ช่วงก่อนที่จะไปแลกเปลี่ยนในหัวแอบสงสัย(ประมาณ 2 ปีก่อน) คนประเทศนี้นี่มันเป็นยังไงเราเคยได้ยินแต่สถานที่ท่องเที่ยว กับหน้าหล่อๆของคนประเทศนี้ ไหนกูเกิ้ลดูซิ
ผลปรากฏว่า...มีน้อยจนแทบเหมือนไม่รู้อะไรเลย ทำไมคะนี่กูต้องบุกเบิกเองทุกอย่างเลยสินะ จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย ได้!
เราก็เลยตัดสินใจเขียนในบล็อกเมื่อนานมาแล้วใน exteen แต่ด้วยความที่อยากเอามารีไรท์เขียนในนี้เหมือนกัน ถ้าคนเคยอ่านมาแล้ว ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ;w; คือบางทีก็เหงาไง บล็อกในมินิมอร์ร้างอะ เลยอยากหาอะไรมาลงมาเล่าเรื่อยๆ ในชีวิตจริงไม่ค่อยมีเพื่อนค่ะ เลยต้องมาพ่นเรื่องราวใส่คนในอินเตอร์เน็ตแทน ฮือออ 555555555 ภาพไม่ค่อยมีค่ะ ไฟล์ใหญ่ละขี้เกียจอัพลง มันเกิน 2mb อะ ขี้เกียจไปฝากรูปในเว็บอื่น ยุ่งยาก (อ้าว อินี่ ขี้เกียจไปอี๊ก) อาจจะมีคำหยาบประปรายค่ะ ตามประสาคนหยาบคาย /ไหว้ขอโทษ
ข้อเท็จจริงทั้งหมดรวบรวมเท่าที่เราเคยพบเห็น ‘ส่วนมาก’ และคนอิตาลีทุกคน ทุกเมืองอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ กรุณาใช้จักรยานในการอ่านด้วยนะคะ อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน
เราอ้างอิงจากเมืองที่เราเคยไปอยู่มาทางใต้ และมีทางเหนือก็คือ Bolzano ที่ดูไม่ค่อยจะอิตาเลียนเท่าไหร่ค่อนไปทางเยอรมันมากกว่า
เผื่อใครอยากอ่านเกี่ยวกับ Bolzano ก็ ที่นี่ค่ะ https://minimore.com/b/aqNAp/2 ช่วงไทอินแบบไม่เนียน
แล้วก็อิตาลีเป็นยุโรปครั้งแรกของเรา บางข้อหลายๆคนอาจจะรู้แล้ว ต้องขออภัยด้วยนะฮ้า *ก้มกราบงาม*
มา เริ่มเลย!
1.มื้ออาหารตอนเช้า ส่วนมาก จะเป็น ขนมปังกรอบ บิสกิต แครกเกอร์นม/ผลไม้ ซีเรียล สำหรับคนอย่างอิหยิน เหมือนขนมกินเล่นมากกว่า
มื้อเที่ยง - ไม่กินตอนเที่ยงกินตอนบ่ายค่อนไปทางบ่ายแก่ๆ หิวมาก มื้อเช้าพอยาไส้กูที่ไหนล่ะ ฮือออส่วนมากจะเป็นพวก พาสตา อะไรง่ายๆ กับขนมปังก้อนอีกแล้ว กินง่ายมากน้ำหนักก็ขึ้นง่ายมากตามไปด้วยค่า
มื้อเย็น - กินตอน 1-3 ทุ่มบางทีมืดตอนไหนก็กินตอนนั้นนั่นแหละ แต่กินหนักมากพอกินเสร็จแล้วมันเป็นเวลาที่ต้องนอนไง... ไม่บวมตาย ก็จะเป็นกรดไหลย้อนตาย กินคล้ายๆเที่ยงเช่นกัน แต่หนักกว่า น้ำหนักเราไม่ต้องพูดถึง พรวดขึ้นไม่หยุด
ส่วนวิธีการกินก็ส่วนมากใช้แค่มีดส้อม ช้อนเอาไว้ตักซุปอย่างเดียวเคยทำอาหารไทยแล้วหุงข้าวด้วย เลยใช้ช้อนส้อมกินพร้อมกันรุมถามกันใหญ่ว่าที่ไทยกินแบบนี้เหรอ ใช้สองมือได้ไง..
กินเสร็จเวลามีซอสติดจานก็จะฉีกขนมปังออกมากวาดแล้วก็กินต่อช่วงแรกเราก็ ยี้ ทำไมไม่ล้างดีๆอ่ะ แต่หลังๆมาเนี่ย ไหนๆขอหนมปังหน่อยสิกวาดจนจานเกลี้ยงสะอาดวิ้งวับเหมือนไม่เคยมีอาหารในจานมาก่อนเลยค่ะ...
