เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
something worth watchingnadnnaddy
Characters Analysis: 13 Reasons Why
  • จริงๆสิ่งที่เราเขียนไม่ถือว่าเป็นการวิเคราะห์อะไรจริงจังหรอก
    แต่ออกจะเป็นความรู้สึกเราต่อตัวละครมากกว่า
    ดูจบแล้วเรารู้สึกตึงและห่อเหี่ยวหัวใจมาก การได้เขียนอะไรซักอย่างทำให้ความรู้สึกนั้นหลุดพ้นออกไปจากหัวได้ด้วยแหละ55555 

    **SPOILER ALERT**



    Justin Foley

    จัสตินเป็นหนึ่งเดียวในบรรดารายชื่อที่มีเทปเกี่ยวกับเขาถึงสองเทป จัสติน กัปตันทีม หนุ่มป็อปปูล่าร์ของชั้นเรียน อารมณ์ขันและรอยยิ้มของจัสตินมันยากที่จะต่อต้านและยากที่จะไม่ตกหลุมรักคนอย่างเขา  เหมือนที่แฮนน่าห์ได้พูดไว้ว่า That's when all the troubles began, that smile. That damned smile. เอาจริงๆ จัสตินทำให้เราเชื่อได้จริงๆนะว่าเขาสนใจในตัวแฮนน่าห์จริงๆ ทั้งการเข้ามาจีบ ขึ้นรถบัส แอบเช็คตารางสอน จนเราเองก็เผลอคิดไปแล้วว่า Seriously, what can go wrong? ในความรู้สึกเรา จริงๆแล้วนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่จัสตินอยากให้เกิดขึ้นก็ได้ เขาอาจจะแค่อยาก show off ต่อหน้าบรรดาเพื่อนผู้ชายแล้วก็จบไป คนที่ส่งรูปจริงๆก็คือ "ไบรซ์" ใช่มั้ยล่ะ? แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปแล้ว จัสตินคงต้องรักษาความเท่ของตัวเองไว้และความสนุกมันคงสำคัญกว่าความสนใจในตัวแฮนนาห์ เขาจึงเลือกที่จะเล่นตามน้ำ แล้วสร้างฉายา "slut" ให้กับเธออย่างคิดไม่ทีถ้วน จัสตินเป็นตัวละครที่ถือว่ามี background story ที่ขมขืน การที่เขาถูกแฟนใหม่ๆของแม่รังแกตลอดเวลาและแม่ก็ไม่เลือกที่จะปกป้องเขาเองด้วยซ้ำเป็นปมที่ใหญ่ในชีวิตเขา หลายต่อหลายครั้งที่จัสตินมักเลือกความรุนแรงในการแก้ปัญหา เขาอยากจะจัดการเคลย์อยู่หลายครั้งถ้าไม่ติดว่ามีหลายๆคนห้ามไว้ การเป็นคนป็อปปูล่าร์ในโรงเรียนอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่เติมเต็มชีวิตจัสติน ในทางกลับกันเรารู้สึกได้ถึงความแคร์เจสสิก้ามากๆของจัสติน แล้วทำไมเขาถึงปล่อยให้เรื่องแย่ๆพวกนั้นเกิดขึ้นกับเจสสิก้า? ทำไมหลายครั้งเขาแทบจะละเลยเธอ? จริงๆแล้วจัสตินก็พยายามที่จะหยุดไบรซ์แล้วนะ จนไบรซ์พูดประโยคที่ว่า what's yours is mine too, right? ประโยคนี้เหมือนร้องเรียนความเป็นเพื่อนของทั้งสองและเหมือนทวงบุญคุณกับสิ่งต่างๆที่ไบรซ์ช่วยจัสตินตอนที่เขาลำบาก สุดท้ายแล้วจัสตินเสียทั้งเพื่อนอย่างไบรซ์และคนที่เขารักมากอย่างเจสสิก้าไป พูดกันตามตรงชีวิตจัสตินแทบจะไม่เหลือใครเลยในตอนสุดท้าย บางคนอาจจะบอกว่ามันก็เป็นบทเรียนที่สาสมกับเขาแล้ว แต่ลึกๆแล้วเราก็อดไม่ได้เลยที่จะสงสารจัสติน ต่อจากนี้เขาคงจะใช้ชีวิตกับความเจ็บปวดในสิ่งที่เขาทำกับเจสสิก้าและแฮนน่าห์ต่อไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีคนเคียงข้างเขาอีกต่อไป 


