เรื่องของเรื่องก็คือวันก่อนขณะนั่งคิดนอนคิดเรื่องชีวิตหลังเรียนจบที่มันดูเคว้งคว้างหุบเหว แสนจะมืดมิดเหลือเกิน คิดไปคิดมาก็ปวดหัว สุขภาพจิตแย่ รู้สึกชีวิตต้องตะเกียกตะกายเอาเอง เรียนหนังสือมาตั้ง 20ปีพอไม่ต้องเรียนก็ทำตัวไม่ถูก งงชีวิตมากๆ ย้อนกลับไปตอนเรียนที่บ่นเหลือเกินว่าเครียดอย่างนั้นเครียดอย่างนี้โปรเจค วิจัย สอบมิดเทอมไฟนอล ฯลฯ ถามว่าตอนนั้นเครียดมั้ย เออ เครียดมาก เคยทวิตบ่นๆว่าเรียนยังไงไม่ให้ตายก็เคยทำ55555 บางช่วงก็ตั้งคำถามกับการศึกษาจนอยากโดดเรียนสักอาทิตย์นึงแล้วไปเที่ยวบ้าๆบอๆ (อยากทำมากตั้งแต่ปี 1-4ยังไม่ได้ทำเลย) ทีนี้ก็ลองเทียบกันในใจ ว่าตอนนั้นกับตอนนี้อันไหนเครียดกว่า ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า
มันเทียบกันไม่ได้....
คืองี้เว้ย เราจะโดนไซโคในทุกๆช่วงวัย ว่าแบบ ตอนนี้จะเครียดทำไมอ่ะเดี๋ยวตอน xx เครียดกว่านี้อีก เอายกตัวอย่างแบบ น้องมัธยมบ่นเรื่องสอบแกทแพทก็จะมีแบบ “โอ้ยยยย กระจอกมากแก เดี๋ยวไปเจอมิดเทอมมหา’ลัยนะ ยิ่งกว่านี้อีก” ตัวอย่างที่สองขยับมาในวัยมหา’ลัย คือถ้าบ่นประสาทแดร- เรื่องงานที่อาจารย์นัดกันสั่ง พี่ผู้มีประสบการณ์ก็จะมาแบบ “แก ชีวิตทำงานมันยิ่งกว่านี้อีก แกพลาดเท่ากับแกตาย แกไม่ได้ไปต่อ (บลาๆ)” ตรงนี้เราเข้าใจนะว่าพี่เขาพูดเพราะความห่วงใย และก็จากประสบการณ์ตรงของเขา ถามว่าเคยเจอไหม เคยเจอมาหมด แม้กระทั่งเราเคยคิดแบบนี้เวลาเห็นรุ่นน้องมันบ่นขิงบ่นข่ากันในเฟสบุ๊คในทวิตเตอร์ไหม ฉันก็เคยจ้า ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่มีสิทธิไปตัดสินปัญหาใคร หรือไปลดทอนว่าปัญหาเค้าเล็กนิดเดียว ไม่รู้สิ มันดูไม่ใช่ข้อความที่หยิบยื่นเพื่อให้กำลังใจยังไงไม่รู้ (สำหรับเรานะคนอื่นอาจจะฮึดก็ได้)
กลับมาที่ตัวเอง พอคิดอะไรแบบนั้นแล้ว ก็เลยไม่คิดนะว่าไอ้ความเครียดในช่วงมหา’ลัยมันกระจอกถ้าเทียบกับปัญหาชีวิตในปัจจุบัน จริงๆแล้วแค่เพราะเรามีข้อจำกัดในการรับประสบการณ์อะไรต่างกันไปในแต่ละช่วงวัย ดังนั้นเลยสรุปเอาว่าทุกช่วงวัยมันมีเรื่องให้เครียดสุดๆไม่เหมือนกัน (เช่น ย้อนกลับไปมัธยมต้นและกำลังเครียดเรื่องรักในวัยเรียนอันนั้นก็เครียดสุดๆแล้ว ถถถ หรือถ้าย้อนไปถึงขั้นอนุบาลอาจจะเครียดเรื่องเรียงสีไม้ไม่ตรงกับรูปหน้ากล่อง) ดังนั้นก็จะไม่ดูถูกตัวเองว่า ตอนนั้นหล่อนกระจอกมากที่เครียดกับปัญหาแค่นั้นดูตัวเองตอนนี้สิมันน่าเครียดกว่าไหม!!! แต่คงจะมองว่า ตัวเองโตขึ้น เพราะบางเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ในช่วงวัยหนึ่ง ปัจจุบันมันกลายเป็นเรื่องที่เราช่างหัวมันได้สบายๆ เติบโตมาเพื่อเจออะไรที่ยากกว่าและยากกว่าขึ้นเรื่อยๆ
ก็เรียนรู้กันต่อไปแหละเนอะ (ยิ้มแห้งให้กับชะตาชีวิตในปัจจุบัน)
ปล. จริงๆอีกเรื่องแสนเครียดในวัยมหา’ลัยของเราคือ “เย็นนี้กินไรดีวะ” บางทีก็งงว่ามันเข้ามาอยู่ในลิสต์เรื่องเครียดๆของเราทำไมชีวิตหล่อนดูเห็นแก่กินอะไรเบอร์นี้ แต่จากการที่เราและเพื่อนต้องนั่งคิดเป็นจริงเป็นจังกันทุกเย็นกว่าจะตกลงกันได้จึงสรุปว่ามันเป็นเรื่องเครียดๆในวัยเรียนเหมือนกัน ไว้จะมาเขียนพรุ่งนี้ ฮิๆๆๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in