้
ในระหว่างที่คยองจูใช้มือเรียวจับเส้นผมที่ตกระกรอบหน้าของเธอขึ้นทัดหูอย่างเป็นธรรมชาตินั้น หัวหน้าห้องอาศัยจังหวะที่เจ้าของกลิ่นหอมหวานสนใจหนังสือเรียนลอบมองเธออย่างเงียบๆ ต้นคอขาวระหงส์ แก้มใสที่มีสีพีชอ่อนๆ แต่งแต้ม ริมฝีปากรูปหัวใจอมชมพูขยับมุบมิบไปมาตามเสียงของอ.อีซูโด จมูกโด่งปลายรั้น ขนตายาวสีดำแผ่รอบดวงตากลมโต และผิวขาวเนียนใสชวนให้หลงไหลในยามที่ได้มองใกล้ๆ แบบนี้ ทำเอาจงอินไม่มีสมาธิในการเรียนแคลคูลัสเลยแม้แต่นิดเดียว แถมสติยิ่งหลุดกระเจิงลอยหายไปไกลมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาเห็นผิวเนื้อเนียนของต้นขาขาวภายใต้กระโปรงสีน้ำตาลอ่อนนั่นชัดเจนขึ้น เป็นเพราะว่าคยองจูกำลังนั่งไขว่ห้างจนชายกระโปรงถดเข้าหาตัวตามแรงโน้มถ่วงของโลกนั่นเอง
จงอินหันกลับมายังหนังสือเรียนอีกครั้ง เปลือกตาทั้งสองข้างปิดลง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ หลายครั้งเพื่อรวบรวมสมาธิ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเลยด้วยซ้ำเพราะในหัวสมองนั้นฉายแต่ภาพต้นขาขาวๆ ของคยองจูอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
จงอิน มึงหยุด! หยุดความคิดหื่นกามเดี๋ยวนี้!
บริเวณสนามเบสบอลขนาดมาตรฐาน
ท่ามกลางแสงแดดจ้ายามบ่ายของวัน คยองจูซึ่งมานั่งคอยแบคฮีซึ่งเจ้าตัวกำลังซ้อมเชียร์ลีดเดอร์อยู่บนเก้าอี้ไม้บริเวณข้างเบสบอล และข้างๆ ตัวของเธอก็มีถังน้ำแข็งที่มักใช้ในเวลาไปปิคนิควางอยู่ ซึ่งข้างในนั้นมีขวดน้ำและผ้าเย็นถูกแช่น้ำแข็งเอาไว้ด้วย แต่คยองจูก็ไม่ได้มองเพื่อนสนิทซึ่งกำลังซ้อมเชียร์ลีดเดอร์แม้แต่นิดเดียว เพราะสายตานั้นจดจ้องไปที่กลางสนามหญ้าเพื่อมองใครบางคนอยู่นั่นเอง
ส่วนตรงพื้นที่ของสนามหญ้านั้นก็มีเหล่าบรรดานักกีฬาเบสบอลซึ่งเป็นทีมประจำโรงเรียนกำลังฝึกซ้อมอย่างขะมักเขม้นและแข็งขันเอาจริงเอาจัง ทั้งเสียงขว้างลูกเบสบอล เสียงลูกเบสบอลกระทบกับไม้ เสียงวิ่งอย่างรวดเร็ว เสียงเฮ เสียงโวยวาย และเสียงขยับร่างกายตามจังหวะเพลงของเหล่าเชียร์ลีดเดอร์ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น
“มึง เอายัง” หมายเลขเสื้อเบอร์ 61 ซึ่งสวมบทบาทในการแข่งขันโดยเป็นฝ่ายรับตำแหน่งพิชเชอร์พูดพร้อมกับในมือขวามีลูกเบสบอลถูกโยนขึ้นลงเพื่อเป็นการวอร์มน้ำหนักมือ
“เออ ขว้างมาเลย” หมายเลขเสื้อเบอร์ 88 ซึ่งสวมบทบาทในการแข่งขันโดยเป็นฝ่ายรุกตำแหน่งแบตเตอร์ตอบพร้อมกับตั้งท่าตามกติกาของเบสบอลเพื่อเตรียมหวดไม้ โดยมีผู้เล่นหมายเลข 94 ตำแหน่งแคชเชอร์ที่นั่งยองๆ รอรับลูกอยู่ข้างหลัง
ฟิ้ว… เมื่อลูกเบสบอลหลุดออกจากมือชานยอลด้วยการขว้างอย่างเต็มแรง
