สวัสดีทุกคนนน ปีใหม่แล้ว เราควรจะทำรีวิวเสร็จได้แล้ว ถถถถ ก่อนอื่นอยากบอกก่อนว่ายาว ๆ ต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น เพื่อนคนอื่นก็อาจจะชอบ/ไม่ชอบวิชานั้น ๆ ต่างกันไป รวมถึงการเรียนการสอนจะแตกต่างกันน้อยบ้าง มากบ้างขึ้นกับเซคที่ได้ เราอาจจะใช้ภาษาไม่ได้ทางการมาก กันเองเลยก็ว่าได้ ถถถถ มาเริ่มกันเลยเนอะ เราจะเรียงวิชาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ไปจนวิชาสุดท้ายของสัปดาห์
1.Use Thai Lang (วิชาการใช้ภาษาไทย)
การเรียนการสอน : เรียน 3 ชั่วโมง มีทั้งแบบเซครวมทั้งคณะ และก็เซคย่อย แล้วแต่วันและหัวข้อเรื่อง บางวันก็เรียนเนื้อหาในห้องรวมแล้วชั่วโมงสุดท้ายค่อยแยกไปห้องเล็กทำแบบฝึก บางวันก็ห้องรวมตู้ม ๆ 3 ชั่วโมง … ถามว่าเหมือนภาษาไทยตอนมัธยมมั้ย ส่วนตัวเราว่าก็คล้ายนะ แต่ยูสไทยแลงไม่เน้นแกรมม่าร์ จะมีที่ต้องจำก็คือ คำราชาศัพท์ ที่เหลือเน้นวิเคราะห์ ตีความ สรุปความ การใช้คำ อย่างเช่น การใช้คำว่า “ถูก” พร่ำเพรื่อเพราะติดการสร้างประโยคแบบต่างประเทศ การใช้คำว่า “ซึ่ง”มากเกินความจำเป็น อะไรประมาณนี้ ก่อนมิดเทอมเราว่าค่อนข้างน่าเบื่อ เป็นเรื่องราชาศัพท์ การใช้คำ ย่อความ บลา ๆ หลังมิดเทอมก็โอเคขึ้นมานิดนึง เรื่องการตีความร้อยแก้ว ร้อยกรอง การวิเคราะห์เรื่องสั้นอะไรทำนองนี้ ส่วนตัวว่ายากกว่าก่อนมิดเทอมด้วย เกณฑ์การให้คะแนนค่อนข้างหิน แต่ถามว่ายากแบบลึกซึ้งอะไรขนาดนั้นมั้ย เราว่าไม่ อ้อ มีให้พูดหน้าชั้นด้วย แต่ไม่ตื่นเต้นมากเพราะสอบเป็นกลุ่ม
การสอบ : เก็บคะแนนในห้อง / กลางภาค / ปลายภาค / สอบพูด
ความเห็นส่วนตัว : ไม่ชอบ55555 เราว่าเน้นห้องรวมมากไป เอาจริงแทบไม่ได้ฝึกเขียนอะไรเลย สำหรับเราเราได้อะไรจากวิชานี้น้อยมาก แบบฝึกก็กลับไปทำที่บ้าน บางครั้งอาจารย์ก็ให้ไปเทียบเคียงเฉลยในแบล็คบอร์ดเอาเองด้วยซ้ำ ไม่มีให้คะแนน คือตอนเรียนห้องใหญ่มันแทบไม่ได้อะไรเลยอะ น่าเบื่อ อาจารย์ที่ขึ้นมาพูดหาคนที่เรารู้สึกว่าเขามี passion กับการสอนจริง ๆ คนสองคนเอง แล้วอย่างการตีความ ทำแบบฝึกรอบเดียวก็สอบเลย เพิ่งปล่อยเฉลยแบบฝึกวันที่ต้องสอบในห้องด้วยซ้ำ มันค่อนข้างเป็นวิชาที่กินบุญเก่าแบบที่เคยได้ยินมาจริง ๆ ในเซคย่อยอาจารย์ก็จะพูดเฉลยรวม ๆ ไม่ค่อยได้พัฒนาอะไรเท่าไร
.