2.อิตาลีจะมาเที่ยวต้องระวังตัว เป็นเรื่องที่เราเห็นในกระทู้พันทิปบ่อยมากจะไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆใครให้อะไรอย่ารับเด็ดขาด เพราะเรารับมามันจะถามเอาเงินทันที เกือบละครั้งนึง ถ้าเพื่อนไม่เตือนเราคงโดนไปแล้ว
บนรถไฟเส้นทางไปเมืองท่องเที่ยวก็จะมีพวกแบบทำเป็นสะสมแสตมป์ถืออัลบั้มรูปโปสการ์ดแล้วก็จะหลอกนักท่องเที่ยวให้มาดู พอดูเสร็จ มันนี่ๆๆ อะไรแบบนี้ อย่าไปยุ่งกับเค้าค่ะ เพราะเค้าอาจจะเก็บเงินเราได้
หรือบางทีก็พวกคนล้วงกระเป๋างี้อ่ะค่ะ อันตราย
จริงๆมันมีเทคนิคนะ เราอย่าพยายามทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว (ทำยังไงวะ?) คือทำเหมือนเราเป็นคนเอเชียที่รวย มีบ้านอยู่ที่นี่ วันนี้ออกมาเดินรับลมเล่นช็อปปิ้งในมิลานเฉยๆไรงี้.... แต่เราทำไม่ค่อยได้หรอก เราจะใช้อีกวิธี คือการทำหน้าให้ดูเป็นคนจน 555555 ไม่ต้องทำเลยบางที เพราะจนอยู่แล้ว ฮือ55555 (ทำไมเรื่องเศร้าเล่าแล้วเสือกตลก) จะเอาโทรศัพท์เหรอ เราใช้โนเกียนะ จะเอากระเป๋าตังค์เหรอ เรามี 5 ยูโรอะ เอาป้ะ ซื้อเลย์แดกยังไม่ได้ ถ้าโจรได้ไปก็มีแต่เวทนาและสงสารแทน โอ๋เอ๋นะจ๊ะพี่โจร 5555555555555
3.วัยรุ่นที่นี่ส่วนมากก็หล่อสวยเหมือนที่เราเห็นๆกันนั่นแหละแต่พวกนางคิดว่าตัวเองคูลมากมั้ง แต่งตัวคล้ายกันทั้งเมือง กางเกงหลุดตูดเสื้อยาวแทบถึงเข่า รองเท้าแบบเดียวกัน ทรงผมนี่ธรรมดาก็แยกหน้าพวกมึงไม่ออกอยู่ละ บางทีเดินผ่านๆ เอ้า คนนี้เคยเจอที่ไหนคือให้ฟีลเหมือนกันมากๆ เหมือนที่เขามองเห็นคนเอเชียเป็นคนจีนหมดนั่นแหละค่ะ เกิน 50% ของผู้หญิงในโรงเรียนจะทำผมลอนไม่ก็หยอยๆฟูๆ บรรยายไม่ถูก แต่มันเหมือนหมูหยอง
ผมตรงๆก็จะเป็นรีดมาซะเรียบ ไม่ค่อยมีใครผมเป็นธรรมชาติค่ะเพราะโรงเรียนที่นี่ไม่มีกฎเกี่ยวกับทรงผม จะไถข้างก็ได้ ทำสีก็ได้ยิ่งเสื้อผ้านี่ เด็กผู้หญิงที่นี่โตมากับแฟชั่นค่ะ แต่งตัวเป็นกันหมดบางทีเดินไปนี่นึกว่า โห เราอยู่มิลานแฟชั่นวีคหรือนี่
ไปเรียนกับรุ่นน้องแต่งหน้ากันเกือบทุกคนค่ะ มาสคาร่าขนตาแน่นมาก
4. ฝรั่งจะอึ้งมากกับการใช้ตะเกียบของคนเอเชียหรือเรื่องที่เด็กบ้านเราทำได้ง่ายๆอย่างหมากเก็บ
เพราะเขาไม่มีค่ะ เขาจะแบบสอนหน่อยๆ ทำไงอะ นั่นมันเร็วมากนะคุณเก็บหินทันได้ยังไง ตะเกียบจับยังไงอะ ถ้าอยากให้ฝรั่งทึ่งแนะนำให้ลองนะคะ
5.ฟุตบอลอยู่ในสายเลือด
ยิ่งเวลาไปเชียร์นะ ลากกันไปทั้งตำบลทั้งครอบครัว ตอนนั้นโฮสบราไปแข่งยิ่งใหญ่มาก ป้าข้างเราตะโกน บราโว แอนโตนิโอ วู้วววววววววววววว(นางกรี๊ดลูกชายนาง) อีกนิดป้าแกจะลงสนามไปเตะแทนลูกชายละ
