เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สัน นิ วาสSarun Asawanuchit
รับ น้อง
  • เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักกิจกรรมที่ชื่อว่า "รับน้อง"
    มันคือกิจกรรม "ต้อนรับน้องใหม่"
    ในแต่ละปีจะมีข่าวไม่ดีออกมาประจำ อย่างการรับน้องที่ทำเกินกว่าเหตุ
    สำหรับผม ผมให้กิจกรรมการรับน้องในระดับหนึ่ง
    แต่สาระของผมมันอยู่หลังจากวันรับน้องต่างหาก :))
    ผมจบจากจุฬาฯ ผมผูกพันกับกิจกรรมรับน้องมาก จนทุกวันนี้ยังติดต่อกับน้อง ๆ อยู่ (แม้แต่น้องปี 1 บางคนยังรู้จักผมอยู่เลย... เหมือนเป็นตำนานของบ้านไปแล้ว)
    ที่จุฬาฯ จะแบ่งกลุ่มออกเป็น "บ้าน" ครับ นั่นก็คือ "บ้านรับน้อง"
    ที่จุฬาฯ จะมีบ้านรับน้องหลายบ้านมาก ซึ่งตัวผมนั้นมาจากบ้าน "โซ้ยตี๋หลีหมวย"
    ที่จริงตอนแรกผมอยู่บ้านยิ้ม ตอนแรกปี 2 ก็กะว่าจะกลับไปบ้านยิ้มแหละ พอดีเพื่อนผมอยู่บ้านโซ้ยตี๋ฯ แล้วผมก็นั่งอยู่ เพื่อนก็ลากผมเข้าบ้านเฉย (อ้าว)
    กลายเป็นว่าผมได้รับตำแหน่งเป็นเฮดทีมสันทนาการ
    สันทนาการ คือฝ่ายที่ต้องทำหน้าที่เอนเตอร์เทนทุกคนในบ้าน ให้รู้สึกไม่เบื่อ เต้น เล่นเกม...
    ดูไร้สาระเนอะ?

    สมัยปี 1 เป็นน้องบ้านยิ้ม :))

    แต่จริง ๆ เนื้องานของทีมสันทนาการมีความละเอียดในเนื้องานของมันอยู่
    อย่าง combo เพลงสันฯ ของผมจะแบ่งออกเป็น 1-3 ซึ่งเลเวลความเสื่อมจะเพิ่มขึ้นทุกวัน มันคือการ ice-breaking พยายามทำให้คนในบ้านเริ่มไม่เย็นชา เริ่มรู้สึกใกล้ชิดสนิทกันมากขึ้น รวมถึงเพลงคู่ ที่จะให้มีการจับคู่เต้นกัน เพลงแจว เพื่อเป็นการขายของ 55+ เช่น "แจวเรือจะไปกินข้าวโพด ขอเชิญคนโสดลุกขึ้นมาแจว" #ก็นั่นล่ะนะฮะท่านผู้ชม
    สาระของกิจกรรมสันทนาการนั้น มีอยู่จริง!!!
    กิจกรรมเล่นเกม อย่าง วิวาห์เหาะ เพื่อให้สมาชิกในบ้านเปลี่ยนที่นั่งกัน ได้เจอคนใหม่ ๆ
    ซึ่งกิจกรรมพวกนี้ จริง ๆ แล้วต้องคิดด้วยนะว่าจะวางไว้ตรงไหน เล่นเมื่อไร เพื่อให้กิจกรรมต่อเนื่องโดยต้องคำนึงถึงสิ่งที่ทุกคนจะได้ ความรู้สึกต่าง ๆ
    เมื่อจบ 1 session ทุกคนต้องมาประชุม และฝ่ายที่จะโดนคอมเมนต์มากสุดก็ฝ่ายสันทนาการนี่แหละ
    คอมเมนต์ เช่น "แกพูดหยาบขนาดนั้นไม่ได้นะ" "ทำไมพี่ผู้ชายเลือกแต่น้องผู้หญิง มันไม่แฟร์" เป็นต้น
    หรือแม้แต่ "น้องเนียน" คือ รุ่นพี่ (ซึ่งมักจะเป็นปี 3 ขึ้นไป พวกนี้รอบจัด) ที่แกล้งทำเป็นรุ่นน้อง หน้าที่ของน้องเนียนไม่ได้ทำกันแค่สนุก ๆ
    แต่หน้าที่คือหาวิธีการเข้าหาน้อง ๆ และให้น้อง ๆ ที่เหลือต่อกันติด (บางคนกะมาเล่นแค่สนุก แต่ไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไรก็มี)