เคร้ง! ...เมื่อลูกเบสบอลกระทบกับไม้ด้วยการหวดเต็มแรงจากจงอินและกระเด็นกระดอนลอยคว้างออกไปไกล
ตุบ! เสียงไม้เบสบอลหล่นลงพื้น และจงอินวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เขาทำได้ วิ่งผ่านเบสที่ 1 เบสที่2 เบสที่ 3
โฮมรัน! เมื่อจงอินวิ่งเข้าไปแตะจุดโฮมเบสอย่างฉิวเฉียดก่อนที่ผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฟิลด์ เลฟฟิลด์ และไรท์ฟิลด์จะคว้าลูกเบสบอลเอาไว้ได้
“ไมมึงเก่งจังวะ” ชานยอลเดินมานั่งข้างๆ จงอินซึ่งนั่งพักเหนื่อยและยกขวดน้ำขึ้นมาจ่อที่ปากดื่มอย่างกระหายที่เก้าอี้นั่งพักข้างสนาม
“กำลังใจดีก็งี้แหละเพื่อน” พูดจบก็กระดึกน้ำอีกจนหมดขวด
“อ๋อ กูรู้แหละ 9 นาฬิกาใช่มะ”
“เออ เห็นละอยากกอดแรงๆ สักที ว่าแต่..น้ำหมดแล้วเหรอวะ”
“เออดิ วันนี้จุนมยอนมันไม่เข้าเพราะมันติดธุระกับที่บ้าน เลยไม่มีคนเตรียมสำรองน้ำเอาไว้”
“กูยังกระหายน้ำอยู่เลยว่ะ”
“งั้นไปขอที่พวกเชียร์ลีดเดอร์มั้ย แบคฮีเคยบอกกูไว้ว่าถ้าน้ำหมดก็ไปขอได้” รอยยิ้มน้อยๆปรากฏที่มุมปากของร่างสูงหมายเลข61 ในเวลาที่มันพูดถึงแฟนสาวหน้าตาน่ารัก จงอินเห็นละก็หมั่นไส้
ว่าแล้วสองหนุ่มที่มีความสูงไล่เลี่ยกันก็พากันเดินไปหาพวกเชียร์ลีดเดอร์ซึ่งกำลังพักเบรกอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
เมื่อเดินมาถึง ชานยอลก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น เดินตรงดิ่วไปหาแฟนสาวพร้อมกับกอดหมับเข้าให้หนึ่งทีด้วยความที่เจ้าตัวคิดถึงแบคฮีใจจะขาด เพราะว่าวันนี้ทั้งวันก็ไม่ได้เจอกันเลยได้แต่คุยไลน์เท่านั้น คนตัวเล็กก็ทุบไปที่ไหล่กว้างหนึ่งทีด้วยความเขิน ก็ใครใช้ให้มากอดต่อหน้าคนอื่นกันล่ะ พี่ชานไม่เขินแต่แบคฮีเขินจะตายแย่อยู่แล้ว ส่วนจงอินกับคยองจูที่เห็นภาพเพื่อนตัวเองกำลังสวีทกับแฟนก็อดไม่ได้ที่จะเบ้ปากและกรอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้และเหม็นกลิ่นความรักจนเต็มประตู
“อะ น้ำ แดกเข้าไปเยอะๆ เลยมึงอ่ะ จะได้เลิกทำหน้าอิจฉากูสักที” ชานยอลโยนกระบอกขวดน้ำใส่เพื่อนรักที่ทำเป็นเนียนนั่งอยู่ข้างๆ คยองจูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือไม่มีใครทำเนียนไปอยู่ข้างสาวแบบเงียบๆ ได้ดีเท่ามันอีกแล้ว
“ใครอิจฉามึง เดี๋ยวกูเตะซะเลยนี่”
“หรา”
“หุบปากไป พูดมากน่ารำคาญ”
ในระหว่างที่สองหนุ่มนักกีฬาเบสบอลกำลังเถียงกันอยู่นั้น คยองจูทำเป็นหันหน้ามองไปทางอื่นพร้อมกับมีรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากและรู้สึกขอบคุณแบคฮีอยู่ในใจที่ชวนเธอมานั่งดูเจ้าตัวซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ในทุกครั้งที่มีการซ้อม เพราะว่าจะได้แอบมองจงอินซ้อมเบสบอลด้วยยังไงล่ะ
