หลังจากที่อีพีแรก Days Are Gone ประสบความสำเร็จ Haim ก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปเสียทีเดียว ก็ยังได้ไปฟีตกับ Calvin Harris - Pray To God  ให้พอได้เห็นหน้าค่าตาบ้าง และเมื่อเริ่มปรับตัวหลังจากทัวร์ติดต่อกันเป็นเวลานานได้ พวกเธอก็เริ่มเขียนเพลง แต่กลายเป็นว่าพวกเธอบีบคั้นตัวเองจนเกินไป ทำให้รู้สึกว่าที่เขียนออกมาดีจริง ๆ แล้วหรือ กระทั่งได้รับโทรศัพท์ให้ทำเพลงประกอบหนังเรื่อง Trainwreck  ภายใน 1 สัปดาห์เท่านั้น! จนออกมาเป็นเพลง Little Of Your Love ที่แม้ท้ายที่สุดจะไม่ได้ใช้ในหนัง แต่ก็เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้พวกเธอเขียนเพลงได้รัว ๆ ราวกับอ้วกออกมาก็ไม่ปาน

อนึ่ง แต่ละเพลงก็จะมีท่อนที่เราขอเรียกว่าซิกเนเจอร์ อย่างเพลง Want You Back เราชอบ I was too proud to say I was wrong. มาก หรือเพลง Right Now เราชอบ You had me hanging on a dream you never believed. ซึ่ง process การเขียนก็มาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ไม่ค่อยอยากเปิดเผยต่อสาธารณชนเท่าไรนัก กว่าจะรู้ว่าอารมณ์แต่ละเพลงไปทิศทางไหนก็ตอนสุดท้ายที่ได้ฟังเพลงนั้นเมื่อเสร็จแล้วนั่นแหละ

เวลาแต่งเพลงสามศรีพี่น้องก็ชอบแต่งด้วยกัน โดยใช้กลองกับเปียโน และเริ่มแต่งจากวลีหรือประโยคหนึ่งจนเป็นเพลง ซึ่ง Something To Tell You  มีทั้งหมด 11 เพลง ได้แก่

1. Want You Back

เราชอบเพลงนี้มาก เป็นเพลงที่ทำให้เราเดาได้เลยว่าอัลบั้มนี้ป๊อปขึ้นแน่นอน เพราะฟังง่าย ย่อยง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งสาว ๆ ให้สัมภาษณ์กับ Pitchfork  ว่าตอนแรกเพลงนี้เป็นเพลงอะคูสติกช้า ๆ แล้วไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มคิดว่าแบบนี้มันไม่เวิร์กแล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง จึงทำให้จังหวะเร็วขึ้น แล้วก็บู้มกลายเป็นเพลง Haim ที่สมบูรณ์แบบไปเลย

2.Nothing's Wrong

เพลงนี้ไลน์กีต้าร์ดีมาก อารมณ์คันทรี่สุด ๆ เอสตีบอกว่าตอนเขียนเพลงนี้อีโมมาก เปรียบกับสถานการณ์แบบขว้างสปาเกตตีบนกำแพง ซึ่งเอสตีขว้างสปาเกตตีซอสเนื้อเน้น ๆ จนน้อง ๆ ต้องไปเอาบางส่วนออก (เป็นการเปรียบเทียบว่าเอสตีเขียนเพลงอีโมเกินไปจนน้อง ๆ ต้องห้ามไว้) Sleeping back to back, you're turning away. So how could you tell me nothing's wrong?

