เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายแปล✿ Peony ✿
รีวิว Save Our Spirit
  • Save Our Spirit《灵魂缓刑》

    ✿ ผู้แต่ง: เอ้อถวนซูเซิง 二团书生 
     สำนักพิมพ์: Lilac
     จำนวน: เล่มเดียวจบ (e-book)
     เรื่องย่อ:

    เรารู้จักกันมาเจ็ดปีแล้ว ฉันมาเป็นแขกที่นี่ทุกวัน
    นายก็เอาแต่ทำหน้าบึ้ง เมื่อไหร่จะตื่นมาเจอหน้าฉันซะที


         หวังเจว๋ เป็นผู้ป่วยมนุษย์ผักที่นอนบนเตียงมาหกปีแล้ว แม้จะขยับร่างกายไม่ได้แต่เขาสามารถได้ยินทุกเสียงจากโลกภายนอก วันเวลาที่แสนน่าเบื่อผ่านไปจนกระทั่งเข้าปีที่เจ็ด หมอเจ้าของไข้ก็เริ่มเริ่มพูดคุยกับเขาด้วยการแบ่งปันวิธีการสังหารคนโดยใช้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่สมบูรณ์แบบและไม่ทิ้งร่องรอย แต่ละคดีฟังแล้วน่าตกใจจนกระตุ้นเซลล์ประสาทหวังเจว๋เป็นอย่างมาก หวังเจว๋นอนไปฟังไปอยู่ครึ่งปีเต็ม แล้ววันหนึ่ง เขาก็ “ฟื้น” ขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ แต่แทนที่จะดีใจ เขากลับรู้ดีว่า — คนแรกที่จะรู้ว่าเขาฟื้นขึ้นมาคือหมอคนนั้น... หมอที่เล่าวิธีฆ่าคนให้เขาฟังทุกวัน

            คุณหมอ หลี่เวย มีความลับ 2 อย่าง หนึ่ง...เขาเป็นนักฆ่า สอง...เขาไม่เข้าใจอารมณ์ของมนุษย์เลยสักนิด ทว่าคนฉลาดอย่างเขาก็รู้ดีว่าต้องเล่นละครอย่างไรให้กลมกลืนไปกับสังคมนี้ ไม่นานมานี้เขาตัดสินใจเริ่มพูดคุยแบ่งปันวิธีสังหารคนให้คนไข้ซึ่งนอนเป็นมนุษย์ผักฟังทุกวัน กระทั่งวันหนึ่ง...มนุษย์ผักที่มีโอกาสรอดเพียง 1% แถมยังนอนไม่ได้สติมานานแปดปีกลับลืมตาขึ้นมา ด้วยเหตุนี้คุณหมอหลี่เว่ยจึงต้องเผชิญกับวิกฤตทางอาชีพแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน...

         ⚠️ Content warning มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ, มีความละเอียดอ่อนด้านจิตใจสูง, แนวคิดตัวละครที่บิดเบี้ยวไปจากสังคมทั่วไป, การใช้ความรุนแรง, การลักพาตัว, เลือด, ศพ และการฆ่าตัวตาย


     
           มาค่ะ!! เรื่องนี้บอกตรงๆว่านอกลิสต์สุดๆ แล้ววันนึงเหมือนพรหมลิขิตให้ได้มาเจอกันเพราะเราดันไถเวยป๋อไปเจออาร์ตกู้ดส์ฝั่งจีนที่เปิดพรีค่ะ โอ้โห แว๊บแรกคือคุณหมอหลี่หล่อมาก หล่อใจสั่นหวั่นไหว จนต้องรีบไปตามหานิยายมาอ่านเลยค่ะ เสียดายตรงที่ไม่มีแบบเล่ม เลยไปสอย e-book มาในราคา 189 บาทจากแอปส้มค่ะ และถ้าใครสนใจเรื่องนี้อย่าลืมอ่าน content warning เพื่อเซฟใจกันสักหน่อยนะคะ เพราะนี่คือนิยายที่ dark และ deep ตัวละครเทาๆดำๆ บางคนมีความคิดบิิดเบี้ยว อยากแก้แค้นสังคม เรียกว่าไซโคพาธได้เรียลมากจริงๆ ซึ่งเนื้อเรื่องใช้สมองเยอะ แต่ละคนสับขาหลอกกันไม่ไหว บางช่วงคืออ่านไปตะโกนไปว่า เชี่ยๆ อะไรเนี่ย แถมยังมีจุดพลิกไปพลิกมาเดาไม่ถูกเลยค่ะ ซึ่งหน้าที่ของคนอ่านก็คือต้องตามทุกอย่างให้ทันค่ะ