ในขณะนั้น ‘โอ เซฮุน’ นักเรียนไฮสคูลปี1 และอยู่ทีมนักกีฬาเบสบอลก็เดินเข้ามาเพื่อขอน้ำดื่มแก้กระหาย
“ไอ้ฮุน กูเห็นนะว่ามึงแอบมองแฟนกู เดี๋ยวเหอะ” จู่ๆ ชายหนุ่มผมสีเทาก็แหวขึ้นมา
“ไม่ได้มองเว้ย ไอ้พี่ชาน” รุ่นน้องซึ่งตัวสูงกว่าตอบกลับทันควัน
“ไหนมึงบอกดิ้ว่ากระโปรงแบคฮีสีอะไร”
“สีน้ำเงิน อุ้บ!”
“มึงมานี่เลย มาให้กูเตะซะดีๆ”
ในระหว่างที่รุ่นน้องเซฮุนกำลังวิ่งหนีและชานยอลกำลังไล่เตะรอบสนามอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีสิ่งหนึ่งที่ลอยคว้างมาทางที่ที่คยองจูนั่งอยู่ ซึ่งสาวผมบ็อบก็ไม่รู้ตัวเลยด้วยเพราะว่ากำลังล้วงมือเข้าไปในถังน้ำแข็งเพื่อหยิบผ้าเย็นให้ชายหนุ่มผมสีชมพูนมเย็นซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
คยองจู! ระวัง!
เผละ… ซ่า… โอ้ย!สิ่งหนึ่งที่ว่า นั่นก็คือ น้ำหวานสีแดงหกออกมาจากปากขวดที่เปิดอ้าออกอย่างหมิ่นเหม่ซึ่งเซฮุนเป็นคนถืออยู่และกำลังจะดื่มนั่นเอง ตัวขวดหลุดออกจากมือรุ่นน้องเพราะว่าเจ้าตัวกำลังฟัดและหยอกเย้ากับรุ่นพี่ขี้หวงอย่างเมามันส์จนขวดมันลอยและกระเด็นตกใส่หัวของคยองจูผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ส่วนจงอินจะบอกให้คยองจูหลบก็หลบไม่ทันแล้วเพราะเขาเองก็มัวแต่มองการกระทำของคนน่ารักอยู่จนไม่ทันเห็นนั่นเอง
“พี่คยองจู ผมขอโทษครับ” เซฮุนรีบวิ่งมาขอโทษและโค้งตัวลงต่อหน้ารุ่นพี่ตัวเล็กทันทีที่รู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้พี่คยองจูเปียกเกือบทั้งตัว
“อือ พี่ไม่เป็นไร นายไม่ได้ตั้งใจนี่นา”
ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนที่จู่ๆ ก็เกิดหัวร้อนและเกรี้ยดกราดขึ้นมาเสียดื้อๆ จงอินลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อเบสบอลหมายเลข 88 ออกและยื่นให้กับคยองจูซึ่งนั่งเช็คสภาพตัวเองอยู่เงียบๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวปอยๆ ตรงที่โดนขวดหล่นมากระแทกหัว
วันนี้จงอินใส่เสื้อเบสบอลซ้อมแค่ชั้นเดียวตัวเดียว ไม่ใส่สองชั้นแม้ว่าจะอากาศเย็น เพราะเป็นคนขี้ร้อน
“อะ เอาไปคลุมซะ” จงอินเหลือบตาไปมองคนตัวเล็กที่กำลังจัดแจงเอาเสื้อเบสบอลของเขาคลุมช่วงตัวที่โดนน้ำจนเปียกแล้วก็ได้แต่บ่นกระปอดกระแปดในใจ - เสื้อนักเรียนก็บางอยู่แล้ว เวลาโดนน้ำก็เปียกจนเนื้อผ้าแนบเนื้อเห็นไปถึงไหนต่อไหน ดีนะที่ยังมีเสื้อคลุมปิดเอาไว้ แต่ก็เห็นเนินอกอยู่ดีนั่นแหละ
หวงเว้ย!“…”
หวีดดด! นั่นซิกแพคใช่มั้ย?! ทำไมถึงนูนน่าลูบไล้ขนาดนี้! - เสียงโหยหวนราวกับคนเสียสติดังลั่นภายในหัวของคยองจูเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาและเห็นจงอินถะ..ถอดเสื้อ!
