เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฝึกงานหรรษา - ลั้นลาบางกอกI just wanna sleepy.
เด็กบ้านนอกเข้ากรุงที่ต้องเตรียมตัวกลับบ้านนอกแล้ว
  • เทศกาลฝึกงานกำลังจะหมดลงฝนกำลังสาดเทลงมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนนั่น ทำให้รู้ว่าใกล้เวลาแล้วที่จะต้องกลับบ้าน ใกล้เวลาแล้วที่จะเปิดเทอม ใกล้แล้วที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตยุ่งเหยิงกับหัวข้อธีสิสในการเรียนปีสุดท้ายที่รั้วมหาวิทยาลัย

     

    นึกแล้วแม่งใจหายว่ะ...

     

    เวลามันผ่านไปเร็วอย่างที่ใครๆเขาว่าจริงๆอีกไม่นานก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมกิน นอน ตื่น ไปเรียนและปีนี้ที่เพิ่มมาคือหัวข้อธีสิสนึกภาพก็พอจะรู้แล้วว่าสภาพจะเป็นยังไง แต่ที่สำคัญของการเขียนครั้งนี้คือ...

     


    “ต้องจากกันแล้วนะที่ฝึกงาน”

     


    (โห...นี่ขนาดแค่พิมพ์ยังน้ำตาซึมเลยนะเว้ย...ไอ้เห้ทำไมมันไวงี้ว่ะ)


    มานึกๆย้อนดู วันแรกของการฝึกงาน วันแรกที่ต้องมาเจอกับเพื่อนๆ พี่ๆนี่เกรงสุดๆ (ขายของ: ไม่เชื่อก็กลับไปอ่านความรู้สึกใน “ฝึกงานเป็นไงบ้าง?”) ไม่ค่อยกล้าพูดกล้าเล่นอะไรเลย จำได้ว่าวันแรกที่มาเจอเพื่อนฝึกงานใหม่อีก 3 คนพอวีคต่อๆมาก็เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้น จาก 3 เป็น 5 เป็น 9 และสุดท้ายรวมทั้งสิ้นก็ 17 ชีวิต พอเอาไปเล่าให้เพื่อนที่มอฟังมันก็จะถามกันว่า “โหทำไมออฟฟิศมึงรับคนเยอะจังว่ะ” และความที่มีเด็กฝึกงานเพิ่มมาหลายคนทำให้ออฟฟิศดูแน่น เวลาพักเที่ยงทีแคนทีน (ที่ไว้นั่งทานข้าวเป็นโต๊ะยาวต่อๆกันนั่นแหละ) ก็แน่นกันไปตามระเบียบ

    ออฟฟิศเราพี่ๆน่ารักคุยกันง่ายมีอะไรสงสัยก็ถามได้ตลอดเวลาเรื่องงานติดขัดพี่ๆก็แนะนำดีมากๆ พี่ๆไม่เคยกดดันไม่บังคับว่าเราต้องนั่นต้องนี่ บอกเราเสมอว่าให้พักบ้างเวลาเราเผลอโหมงานหนักไป พอถึงเวลาตรวจงานก็จริงจัง พอถึงเวลาเล่นก็เล่น เวลางานก็คืองาน มีเรื่องให้ได้ยิ้มตลอด

    บางครั้งมีโปรเจคเก๋ๆชิคๆออกมาก็ช่วยกันสุมหัวคิดช่วยกันเสนอมันก็ทำให้เกิดทั้งไอเดีย ทั้งแลกเปลี่ยนความคิด ทั้งทัศนคติของแต่ละคนทำให้เรากล้าที่จะแสดงความคิดเห็น และยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ที่สำคัญเวลาช่วยกันมันมักจะเกิดเสียงหัวเราะความสนุก พลัดกันปล่อยมุข บางครั้งไอเดียก็ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจบางทีมันก็เกิดจากมุขตลกของพวกเรานี่แหละ (555555555+)


    มันยิ้มได้ทุกทีเวลาที่นึกถึง...ไม่มีวันไหนที่ออฟฟิศนี้จะไร้เสียงหัวเราะ


    หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันทุกวันจันทร์ถึงศุกร์เวลา 9.30 น. (บางทีก็เลทพักหลังๆนี่บ่อย55555555) จะต้องตื่นไปทำงานเปลี่ยนเป็นต้องตื่นไปเรียนจากที่ต้องจับเม้าส์ปากกา เปิด Ai เป็นอันดับแรกก่อนจะกดเข้า Trello เพื่อดูว่ามีงานต้องแก้มั้ยสายๆหน่อยเพื่อนๆก็จะเข้ามาทักทาย...


    พลอย...วันนี้พลอยทำอะไร? ว่างมั้ย?”

    “มีไรว่ามาเลย”

    “ช่วยวาด...บลาๆๆๆๆๆๆๆให้เค้าหน่อยสิ”

    “ได้ๆ...เอาใส่ไว้ในเทลโล่เลย เอาวันไหนอ่ะเพราะตอนนี้เค้าทำบลาๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็เหลือ บลาๆๆๆๆๆๆๆ”

    โอเคงั้นเค้าต่อคิวเลยนะ ขอบคุณค่า”

     

    จนเดี๋ยวนี้...

     

    “พลอยตอนนี้วาดของใครอยู่? ใครต่อคิว?”

    “วาดของ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีคิวต่อจ้า”

    “เคงั้นต่อคิวว”

     

    มันเป็นโมเม้นต์เล็กๆที่เกิดขึ้น แต่เราชอบนะ และก็รู้สึกไม่เบื่อเลยอาจมีบางทีขี้เกียจไปบ้างงานช้าไปบ้าง แต่ไม่เคยเบื่อเลยเวลาถูกเรียกให้ช่วยนั่นช่วยนี่ เรารู้สึกว่ามันทำให้เราตื่นตัวอยู่เสมอไม่น่าเบื่อ 

    ดีกว่าที่มาออฟฟิศแล้วยื่นอยู่หน้าเครื่องถ่ายเอกสารหรือเคาท์เตอร์กาแฟทั้งวัน รู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่ได้ฝึกงานที่นี่ (ตอนแรกคิดว่ามันช่างไม่เข้ากับคนอย่างกูเลยจริงๆ) ต้องขอบคุณเพื่อนที่ชวนมาฝึกจริงๆ

     

    แค่คิดว่าไม่ได้เจอแบบนี้ทุกวันก็ใจหายละ(อีดอกมีความน้ำตาซึมTT) เราไม่อยากเลิกฝึกเลย ทั้งที่ตอนแรกแอบคิดว่าไม่อยากมา จนตอนนี้ไม่อยากกลับแล้วจริงๆ (แงงงงงงงงงงงงง)

     

    ออฟฟิศที่ทำงานแล้วมีความสุขอันดับหนึ่งของประเทศคือที่ไหน ?  เราไม่รู้...แต่ถ้าเธอเข้ามาถามด้วยคำถามนี้เราจะตอบเธอไปว่า “ไม่มีออฟฟิศไหนที่เราทำงานแล้วจะไม่มีความสุข...แค่เธอทำงานกับสิ่งที่เธอชอบและลองเปิดใจกับมันกว้างๆ...ออฟฟิศนั้นก็จะกลายเป็นออฟฟิศที่ติดอันดับหนึ่งในใจเธอไปตลอดกาลแล้ว”

     

    (คำตอบเท่มากถูกมะ)

     

    โอ๊ย นึกแล้วใจหายจัง

    .

    ไม่กลับแล้วได้มั้ย ?

    .

    ทำต่อเลยได้มั้ย ?

    อย่าเพิ่งปล่อยให้ฉันไปเธอก็รู้ทั้งหัวใจฉันอยู่ที่เธอหมดแล้วตอนนี้...

    .

    .

    ไม่กลับมันแล้วเว้ยยยยยยยยยยย...

    .

    .

    .

    .

    ทำได้แค่คิดในใจนั่นแหละค่ะ เพราะเรื่องจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ต้องกลับไปใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยต่อแล้วอีกปีสุดท้ายก็จะได้ออกมาโลดแล่นบนรันเวย์(?) ...ถึงตอนนั้นก็คงเขียนเรื่อง “ปีสุดท้ายในรั้วมหาลัยคิดถึงจับใจนายเจี๋ยมเจี้ยม”(??)

     

    นั่นแหละค่ะ คนเราชอบคิดถึงอะไรต่อมิอะไรที่มันผ่านมาเสมอ  มันจะดีบ้างร้ายบ้าง ร้ายแรงมากๆบ้างก็น่าจะมี(ใช่ม่ะ?) เวลาคิดถึงทีไรมันยิ่งชุ่มช่ำอยูในหัวจายยยยยยยย(มาเป็นเพลง)


    พอคิดว่าฝึกงานจะจบ  แล้วมันน้ำตาซึมจริงๆว่ะ...


    สุดท้ายนี้...


    ฝึกงานที่นี่ทำให้โลกของเรากว้างขึ้นอีกพันไมล์.


    ปล. ขอบคุณเพื่อนมากๆที่ชวนให้มาร่วมฝึกงานในครั้งนี้  เราได้เก็บเกี่ยวอะไรเยอะแยะมากมายจากที่นี่ก็เพราะยู กราบ...

    ปล 2. ขอบคุณพี่ๆที่ฝึกงานที่รับเด็กตาดำๆคนนี้เข้าฝึกงาน

    ปล 3.ขอบคุณเพื่อนๆที่ฝึกงานที่แบ่งขนมบลาๆๆๆๆให้เราได้อ้วนเป็นหมีไปด้วยกัน

    ปล 4.เราจะคิดถึงทุกคนนะ

    .

    .

    .

    ปล สุดท้าย.ไม่กลับมันแล้วเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...(ตื่นคะ)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in