    Jessica Davis

    เจสสิก้าเด็กใหม่หรือคนที่เป็น "that girl" มาตลอดเพราะย้ายโรงเรียนบ่อย แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อเจสสิก้ากลายเป็นเชียร์ลีดเดอร์แล้วสละคราบความเป็นเด็กชายขอบทิ้งไป เราออกจะงงๆกับสิ่งที่เจสสิก้าทำเล็กน้อย การอยู่ในhigh schoolไม่น่าใช่เรื่องแปลกที่ใครซักคนจะเดินออกจากชีวิตเราไปเหมือนที่เจสสิก้าทำกับแฮนน่าห์ ฉากที่เจสสิก้าตบแฮนน่าห์คงเป็นจุดแตกหักที่สุดของความรู้สึกของทั้งสอง แต่ถึงยังนั้นเจสสิก้าก็เป็นคนที่แฮนน่าห์รักมากที่สุดในบรรดาทุกคน เธอรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ไบรซ์ทำกับเธอ เคยช่วยเจสสิก้าจากการเมาแอ้จากปาร์ตี้ แล้วเมื่อเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นแฮนน่าห์ยังคิดถึงเจสสิก้าด้วยซ้ำ แต่ด้วยความรักที่แฮนน่าห์มีให้เจสสิก้านั้นแหละ เลยเป็นสิ่งที่ทำให้แฮนน่าห์เกลียดเจสสิก้าได้มากเท่านั้น การถูกคนที่รักมากที่สุดเดินหันหลังให้คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆสำหรับทุกๆคน จริงๆแล้วเรารู้สึกว่าเรื่องราวของเจสสิก้ากับจัสตินมีส่วนที่คล้ายกัน เจสสิก้ากับจัสตินเป็นเหมือนความหวังให้กับแฮนน่าห์ แต่ก็ทำลายความหวังนั้นไปในที่สุด เจสสิก้ากับจัสตินใช้ชีวิตอยู่บนความป็อปปูล่าห์แล้วกลับโดนสิ่งนั้นทำลายทั้งคู่เอง  ถึงแม้เจสสิก้าจะไม่ได้มีปัญหาครอบครัวที่ชัดเจนเท่ากับจัสติน หลายๆอย่างก็ทำให้เราได้รู้ว่าพ่อของเจสสิก้าอยู่ห่างบ้านค่อนข้างบ่อย เรื่องราวของเจสสิก้าเป็นสิ่งที่ทำเราหดหู่ได้มากที่สุด เจสสิก้าเป็นตัวละครเดียวที่ซีรี่เผยให้เห็นห้องนอนของเธอบ่อยมาก(ถ้าไม่นับเคลย์) บาดแผลที่ไบรซ์ทำไว้กับเจสสิก้าคงไม่หายไปง่ายๆเมื่อเธอยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องนอนนั้นไปอีกนานแสนนาน

    Alex Standall

    อเล็กซ์ เป็นตัวละครที่เรารู้สึกว่ารู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแฮนน่าห์มากที่สุด(ไม่นับเคลย์) ไม่ใช่ว่าตัวละครอื่นไม่รู้สึกผิดนะ แต่อย่างจัสตินหรือเจสสิก้า ปัญหาของทั้งคู่อาจจะหนักมากกว่าเรื่องของแฮนน่าห์ อเล็กซ์เป็นคนเดียวที่พูดกับเคลย์ว่า We all killed Hannah เหมือนประโยคที่โทนี่คุยกับเคลย์หลังจากเคลย์ฟังเทปของตัวเองจบ ตอนสุดท้ายที่ทุกคนมาร่วมตัวกัน อเล็กซ์ก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นแค่ loser ที่อยากถูกยอมรับ เขายอมรับว่าทำลายชีวิตของแฮนน่าห์ลงแค่เพื่อตัวเอง แฮนน่าห์เคยต้องกระวนกระวายใจเพราะตัวเองอยู่บนlistที่ไบรซ์เป็นคนสร้างขึ้นและมีอเล็กซ์เป็นคนยัดชื่อแฮนน่าห์ใส่ลงไป อเล็กซ์ได้รับบทลงโทษด้วยการต้องมาเป็นฝ่ายกระวนกระวายใจที่อยู่บน list ของแฮนน่าห์เอง ส่วนเรื่องตอนจบของอเล็กซ์ เราไม่เคยคิดว่าอเล็กซ์ได้เป็นตัวเองซักครั้งเดียวยกเว้นครั้งแรกที่เจอกับแฮนน่าห์และเจสสิก้าที่โมเน็ต ท่าทีของอเล็กซ์ในjazzหรือแม้แต่การที่อยากถูกยอมรับจนต้องทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองต่างๆ พ่อของอเล็กซ์ก็ตั้งความหวังไว้ที่อเล็กซ์ และอยากให้อเล็กซ์มีแต่เพื่อนผู้ชาย ที่จริงอเล็กซ์อาจจะเจอเรื่องหนักไม่ต่างอะไรจากแฮนน่าห์ แต่เราไม่เคยได้มีโอกาสฟังbackground storyที่แท้จริงของเขาเลย