รู้สึกเหมือนเลือดกำเดากำลังจะไหล ฟืด!“ส่วนมึง ไอ้ฮุน กูสั่งให้มึงวิ่งรอบสนาม 5 รอบ ปฎิบัติ!” จงอินหันไปสั่งรุ่นน้องที่ยืนคอตกอย่างสำนึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่คยองจูตัวเปียก
“โหย พี่อ่ะ ก็พี่คยองจูบอกว่าไม่เป--”
“หรือจะให้กูฟ้องแม่มึง เลือกเอา”
“ก็ได้คร้าบบบ” ถ้าให้เลือกระหว่างวิ่งรอบสนามกับโดนแม่ด่า น้องฮุนขอวิ่งดีกว่า ฮึก;-; ไอ้พี่จงอินใจร้าย ไม่เคยอ่อนโยนกับน้องกับนุ่งเลยนะ
“คยองจู” หลังจากที่สั่งรุ่นน้องให้วิ่งรอบสนามเพื่อเป็นการลงโทษฐานที่ทำอะไรอย่างประมาทไม่รู้จักระวัง จงอินจึงหันมาคุยตัวเล็กที่กำลังกอดเสื้อเบสบอลของเขาเอาไว้ใช้ปิดบังหน้าอกหน้าใจอย่างว่าง่าย
“หืม?”
“ไปอาบน้ำสระผมที่ห้องอาบน้ำนักกีฬามั้ย เดี๋ยวเราพาไป”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ไป” คยองจูส่ายหัว
“แล้วไม่เหนียวตัวเหรอ”
“ก็เหนียว”
“งั้นก็ไป”
จงอินไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้นให้เสียเวลา ร่างสูงผู้เปลือยท่อนบนจนเห็นช็อกโกแลตบาร์ก้มตัวลงเล็กน้อย จับมือนิ่มของคนตัวเล็กเอาไว้ข้างนึงและออกแรงดึงให้เจ้าตัวลุกขึ้นยืนและเดินตามเขาไปที่ห้องอาบน้ำของนักกีฬาโรงเรียนโดยไม่สนเสียงเรียกของแบคฮีกับชานยอลเลยแม้แต่น้อย
ทั้งจงอินและคยองจูต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนเมื่อเดินมาถึงห้องอาบน้ำที่สร้างขึ้นเพื่อนักกีฬาใช้โดยเฉพาะ เมื่อเข้ามาข้างใน จงอินเดินไปที่หน้าตู้ล็อกเกอร์ของตัวเองและล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงสีขาวเพื่อหยิบกุญแจมาไขตู้ล็อกเกอร์ เจ้าตัวกำลังรื้อค้นภายในช่องตู้เพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา ส่วนคยองจูซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ภายในห้องอาบน้ำ
“อะ นี่ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมนะ ส่วนนี้ก็อุปกรณ์อาบน้ำ ใช้ของเราไปก่อนละกัน ห้องน้ำอยู่ข้างหลังท้ายซ้ายมือ จะใช้ห้องไหนก็ได้ ส่วนเสื้อคลุมเบสบอลใส่แทนเสื้อสูทตัวนอกของเธอไปก่อน ขืนยังใส่อยู่เธอจะไม่สบายและเป็นหวัดเอาได้” จงอินยื่นตะกร้าที่ข้างในนั้นมีพวกขวดครีมอาบน้ำ แชมพู สำหรับผู้ชายตั้งอย่างเป็นระเบียบ ส่วนมืออีกข้างก็มีผืนผ้าเช็ดตัวสีขาวหนานุ่มกับเสื้อคลุมเบสบอลลายทางสีน้ำเงินสลับกับสีขาวยื่นส่งให้คนตัวจ้อยซึ่งนั่งรออย่างเงียบๆ พลางพูดอธิบายอย่างละเอียด