โดยเฉพาะคลับฟุตบอลเมืองข้างๆนะแก โหย แซ่บมั่กๆ.....นี่ยอมไปดักรอตรงสถานีรถไฟตอนหกโมงเย็นเพื่อที่จะได้ส่องผู้ชายเวลาคลับเขาเลิก ละเขานั่งรถไฟกลับบ้าน #แม่จะต้องภูมิใจในตัวหนู #หนูชอบกีฬามากค่ะแม่
ไม่ใช่แค่ผู้ชายด้วยที่เชียร์ฟุตบอล ผู้หญิงบางคนก็คลั่งไคล้พอกันเคยไปดูที่จัตุรัสกลางเมือง นัดชิงเยอรมันอิตาลีสาวๆนี่ใส่สายสะพายชื่อนักฟุตบอลมาเลยกรี๊ดดังสนั่นหวั่นไหวและอินมากกว่าผู้ชายก็มี
5.คนอิตาลีจะชอบพูดคำว่า Allora (= คืออย่างนี้นะ แล้วแล้วก็) กับคำว่า Va bene (=โอเค ได้เลย) ได้ยินเป็นพันๆครั้งค่ะ ถ้าตกใจก็จะอุทานว่า Mamma mia! ไม่ก็Madonna คุณพระ! ตาเถรงี้ 5555555
เคยแปลภาษาอิตาเลียนไม่ออกแล้วเลยถามว่าถ้าคำนี้ในอังกฤษจะใช้ว่ายังไง
แกก็บอก แป๊บนึงนะ อัลโลร่า
หยิบโทรศัพท์ขึ้น ก็ อัลโลร่า
เปิดเคส อัลโลร่า
กดเข้ากูเกิลทรานสเลท อัลโลร่า
พิมพ์เสร็จ อัลโลร่า
ก่อนบอกคำแปล อัลโลร่า
กว่ากูจะเข้าใจภาษาอิตาเลียนหนึ่งคำ นับรวมคำว่า อัลโลร่า ไป 6 ครั้งถ้วน...
6.รถไฟ บางคนไม่ค่อยซื้อตั๋วค่ะ แล้วเห็นมีหลายๆคนที่ชอบทำ บางคนมีตั๋วอยู่แล้วยังไม่ใช้อาศัยเกาะคนอื่นเอาเพราะที่นี่เป็นระบบประตูและประตูเปิดนานมาก
ไม่เหมือน MRT BTS บ้านเราที่มีเจ้าหน้าที่คอยคุมที่นี่ไม่มี ถ้ามีก็ในเมืองใหญ่ๆ แต่ถามว่าเข้มงวดไหม ก็ไม่ เห็นวัยรุ่นทำถ้าเขาจับได้ก็ด่าแต่บางทีถ้าประตูสูงจากพื้น วัยรุ่นก็แอบลอดผ่านไปเลย เพราะมันลอดง่ายมากบางสถานีใหญ่ๆในเมืองอย่างนาโปลียังไม่มีแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ด้วยซ้ำ
มีครั้งนึงเราเคยซื้อตั๋ว แล้วก็มีผู้หญิงคนนึงวิ่งมาแทรกประตูไปกับเราด้วย อีผี
นี่ยืนจ้องนางเลยตอนที่รอรถไฟ จ้องด้วยสายตาคุณอุบล เอาสิ นังหน้าด้านหล่อนจะทำแบบนี้เหรอ ฉันจะขอสาปแช่งหล่อนไปชั่วกัปชั่วกัลป์ แรงแค้น 1.5 ยูโร ฉันจะเอาคืนมา
7.ระบบราชการทำงานช้ามาก เคยไปยื่นเรื่องขอพำนักในอิตาลีไรนี่แหละจำไม่ได้
ต้องแหกขี้ตาตั้งแต่ตีห้าอาบน้ำนั่งรถไฟเข้าเมืองไปรอ ขนาดไปเช้าแต่คนรอเต็มหน้าตึกเลยจ้า ประหนึ่งรอรับศิลปินแจกลายเซ็นมีทแอนด์กรีท
พอเจ้าหน้าที่ออกมา จากคนธรรมดากลายเป็นซอมบี้ยื่นใบข้อมูลกันแบบรังสีอำมหิตมาก ต้องแทรกตัวไปเอาบัตรคิว เพราเค้าแจกบัตรเอาไม่ใช่กดไปนั่งรอ ยื่นเอกสาร ตำรวจพูดอังกฤษไม่ได้อีก พอจะขอให้โฮสเข้ามาช่วยก็ไม่ได้กูเพิ่งมาอยู่ได้เดือนเดียวมึงรัวเหมือนกูเป็นเนทีฟสปีคเกอร์เลยนะ แต่ยังโชคดีค่ะที่มีคนเซเนกัลที่พูดอิตาเลียนได้ มาช่วยเราคุย เลยรอด
