เธอเรียกชื่อเราพร้อมกับพูดชื่อจริงและประวัติที่ไม่น่าจะมีใครรู้ ท่ามกลางผู้คนในวงประชุมทุกคนอาจจะมองว่าเจ๋ง แต่สำหรับเรามันน่ากลัว เป็นครั้งแรกที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอกคงไม่ได้เจอแล้วแหละ ผ่านวันนี้ไปมันก็จะไม่น่ากลัวแล้ว
แต่ก็เหมือนเทวดาจะเล่นตลก เราเจอกันบ่อยขึ้น บ่อยเสียจนคิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของเธอแน่ๆ ในการเจอกันแต่ละครั้งไม่เคยธรรมดา เธอเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะต่างจากฉันที่เป็นคนเงียบๆมีเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คน พอเข้ามหาวิทยาลัยกลุ่มเพื่อนที่สนิทก็แยกย้ายกันไป เราต้องมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ช่วงรับน้องเป็นช่วงที่ทรมานแต่ก็สนุก เหนื่อยสุดๆ แต่ก็ยังเที่ยวได้ เวลาปี 1 ของฉันเกือบจะเหมือนกับวัยรุ่นคนอื่นๆทั่วไป จะแตกต่างก็ตรงที่ได้ "เธอ" ช่วยฉันไว้ ช่วยให้ฉันไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
ย้อนกลับไปช่วงค่ายรับน้องที่ต้องไปต่างจังหวัด เป็นธรรมดาของเด็กปี 1 ที่ระเริงแสงสี ที่จะอยากไปค่ายกับเพื่อนไปสนุกด้วยกัน คืนนั้นได้รับสายจากเธอ เธอพูดสั้นๆแค่ว่า "ไม่ให้ไป" ไม่มีเหตุผลสำหรับการห้ามในครั้งนั้น ถามแล้วถามอีกว่าทำไม มันไม่ดียังไง ก็เงียบและเปลี่ยนประเด็น ด้วยความดื้อดึงจึงตัดสินใจไปโดยที่ไม่บอก คืนนั้นภาพที่เห็นคือการที่รุ่นพี่ให้น้องกินเหล้า (จริงๆไม่กินก็ได้ แต่บรรยากาศมันกดดัน) รุ่นพี่คนนึงเดินเข้ามาพร้อมกับขวดสีชา พร้อมกับยื่นขวดให้...คำพูดของเธอลอยเข้ามากระทบหัวใจฉันอีกครั้ง...เข้าใจแล้ว ว่าทำไมไม่ให้ไป คืนนั้นก็หาช่องแล้วชิ่งออกมานอนอย่างเงียบๆ หลายคนสลบเป็นศพกองอยู่ตรงนั้น บางคนสภาพดูไม่ได้ มันต่างจากที่จินตนาการเราไว้ไกลลิบลับ
วันที่เดินทางกลับ...ฉันโทรไปหาเธอ พร้อมทั้งน้ำตาแล้วบอกว่า...เข้าใจแล้วว่าทำไมไม่ให้ไป คนที่เราเคยกลัว ว่าเขาจะเป็นความไม่ปลอดภัยของชีวิตเรา เขากลับพยายามช่วยเราไว้ แต่เป็นเราเองที่ดื้อจนได้เรื่อง เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกปลอดภัยแม้ได้ฟังแค่เสียง
Vintage Girl
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in