เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
at once both the quiet and the confusion of my mind.iamgroo74059003
i will back soon
  • วันนี้เป็นการเดินทางทริปสุดท้ายของปี 2018
    ไม่อยากไปแล้วอ่ะ 
    ทริปนี้เกิดขึ้นจากกสรตัดสินใจเมื่อ 2เดือนก่อน
    จะเรียกว่าขาดสติก็คงไม่ใช่ในตอนนั้นสติก็ครบถ้วนทุกประการ 
    (แค่ขาดวิจารณญาณในการใช้เงิน)

    วันนี้เป็นวันที่นั่งอยู่สนามบินอย่างเคว้งคว้างที่สุด 
    ความรู้สึกรักเมืองไทย คิดถึงเมืองไทย ผุดมาเป็นระยะระยะ
    ไม่อยากไปไหนไกลเลย ถ้าเปลี่ยนได้ก็อยากไปอยู่ตรงนั้น 
    "ตรงที่มีคุณข้างๆ" 

    ระยะเวลาที่นั่งรอในสนามบินวันนี้ได้ทบทวนอะไรหลายอย่าง 
    และได้รู้บางอย่างที่อยากรู้

    เรื่องแรก 
    ก็คงไม่พ้นเรื่องนอนฝันร้าย
    ฝันว่าวิ่งหนี ต่อสู้ ฆ่าฟันมาประมาณ 4 เดือน ติดต่อกันทุกวัน 
    แม้กระทั่งวันที่นอนไม่หลับ napแป๊บเดียวก็ตื่นมาเหงื่อแตกได้
    ทฤษฎีเกี่ยวกับความฝันมากมายที่ไปหามา ก็clarify ความค้างคาในใจได้ไม่หมด 
    จนวันนี้ทบทวนแล้วก็รู้ว่า
    สาเหตุของความฝันร้ายคงเป็น"ความกลัว" 
    ความกลัวลึกๆที่อยู่ในจิตใจ กลัวว่าวันนึงเค้าจะหายไป จะไม่ได้คุยกันอีก 
    แล้วถ้าวันนึงจะต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน 
    จินตนาการถึงความรู้สึกที่จะขึ้นก็กลัวขึ้นมาจับใจ
    จิตใต้สำนึกคงจะพาใจวิ่งหนีเพื่อให้ไกลจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา 
    ตอนที่ตื่นดีก็คิดว่าไม่ได้รู้สึกอะไร ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะกำลังรู้สึกอยู่มากมายก็ได้ 
    เหตุผลต่างๆก็กดความรู้สึกเหล่านั้นไว้จนแทบมองไม่เห็น
    จะหายฝันร้ายได้ ต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่าฝันร้ายเพราะอะไร 
    เมื่อความกลัวกลายเป็นฝันร้าย 
    ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะ "เผชิญหน้า" กับความกลัวแล้วหละ
    จะให้เลิกกลัว ก็ไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ 
    จะพยายามยอมรับความกลัวที่เกิดขึ้นให้ได้ไวๆนะ
    รู้ว่าเรื่องที่กลัว อาจเป็นจริงขึ้นมาในสักวันนึง
    แต่ก็ยังไม่เกิดในตอนนี้ ถ้าเอาความกลัวมาทำให้ปัจจุบันไม่เป็นสุข 
    จะใจร้ายกับตัวเองไปหน่อยมั้ย
    เอาหละ ต่อไปนี้จะเผชิญหน้ากับความกลัวอย่างเต็มที่แล้วนะ


    เรื่องที่2 
    สิ่งที่กำลังเป็นอยู่
    ถามใจตัวเองแล้ว ว่า ณ นาทีนี้ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า"มีความสุขมั้ย?" 
    คำตอบคือ "มีความสุขมากมายจริงๆ" 
    ถึงประเด็นในการพูดคุยสองสามวันมานี้คือการอยากให้ไปเจอคนที่ดีกว่า
    แต่ก็รู้ว่าคง "ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ" 
    และถึงจะรู้สึกอยากให้ไปจริงๆ ก็ยังไปไหนไม่ได้อยู่ดี
    ที่เป็นอยู่แบบนี้ ก็พอใจแล้วนะ
     ถ้าถามว่าอยากได้เพิ่มมั้ย 
    ก็อยากได้อยู่แล้วแหละ ตามธรรมชาติของมนุษย์
    ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เข้าใจคำว่า LIMIT อยู่นะว่าให้ได้แค่ไหน
    จะไม่มีการร้องขอ เรียกร้อง หรือทวงถามใดๆเกิดขึ้นนับจากนี้ไป
    อยากให้ทุกวินาทีที่ใช้ด้วยกันคือความผ่อนคลาย สบายใจ 
    มากกว่ามาคิดเรื่องไม่สบายใจ และกดดัน
    แค่ตอนนี้มีคนที่แชร์ได้ทุกเรื่อง มีคนที่รู้ว่าคิดถึง 
    มีคนคอยเป็นห่วง ก็ดีมากๆแล้ว
    ถ้าถามว่าตอนนี้อยากได้อะไร 
    ก็คงตอบว่าไม่อยากได้อะไร 
    "พอใจ แค่มีเธออยู่" 

    ไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาอะไรได้ 
    เวลาเดินหน้าไปทุกนาที และไม่มีทางย้อนกลับ
    ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์สิ่งที่จะเกิดขึ้นว่า 
    ณ ช่วงเวลานั้น จะยังมีเราอยู่ตรงนั้นมั้ย

    ที่เหนือพื้นดิน และท้องทะเล หลายหมื่นฟุต ในตอนนี้
    ทุกอย่างดูเงียบสงบ และเวลาเดินไปเรื่อยๆ
    " คิดถึงมากจริงๆ" 
    คนทางนั้นน่าจะถึงเวลาพักผ่อนแล้ว หลับปุ๋ยอยู่แน่ๆ
    หวังว่าตื่นมาตอนเช้า
    "จะเจอกัน" 



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in