3. Little Of Your Love

เราโคตรชอบเพลงนี้ จังหวะแบบ oldies but goodies ที่แท้จริง ฟังต่อจากเพลงที่แล้วทำให้ปรับอารมณ์ไม่ค่อยถูก (ฮา) แต่เป็นเพลงที่เต้นตามสนุกมาก ๆ 

4. Ready For You

เพลงนี้อิเล็กทรอนิกส์หน่อย ๆ อีกทั้งเพอร์คัชชันเยอะทำให้ติดหูได้ไม่ยาก เอสตีบอกว่าชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้ม เห็นภาพตัวเองวิ่งขณะร้องเพลงนี้บนถนนได้เลย อลานาจึงเสริมว่าถ้าเห็นผู้หญิงท่าทางบ้าบอคนหนึ่งวิ่งอยู่บนถนนแถวบ้านคุณ... และเอสตีพูดต่อว่าถามตัวเองได้เลยว่านั่นใช่เอสตี ไฮม์หรือเปล่า (ฮา)

5. Something To Tell you

เพลงนี้มีเว้นจังหวะเยอะดี เป็นเพลงที่เอสตีได้โชว์ฝีมือ slap bass อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลายคนคงรู้ว่าเอสตี bass face ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของวงเชียว ถ้าได้ดูไลฟ์คงสนุกไม่น้อย

6. You Never Knew

เรารักเพลงนี้มาก พอรู้ว่าได้ Dev Hynes มาร่วมเขียนเนื้อด้วยก็ยิ่งรัก เนื้อเพลงประมาณเธอไม่มีทางรู้เลยสินะว่ามีของดี (ฉัน) อยู่กับตัวแล้ว ซึ่งอลานาก็ขยายความว่า "เพลงนี้ค่อนข้างหน่วง แต่วงของพวกเราต้องออกทัวร์เยอะมาก การเป็นผู้หญิงที่อยู่ในจุดที่มีพลังขนาดนั้น แล้วกลายเป็นว่าการออกทัวร์คือข้ออ้าง ฉันไม่ได้หายไปแค่วันนี้ บางทีฉันหายไปเป็นเดือนด้วยซ้ำ แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อมันคืองานและสิ่งที่ฉันรัก ฉันไม่มีทางเลิกเพราะใครทั้งนั้น คุณต้องรับข้อนี้ให้ได้ และฉันรู้ว่ามันยาก"

7. Kept Me Crying

สำหรับเราเพลงนี้เฮิร์ตสุดในอัลบั้มแล้ว

8. Found It In Silence

ในอัลบั้มนี้แดเนียลบอกว่ามี trilogy อยู่ได้แก่ Nothing's Wrong, Something To Tell you และ Found It In Silence  เราว่าเพลงนี้แกรนด์มากตรงที่ได้เครื่องสายมาช่วยให้เพลงมีสีสันขึ้น และimpact ขึ้น ซึ่งไฮม์ก็โดนถามว่าแล้วจะไลฟ์ยังไง อลานาตอบว่าเดี๋ยวคงหาทางได้เองแหละ ซึ่งอันที่จริงแล้วตอนไลฟ์ก็ไม่ได้เล่นเครื่องดนตรีทุกชิ้นอย่างตอนอัดเพลงอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้ครองโลกไปเรียบร้อย 

9. Walking Away

เพลงนี้ดนตรีไม่เยอะ แต่ใช้เสียงร้องฮึมฮัมไป อารมณ์แบบเพลงมารายห์ แครีมาก ชอบ 

10. Right Now

เป็นเพลงแรกที่ Haim ปล่อยออกมา ตอนฟังครั้งแรกเราก็เหวอ 

11. Night So long

เราชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้ม ดีมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนกลอนที่มีทำนองอะไรแบบนั้นเลย

สำหรับเราอัลบั้ม Something To Tell You  ของ HAIM เป็นอัลบั้มที่พวกเธอโตขึ้นและรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร แล้วก็ทำออกมาให้ดีที่สุด เราในฐานะแฟนเพลงก็จะคอยสนับสนุนพวกเธอ และหวังว่าหลายคนจะชอบและเห็นความสามารถของสาว ๆ เช่นกันนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้จากใจจริง ไว้เจอกันใหม่อัลบั้มหน้า ^_^ 

Sources: