เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เพ้อNO.W
ทางกลับบ้านของเราไม่เหมือนกัน



  • คุณเคยเป็นไหม? 

    กลับบ้านทางเดิมทุกวันเห็นอะไรเหมือนเดิมทุกวัน

    คิดอะไรกับสิ่งที่เห็นข้างทาง...’เหมือนเดิมทุกวัน’

     

    ผมคนหนึ่งล่ะที่เป็นแบบนั้น เป็นมาตลอดตั้งแต่มาเรียนที่ตึกแคท ถ้าถามว่าทำไมอยู่ๆ ผมถึงคิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาล่ะก็  มันเกิดจากกีฬาที่ผมเล่น  ‘ปากัวร์’  มันเป็นกีฬาวิ่งผาดโผน  เป็นกีฬาที่หลายคนคิดว่าเอาตัวเองไปเจ็บตัวเล่น เป็นกีฬาที่เพื่อนร่วมเอกของผมจะเอียนเวลาผมเล่า


    แต่รู้อะไรไหมครับ?  กีฬานี้มันให้อะไรที่มีค่ากับผมมากกว่าแค่เจ็บตัว


    ก่อนที่ผมจะเล่าอยากจะเปรียบเทียบให้ทุกท่านได้เข้าใจกันง่ายๆก่อน ว่ามันก็เหมือนกับว่าคุณมีความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม  เวลาคุณมองอะไรสิ่งที่คุณรู้ก็จะแทรกซึมลงไปในทุกสิ่งที่คุณมองเห็นและคิดออกมาเป็นแบบนั้น  คนเป็นวิศวกร เห็นตึกแล้วก็จะคิดเรื่องโครงสร้าง การออกแบบ  คนเป็นนักข่าวนักเขียน มองเห็นอะไรก็มักเป็นประเด็น เป็นเรื่องราวที่อยากจะเอาไปเขียนเล่าต่อ


    ปากัวร์ของผมก็แบบนั้นล่ะครับ ระหว่างทางกลับบ้าน มันจะมีซอยเล็กๆ ซอยหนึ่ง มีความกว้างประมาณรถยนต์คันครึ่ง ซึ่งเวลาที่ผมเดินผ่าน  ผมก็มักจะคิดกับตัวเองเสมอว่าช่องว่างระหว่างฟุตบาทที่ผมเห็นอยู่หน้าปากซอยนี้ ตัวเองน่าจะวิ่งแล้วกระโดดข้ามไปยังฟุตบาทอีกฝั่งได้


    ผมถึงขนาดวัดจำนวนก้าว ซึ่งเป็นเทคนิคการวัดระยะของคนที่เล่น ซึ่งผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมทำมันได้ แต่กลับกันผมก็รู้ว่าตัวเองทำมันไม่ได้ ไม่ใช่เพราะร่างกายที่ไม่มีแรง แต่เป็นความกล้าที่จะกระโดดต่างหาก


    ผมเห็นหน้าปากซอยนี้ทุกวัน คิดเหมือนเดิมทุกวัน แต่กลับปล่อยมันไปทุกวัน ผมมีเวลาว่างที่จะได้ลอง  มีเวลาว่างที่จะชนะใจตัวเองมีเวลาว่างที่จะรวบรวมความกล้า  ถึงแม้คนแถวนั้นอาจจะมองว่าผมเป็นบ้าก็ตาม


    แต่ผมกลับปล่อยโอกาสนั้นไปทุกครั้ง 

    ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา

    “ไว้ค่อยมาทำวันหยุดละกัน” 

    “รอเคลียร์งานเสร็จก่อนดีกว่า”

    “วันนี้เหนื่อยแล้วไม่มีแรงโดดหรอก”

    และ...”อยู่ใกล้เราแค่นี้เองมันไม่หนีไปไหนหรอก”


    ประโยคสุดท้ายนี่แหละ ที่มันเคยทำให้ผมทำสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิต  พลาดชนิดที่เรียกว่าสูญเสีย ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ผมอยากเล่า  อยากเขียนอะไรทำนองนี้  แต่เชื่อลึกๆ ว่าตัวผมเองอยากจะเตือนสติตัวเอง  ซึ่งจะหมายรวมไปถึงคนอ่านด้วยก็ได้  ให้ตั้งใจใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้  ซึ่งอันที่จริง ณ ตอนนี้ผมก็กำลังทำมันอยู่  เรื่องงานรวมถึงเรื่องกระโดดที่เล่ามานี้ด้วย ซึ่งต่างกันตรงที่ว่าตอนนี้ผมโดดไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว  ไม่ใช่เพราะบาดเจ็บร้ายแรงอะไรแต่เพราะหยุดเล่นไปนานแล้ว


    แต่ใช่ว่าผมจะยอมแพ้ ผมกลับมาซ้อมใหม่  ตั้งใจอีกครั้ง  จัดการเวลาตัวเอง ผมไม่อยากให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมตอนนั้นเราถึงไม่ยอมทำมัน  ทำไมถึงปล่อยโอกาสนั้นไป มันจะไม่มีอีก นอกจากว่าผมตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยมันไปด้วยตัวเอง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in