แล้วก็ยังมีคนรอข้างนอกอีกนะ น่ากลัวมากตอนทำเอกสารเสร็จก็ต้องฝ่าคนเยอะๆออกไป สรุปใช้เวลาทำเอกสารทั้งหมด 7 ชั่วโมงค่ะ ร่างแทบสลาย
8.พูดถึงเรื่องคนเซเนกัล (เซเนกัลเป็นประเทศเล็กๆในแอฟริกา)คนขายของในตลาดหรือทำงานส่วนมาก จะเป็นคนที่มาจากแอฟริกาซะส่วนมากค่ะไม่ก็คนบังกลาเทศ ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ บางทีเค้าก็จะยกของมาเป็นแผงเลยเพราะไม่จ่ายค่าเช่าที่ เวลาคนเก็บค่าเช่าที่มาเจอจะได้วิ่งหนีทัน เคยยืนเลือกหมวกอยู่ ดึงคามือเราแล้ววิ่งออกไปพร้อมถุงหมวกเลย ...แต่คนพวกนี้เรียนรู้เร็วค่ะ มาอยู่ไม่กี่เดือนก็ต้องรีบหัดพูดอิตาเลียนให้ได้ บางคนพูดได้ประมาณ4-5 ภาษาเลย เยอรมัน สเปน ต้องพูดให้ได้เพื่อความอยู่รอดล้วนๆเลย
9.คนอิตาเลียนชอบใช้มือเวลาพูดค่ะ มีสัญลักษณ์ท่าทางหลายๆอย่างเวลาพูดแถมเวลาพูดก็ชอบเสียงดังด้วย กระซิบก็ยังดัง บางครั้งตกใจ ทะเลาะอะไรกันรึเปล่าวะ
ระวังด้วยนะคะ บางทีมือที่เราทำอาจจะไปด่าเค้าอยู่ก็เป็นได้
แล้วโฮสซิสเคยนินทาคนอื่นให้เราฟังแต่เค้านั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้น เราก็ได้แต่ยิ้มแห้งแล้วส่งสายตาไปบอกคนนั้นว่า ฉันเปล่าด่าเธอนะคนข้างๆฉันต่างหาก ฮือ
ถ้าเคยเห็นมุกเจ้ามือจุ้มๆดอกบัวตูมอันนี้ในเฟซบุ๊คเยอะๆ มันก็มาจากคนอิตาเลียนนี่แหละค่ะ ดูจากวิดิโอนี้ได้ เราขำจนกรามค้าง 5555555555555555
10.ฝรั่งก็ซื้อหวยนะคะ เรียกว่าล็อตโต้ น่าจะมาจากที่เราเรียกกันว่า lottery โฮสบอกตัวเลขทุกตัวมีความหมายนะ สมมติว่าฝันเห็นอย่างหนึ่งก็ตีเป็นเลข 1,2,3ละก็ไปซื้อล็อตโต้ แอบอึ้งนิดหน่อยตอนที่รู้แต่ดีนะที่เขาไม่ไปขูดหวยตามต้นไม้ด้วย
11.อิตาลีก็มีแว๊นบอยสก๊อยเกิร์ล
แต่ไม่ค่อยแว๊นแบบขับรถปาดทำเสียงดังๆ แต่จะเป็นพวกแต่งตัวกางเกงโหลดต่ำ เสื้อลายแนวๆ ผมอันเดอร์คัต หล่อดีค่ะ ให้เป็นนายแบบ บางคนก็ยังเป็นได้อะ ส่วนมากเค้าจะชอบหมกตัวกันอยู่สถานีรถไฟตามเมืองใหญ่ ตกดึกพวกนางก็น่าจะเป็นคนเพ้นท์สีตามสถานีแหละค่ะ บางทีมองไม่เห็นชื่อสถานีรถไฟเลยเพราะพ่นสีบังป้าย รถไฟบางโบกี้แทบมองข้างนอกไม่เห็นเพราะโดนสีปิดทับทั้งโบกี้ก็มี มือบอนสุดๆ บางทีก็มีเขียนคำเสี่ยวๆ เช่น Ti amo ฉันรักคุณ ..หล่อนจะมาประกาศก้องโลกอะไรกันตรงนี้คะ รำคาญ
12. ราคาของกินเล่นในตู้กดอาจจะไม่เท่ากันทุกที่ แล้วแต่ใจเจ้าของตู้ในโรงเรียนอาจจะถูกกว่าที่สถานีรถไฟ 10-20 เซนต์