2. English I
การเรียนการสอน : เรียน 1.30 hrs 2 วันต่อสัปดาห์ เซคย่อย เรียนทั้ง Grammar, Reading, Listening, Writing อาจารย์ที่สอนมีทั้งชาวต่างชาติและคนไทย บางเซคจะมีสลับอาจารย์กันตอนหลังมิดเทอมด้วยนะ อ้อ มี External reading ด้วย ปีเราได้อ่านเรื่อง Release รวมทั้งมี Group presentation ที่จะได้หัวข้อพูดเกี่ยวกับหนังสือนอกเวลาประจำเทอมด้วย อันนี้ชิว ๆ เพราะเพื่อน ๆ ในกลุ่มเราเก่งมาก ช่วยกันเตรียมแบบเออเริ่ด อาจารย์เซคเราชื่อ Andrew, Aj. Nuphak ทั้งสองคนใจดีจนอิ้งวันเป็นวิชาชิวไปเลย
Grammar
แกรมม่าร์เป็นเรื่องที่เคยเรียนมัธยมมาแล้ว อย่าง If-Clause, Passive voice, Tense เป็นต้น แต่อาจจะเพิ่มความยากมานิดนึงงง (หมายถึงแค่ตอนเรียนนะ ตอนสอบคืออีหยังวะ) เรียนในหนังสือกระดาษมัน ๆ เซคเราอาจารย์ทำสไลด์มาสอนในห้องด้วย ตอนเรียนเหมือนจะชิว แต่ข้อสอบไฟนอลผีมาก ๆ ยากจนอ้าปากค้าง ไม่เคยเจอข้อสอบบ้าอะไรยากขนาดนี้ ทั้งแกรมม่าร์และโวแคป!
Reading
รีดดิ้งค่อนข้างเป็นบุญเก่า เขียนเกือบหมด มาเป็นช้อยแค่ข้อสองข้อ บทความยาวพอ ๆ กับ 9 วิชาสามัญ ความยากคือเราไม่เคยสอบreadingแบบเขียนมาก่อนเลย อย่างช้อยมันยังพอคลำ ๆ ว่าเออน่าจะข้อนี้ แต่จะเขียนคำตอบได้มันต้องรู้เรื่อง เขียนกำกวมก็จะโดนคอมเม้นต์ว่า vague บางข้อโจทย์จะกำหนดว่า In your own words = เราต้องพาราเฟสคำตอบในบทความให้เป็นสำนวนของตัวเอง ถ้ายกมาเลยก็จะไม่ได้คะแนน รวมทั้งมีโจทย์ว่า They, He , It อ้างถึงใครแบบที่เรา ๆเคยเจอในข้อสอบสามัญ และมันเหมือนจะเป็นตัวเก็บคะแนนในตอนนั้น แต่ตอนนี้เราต้องเขียนไปเลย ไม่มีช้อยส์ เพราะฉะนั้นมันเลยเป็นเหมือนตัวฉุดซะมากกว่า ถถถถ ส่วนคำศัพท์ก็ยากนิดหน่อย ส่วนมากจะให้ตอบ synonymsของศัพท์นั้น ๆ ต้องดูบริบทด้วย เราเคยตอบศัพท์ตัวนึงที่แปลว่า ปลอม(แต่ลืมแล้วว่าคำไหน ฮือ) ว่า fake, artificial สรุปโดน 0 ไปกินจ้า เพราะในบริบท artificia lมันเข้าไม่ได้ ซวยเลย
Listening
ไม่มีเรียน มีแต่เป็นควิซสั้น ๆ ก่อนเข้าเรียน ใครเข้าสายก็อาจจะพลาด ครั้งนึงเราไปเข้าห้องน้ำมาก็เกือบฟังไม่ทัน พูดประมาณ 1-2นาที สำเนียงก็แล้วแต่ปีเลยแหละ สำหรับเราเราว่ายาก5555 อาจจะเพราะเราอ่อนพาร์ทฟังสุดแล้วแหละ จะมีควิซ 2 ครั้ง เก็บครั้งละ 5 คะแนน เออ จริง ๆ มันอาจจะง่ายสำหรับเพื่อนคนอื่นก็ได้เพราะคนข้างเราเก็บเต็มไปทั้งสองครั้งเลย…
