คนที่รู้จักผมจริงๆ มักบอกว่า สิ่งที่ผมเขียนไม่เหมือนสิ่งที่ผมเป็น
ส่วนใหญ่เวลาได้ยินอย่างนั้นผมมักเลือกที่จะยิ้มเขินๆ ไม่อธิบาย เพราะเชื่อว่าถ้าจะอธิบายให้เข้าใจ เราอาจต้องนั่งคุยกันเป็นวันว่าแท้จริงผมเป็นคนยังไง—เจออะไรมาบ้าง
แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่ได้ปฏิเสธถ้อยคำที่ว่านั้น เพราะเมื่อย้อนทบทวนก็เห็นด้วยดังคำที่เขาว่าทุกประการ
ตัวจริงของผมยามอยู่ในหมู่เพื่อนฝูงนั้นร่าเริงกว่าตัวหนังสือของผมแบบเทียบกันไม่ได้ ผู้ที่ได้รู้จักมักจะได้หัวเราะร่วมกัน มากกว่าที่จะมานั่งปรับทุกข์เรื่องความสัมพันธ์หรือทบทวนเรื่องความโดดเดี่ยว
หากให้ย้อนทบทวนว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะสิ่งที่ผมคิดและเขียนออกมามักเกิดขึ้นยามผมอยู่คนเดียว
ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหม เวลาอยู่คนเดียวมักนั่งทบทวนถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่ได้พบเจอในชีวิต แต่ผมเป็น อาจเป็นคนที่พบเจอกันเมื่อเช้านี้ เมื่อวานนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อปีที่แล้ว หรือเมื่อนานมาแล้ว
พอเป็นอย่างนั้น มันก็ตลกไม่ออก
ความสัมพันธ์มักผูกกันกับความคิดถึง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่มีความสามารถมากพอจะเอามาเขียนล้อเล่นหรือเล่ามันด้วยอารมณ์ขันร้ายกาจอย่างเช่นนักเขียนบางคนที่ผมเคารพ
สิ่งที่ผมพอจะทำได้คือเขียนอย่างที่รู้สึก สุขก็บอกว่าสุข เศร้าก็ว่าบอกเศร้า คิดถึงก็บอกว่าคิดถึง
ห้าสิบเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ก็เช่นเดียวกัน มันเป็นเพียงความทรงจำที่ผมระลึกถึงยามอยู่คนเดียว บางเรื่องซีดจางจนต้องนั่งทบทวนหลายนาที ในขณะที่บางเรื่องยังคงปรากฏชัดเจนจนแปลกใจ
แม้ด้วยหน้าที่การงานทำให้ผมต้องคลุกคลีอยู่กับการเขียน แต่ก็ไม่ใช่การมานั่งเท้าความทรงจำแล้วพิมพ์มันออกมาเป็นเป็นตัวอักษรแบบนี้ กว่าจะเขียนเสร็จแต่ละตอนจึงต้องใช้พลังงานมากกว่าแค่การพรมนิ้วลงบนคีย์บอร์ด
และการที่ต้องมานั่งย้อนทบทวนเรื่องราวในอดีตเพื่อหาเรื่องมาเขียน ทำให้ผมพบว่าไม่มีเหตุการณ์ไหนหรอกที่เรารู้สึกเท่าเดิม แม้แต่เหตุการณ์ที่เศร้าที่สุดมันก็จะเศร้าลดลงมาหน่อย
ถ้าเป็นดอกไม้มันก็ไม่สดเหมือนตอนแรก ถ้าเป็นบาดแผลมันก็ไม่สดเท่าตอนเริ่ม
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวเหล่านี้ไร้ค่าหรือไม่น่าจดจำแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เมื่อเวลายิ่งผ่านไปเรื่องเหล่านี้กลับยิ่งน่าทบทวน แม้เรื่องราวในขณะเกิดเหตุการณ์นั้นจะขมขื่นแค่ไหนเพราะอย่างน้อยเราสามารถผ่านมาได้โดยที่ยังหายใจเป็นปกติ
จึงอาจกล่าวได้ว่าตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้คือความรู้สึกของตัวผมยามอยู่คนเดียว และใครหลายคนก็คงมีเรื่องราวความทรงจำเกี่ยวกับความสัมพันธ์อยากเล่าให้ใครบางคนได้ฟังยามอยู่คนเดียวเช่นกัน
ท้ายที่สุด, สำหรับคนที่รู้จักกัน หนังสือเล่มนี้เป็นเพียงความรู้สึกหนึ่งยามผมไม่มีใครชงมุก
และสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักกัน หวังว่าวันหนึ่งเราจะได้หัวเราะด้วยกัน อย่างน้อยสักครั้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in