              สำหรับ Save Our Spirit 《灵魂缓刑》เป็นนิยายแนว Drama Triller ที่แฝงจิตวิทยาและความโรแมนซ์ไว้ได้ลงตัวมาก สำหรับเราคิดว่าพล็อตแปลกใหม่และปูเรื่องราวได้น่าสนใจเลยค่ะ เล่าถึง หวังเจว๋ คนไข้มนุษย์ผักที่นอนมาหลายปี วันดีคืนดี หลี่เวย หมอเจ้าของไข้ดันมาเปิดใจเล่าเรื่องวิธีฆ่าคนให้เขาฟังทุกวัน ทีนี้หวังเจว๋ก็ฟังจนตื่นขึ้นมาเลยสิ ซึ่งการตื่นขึ้นมาครั้งนี้มาพร้อมกับปัญหาที่ว่าจะหนีจากคุณหมอนักฆ่าได้อย่างไร (?) โดยการเล่าเรื่องของคุณนักเขียนจะค่อยๆสาวปมจากจุดนี้ออกมาเรื่อยๆ อ่านไปทึ่งไปเพราะมีอะไรที่คาดไม่ถึงซ่อนไว้อีกเยอะเลย

          
             จริงๆแล้วเรื่องนี้คือตรงจริตแบบไม่ต้องคิดมากสำหรับใครที่ชอบนิยายระทึกขวัญที่เล่นกับจิตใจทั้งตัวละครและคนอ่านค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โทนเรื่องค่อนข้าง dark และควรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย แต่ถ้าใครชอบตัวละครหลักฉลาด ทันเกม มีความโหด และความบ้าคลั่งพอๆกัน ฉากชิงไหวชิงพริบดุเดือด ตื่นเต้น แบบชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้ายมาก ส่วนเนื้อเรื่องยังแฝงปรัชญาให้ตีความ มีความเนิร์ดจากสาระวิทยาศาสตร์ สารเคมี และนิติวิทยาศาสตร์ด้วยค่ะ แบบวิเคราะห์ฉากฆาตกรรมจากเลือด 1 หยดบนพื้น 555 จริงจังมากจริงๆ ส่วนอีกจุดที่ชอบจะเป็นการเปรียบเปรยมุมมองชีวิตผ่านการเล่าเรื่องของตัวละครหลักและตัวละครคู่รอง มันทำให้รู้สึกอินกับข้อจำกัด และทัศนคติที่แต่ละคนยึดถือซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตของพวกเขา ตลอดจนบรรทัดฐานของสังคมที่นำมาตัดสินพวกเขาด้วย
     
            และถ้าจะพูดถึงจุดที่รู้สึกขัดใจก็คงเป็นเรื่องการแปลค่ะ บางช่วงรู้สึกว่าแปลออกมาทื่อๆไปนิด แล้วก็ใช้คำว่า “เขา” เยอะมากจนบางทีต้องหยุดคิดว่า “เขา” ตรงนี้หมายถึงใครกันแน่นะ? อีกจุดคือการเชื่อมโยงเรื่องราวของตัวละครต่างๆ และการถ่ายทอดออกมายังไม่ค่อยสมูธเท่าไร แบบพล็อตดีแต่ยังไม่กลมกล่อม ช่วงท้ายเรื่องก็ดูเร่งๆ และแผ่วปลายไปนิด ลาสต์บอสก็ตายง่ายเกินไป และถ้าใครคาดหวังว่าจะได้เห็นผลกรรมของตัวละครที่เป็นนักฆ่ามืออาชีพ คุณนักเขียนไม่ได้เน้นที่จุดนั้นเท่าไร แต่จะพาคนอ่านไปเห็นการชดใช้ผ่านการช่วยเหลือผู้คนแทนค่ะ


           มากันที่ตัวละคร หลี่เวย (Levi) ‒ นักฆ่าที่ไร้ความรู้สึกในคราบคุณหมอสุดเนี๊ยบ เขาคือศัลยแพทย์อัจฉริยะที่ฉลาดและแสดงเก่งจนหลอกคนทั้งโลกได้สบายๆ คุณหมอมีอาการย้ำคิดย้ำทำ เกลียดสิ่งของทรงกลม และหมกมุ่นกับความสมบูรณ์แบบแบบสุดโต่ง และด้วยความที่เขาถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็ก หลี่เวยจึงมีจิตใจที่เข้มแข็ง มองโลกด้วยความเย็นชา และมุ่งมั่นอยู่กับเป้าหมายเดียวคือ ต้องมีชีวิตรอดให้ได้! และถึงเขาจะเป็นเบอร์หนึ่งที่ทั้งหล่อและสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทว่าสิ่งที่เขาทำหล่นหายไปคือการเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์นั่นเอง