“ค่า คุณหัวหน้าห้อง :)” เจ้าของริมฝีปากรูปหัวใจอดที่จะยิ้มกว้างกับการกระทำแสนจะน่ารักของคุณหัวหน้าห้องตัวสูง
“ยะ..ยิ้มอะไร ไปอาบน้ำได้แล่ว เดี๋ยวเราเปลี่ยนชุดเสร็จละจะยืนรออยู่หน้าห้องอาบน้ำนะ” จงอินดันร่างเล็กให้เดินเข้าไปข้างใน ด้วยกลัวว่าคยองจูจะเห็นว่าตัวเขาเองกำลังเขินกับรอยยิ้มรูปหัวใจดวงโตจนตัวจะแตกอยู่รอมร่อ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก จงอินยกมือขึ้นมาแนบอกข้างซ้ายซึ่งเปลือยเปล่าไร้เสื้อปกปิด จนได้รู้ว่าหัวใจของเขากำลังเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งราวกับเสียงของจังหวะกลองในคอนเสิร์ตร็อกสุดมันส์
แค่ได้กลิ่มหอมเย็นแบบผู้ชายจากทางข้างหลัง จงอินที่กลับมาใส่ชุดนักเรียนตามเดิมก็รู้ทันทีว่าคยองจูอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เจ้าตัวจึงหันตัวไปข้างหลังทางหน้าประตูห้องอาบน้ำเพื่อดูว่าคนตัวเล็กในสภาพนี้จะน่ารักน่าเอ็นดูมากแค่ไหน แล้วก็เป็นอย่างที่ร่างสูงคิดเอาไว้ คยองจูสวมเสื้อนักเรียนและกระโปรงสีน้ำตาลอ่อนตัวเดิมแต่เพิ่มเติมคือเสื้อคลุมเบสบอลลายทางสีน้ำเงินที่ข้างซ้ายตรงช่วงอกของตัวเสื้อซึ่งปักหมายเลข 88 เอาไว้สวมทับอีกชั้นนึง ปลายผมเส้นสีน้ำตาลเข้มมีหยดน้ำเกาะอยู่เล็ก ใบหน้าที่สะอาดสะอ้านและไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มนั้นทำให้คยองจูในสายตาของจงอินในตอนนี้ดูน่ารักน่าหยิกและน่าบีบขึ้นเป็นสิบล้านเท่า
เมื่อเห็นว่าผมคยองจูไม่ยอมแห้งซะที แถมลมยังแรงและเย็นขึ้นด้วย จงอินจึงเดินไปหาคนตัวเล็กที่กำลังยืนเช็ดผมอย่างอารมณ์ดีเพื่อแย่งผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเล็กและเดินอ้อมไปด้านหลังของคยองจู แล้วก็ลงมือเช็ดผมด้วยกำลังจากแขนของคนตัวสูงเอง
“เช็ดแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ผมเธอจะแห้งละ” เจ้าของน้ำเสียงดับเบิ้ลเบสพูดบ่นไปก็เช็ดเรือนผมสีน้ำตาลเข้มอย่างเบามือ แต่ก็มีเช็ดผมให้แบบแกล้งๆ บ้างจนคยองจูต้องหันมามองอย่างดุๆ ใส่ เวลาที่ถูกเจ้าของริมฝีปากรูปหัวใจยู่ปากใส่เขานั้นเรียกเสียงหัวเราะในลำคอพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของร่างสูงออกมาได้
