เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Experience - ประสบการณ์Pom Sogood
หนีปัญหา เข้าป่า กางเต็นท์
  •         หยุดยาวกำลังจะมาถึงทั้งที ในหัวของเราไม่มีอะไรให้คิดมากมาย นอกเหนือไปจากเรื่องเที่ยว วันหยุดก็ต้องไปเที่ยวสิใช่ป่าว!! เราไม่รีรอที่จะหาสถานที่ท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมและจะได้เตรียมสัมภาระไปให้ครบ จะได้ไม่ขาดเหลืออะไร อย่าคิดว่ามันง่ายนะ เราบอกเลยว่าการหาสถานที่เที่ยวนี่มันยากมาก เดี๋ยวอันนู้นไม่ดี เดี๋ยวอันนี้ไม่ใช่ คนที่จัดทริปด้วยตัวเองบ่อยๆจะเข้าใจดี 


            เราเริ่มจาก list รายการออกมาก่อนเลยว่าหยุด 4 วันนี้ สามารถไปไหนได้บ้าง ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลมากหนัก จากนั้นก็ค่อยๆตัดตัวเลือกที่ไม่เหมาะกับการไปเที่ยวช่วงนี้ออกไป หรือสถานที่ที่ไปยากเกินไป จากนั้นก็ค่อยๆ สรุปออกมาเป็น “ จุดกางเต็นท์ภูเล ” 


            เมื่อได้สถานที่แล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมของจัดกระเป๋า เราตื่นเต้นมาก จัดกระเป๋าเตรียมรอไว้ 1-2 วัน กลัวลืมของที่เอาไป 


            เหมือนจะดีใจนะที่สรุปสถานที่ที่จะไปได้ และจัดเตรียมของที่จะเอาไปครบทุกอย่างแล้ว แต่!!! ปัญหาก็มาจนได้เว้ย!! ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะไปเที่ยวหรอกนะ แต่มันคือเรื่องงานที่คาราคาซังอยู่ เราอุตส่าห์เครียงานทุกอย่างแล้วนะ เพื่อจะได้ไปเที่ยววันหยุดครั้งนี้แบบสบายใจ แต่งานมันไม่เลือกเวลา มันมาหาเราในวันสุดท้ายก่อนหยุดยาว งานเข้าดิครับ!!!!! แต่ยังไงก็จองที่เที่ยวไว้แล้ว เราก็จะไปเที่ยวให้ได้นั้นแหละ เพียงแค่รู้สึกกังวลงานที่อยู่เบื้องหลัง


            เหตุผลที่เราเลือก “ จุดกางเต็นท์ภูเล ” เพราะที่นี่ยังไม่ค่อยดังเท่าไหร่ คนไปเที่ยวยังไม่เยอะมาก เราก็เลยอยากจะไปเยือนซะก่อน ก่อนที่มันจะดังและมีคนไปเที่ยวกันมากกว่านี้


            เมื่อขับรถมาถึงเขื่อนหัวช้างแล้ว เราก็นั่งเรือไปยังจุดกางเต็นท์ เพราะมันอยู่หลบซ่อนหลังเขื่อนในจุดที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ทีมงานที่เป็นคนประสานงานดูแลเราเป็นอย่างดี ลงจากเรือปุ๊บ เราก็หันหลังกลับไปมองวิวของเขื่อนหัวช้างที่เราผ่าน มันช่างงดงามเหลือเกิน ก็ไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือยังไงให้มันเข้าถึงอารมณ์ ดูด้วยสายตาคือมันสุดกว่าจริงๆ ถึงตอนนี้เราก็กังวลกับงานของเราอยู่ แต่เราก็อยากเพลิดเพลินกับการพักผ่อนครั้งนี้ของเรานะ เราเลยเลือกที่จะหนีปัญหา นั่นคือหนีจากความรู้สึกที่กังวลอยู่ข้างในว่างานที่มีอยู่จะทำมันออกมาได้ดีมั้ย ตัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปให้หมด เหนื่อยมาตั้งเยอะนะ ขอแค่พักผ่อนแปปเดียวเอง ถึงยังไงเราก็ต้องกลับไปแก้ปัญหานั้นอยู่แล้วเมื่อจบทริป เวลานี้เราควรดื่มด่ำกับการพักผ่อน เพื่อเป็นการชาร์จพลังในตัวให้ดีที่สุดดีกว่า 