13.คนอิตาเลียน กินกาแฟต่อวันพอๆกับน้ำลิตรนึง ไม่หรอกก็ไม่เวอร์ขนาดนั้นค่ะ แต่เช้าก็กิน ระหว่างวันก็มีบ้าง หลังมื้อเที่ยงอีกแต่เราไม่ดื่มกาแฟนะ เคยชิมแล้วไม่ชอบ ทุกคนก็บ่นเราว่า บ้าไปแล้วว กาแฟอร่อยจะตายยย ถ้าไปบอกว่าอาหารเค้าไม่อร่อยมีสิทธิหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนะคะ 555555
เค้าภูมิใจมากจริงๆค่ะกับกาแฟของตัวเอง จะหาสตาร์บัคส์กินล่ะก็ฝันไปได้เลยค่ะ เพื่อนเคยบอกว่ามีสตาร์บัคส์เหมือนกัน แต่ก็เห็นมีแต่นักท่องเที่ยวไปกินค่ะ
อ้อ อย่านึกอยากกินคัปปุชชีโน่ในตอนบ่ายนะคะถ้าไปสั่งเค้าอาจจะขมวดคิ้วงงใส่เราได้ เราลองถามโฮสมัม แกบอกว่า ไม่รู้สิแต่ที่นี่ก็ไม่มีใครกินตอนบ่ายนะ มันเหมาะกับตอนเช้ามากกว่า เพราะมันผสมนมถ้าตอนบ่ายกินแล้วอาจจะไม่ดีต่อท้องละมั้ง
เคสนี้เราก็ยังสงสัยค่ะ เพราะคำตอบยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าอยากกินก็กินเอสเพรสโซแทนกันได้นะ
14.คู่รักที่นี่ รักกันปานจะกลืนกิน ทีแรกมันก็ยืนจับมือกันดีๆนะสักพักก็นั่ง ผู้หญิงก็เริ่มเอาขาพาดตัก อืม... สักพักเอาละเริ่มจ๊วบจ๊าบกันต่อหน้าเรา โอบกันงี้ โว้ยยยยยยยยยยย ลมพัดมาแล้วมึงจะปลิวหรือไง!! อากาศร้อนขนาดนี้ยังจะจับมือกันอีกมือไม่เปียกกันรึไง! #โสดแล้วพาล แล้วเป็นไรกัน ชอบมานั่งตรงหน้าฉันเนี่ยทำร้ายคนโสดไปมั้ย พวกผี ขอให้เลิกกันเร็วๆ หมั่นไส้ว้อย
เคยเจอเด็กประถมนั่งนัวเนียกันหน้าโรงเรียน อืม หนูลูกเมนส์มาหรือยังคะ
15.ที่นี่จะตอนเช้าๆถึงบ่ายสองจะเรียกเช้าอยู่นะ คนก็จะทักกัน Buongiorno! (บวนโจรโน่ = สวัสดีตอนเช้า) มีครั้งนึง มาร์ติน่าไม่สบาย เลยวานให้เราไปซื้อของให้ตอนบ่ายตอนนั้นน่าจะบ่ายสามกว่าๆ ก็กำลังใส่รองเท้าจะออกไปซื้อ นางบอก ไม่ใช่ตอนนี้นี่ยังไม่บ่ายเลย นี่นั่งงง ไทยบ้านกูบ่ายสามก็เรียกบ่ายนะ โฮสซิสเลยบอกว่าบ่ายก็ห้าโมงเย็นนู่น จะรีบไปไหน
คือถ้าฟ้ายังไม่มืด เค้าก็คงจะเรียกบ่ายกันต่อไป อืม..
16.แน่นอนว่าอากาศหนาว ก็ต้องมีฮีทเตอร์ แต่บางครั้งฮีทเตอร์ที่โรงเรียนไม่ทำงานค่ะ!
นักเรียนก็ประท้วงจ้า ยืนออกันหน้าโรงเรียนแต่ไม่ยอมเข้าตึกเพราะเขาไม่อยากเรียนกับอากาศหนาวๆ 5 ชั่วโมง......
โหยยยยยยยยยยยยย ทำมาเป็นทนหนาวไม่ได้! ร้อนไปก็ทนไม่ได้! มาอยู่ไทยมั้ย พวกกูเรียนแปดชั่วโมงแอร์ก็ไม่เย็น บางโรงเรียนไม่มีแอร์ด้วยซ้ำ ถ้าเย็นแบบนี้พวกฉันคงมาโรงเรียนกันทุกเช้าเลยนะจะบอก!
แต่คือครูก็เห็นด้วย แต่ส่วนตัวเราคิดว่ามันก็ไม่ได้หนาวเวอร์ขนาดนั้นอะ ก็พออยู่ได้ หรือเราไขมันหนา?