Writing
ไรติ้งเป็นพาร์ทที่เรากลัวสุดดด ตั้งแต่ก่อนเข้ามาด้วยซ้ำ เพราะบางตามตรงตอนมัธยมเราไม่เคยเขียนParagraph, Essay เลยสักครั้ง ไม่มีความรู้พื้นฐานใด ๆ เลย เข้ามาที่นี่ทีชเชอร์ก็จะสอนIntro เบา ๆ ว่าฟอร์มมันเป็นยังไง แต่จริง ๆ แล้วแต่เราจะเลือกสรรคำมาใช้ ไม่ได้มีฟอร์มเป๊ะ ๆ ตายตัว รูปแบบพารากราฟมีหลายแบบแต่สำหรับปีเราได้เรียน Example paragraph ก่อนมิดเทอม กับ Effect-Cause paragraph ไฟนอล เอาจริง ๆ ได้เขียนแล้วมันก็ไม่น่ากลัวกว่าที่คิด ค่อนข้างฟรีสไตล์ ต้องจัดฟอร์มดี ๆ เป็นระเบียบ ๆ หาเหตุผลที่มาซัพพอร์ตที่ strong เขียนชัดเจนไม่กำกวม แค่นี้คะแนนก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 16 แล้ว(เต็ม20) อย่าไปเครียดเรื่องแกรมม่าร์มาก เพราะตอนเราเขียนก็โดนวงแดงแกรมม่าร์ผิดแหลกเกือบทั้งพารากราฟ5555 สอบทั้งหมด 3 ครั้งคือมิดเทอม1 ช่วงหลังมิดเทอมในห้อง1 ไฟนอล1 ตอนไฟนอลนี่ไรติ้งเป็นง่ายไปเลยนะ เพราะมันไม่มีถูกผิดให้เครียด อย่าให้พูดถึงพาร์ทอื่น…
External Reading
หนังสือเล่มหนา ๆ ที่ได้รับตั้งแต่ต้นเทอม แต่เราก็ค่อยเอามาอ่านใกล้สอบอยู่ดี 5555 ข้อสอบไม่ยากมาก จะถามว่าใครทำอะไรที่ไหน ยกโควทมาแล้วบอกว่านี่ใครพูด her ในโควทนี้หมายถึงใคร เอาจริง ๆ อ่านทำความเข้าใจดี ๆ ก็จะตอบได้นะ มันก็มีข้อยากแหละ แต่ก็ถือว่าปรานีกว่าข้อสอบอื่น ๆ ปีนี้เราอ่านกันเรื่อง Release ตัวละครหลักคือเด็กชายคนหนึ่งที่เป็นเกย์ แต่โตมาในครอบครัวนักเทศน์ที่เคร่งศาสนาเอามาก ๆ ในเรื่องก็จะทั้งการบรรยายเซ็กส์อย่างค่อนข้างละเอียด ถถถถ มิตรภาพระหว่างเพื่อน การค้นหาตัวเอง ความรักร่วมเพศ ความขัดแย้งระหว่างครอบครัวกับตัวละครเอก
ที่พีคคือในเรื่องมันจะมีอีกพาร์ทคือ เป็นพาร์ทของผู้หญิงร่วมชั้นกับตัวละครหลักที่โดนแฟนฆ่าและมีวิญญาณที่เรียกกันว่า Queen มาอยู่ในร่าง คอยวนเวียนไปที่เก่า ๆ เพื่อหาทางปลดปล่อยตัวเอง คืออย่าให้เล่ามากเพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่เข้าใจอะถูกมั้ย TT