    และนี่คือทีมบ้านรับน้องโซ้ยตี๋หลีหมวย (รหัส 48++) ตอนงาน roadshow ที่สยามสแควร์ปี 2549 ซึ่งเป็นเพื่อนที่ยังคบเป็นกลุ่มเดียวกันถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่สนิทสุด งานแต่งงานก็ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวกัน บางคู่ก็ได้กันเองจากบ้าน/ชมรม

    ไปถึงวันที่วันรับน้องจบสิ้น แต่การรับน้องที่แท้จริงยังไม่จบ!!!
    พี่จะต้องดูแลน้องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบปี (จริง ๆ จนถึงวันนี้น้องที่ผมดูแลยังติดต่อยังช่วยเหลือกันอยู่) ซึ่งกิจกรรมนี้ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ (จริง ๆ ผมสนิทกับเพื่อนนอกคณะมากกว่าเพื่อนคณะตัวเองด้วยนะบางที) เป็นการเชื่อมต่อกันไปจนถึงทุกวันนี้
    สำหรับรุ่นน้องที่ผมยังสนิทอยู่ด้วยจนถึงตอนนี้ก็รหัส... 58 แล้วมั้ง (โอยแก่)


    พี่ ๆ ที่เรียนจบกันออกมาก็ยังกลับกันไปเรื่อย ๆ :))


    ไม่ได้ทำอะไร ก็ถ่ายรูปเล่น (ไปไม่นานหรอก 55+)



    จบงานรับน้อง ก็ยังมีไปเที่ยวกันอยู่ กิจกรรมที่เรียกว่า "ทริปบ้าน" หลายคนจะคิดว่าเป็นงานรับน้อง แต่จริง ๆ คือการไปเที่ยวด้วยกัน แค่นั้นเลย




    จริง ๆ ผมไม่ใช่ช่างภาพหรอกครับ แค่ปาปารัสซี่รอแอบถ่ายคนตอนเผลอ อิอิ

    ทุกวันนี้ยังคงคิดถึงบ้านรับน้องนี้ตลอด
    จริง ๆ ผมคงไม่ได้รักความเป็นบ้านนี้หรอก
    ผมแค่รักคนในนั้น เท่านั้นเอง :)))



    มีอยู่ปีนึงไม่ได้ไป น้องก็ facetime มาหา... (บอกแล้วว่านี่เป็นตำนานบ้าน)



    รับปริญญากัน เราก็ไปนะ :))


    ด้วยความที่บ้านรับน้องผมเชื่อมกับชมรม slum club (จุฬาฯ สู่ชุมชน) สมาชิกแต่งงานกันทีนึงก็ไปกันเยอะเลยยย


    หาเรื่องเจอกันบ่อย ๆ :)) นัดกันยากก็บุกถึงบ้านกันเนอะ 555+




    มีความไปเที่ยวด้วยกันในวัยย่าง 30 ปี (ไปงานแต่งงานเพื่อนในกลุ่มนี่แหละ) จองตัวกันข้ามปี ไม่ไปไม่ได้.. กลุ่มมี 10 คน อีกไม่กี่ปีไปเที่ยวกันคงต้องเป็นกลุ่ม 20 คน++ พร้อมหลาน ๆ คงต้องเปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถบัส


    มีความสุขกับชีวิตมหาวิทยาลัยนะครับ :))













Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in