ครูก็รู้ว่านักเรียนจะไม่เข้าเรียน โดดกันทั้งโรงเรียน แต่ครูก็โอเค เพราะฟังเหตุผลด้วยว่าทำไมประท้วงนร.มีสิทธิ์ออกความเห็นได้ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่อิหยินก็ไม่มีโอกาสได้โดดสักที เพื่อนก็ถามหยินจะเข้าโรงเรียนจริงๆเหรอ ไม่ไปเที่ยวด้วยกันจริงๆเหรอยังไงวันนี้ก็ไม่มีใครสอนนะ แต่ลองเราโดดสิ ส่งกลับไทยแน่ๆ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิดดดด #ดราม่า
แล้วคือโฮสเราไม่เข้าใจอะ พยายามอธิบายว่าไปแล้วก็ไม่ได้เรียนแต่ก็ยังให้เราไป บอกมันไม่ใช่วันหยุดนี่ไม่มีเหตุผลจำเป็นที่คุณไม่ต้องไปโรงเรียน
แม่งเอ้ย...
17.คนอิตาเลียนสั่งน้ำมูกเสียงดังมาก บางคนมานั่งข้าง ฟื้ดดดดดดจนนี่สะดุ้งโหยงเลย เค้าบอกว่าการที่เราสูดเข้าไป แล้วมันก็ลงคอมันเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงค่ะ...
18.ฝรั่งก็มีเรียนพิเศษเหมือนกัน โรงเรียนจัดค่ะนักเรียนก็ต้องจ่ายตังค์ แต่ก็ไม่แพงมาก อาทิตย์ละครั้ง แต่เค้าก็ไม่เครียดมาก
แต่ส่วนมาก ฝรั่งจะชอบสนับสนุนให้ลูกเรียนพวกทักษะเสริมตั้งแต่เด็กๆมากกว่าอย่างเช่น ไปเรียนแต่งหน้า นั่งสมาธิ ดำน้ำ ปลูกปะการัง ทำอาหาร นวดสปา ปลูกป่าดำนา ดูดิสนีย์ออนไอซ์--
เฮ้ย ไม่ใช่ ก็พวกเรียนดนตรี เต้น กีฬา ความสามารถพิเศษนั่นแหละค่ะ
19.มะเขือเทศอิตาลีอร่อยกว่าที่ไทย
เราเป็นคนไม่กินมะเขือเทศ แต่พอมาอยู่นี่สถานการณ์บังคับให้กินอะไรก็ใส่ซอสมะเขือเทศ หนักหน่อยก็สปาเกตตีเปล่าๆกับมะเขือเทศ
สปาเกตตีไม่เยอะเครื่องเหมือนไทยนะคะ ไม่มีซอสราดอะไรเท่าไหร่เพียวๆแต่เส้นเลย ถ้าเรากินเปล่าๆมันก็จืดชืดเลยต้องกินมะเขือเทศตามไปด้วย แต่พบว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น เลยรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าที่ไทยค่ะ
20.สอบกลางภาคที่นี่ไม่ค่อยเครียด บางวิชาเปิดหนังสือได้ โต๊ะก็ติดกันเคมีถึงกับเปิดตารางธาตุให้เลย ข้อสอบก็ไม่เยอะ คณิต 8 ข้อ เคมี 10 ข้อ โอ๊ยยยยยย
แต่ถามว่าอิหยินทำได้ไหมก็ทำไม่ได้ค่ะ โง่มาก
แต่ถ้าเด็กไทยหลายคนมานี่คงทำได้หมดเราเรียนกันไปแล้ว
ตารางสอบเขาก็บอกก่อนวันสอบค่ะ สมมติสอบอังคาร เพิ่งบอกจันทร์แล้วก็บอกแค่สองวิชา (สอบวันละสองวิชาค่ะ...ทำไมดีขนาดนี้)
21.ร้านปรินท์กับถ่ายเอกสารหายากมาก คนไม่ค่อยใช้บ่อยใช้แค่เอาไว้ส่งเอกสาร แฟ็กซ์สำคัญๆ แต่นักเรียนนักศึกษาไม่ค่อยใช้ค่ะรายงานส่วนมากเน้นเขียนเอาแทน
22.หากฝรั่งบอกคุณว่า แก ไปเดินเล่นกันเถอะ!
นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะพามึงไปเดินห้างแบบสยามพารากอนมันจะพามึงไปเดินสวนสาธารณะที่มีขี้หมา และเดินกันเป็นล่ำเป็นสัน เดินเร็วมากเดี๋ยวใจเย็นๆ ขนาดเป็นคนเดินเร็วมาก เจอแบบนี้ละวิ่งตามค่ะ ขาสั้นเกินไป คือขาแหกเลยอ่ะเอาจริงๆ ฮือ เข้าใจคนอ้วนขาเบียดแบบฉันหน่อยนะคะ ขอร้องล่ะ
นอกจากนี้พวกนางก็จะนอนอาบแดดที่เก้าอี้ในสวนแล้วบอกคุณว่า วันนี้มีดวงอาทิตย์ด้วยสดใสจังเลย.....