การสอบ : ตัดเกรดอิงกลุ่ม แค่ได้ยินคำว่าอิงกลุ่มก็ขนลุกไปหมดดด เก็บคะแนนในห้องและมิดเทอม ไฟนอล ควิซ พรีเซนต์หน้าชั้น ยากสุดเรามอบให้แกรมม่าร์ ตอนมิดเทอมเราค่อนข้างประมาทแล้วก็ไปอ่านวิชาอื่นจนอ่านภาษาอังกฤษจริง ๆ ไม่น่าจะถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ กะจะใช้เซ้นส์ แต่เป็นไงล่ะ เซ้นส์พาผิดหมดเลย ถถถถ พลาดสุด ๆ กะจะฟิตใหม่ไฟนอล ไฟนอลก็ชนกับวันสอบอีสซีฟ ก็พยายามอ่านอิ้งมากขึ้นมาหน่อยคือประมาณ 2-3ชั่วโมง แล้วข้อสอบก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กือมันยากมากกก ยากแบบร้องไห้แล้ว สาบานว่าไม่เคยเจอข้อสอบที่ยากขนาดนี้มาก่อน คนที่ทำได้ก็อาจจะมีแต่ไม่ใช่เรา อมก สำหรับเกรด คนที่ได้ A ก็จะต้องตัวท็อปจริง ๆ กราบนะฮะทุกคนที่ได้อิ้งวันเอ
ความเห็นส่วนตัว : เราคิดว่าถ้านับแค่เนื้อหายังเหมือนมัธยมปลายอยู่นะ แต่ข้อสอบก็อีกเรื่อง มาเหนือมาก ๆ ถามว่าชอบมั้ย ก็ชอบนะ แต่เรียนก็เครียดเพราะมันตัดอิงกลุ่ม เพื่อน ๆ ทุกคนก็เก่งกันหมด ดีหน่อยที่ทีชเชอร์เซคเราชิวมากก สอนแบบไม่เครียดไม่ไรเลย มันก็เลยสบายใจนิดหน่อย เรื่องความรู้นี่ก็คิดว่าได้เรื่องwritingอะ จากที่ไม่เคยเขียนและเขียนไม่เป็น ก็พอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้ เอนี่เว อิ้งวันก็ยังเป็นหนึ่งในวิชาที่เราชอบสำหรับเทอมนี้นะ ก็แหม จะไปเกลียดอังกฤษลงได้ยังไง55555 ถึงแม้จะเป็นตัวฉุดเกรดรวมก็เหอะ ;_;
.
3. Research computer skills
การเรียนการสอน : เรียน 3 ชมเป็นเซคย่อย สอนเรื่องการเขียนรายงานตามชื่อวิชาเลย การใช้ word, powerpoint, excel ที่มีเทคนิคแบบ ว้าว! ไม่เคยรู้มาก่อน รวมถึงความรู้เบื้องต้นอย่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การเลือกหัวข้อ การเขียนโครงเรื่อง อ้างอิง บรรณานุกรม ทั้งเทอมจะมีให้เขียน 1 รายงาน มีหัวข้อให้เลือกตั้งแต่ต้นเทอม แล้วก็ทยอย ๆ ทำมาเรื่อย ๆ ส่งไฟนอล อันนี้ดีเว่อร์เพราะไม่ต้องอ่าน เบาไป 1 วิชา ;_; ส่วนมิดเทอมถ้าอ่านก็น่าจะทำได้ อ้อ มีให้ไปทัวร์ห้องสมุดอักษรตรงเทวาลัย ห้องสรรพศาสตร์ แล้วก็หอกลางด้วยว่าเค้าจัดชั้น เรียงเลขเรียกหนังสือยังไง การยืมหนังสือ หนังสือประเภทนี้อยู่ชั้นไหน ซึ่งเอาไปออกข้อสอบด้วย เวลาเรียนในห้องจะมีแจกเนื้อหาในBlackboard หนักใจคนไม่มีไอแพดสุดเพราะต้องปริ้นออกมา ไม่ก็ซื้อแบบที่เค้าทำเป็นเล่มที่ร้านพี่ดาวใต้ตึกบรม จริง ๆ ไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้ อ่านในชีทเอา ในห้องก็แค่อาจารย์มาพูดเนื้อหาให้ฟัง ขนาดว่าอาจารย์เซคเราสอนดีและตลก เรายังแอบขาดไป 3 ครั้งสุดท้ายรวด ถถถถถ