           และถ้าคุณคิดว่า หวังเจว๋ เป็นเพียงมนุษย์ผัก หรือ กระเจี๊ยบน้อย ที่ไร้พิษสง บอกเลยว่าคนคนนี้ซ่อนเร้นสิ่งต่างๆไว้มากกว่าที่คิดเยอะและเป็นตัวละครที่เชื่อมปมหลักต่างๆในเรื่องเลยทีเดียว เขาฉลาดหลักแหลม มีความเจ้าเล่ห์ จิตใจแข็งแกร่ง และมีวาทศิลป์จนทำให้คนคล้อยตามได้ง่ายสุดๆ เดิมทีเขาเป็นนักศึกษาฝึกงานด้านนิติเวช แต่โชคร้ายดันกลายเป็นผู้ป่วยนอนเป็นผักอยู่หลายปี ซึ่งประโยคที่ว่า บางคนก้าวข้ามกาลเวลา แต่บางคนกลับถูกกาลเวลาทอดทิ้ง นั้นสะท้อนชีวิตของหวังเจว๋ได้ดีมาก เขาตื่นขึ้นมาในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทว่ากลับไม่ยอมแพ้ แถมยังบ้าคลั่งดิ้นรนใช้ชีวิตต่อไปอีกด้วย ถือเป็นตัวละครที่เราชอบมากเลย


    นับจากนี้ไปฉันอยากจะเปื้อนเลือดของนาย 
    และร่วมรับบาปแห่งวินิบาตกรรมไปด้วยกัน ‒ หวังเจว๋ 


           แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของคู่นี้ แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงการฆ่าเวลาให้กันและกัน คนนึงเล่าเรื่อง คนนึงนอนฟังแก่เบื่อ แต่พอหวังเจว๋ฟื้นขึ้นมาเท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็พลิกผันกลายเป็นเกมระหว่างนักล่ากับเหยื่อที่ไม่ยี่หระต่อความตายในทันที แถมหวังเจว๋ยังมีไม้เด็ดเป็นสิ่งที่หลี่เวยสงสัยใคร่รู้และอยากหาคำตอบด้วย ซึ่งเกมประลองของสองคนนี้บอกเลยว่าสมศักดิ์ศรีแบบไม่มีใครเหนือกว่าเลยค่ะ ( = ⩊ = )

           และจุดนี้จะค่อยๆนำไปสู่ Character Development ของหลี่เวยที่ทำออกมาได้ดีมาก ในเรื่องจะพูดถึงสิ่งที่เรียกว่า AI ของหลี่เวย ซึ่งจริงๆก็คือกลไกความคิดที่ถูกฝึกมาให้คิดเป็นตรรกะ ไม่มีอารมณ์ และไร้ซึ่งช่องโหว่นั่นเอง แต่สุดท้ายไม่ว่าหลี่เวยจะถูกฝึกให้เป็นหุ่นยนต์นักฆ่าที่ไร้ความรู้สึกมากแค่ไหน พอมีหวังเจว๋จับพลัดจับผลูเข้ามาทำให้ชิ้นส่วนเล็กๆของกลไกนั้นหลุดออกไป ก็ดูเหมือนว่า AI ที่สมบูรณ์แบบเริ่มจะมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือน “มนุษย์” มากขึ้นทีละนิดนั่นเอง (☆ω☆) 

         ส่วนไดนามิกของคู่นี้เปรียบเหมือนการแทรกซึมของไวรัสที่ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก มันเต็มไปด้วยแรงดึงดูด และแฝงความคลุมเครือให้จั๊กจี้หัวใจ (⁄ ⁄>⁄ ▽ ⁄<⁄ ⁄) แถมยังไม่แยกแยะถูกผิด บิดเบี้ยว และพร้อมร่วมหัวจมท้ายรับกรรมไปด้วยกันด้วย ยิ่งซีนที่เฉลยเรื่องราวของพวกเขาคือมันว้าวจนเราตาลุกวาวเลย ดีมากจริงๆ ที่สนุกคือพอเฉลยปมแรกแล้วยังมีเรื่องราวให้ลุ้นต่อ ทั้งวัดใจและปวดใจกันจนหยดสุดท้ายเลย แม้จะมีบางปมที่ไม่ได้ขยี้ลึกลงไป แต่บทสรุปสุดท้ายของคู่นี้เราว่าปิดค่อนข้างดี โดยเฉพาะสิ่งที่หลี่เวยเขียนในวิทยานิพนธ์จบการศึกษาของตัวเอง ทุกความคิด ทุกข้อความของหลี่เวยมันเรียบง่ายมาก แต่กลับมีความอ้อน ความน่ารักอ่านแล้วเขินไปหมดเลยค่ะ ฮืออ ที่แท้ชอบคือการปวดตา รักคือความปวดใจ คนอะไรน่ารักจริงๆ!! 🫠💘

    ความชอบเป็นเหมือนกับคลื่นยักษ์ชัดสาด คือพลวัต 
    แต่รักกลับเป็นตะวันจันทราที่อยู่ชั่วนิรันดร์ คือความมั่นคง

    ตั้งแต่ที่นายปรากฏตัว ฉันถึงมีหัวใจ 
    มีชีวิตอยู่เพื่อติดตามนาย มีชีวิตอยู่เพื่อนาย ‒  หลี่เวย




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in