คือมันก็ดีนะ บ้านมึงหนาวไง มีแดดก็ต้องดีใจสดใสแต่กูเติบโตและชินกับสภาพอากาศมาทั้งชีวิต
กูก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีอยากปฎิสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์มากขนาดนั้น....
มีครั้งนึง ไปกินข้าวเช้าที่บ้านทิเมอา โฮสมาปลุกตอนแปดโมง แล้วบอกว่าไปบ้านทิเมอากันนะ แต่เราจะเดินไป คุณจะได้เดินเล่นด้วย....
ใครบอกฉันอยากเดินเล่น?
หิว!!!! รีบ!!! จะกิน!!!
นั่นแหละ ก็จำต้องทนเดินไป แต่อากาศดี โอเค หยวนๆก็ได้เพราะเป็นใบไม้ผลิสภาพอากาศมันเขียวขจีเฉยๆหรอกนะ จริงๆเค้าชอบอากาศร้อนมากอะเคยเห็นคนใส่บิกีนี่อาบแดดกลางสวนสาธารณะด้วย โอ้พระสงฆ์...
ปล.เตรียมรองเท้าท่านให้พร้อม กรุณาระวังขี้หมาเนื่องจากสวนสาธารณะจะมีคนมากมายจูงน้องหมามาเดินเล่นนะจ๊ะ
23.เวลาขับรถ ถ้าร้อนเขาจะเปิดหน้าต่าง ไม่ใช้แอร์เวลาหนาวเขาปิดกระจก แต่ไม่เปิดแอร์ค่ะ...
นี่ฉันจะหายใจได้ยังไง ตอนไป school trip ที่นาโปลี บัสไม่มีกระจกแล้วเขาไม่เปิดแอร์เราจะตาย หายใจไม่ออก เวียนหัวคลื่นไส้มาก แต่เพื่อนเฮฮาปาจิงโกะ แด๊นซิ่งควีนบนรถมึงช่วยกูก๊อนนนน เรานั่งคอพับสลบบนรถไปแล้ว ลาก่อน
24.เครื่องเขียนจะใช้เหมือนกันแทบทั้งโรงเรียน ดีไซน์เดียวกัน อย่างกับสินค้าผูกขาด
ยิ่งกระเป๋าเป้แบรนด์ไหนฮิตๆ จะเห็นคนใช้ทุกๆสิบเมตร ส่วนตัวคิดว่าผู้ประกอบการอิตาลีค่อนข้างไร้หัวคิดในการออกแบบอุปกรณ์การเรียนให้น่าซื้อค่ะ เครื่องเขียนที่ไทยนี่สวรรค์และอลังการดาวล้านดวงไปเลย เมจิกร้อยสามสิบแปดสีดินสอไม้แบบแผงมาทุกเฉด คนอิตาเลียนควรมาศึกษานะคะ เราเคยมีดินสอรูปเข็มฉีดยาถือเอาไปกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลย...
25.ส่วนตัวคิดว่า ละครที่นี่กากมากถึงมากที่สุด กล้องก็ไม่นิ่งแถมฉากก็งั้นๆเหมือนเมคฉากถ่ายในสตูดิโอ นักแสดงก็หน้าตาเฉยๆแสดงแข็งด้วยแต่ก็คนดูเยอะ สนุกตรงไหนวะ แต่ก็ดูไปค่ะ ไม่มีตัวเลือกให้ชีวิตเท่าไหร่
ตอนที่เค้าเอาเชอร์ล็อคบีบีซีมาฉายช่วงบ่าย น้ำตาแทบไหลเสียงพากย์สุดยอดมาก...แปลไม่ออก แต่ก็มีอะไรดีๆให้ดูค่ะ เบเนดิกต์หล่อมากแต่เอามาฉายซีซั่นแรก พอจบแล้วก็หายไปเลย กลายเป็นรายการอะไรแทนไม่รู้...