การสอบ : มีเปิดระบบให้ทำข้อสอบในแบล็กบอร์ด ซึ่งก็เปิดหนังสือได้ ทำกับเพื่อนก็ได้ คะแนนโครงเรื่อง การเขียนอ้างอิง ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรายงาน มิดเทอม และคะแนนจากรายงานที่ส่งไฟนอล มันค่อย ๆ เก็บทีละนิดทีละน้อยก็ถือว่าโอเคอยู่ และวิชานี้ตัดเกรดอิงกลุ่ม
ความเห็นส่วนตัว : เบื่อ ง่วง เรียน3ชั่วโมงแต่ยาวนานมาก คาบไหนที่เรียนเต็มคือแทบไปสู่ขิต แต่ความรู้ที่ได้ก็ถือว่าโอเคอยู่ คิดว่าเอาไปใช้ในอนาคตได้แน่ ถ้าไม่ลืมนะ
.
4.Spanish I
การเรียนการสอน : มี 2 เซคสำหรับคนในคณะ เรียน1.30 ชม. สองวันต่อสัปดาห์ แต่มีคอนเวอเพิ่มมาอีก 2 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเราเรียนจันทร์ถึงพฤหัส เจอสเปนไปแล้ว 3 วัน!
สำหรับคลาสหลักเราเรียนกับอ. สุกิจ ก็จะเรียนตั้งแต่เบสิคเริ่มต้น การออกเสียง พยัญชนะ สระ การสร้างประโยค ผันverbแบบที่ทำให้นึกถึงบาลีเลย ถถถถ กรรมตรงกรรมรอง นับเลข สี ศัพท์ทั้งโคตรเสื้อผ้า อาหาร เฟอร์นิเจอร์ อวัยวะร่างกาย และต่าง ๆ ควิซทุกสัปดาห์ เอา 10 ครั้งที่ดีที่สุดมาเป็นคะแนนช่วย writing ก็มานะจ๊ะ เขียน 8-9บรรทัดตอนมิดเทอมและไฟนอล แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ยากขนาดนั้นนะ อาจารย์ให้คะแนนง่ายด้วย เขียนประโยคง่าย ๆ ก็ให้แล้ว อ.สุกิจดีมาก สอนดี มีคาบนึงอาจารย์พูดซึ้ง ๆ เรื่องเรียนสเปนไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืน อย่าโทษตัวเอง อย่ากดดันตัวเองว่าต้องเข้าเอกที่เป็นภาษาเท่านั้น นู่นนี่นั่น ทำเราน้ำตาซึมเลยเพราะทั้งคาบอิชั้นตามเพื่อนไม่ทันเลยจ้า กรี้ส อายจุง คืออาจารย์ไนซ์จริง ๆ ประทับใจ