    Tyler Down

    บุคคลผู้ถูกแก้แค้นจากการคว้าปาก้อนหินที่หน้าต่าง ไทเลอร์ต่างจากสามคนแรกคือไทเลอร์ไม่ได้ทำอะไรเพื่อการถูกยอมรับหรือความโด่งดัง เขาทำเพราะเขา"รัก"แฮนน่าห์ ไทเลอร์คอยตามถ่ายรูปแฮนน่าห์อยู่ตลอด และทำให้แฮนน่าห์รู้สึกไม่ปลอดภัยแม้ในห้องของเธอเอง วิธีรักของไทเลอร์มันล้ำจุดเกินไป แล้วการปล่อยรูปของแฮนน่าห์กับคอร์นีย์คือส่วนที่แย่ที่สุดที่ไทเลอร์ทำ แฮนน่าห์คงไม่ได้คุยกับไทเลอร์บ่อยหนัก เธอเข้าไปร่ายประโยคด่าทอไทเลอร์ สิ่งที่เธอได้กลับมาคือการที่ไทเลอร์ขอเธอเดทเหมือนเป็นสัญญาณว่าไทเลอร์ไม่เคยมีโอกาสได้ขอหรือพูดคุยกับแฮนน่าห์มาก่อน การที่แฮนน่าห์ปฎิเสธไทเลอร์ทำให้ไทเลอร์ตัดสินใจไม่ลบรูปและแพร่กระจายรูปออกไป

    Courtney Crimson

    คอร์นีย์เปรียบเสมือนลูกกวาดรสชาติหวานที่ทุกๆครั้งที่โผล่เข้ามาในฉาก คอร์นีย์จะทำตัวใจดีใส่เคลย์ ดูเป็นห่วงเป็นใย ไม่ต่างจากตอนที่คอร์นีย์เข้าหาแฮนน่าห์ แต่ลูกกวาดชนิดนี้ยิ่งกินก็ยิ่งเลียน การที่คอร์นีย์เป็นเกย์และมีพ่อแม่เป็นคู่เกย์ทำให้เธอต้องพยายามให้ตัวเองอยู่ห่างไกลจากการโดนbullyมากที่สุด และแฮนน่าห์ก็เป็นแกะที่ต้องรับสิ่งนั้นไปแทนคอร์นีย์ เราเข้าใจการที่คอรนีย์ไม่อยากโดนการจู่โจม แต่เห็นได้ชัดว่าคอรนีย์แทบจะทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง การที่เธอปฏิเสธไทเลอร์หลายๆครั้งในการที่จะมีส่วนร่วมก็เพราะเธอยังไม่สามารถให้อภัยไทเลอร์กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้นั้นเอง

    Zach Dempsey

    ถ้าจำสิ่งที่อเล็กซ์เล่าได้ แซคเป็นคนแรกในกลุ่มผู้ชายที่เข้ามาเป็นเพื่อนกับอเล็กซ์ และวิธีที่แซคเข้าหาแฮนน่าห์ก็ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แซคเป็นคนที่แฮนน่าห์สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหงาทั้งๆที่ได้รับความสนใจอยู่ตลอดเวลา แซคถูกเปรียบเทียบกับจัสตินและเลือกที่จะปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือจัสตินอ้อมๆอยู่หลายครั้ง จริงอยู่ที่จัสตินเป็นบุคคลที่น่าอิจฉาอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ถ้าความอิจฉาของแซคมีส่วนจากเรื่องของแฮนน่าห์ด้วยล่ะ? ใครจะไปรู้ ถูกมั้ย การที่แซคเลือกที่จะขโมยจดหมายของแฮนน่าห์หรือการที่เขาทำเป็นไม่สนใจประโยคที่เป็นสัญญาณของการฆ่าตัวตายอาจจะดูไม่ได้เป็นการทำร้ายแฮนน่าห์มากนัก แต่เราว่าเรื่องราวดำเนินมาถังจุดนี้ แฮนน่าห์น่าจะอยู่ใน state ที่อ่อนแอ,ไม่ไว้ใจใคร,และเจ็บปวดมากจนทำให้แซคต้องมาจบอยู่ในเทปนี้ 



    ยังมีอีกหลายๆตัวละครอื่นๆที่เราไม่ได้เลือกมาวิเคราะห์เพราะกลัวมันจะยาวเกินไป5555
    แต่เรื่องนี้สอนอะไรหลายๆอย่างไว้เยอะมากๆ เพื่อนๆที่ดูจบแล้วก็คงน่าจะพอเดาๆกันได้ หรือหาอ่านตามเน็ตทั่วไป ก็มีคนพูดไว้อย่างมากมายว่าเรื่องนี้สอนอะไรไว้บ้าง
    แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากให้นึกไว้เสมอด้วยคือ เพราะเรื่องนี้ถูกสร้างมาเพื่อแฮนน่าห์ ออกมาจากปากแฮนน่าห์ เราไม่สามารถตัดสินได้ทุกอย่าง จริงมั้ย? เราไม่รู้ว่าตัวละครตัวอื่นๆกำลังเจอกับอะไร หรือมีความคิดเห็นนึกคิดอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เรายอมรับว่าสิ่งที่แฮนน่าห์ได้รับมันหนักหนาสาหัญมาก แล้วมันคงจะเหนื่อยเกินไปที่เธอจะต้องมารับอะไรแบบนี้ 

    การดูซีรี่เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญของคำพูดและการกระทำต่างๆ
    เรื่องเล็กๆที่เราไม่คิดว่าจะใหญ่โตมันอาจจะฝากบาดแผลให้กับจิตใจอีกฝ่ายไว้ก็เป็นได้
    และที่มากไปกว่านั้นคือ เราไม่สามารถรู้อะไรได้แน่ชัดว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคนๆหนึ่ง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in