พอได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ๆ กันครั้งแรกตลอดเวลาภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างได้สัมผัสตัวตนและรู้จักมุมมองของคนอีกคนที่ไม่น่าจะมีใครได้เห็นบ่อยนัก และแค่เพียงไม่กี่ชม.เท่านั้น ไม่ต้องมีคำพูดสวยหรูอะไรมากมาย ไม่ต้องมีแผนการณ์สร้างเซอร์ไพรซ์อะไรทั้งนั้น แต่กลับสร้างจังหวะใหม่ให้หัวใจให้เต้นระรัวอย่างไม่ยอมหยุด
วันต่อมา
ในช่วงเย็น ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำและทอแสงสีส้มเข้มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับอากาศที่เย็นกำลังดีทำให้ทุกคนไม่ว่าจะเด็กนักเรียน ครู และบุคลากรคนอื่นๆ ต่างก็อารมณ์ดีและมีความสุขให้กับวันนี้ แต่ยกเว้นแค่คนๆเดียว
"ลงโทษอะไรเนี่ย น่าเบื่อชะมัด" - คยองจูบ่นงุ้งงิ้งด้วยน้ำเสียงแสนน่ารักใส่จงอิน คนที่ควบตำแหน่งหัวหน้าห้องและนักกีฬาโรงเรียนที่ยืนคุมสาวน้อยตัวเล็กผมสั้นซึ่งกำลังถูกลงโทษฐานแกล้งchupa chups ใส่หัวเด็กผู้หญิงที่นั่งแถวหน้าห้องเรียน
ก็แค่ปาchupa chups ใส่ยัยซุนมี แค่เนี้ย! แต่อาจารย์อีซูโดก็เล่นใหญ่ทำราวกับว่ายัยนั่นจะเจ็บถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นแหละ โดนมารยาร้อยเล่มเกวียนของยัยนั่นเข้าไปก็ยังไม่รู้ตัวอีก เหอะ!
โมโห! ภาพที่ยัยนั่นแตะไหล่จงอินยังคงสร้างความรู้สึกหงุดหงิดให้กับคยองจูซึ่งกำลังก้มๆ เงยๆ ถูพื้นห้องเรียนอย่างกระแทกกระทั้นไม่สบอารมณ์ โดยที่ไม่สนใจเลยว่าร่างสูงจะแอบมองทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างไม่คลาดสายตา รวมถึงช่วงสะโพกกลมมนในเวลาที่ขยับตัวไปมานั่นด้วย
"ก็เธอทำแบบนั้นทำไมล่ะ มันไม่น่ารักเลยนะ รู้ตัวมั้ย" จงอินอดที่จะยกยิ้มที่มุมปากอย่างเสียไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าคยองจูในเวลาที่
หึง จะน่ารักน่าหยิกแก้มขนาดนี้
"ชิส์ ถ้าฉันไม่น่ารักนายก็คงไม่แอบมองก้นฉันหรอก" คยองจูจุ่มไม้ถูพื้นลงกับถังน้ำ เดินตรงมาหาคุณหัวหน้าห้องที่ทำหน้าเหวอเพราะโดนคนตัวเล็กจับได้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตาตรงๆ ทำเอาจงอินถึงกับทำอะไรไม่ถูก
"อะ..อะไร เปล่าซะหน่อย"
"ไม่เนียนเลยนะ" นิ้วป้อมยกขึ้นมาชี้หน้าของอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ
"เราไม่ได้มอง กะ...ก้นเธอนะ!"
"ทำไม ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย"
"..."