สำหรับคลาสคอนเวอร์ เราเรียนกับ David เป็นคนสเปน และโหดมาก คำพูดเค้าคือ ‘I like to see you suffer’ พร้อมยิ้ม ๆ แบบมีความสุข …รับประทานจุด มาคาบแรกรัวสเปนใส่เป็นชุด งงตาแตก คาบที่สอง ก่อนเลิกคลาสให้ต่อแถวพูดกับเขารายคน อธิบายรูปร่าง ลักษณะ สีเสื้อผ้าที่เพื่อนใส่เป็นสเปนเท่านั้น ถ้าไม่ได้ก็จะถูกไล่ไปต่อหลัง ฮือ เก๊ทฟีลคนที่พื้นฐานสเปนเป็น 0 แบบเราดิ 0แบบ 0จริง ¿Cómo estás? เรายังเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกคาบนี้เลย ถถถถ ทุกคาบที่เรียนกับดาบิดเราจะทรมานมากกก เพราะเค้าจะให้พูด ให้ตอบ สอน ๆ นิดหน่อย เป็นประโยคโต้ตอบ 4-5 ประโยคแล้วก็ลบกระดาน ห้ามจด ให้จำเท่านั้น แล้วก็พูดกับเพื่อน กดดันมากเพราะเราจำอะไรในระยะสั้น ๆ ไม่ได้ เบลอหมด ยิ่งเราไม่เคยเรียนแกรมม่าร์มาก่อนแต่มาเจอประโยคยาว ๆ ก็แปลคำในประโยคไม่ออก จำก็ยิ่งยากใหญ่ คาบแรก ๆ ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองไปอีก มิดเทอมคอนเวอไม่มีสอบ มีแต่ไฟนอล ซึ่งมี 3 พาร์ท พาร์ทแรกแนะนำตัว 1-2นาที พาร์ทที่สองให้สุ่มจับTopic ก็จะมีเรื่อง กิจวัตรประจำวัน กีฬาที่ชอบเล่น อาหาร อะไรทำนองนี้ พูดไม่แน่ใจว่าน่าจะ 1-2 นาทีเหมือนกันมั้ง พาร์ทสามก็จะต้องตอบคำถามที่อาจารย์จะถาม เช่นชอบทำอาหารมั้ย แล้วเราจะตอบแค่ ใช่ ไม่ ไม่ได้นะ ต้องตอบว่า ชอบ เพราะ… แล้วก็ร่ายให้ยาว ๆ จนกว่าเค้าจะพอใจ ฮือ ถถถถ เชื่อเถอะว่าในชีวิตไม่คิดว่าเวลา 2 นาทีมันจะนานขนาดนี้… เอาเป็นว่าทุกวันอังคารคือวันนรกสำหรับเราเพราะสเปนคอนเวอร์ไงจะอะไรล่ะ
การสอบ : มิดเทอม ไฟนอล ควิซในห้อง เป็นส่วนของคลาสหลัก เก็บ65% ส่วนคอนเวอเก็บ 35% สอบมิดเทอมก็จะนับเป็นหน้าในหนังสือประมาณ 70กว่าหน้า ไฟนอลก็พอ ๆ กัน มีทั้งพาร์ทศัพท์ แกรมม่าร์ ไรติ้ง แล้วก็พาร์ทฟัง อันนี้เราห่วยสุด จะง่ายขนาดไหนเราก็ฟังไม่ออก ตอนมิดเทอมเราฟาด 1/10 มาแล้วนะพาร์ทนี้55555 ไฟนอลที่เพื่อนพูดกันว่าฟังง่ายเราก็ยังฟังไม่ออก เศร้าแพพ ข้อสอบเขียนหมด
ความเห็นส่วนตัว : เป็นคลาสที่ไปไวมาก แต่ก็ได้อะไรเยอะมาก ส่วนตัวเราที่เริ่มจากไม่รู้อะไรเลยสำหรับภาษานี้ จนจบเทอม 1 เราดีใจที่อย่างน้อยเห็นประโยคภาษาสเปนก็แปลออกว่าแปลว่าอะไร เอนจอยกับการฟังเพลง taki taki หรือดูซีรีส์ Elite แล้วฟังออกว่าเขาพูดว่าอะไร ถึงจะแค่ 1ใน10ของเรื่องก็เหอะ ถถถถ