            จุดกางเต็นท์ภูเลมีธรรมชาติสวยงามมาก เงียบสงบ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ฟอกปอดอีกครั้ง มันรู้สึกดีมากๆเลย วันที่เราไปมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากเลยทีเดียว เราเข้าไปพูดคุยกับพี่กีตาร์ ผู้เป็นคนประสานงานกับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนที่นี่ พี่กีตาร์เป็นคนน่ารักมาก บริการอย่างดี ดูแลลูกค้าทั่วถึง ตอนจองเราไม่ได้สั่งอาหารไปด้วย เพราะรู้สึกว่าเป็นคนกินน้อย และเตรียมไปเองน่าจะคุ้มกว่าการจ่ายเพิ่มค่าอาหาร แต่พอตกดึก อากาศเริ่มหนาว ก็เริ่มมีการก่อกองไฟ พี่กีตาร์ชวนเราไปร่วมวงกินอาหารด้วย เราปฏิเสธไปว่าไม่เป็นไร เราเตรียมอาหารมาเองแล้ว แต่ดูเหมือนเค้าอยากให้เราไปร่วมวงด้วย เป็นแคมป์ปิ้งรอบกองไฟที่สนุกสนานมาก คืนนี้เราคงหลับไปพร้อมกับจันทราที่เต็มดวง และเมฆหมอกหนาตาที่ปิดบังไม่ให้เห็นดาวเลยสักดวง 


            นอนยังไม่ทันได้หลับลึก เสียงน้ำกระทบเต็นท์เป็นจังหวะ บ่งบอกว่าฝนกำลังจะมา ไม่ทันไรนั้น ฝนก็เทลงมาจากฟ้าแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ดีที่เต็นท์เราค่อนข้างแข็งแรง ไม่กระทบอะไรมาก แต่พี่กีตาร์ก็ยอมเปียก ฝ่าฝนมาดูว่ามีใครเป็นอะไรบ้าง เต็นท์กางแข็งแรงมั้ย เปียกหรือเปล่า ดูแลอย่างดีมาก


            ผ่านฝนเมื่อคืนมาได้อย่างปลอดภัย ตื่นเช้ามารับวันใหม่ที่แสนสดชื่น ที่นี่สวยมากเลยนะโอบล้อมไปด้วย ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร มีน้ำตกด้วย ความเขียวของต้นไม้ ใบหญ้า เสียงน้ำไหลจากลำธาร นั่งมองวิวภูเขา แค่นี้แหละเนอะ บางทีชีวิตก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เช้านี้เราต้องกลับไปเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว โลกที่มีปัญหารอให้เราแก้อยู่ แต่อย่างน้อยการได้มาพักผ่อนครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว โคตรมีความสุขจริงๆ 


            ก่อนกลับ แอบถามพี่กีตาร์นิดนึงว่า “ พี่เหนื่อยไหมครับ ดูแลนักท่องเที่ยวทั่วถึงขนาดนี้ ” พี่กีตาร์ตอบกลับแบบขำๆว่า “ ที่นี่บริการทุกระดับประทับใจเน้นเข้าในทุกรอบ อิอิ ” คำพูดเล็กๆแค่นี้มันบ่งบอกอะไรมากมายเลยนะ เค้าไม่ได้ทำทัวร์การท่องเที่ยวนี้เพื่อเงินมากมาย แต่เค้าทำเพราะเค้ามีความสุขกับมัน และที่มากกว่านั้นคือ เค้าแบ่งปันความสุขมาให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา อย่างล้นหลาม 


            ถึงเวลาแล้วแหละ ที่เราจะต้องแบ่งปันความสุขของเราให้กับคนอื่นบ้าง โดยเริ่มจากการแก้ปัญหาที่ค้างคาไว้ก่อนมาเที่ยวครั้งนี้ก่อน อย่างน้อยมันก็คงทำให้หัวหน้ามีความสุขล่ะนะ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in