เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryVannaporn Aeh
ไปเที่ยวตรังแบบงงๆ ลุ้นๆ กับมรสุมก่อนปิดซีซั่น
  • ไปเที่ยวตรังมาแหละ เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นไปดูเป๊กที่สวนลุม ระหว่างรอดูคอนฯ ก็แวะซุ้มขายทัวร์แถวนั้น ไปสะดุดทัวร์นึงบอกว่านี่ครับๆ มีปะการังอ่อนให้ดูด้วยนะ เราก็ไม่รู้จักหรอกจะอ่อนจะแข็ง แล้วกลับมาเข้าไปดูเฟสทัวร์ซะหน่อย ของกินเพียบปูตัวใหญ่ๆ เราก็ว่าเออน่าสนใจว่ะ แล้วก็ตามไปงานท่องเที่ยวที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ไปจองทัวร์เลยซะงั้น ใจง่ายแท้ๆ ก่อนจะไปอาทิตย์นึง ทัวร์ไลน์มาบอกว่ามีพายุเข้า อาจจะไม่ได้ออกทะเล เรานี่เหวอเลยไรวะเนี่ย ไหนตอนจองป้าบอกว่าเที่ยวได้อ่ะ ช่วงกลาง พ.ค. อ่ะ เพราะว่าวันนั้นที่เค้าไลน์มาอ่ะ ทัวร์ที่ไปวันนั้นออกทะเลไม่ได้เลย มีทางเลือกให้ 3 ทาง 1.เที่ยวเหมือนเดิมถ้าออกเรือไม่ได้คืนเงินค่าเรือ 2.เลื่อนไปเที่ยวซีซั่นหน้า (แม่เจ้า! ค่าตั๋วเครื่องบินช้าน) 3.ยกเลิกทัวร์คืนเงินจอง เราก็แบบวิตกจริตมาก ยกเลิกดีมั้ยวะ แล้วจะยังไง ไปเอง? ที่พักล่ะ เที่ยวยังไงล่ะ อีก 2 วันจะไปแล้วไม่ได้หาข้อมูลอะไรสักอย่าง 

    แล้วเราก็เลยลองถามเจ้าของทัวร์เค้าดูว่าคนอื่นทำไง ก็บอกว่าคนอื่นเค้าไปเหมือนเดิม เราก็เอาวะลองเสี่ยงดู ไปก็ไป ออกเรือไม่ได้ถือซะว่าเปลี่ยนที่นอน เราก็ไปเลยเที่ยววันแรกผ่านฉลุยจ้า ลงเครื่องมาก็จัดติ่มซำ หมูย่าง ดิ่งตรงไปถ้ำเลเขากอบเลยจ้า นั่งเรือพายเล็กๆ ตอนพายเข้าไปแรกๆ สองข้างทางเป็นต้นไม้ก็ชิลๆ ดี พอถึงหน้าถ้ำแม่งเริ่มน่ากลัวละ ทุกคนต้องนอนเข้าไป พายไปเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นน้ำจืดมันจะไม่มีกลิ่นเค็มๆ เหมือนที่เคยไปถ้ำแถวพังงา เข้าไปมันจะมีส่วนที่เพดานสูงกว้างให้แวะ หินงอกหินย้อยสวยมาก มีหลายห้อง มีไฟฟ้าด้วยแหละ มีศาลเจ้าก็แวะไหว้พระขอให้กลับออกไปอย่างปลอดภัย อยู่ข้างในใจไม่ค่อยดีอ่ะ มันแคบหายใจไม่ค่อยออก ไม่มีลม บางที่ก็มืด ตอนออกลุงเค้าว่าเดี๋ยวไปลอดใต้ท้องมังกรกัน Unseen ของจังหวัดตรังเลยนะ ทุกคนนอนราบให้ติดพื้น ห้ามกระดุกกระดิก มันเป็นใต้ภูเขาที่มีเนื้อที่โคตรแคบ เรือค่อยๆ ผ่านเข้าไป ลุงเค้าจะใช้แขนดันเรือให้จมลงเพื่อมีพื้นที่ว่างระหว่างน้ำกับใต้เขา ค่อยๆ เอาเรือเข้าไปให้ได้ แล้วยิ่งเข้ายิ่งแคบเพดานจะชนจมูกอยู่แล้ว มีช่วงนึงด้านซ้ายที่พ่อเราอยู่แคบโคตรๆ พุงพ่อเราขูดกับหินอย่างแรง พ่อร้องโอ๊ยๆ ต้องแขม่วพุง ลุงยังจะขำ พุงเฮียชนกับพุงมังกรอ่ะ โชคดีแน่ๆ แล้วช่วงนี้ลุงก็พูดว่าให้ทิปได้นะครับๆ ลุงแบบโคตรมืออาชีพอ่ะ รู้ว่าเวลาไหนควรจะพูดให้ใจอ่อน คือเราเห็นว่าลุงแกใช้แรงเยอะมากในการดันเรือกว่าจะลอดผ่านไปได้ ระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่เรารู้สึกว่ามันไกลมาก ระทึกขวัญและน่ากลัวมาก ตอนออกมาได้นี่โคตรโล่งใจ