รู้สึกตัวเองมาไกลมาก จะว่าสเปนเป็นวิชาที่เราซัฟเฟอร์สุดในเทอมนี้ก็ว่าได้ ที่ว่าเราเรียน 4 วัน เป็นสเปนไปแล้ว 3 อะ คือเป็น 3 วันที่เราโคตรไม่อยากตื่นไปเรียน ลองนึกว่าไม่มีสเปนชีวิตการเรียนเราจะจอยมาก คือ เราอ่านค่อนข้างเยอะ เพราะรู้ตัวว่าอ่อนมาก แต่คะแนนมิดเทอมก็ยังตกมีน มีนทุกเซคอะ 78/100 เราก็ไม่รู้ว่าแปลว่าคนอื่นเก่งหรือเราโง่ ตอนนั้นแบบ mental breakdown ไปสักพักเลย เพราะเราก็รู้นะว่าเต็มที่แล้ว ถ้าจะให้มากกว่านี้ก็คือคงต้องทิ้งวิชาอื่นแล้วก็อ่านวิชานี้แบบโต้รุ่งแล้วมั้ง (ซึ่งอย่าหวังเลย ชั้นไม่ทำแน่ ๆ 5555) เพราะฉะนั้นมันก็เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าหรือเราไม่ได้จริง ๆ แล้วก็แอบด่าตัวเองว่าสเปนมันง่ายสุดแล้วนะอีฟาย เพื่อนรอบข้างเราก็เก่งทั้งนั้น เอาจริงตั้งแต่เริ่มเราไม่ได้รู้สึกว่าอาจารย์ไปเร็วเลยเพราะว่าก็เห็นเพื่อนตามทันตลอด ตอบกันตลอด เราก็เลยรู้สึกว่าเออก็ความเร็วปกติ แต่พอย้อนกลับไปดูก็ อื้อหือ ได้เยอะขนาดนี้เลยหรอช่วงเวลา 4 เดือนเนี่ย เราไม่เคยคิดจะถอนเลยนะ เพราะรู้ว่าต้องชนะอะ ต้องชนะภาษานี้ให้ได้ จะต้องรู้ภาษาเพิ่มให้ได้ ไม่ใช่รู้จักแต่อังกฤษ ทั้ง ๆ ที่คนอื่นไปภาษาที่ 4-5กันแล้ว สุดท้าย here I am ja ฉุดกระชากลากถูจนจบเทอม แล้วก็ลง Spanish II ด้วยนะเนี่ย ถถถถถ ถือเป็นวิชาที่ทำให้เราได้ฝึกความอดทนและเจอผิดหวังได้เยอะมาก เสียน้ำตาไปมากกับวิชานี้ กรี้ส ถ้านับเนื้อหาไม่เท่าไหร่หรอก แต่กดดันเพราะเพื่อนรอบข้างเก่งsusนี่ให้สิบเต็มสิบเลยฮะ
.
5. Drug daily life (ยาในชีวิตประจำวัน) (Gen-ed หมวดวิทย์)
การเรียนการสอน : เรียนห้องใหญ่ 3 ชั่วโมง เรียนที่ตึกคณะแพทย์ (โรงอาหารหรูมากแม่) เรื่องที่เรียนก็เช่น งูพิษ แมลง ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ ยาระบบทางเดินหายใจ สิว พิษสุนัขบ้า ความอ้วน ผิวหนัง ยาคุมกำเนิด วัคซีน ฯลฯ เรียกได้ว่ามาหมดเกี่ยวกับสุขภาพ แต่ละวีคก็จะมีอาจารย์ผลัดเปลี่ยนกันมาสอนแต่ละเรื่อง มีเช็คชื่ออ้อม ๆ ก็คือให้บันทึกว่าวันนี้เรียนอะไรใส่สมุดที่เค้าจะแจกต้นคาบแล้วเรียกคืนตรวจแล้วก็แจกใหม่อาทิตย์ถัดไป เพราะฉะนั้นก็จะรู้ว่าใครมาไม่มา มีการบ้าน1-2งานทั้งเทอม ตอนคาบสุดท้ายมีไปทัศนศึกษาที่สวนงู ก็คืออย่าคิดว่าได้เที่ยว เพราะสวนงูมันอยู่ตรงข้ามที่เรียนนี่แหละ ถถถถ ตอนแรกคือแอบดีใจว่าได้ไปไกล ๆ อ้อ แล้วก็มีงานกลุ่มให้ออกมาพรีเซ้นต์ด้วย เค้าจะจับให้ในกลุ่มมีทุก ๆ คณะ หัวข้อก็จะอารมณ์แบบ วิตามินซีช่วยผิวขาวจริงมั้ย กัญชากับการรักษาโรค ยาฆ่าหญ้า เป็นต้น เอาไปออกข้อสอบด้วย