26.ที่อิตาลีส่วนมากจะไม่ค่อยมีบ้านเป็นของตัวเอง ส่วนมากจะซื้ออพาร์ตเมนต์ หรือเช่าเอาค่ะ ส่วนนักศึกษาก็มีหอพักของมหาลัย หรือบางคนก็จะออกมาเช่าหารกันกับคนอื่นๆค่ะ
27.เวลาอร่อย เค้าจะพูดว่า Buono บวนโน่ๆ (แปลว่า ดีก็ได้ค่ะคำนี้) แล้วก็เอามือนิ้วชี้จิ้มแก้ม น่ารักดี เหมือนเด็กๆ
เรื่องตลกคือ ซิสเคยถามเราว่า บวนโน่ในภาษาไทยคืออะไร เราเลยตอบไปว่า อร่อย
ละนางจะชมผู้ชายเพื่อนเราที่เป็นคนไทยว่าหล่อ นางเลยบอกว่า เขาอร่อยมากๆ (ในความคิดของนางคือจะบอกว่า เขาหล่อดีมากๆ) เราขำก๊ากกกกกกกกกกกก ยูๆ มันใช้กับคนไม่ได้นะอันนี้ อันตรายมากๆ 555555555 ใช้คำว่าหล่อแทนนะ อร่อยอันนี้ได้แค่กับของกินจ้า
28.ส่วนมากที่นี่ไม่มี shopping mall ใหญ่ๆ แบบพารากอน เซ็นทรัล บิ๊กซี โลตัส นะคะ
ถ้ามีก็เมืองที่นักท่องเที่ยวเยอะๆ ที่เคยเห็นแถบนี้ก็ปอมเปอีอ่ะค่ะ แต่ยังไม่เคยไปเลย เขาชอบใช้ supermarket มากกว่า จะเป็นซุปเปอร์มาร์เกตเล็กๆในเมืองอะแหละ แล้วที่เป็นนิสัยประจำของคนอิตาลี คือการลิสต์ของที่อยากซื้อ ไม่ซื้อเกินนั้น เวลาได้ใบเสร็จมา เขาก็จะหย่อนลงถุงที่ใส่ของ ทุกคนเลย ขัดกับคนไทยที่เวลาได้ใบเสร็จมาจะใส่กระเป๋าตังค์แทน (อิหยินมีแต่ใบเสร็จแต่ไม่มีตังค์ค่ะ..) หรีือไม่ก็เอาทิ้ง
แต่ถึงกระนั้น เค้าก็ยังอวดเรามากว่าห้างใหญ่อลังการมากเลย เปิดรูปให้เราดู /me ยิ้มอ่อนแล้วเปิดรูปเซ็นทรัลขอนแก่นทับ ประเทศฉันมี 6 ชั้นโว้ย 3 ชั้นอย่างหล่อนอย่ามาทำเป็นคุย!
29.เป็นชนชาติที่ใช้เวลาบนโต๊ะอาหารนานมาก ช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ ขลุกอยู่ในครัวทั้งวัน ทำกับข้าวก็ค่อนวัน กินอีกทั้งคืน เราอยากเอาคองัดโต๊ะตายมาก จะหนีไปนอนก็หนีไม่ได้ เดี๋ยวเสียมารยาท ก็ดูทีวีกินไปอยู่นั่นแหละค่ะทั้งคืน กินจนร้องไห้ ท้องจะระเบิด
30.คนที่นี่ใช้ตัวเขียนมากกว่าตัวพิมพ์ เขียนแบบพันๆกัน หวัดไปหวัดมาอ่ะค่ะ
ตอนเพื่อนซื้อสมุดหัดเขียนมาให้ เขาสอนกันมาตั้งแต่อนุบาลเลย ลายมือแบบนั้นทุกคน
ส่วนมากไม่ค่อยมีใครเขียนตัวพิมพ์ ปัญหามาอยู่ที่เราค่ะทีนี้ อ่านไม่ออกว่าเขาเขียนไร ถามจนเพื่อนรำคาญ ถถถถ ขนาดเราลายมือเห่ยๆ แต่เขียนเป็นตัวชัดๆ เพื่อนยังบอกลายมือน่ารักจัง ปริ่มค่ะ
แต่พอกลับมาไทย ติดนิสัยเขียนหวัดมาใช้ที่ไทย เพื่อนดันบอก ลายมือมึงเหมือนผู้ใหญ่เลยอะ สวยจัง..
ควรทำตัวยังไงดีคะ...
เอาไปสามสิบข้อก่อนละกันค่ะ ถ้ามีคนอ่านต่อไป เราอยากจะเอาเรื่องเราตอนอยู่นั่นมาลงด้วย เรื่องบ่นๆขีดเขียนๆเรื่องชีวิตตอนอยู่ที่นั่นแหละค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ///__\ เขินจัง
กลับมาตั้งจะเกือบ 2 ปีแล้ว แต่พอได้กลับมาเขียนก็ยังสนุกทุกครั้งที่เล่าอยู่เลย ทุกวันนี้เพื่อนแทบจะรำคาญแล้วค่ะ เพราะเราเล่าให้เพื่อนฟังบ่อยเกิน 5555555555555
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้ค่ะ ยังไงก็ถ้าใครเคยพบเห็นที่แตกต่างจากนี้ หรืออยากแย้งเราในข้อไหนที่ไม่จริง สามารถคอมเม้นได้เลยนะคะ :D
หยินเอง <3
ปล. มือดอกบัวนี่พอเห็นแล้วนึกถึงเรื่อง inglourious basterds ฉากที่มีคนปลอมตัวเป็นคนอิตาเลี่ยน พอแนะนำตัวพูดชื่อตัวเอง แล้วทำมือแบบนี้ โอยยย... เพิ่งเก็ทก็วันนี้ ฮาย้อนหลัง