เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แอ็ดมิทจิตเวชNoot Tharara
เรื่องเล่า ขณะที่เราอยู่ในธีมซึมเศร้า พาร์ทวัน
  • หลังจากที่เราไม่ได้มาที่นี่สักพัก พักใหญ่ ๆ เลยแหละ เหตุผลหลัก ๆ คือเรากำลังจมอยู่ในช่วงซึมเศร้า เราไม่มีใจจะทำอะไรเลยรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านบล็อกนี้ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นอะไรที่เราชอบทำมากชอบเป็นอันดับต้น ๆ ของสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขเลย

     

    ด้วยเหตุข้างบนวันนี้เราก็เลยจะมาเล่าเรื่องความรู้สึกที่เราเพิ่งรู้สึกต่อความสุขจากที่เคยเล่ามาก่อนหน้านี้ หรือสิ่งที่เรา ๆ ท่าน ๆ น่าจะรู้เกี่ยวกับโรคไบโพล่าร์คือ ถ้าไม่สุขเกินไปก็ทุกข์เกินไปเปลี่ยนธีมไปเปลี่ยนธีมมา (เพื่อนเราให้คำนิยามของ mood swing ของเราว่าเป็นการเปลี่ยนธีม) ธีมที่เราเป็นส่วนมากคือ ธีมทุกข์เกินไป และในช่วงที่เราทุกข์เกินไปนี้ มันทำให้เรารู้สึกได้ถึงความสำคัญของความสุข ก็เลยอยากจะมาเล่าให้ฟัง

     

    ก่อนที่เราจะมานั่งพิมพ์ตรงนี้ประมาณเดือนกว่า ๆ เป็นช่วงที่เราจมอยู่กับความซึมเศร้าไม่รู้เศร้าอะไรนักหนา เรารู้สึกเศร้าจนต้องระบายออกด้วยการร้องไห้ทุกวัน ร้องคนเดียวในห้อง ร้องจนหลับไป

     

    จากปกติที่เป็นคนกินเยอะ แบบที่ไม่เคยกินข้าวเหลือเลยไปกินกับเพื่อน เราก็จะเป็นตัวคอยเก็บกวาด (มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและชื่อเสียงค่ะ) โอโห ทุกวันนี้พี่กินข้าวได้แค่มื้อละ 4-5 คำอะน้องงง ตอนกินข้าว พอเคี้ยว ๆ ไปมันมีความรู้สึกว่า เราไม่มีค่าพอที่จะกินอะไรด้วยซ้ำ เรามันไร้ประโยชน์ บางทีกินๆ อยู่ก็น้ำตาไหล เพราะรู้สึกผิดต่ออาหารอะ

     

    ปกติเวลาคนเรามีเรื่องที่ไม่สบายใจ เราก็จะหาทางผ่อนคลายโดยการดูหนังฟังเพลง อะไรก็ว่าไป แต่สำหรับเราเวลาฟังเพลง ทุกครั้งที่เราได้ยินทำนองที่มันสนุกเราจะรู้สึกหนึบ ๆ ที่หน้าอก มันเป็นความรู้สึกหนึบ ๆ เดียวกับตอนอกหักเลยปวดหน่วง ๆ แบบนั้นเลย ยิ่งเพลงสนุกเรายิ่งอยากร้องไห้ เพราะเราไม่รู้สึกถึงความสนุกของเพลง ไม่รู้สึกเลย ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกแย่จนเราเลิกฟังเพลงไปเลยช่วงนั้น

     

    สำหรับในส่วนของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค โอโห ยิ่งเล่นยิ่งทุกข์ เลื่อน ๆ ไปแล้วเห็นผู้คนมีความสุขยิ่งทรมาน รู้สึกอิจฉาอะ มีคนลงรูปหมาก็อิจฉาแล้วอะเรารู้สึกได้ถึงความสุขจากสายตาหมาที่โดนเจ้านายมันถ่ายรูป เป็นความสุขเล็ก ๆ ที่เราไม่มีปัญญามีอะ เห็นคนลงรูปอาหารก็ทุกข์ เพราะเราไม่มีความอยากใด ๆ ต่ออาหารเลย ทั้งที่มันเคยเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเป็นอันดับต้น ๆ สุดท้ายเราเลยตัดสินใจลบแอคเค้าท์ตัวเองทิ้ง ลบแอพด้วย

     

    คนรอบตัวเราพยายามช่วยเราทุกทางจนเราเองก็รับรู้ได้ถึงความทุกข์ของคนรอบตัวที่มีสาเหตุมาจากเราวันนึงเราร้องไห้จนคนในบ้านได้ยิน ทุกคนพยายามถามถึงความทุกข์ที่เรารู้สึก เราอธิบายไม่ได้เราบอกได้แค่ว่าอยากตาย ทุกคนก็เอาแต่พยายามปลอบเรา จนเช้าวันต่อมาเราก็เห็นแม่ตาบวม ๆ เราเองก็ทุกข์ที่ทำให้คนรอบข้างทุกข์ แต่ก็ไม่รู้จะทำไงได้แต่รอให้ถึงวันหมอนัด(แต่จริง ๆ ถ้าแย่ก็ควรไปก่อนนะ แต่อีนี่ดื้อ)

     

    ไปเดินห้างหรือไปเที่ยว เราก็เฉยไปซะหมด ของที่เคยร้องขอให้แม่ซื้อให้ มาวันนี้แม่เสนอว่าจะซื้อให้ก็ไม่อยากได้อะ ไม่รู้จะมีมันไปทำไมเดินผ่านโซนดูดเงินอย่างโซนเครื่องสำอางค์ เรายังเฉยเลย นิ่งไปหมด ยิ่งเดินดูของแล้วพบว่าตัวเองไม่มีความสุขใดๆ กับมัน ก็ยิ่งทำให้เราทุกข์อะเพราะเรารู้ว่าเมื่อก่อนเราเคยมีความสุขกับมันแค่ไหน

     

    ถ้าเป็นตอนที่เราเป็นโรคนี้แรก ๆ ป่านนี้คงว่าแผนฆ่าตัวตายไปแล้ว เผลอ ๆ คอมพลีทไปแล้วด้วย แต่ตอนนี้เราเลเวลสูงแล้ว เรารู้ว่าเราต้องก้าวข้ามผ่านโรคนี้ไม่ใช่แค่จะก้าวข้ามผ่านความทรมานจากโรคนี้ด้วยการฆ่าตัวตายอะ เรารู้เสมอว่าเราอยากหาย เราไม่ได้อยากตาย เราคอยย้ำตัวเองอยู่ตลอดว่าเรามีความฝันที่เราอยากทำ แม้จะโดนโรคนี้ขัดขาล้มหัวขะมำจนลุกแทบไม่ไหวอยู่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องขอบคุณครอบครัว เพื่อน ๆ ทุกคน และคุณหมอ ทื่คอยพยายามถูลากถูกังเราขึ้นมาจากความทุกข์ทรมานทั้งปวง รักนะ กอดหน่อย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
_93f.b (@ikmincho)
ดีใจที่กลับมาอัพเดตให้ได้อ่านนะ เราเป็นกำลังใจให้เสมอ
Noot Tharara (@Nootsstories)
@ikmincho ขอบคุณนะ <3