    เช้าวันรุ่งขึ้นนึกว่าจะไม่ได้ออกทะเลซะแล้ว ฝนตกตั้งแต่ตี 5 ดีที่แป๊บเดียวก็หยุด เราต้องรีบออกไปถ้ำมรกตแต่เช้า เพราะลมจะมาช่วงเย็น คลื่นจะสูง เรือจะออกไม่ได้ เราค่อยๆ ลงเรือทีละคน เกาะชูชีพคนข้างหน้าค่อยๆ กระดึ๊บๆ ไป หน้าถ้ำคลื่นค่อนข้างแรง มีเรือหลายลำด้วยแหละมันตีคลื่น ค่อยๆ ปั่นจักรยานเข้าไปในถ้ำ ข้างในมีหาดทรายเล็กๆ มองขึ้นไปบนปล่องถ้ำเป็นรูปหัวใจ เค้าถึงเรียกว่าถ้ำมรกตไง แล้วเรือก็พาไปเกาะกระดาน ดำน้ำดูปะการัง เราใส่หน้ากากอย่างดี พอกระโดดลงทะเลไปหายใจทางปากเต็มที่มีแต่น้ำทะเลล้วนๆ เฮ้ย! ทำไมมันหายใจไม่ได้อ่ะ เราโวยวายๆ จะจมแล้วๆๆ ช่วยด้วยๆๆ สักพักตั้งสติได้ไปเกาะเชือกแถวนั้น แล้วก็นึกขึ้นได้เออเราใส่ชูชีพอยู่นี่หว่าจะจมได้ไง สักพักเจ้าหน้าที่ว่ายน้ำมาบอกว่า อ๋อ ไม่มีวาล์วท่อหายใจ แล้วเอาอันใหม่มาเปลี่ยน ในใจคิด โห้ว กูเกือบตายนะเนี่ย แล้วเค้าก็ให้เกาะห่วงยาง ลากไปทางโน้นทีทางนี้ที ปลาว่ายตัดหน้าไปมา มีรังนีโม่ นีโม่นี่มันจะอยู่ในรังตลอดไม่ออกมา รังน้อยจังมีแค่ 2-3 ดอก ปะการังข้างใต้ก็สวย แต่ก็ไม่เหมือนที่เคยเห็นในสารคดี มันจะสีน้ำตาลๆ ไปหมด ไม่เหมือนในรูปภาพที่มีสีฟ้าม่วงชมพูไรงี้ ความรู้สึกที่ได้ดำน้ำครั้งแรกมันดีมาก รู้สึกเป็นอิสระ จะว่ายไปไหนก็ได้ไม่มีทางจมเพราะใส่ชูชีพอยู่ รู้สึกทะเลกว้างใหญ่มากๆ อ๋อ นี่เหรอ ปลาเก๋าตัวเป็นๆ ว่ายออกมาจากรัง น้ำทะเลบางทีก็มีกระแสเย็นๆ ไหลผ่าน บางทีก็อุ่นๆ เรารู้สึกว่าเป็นแค่ผู้มาเยือนตัวเล็กๆ

    ทริปนี้ก็มีทั้งดีและไม่ดี ไม่ดีคือเรื่องที่ไม่ตรวจสอบอุปกรณ์ดำน้ำให้เรา กับยุงเยอะมาก ตอนเรากินข้าวเย็นยุงมันจะมาเต็มเลย มันได้กลิ่นปู โดนรุมกัดยิ่งกว่าฝูงผึ้งต่อย เค้าก็เตือนแล้วแหละให้ทายากันยุง แต่เราไม่เชื่อไงคิดว่ากินแป๊บเดียว เรื่องที่ดีคือได้เที่ยวเต็มที่ เราได้เที่ยวเกือบครบทั้งวันแรกที่มา วันที่สองได้ออกทะเล ก่อนกลับเค้ายังพาไปเที่ยวในเมืองอีกนิดหน่อย เป็นทริปที่ดีๆ อีกหนึ่งทริปในปีนี้ เป็นแรงบันดาลใจของเราในการออกไปทำอะไรใหม่ๆ ต่อไป
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in