เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เราไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่คนเดียวBUNBOOKISH
เด็กชายผู้เฝ้ารอของขวัญจากซานตาครอส



  • เมื่อถึงคืนก่อนวันคริสต์มาส ผมมักได้ยินผู้ใหญ่บางบ้านบอกให้เด็กรีบเข้านอน โดยให้เหตุผลว่าเดี๋ยวจะมีซานตาคลอสแอบย่องมามอบของขวัญให้ตอนหลับ บางบ้านหลอกเนียนหน่อยก็บอกให้ลูกน้อยแขวนถุงเท้าเอาไว้ เดี๋ยวจะมีคนใจดีมาหย่อนของขวัญไว้ในนั้นและเมื่อตื่นมาพบของขวัญกล่องโต เด็กส่วนใหญ่จึงปักใจเชื่อว่าซานตาคลอสมีจริง

    ไม่มีใครตั้งคำถามหรอกว่า ในโลกนี้จะไปมีใครที่ใจดีขนาดอยู่ๆ ก็มาให้ของขวัญ

    ด้วยความที่สมัยประถมผมเรียนโรงเรียนคาทอลิก วัยเด็กของผมจึงอยู่ในบรรยากาศที่ขับให้ความเชื่อเรื่องซานตาคลอสยิ่งหนักแน่น ไม่ได้หมายถึงซานตาคลอสที่เอาคนอ้วนมาใส่ชุดมาสคอตหลอกเด็ก แต่หมายถึงซานตาคลอสจริงๆ ที่ขี่เลื่อนลากด้วยกวาง-เรนเดียร์ มีของขวัญเต็มถุง และชอบย่องเข้ามาทางหน้าต่างกลางดึกเพื่อหย่อนของขวัญไว้ในถุงเท้าให้เด็กๆ

    พอโตมาถึงรู้ว่าถ้าเราเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ไม่เพียงจะไม่มีของขวัญในถุงเท้า แต่ของมีค่าในบ้าน รวมทั้งถุงเท้าคู่นั้นอาจหายไปด้วย

    แม้ไม่ใช่เด็กที่ตื่นมาเจอของขวัญในถุงเท้า แต่การได้รู้ว่าซานตาคลอสมีจริงก็เป็นความสุขเล็กๆ ในวัยเด็กของผม อย่างน้อยมันก็เป็นความหวังว่าสักวันของขวัญจะแวะเวียนมาถึงมือเด็กคนนี้บ้าง

    ไม่แน่ใจว่าคุณลุงหนวดขาวหุ่นอ้วนท้วนสวมชุดแดงหายไปจากชีวิตช่วงไหน อาจเป็นวันที่รู้ว่าของขวัญที่ห้องของเด็กๆ มันเป็นฝีมือของผู้ใหญ่ในบ้าน ไม่ใช่ซานตาคลอสที่ไหนหรอก

    คงเหมือนวันที่รู้ความจริงว่าอุลตร้าแมนไม่มีจริง หรือไอ้มดแดงเป็นเพียงเรื่องหลอกเด็กนั่นแหละ วันหนึ่งเราจะรู้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีใครมากระซิบเฉลย เพียงแต่ผมรู้สึกลึกๆ ว่าเด็กไม่ควรรู้เร็วเกินไปว่าซานตาคลอสไม่มีจริง

    การที่ผู้ใหญ่บอกเด็กให้รีบเข้านอนเพื่อรอของขวัญจากซาน-ตาคลอส จึงเป็นมุกหลอกเด็กที่ผมได้ยินแล้วต้องหลุดอมยิ้มทุกที ถ้าวันหน้ามีลูกผมก็คงเลือกที่จะหลอกเขาแบบนี้ มันเหมือนเป็นหลักฐานยืนยันว่าครั้งหนึ่งเราเคยรู้สึกดีที่ตอนเป็นเด็กเคยโดนหลอก

    พอโตมาเราจึงหลอกเด็กน้อยที่เรารักต่ออีกที

    ซึ่งนี่คงเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่พอผมรู้ว่าโดนหลอกแล้วไม่โกรธ.



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in