"มองต่อไปสิ ฉันอนุญาตให้นายมองก้นฉันได้ตามสบาย"
สาวน้อยที่จู่ๆ ก็กลายร่างเป็นแมวสาวทรงเสน่ห์พร้อมเขี้ยวเล็บนั้นส่งฝ่ามือนิ่มมาจับที่สันกรามคมของร่างสูง เรียกเสียงหอบหายใจจากอีกฝ่ายที่กำลังยืนนิ่งและหลับตาพริ้ม เรียวนิ้วทั้งสี่ค่อยๆ เลื่อนลงมาข้างล่างตรงบริเวณเนคไทสีน้ำเงินอย่างเชื่องช้าและอ้อยอิ่ง คยองจูจับเส้นเนคไทและออกแรงดึงให้ร่างสูงโน้มเข้าหาเธอ ร่างเล็กเขย่งปลายเท้าเพื่อให้มีความสูงพอที่จะประทับริมฝีปากบนอวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย
รสจูบแบบเด็กประถมจากคนตัวเล็กสร้างความรู้สึกดีและพึงพอใจได้อย่างน่าประหลาด ในแบบที่จงอินเองก็ไม่เคยคาดมาก่อยด้วยซ้ำ มือร้อนของคนตัวสูงรั้งเอวคอดให้เข้าใกล้มากกว่าเดิม ลิ้นร้อนเป็นฝ่ายหยอกเย้าและเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่เจือไปด้วยความหวานบ้าง เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบและเสียงหายใจแรงจนดังลั่นไปทั่วห้องเรียน
กลับกลายเป็นว่าคยองจูต้องเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออกเสียเอง
“สนใจทำอะไรสนุกๆ ด้วยกันมั้ยคะ คุณหัวหน้าห้อง”————————
C U T
How to ขอพาสเวิร์ด
- ไปที่ทวิตเตอร์
@IDONAMJASHINGU และกดDM ไม่จำเป็นต้องกดฟอลก็ได้ค่ะ
- สำคัญสำหรับตัวไรท์เองด้วยมากๆ อย่าลืมกลับมาคอมเม้นท์ในเด็กดีหรือจะไปหวีดใส่ที่แท็ก
#รักแห่งไคซู ก็ได้นะคะ อยากอ่านมากๆ
————————
หน้าโรงเรียนไฮสคูล
“คยองจู”
“หื้ม? ว่าไงคะ?” เจ้าของริมฝีปากรูปหัวใจเอ่ยตอบรับพร้อมกับหันหน้าไปมองคนตัวสูงซึ่งเดินอยู่ข้างๆ
“อาทิตย์หน้าเรามีแข่งเบสบอล คยองจูจะไปเชียร์เราที่ข้างสนามมั้ย”
“อื้อ! ไปดิ ทำไมจะไม่ไปละ ต้องไปเชียร์แฟนตัวเองสิ แฟนจะได้มีกำลังใจและแข่งชนะด้วย” เมื่อคนตัวเล็กพูดจบ รอยยิ้มรูปหัวใจดวงกว้างก็ขยับขยายอีกครั้ง
“อ่าห์… เขินว่ะ” จงอินยกมือขึ้นมาเพื่อเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขิน
“เราก็เขินเหมือนกันแหละน่า”
“งั้น ตอนนี้ เราไปดูหนังกันนะ”
“ได้สิ อยากดูอยู่เหมือนกัน”
“ขอมือหน่อย จะจับ” คุณหัวหน้าห้องแบมือออกไปหาคนตัวเล็กข้างๆ เพื่อรอมือนิ่มๆ ของอีกฝ่ายมาประสานและกอบกุมเข้าด้วยกัน
“ทีหลังไม่ต้องขอหรอก ยังไงเราก็ให้จงอินจับอยู่แล้ว”
-///-
END.Talkเป็นครั้งแรกที่กลับมาแต่งสเปที่เป็นพาร์ทปัจจุบันและไม่แฟนซี55555 และเป็นการแต่งสเปที่ยาวชิพหาย ยาวมากๆ อ่านกันให้ตาแฉะไปเลยเด้อ
ขออธิบายนิดนึงตรงที่ว่าทำไมไม่อัพฉากคัทที่ธัญวลัยแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าต้องการเซฟตัวเองและไม่เสี่ยงที่จะถูกนำไปเผยแพร่ต่อ จะหาว่าเราเรื่องมากก็ได้ แต่เราต้องการเซฟตัวเองให้ปลอดภัยไว้ก่อนนะ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมคอมเม้นท์หรือแวะไปหวีดร้องดังๆ ที่แท็ก
#รักแห่งไคซู ออนทวิตเตอร์นะจ้ะ รักคนอ่านทุกคลโลยยยยย จู้บบบบบบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in