การสอบ : ไม่!มี!มิด!เทอม! กรี้สสสสส ดีใจมาก แต่ก็จะโดนไฟนอลทุบนิดหน่อยเพราะต้องท่อง 17 บทย่อยที่เรียนมาทั้งเทอม วดฟ ข้อสอบเป็นช้อยส์ประมาณ 70 ข้อ สอบ 3 ชั่วโมง ข้อสอบไม่ยากนะถ้าอ่านมา ก็ออกตรง ๆ หมดเลย ยากก็ตรงที่ต้องจำทุกบทห้ามเทนี่แหละ ฮือ ถ้าลืมก็คือบายไปเลย มีคะแนนการบ้าน คะแนนPeer ก็คือให้เพื่อนในกลุ่มพรีเซ้นต์ประเมินเรา เพราะงั้นถ้าใครไม่ช่วยทำงานก็จะต้องระวังเพื่อนประเมินให้ 0 ไรงี้
ความเห็นส่วนตัว : ได้ความรู้รอบตัวเยอะดี อย่างเรื่องวัคซีนงี้ ยาที่ใช้ แต่รู้สึกว่าอาจารย์ที่สอนไม่มีแพชชั่นในการสอนเลย สอนให้จบไปงั้น ๆ มีแค่ 1-2คนที่รู้สึกเค้าตั้งใจสอนจริง ๆ ก็ถ้าใครจะลงเจนเอดหมวดวิทย์ก็ยังแนะนำ Drug daily life นะ เอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง ข้อสอบไม่ยากถ้าอ่านมา ถ้าไม่เทก็เก็บ A ได้แหละ
.
6.Eastern Civilization (อารยธรรมตะวันออก)
การเรียนการสอน : ห้องใหญ่ 300 กว่าคน เรียน 3 ชั่วโมง หัวแตกจ้า เรียน 4 ซีฟ ได้แก่ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็จะมีอาจารย์แต่ละซีฟมาสอนหน้าชั้น ซีฟละ 3 สัปดาห์ เรียนในหนังสือที่ส่วนมากพี่รหัสจะส่งต่อให้น้อง ๆ เพราะงั้นมันก็จะเปื่อย และเต็มไปด้วยไฮไลต์55555 แต่ถ้าใครอยากซื้อใหม่ก็ได้นะ ราคาไม่เกิน300บาทแหละ
การเรียนจะคล้ายเรียนวิชาประวัติศาสตร์ตอนมัธยม แต่ต่างตรงที่การเรียนอารยธรรมไม่ให้ความสำคัญกับเวลาแต่จะให้ความสำคัญกับร่องรอยและอารยธรรมผลงาน รวมทั้งเรียนให้เข้าใจว่าทำไมคนกลุ่ม ๆ หนึ่งถึงเป็นแบบนี้ คิดแบบนี้ และอะไรช่วยให้พวกเขารวมตัวและสร้างอารยธรรมขึ้นมา ตอนก่อนมิดเทอมเรียนอินเดีย จีน ส่วนหลังมิดเทอมก็จะเป็น ญี่ปุ่นและเอเชียออกเฉียงใต้ สำหรับเรายากสุดเราให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะปีนี้เปลี่ยนอาจารย์ใหม่ และวิธีการสอนของเค้าก็แปลกมาก ๆ ข้อสอบก็เช่นกัน ทำเอาไปไม่เป็นเลย กราบตัวเองที่ไม่ท่องชื่อมาเยอะ55555มันวิเคราะห์เกือบหมดเลย แบบ ไม่มีในหนังสือเลยมั้ง 100 กว่าหน้าเนี่ย ส่วน จีน สนุกดี ตอนแรกคิดว่าอาจารย์จะโหด เพราะถ้าใครเข้าห้องสาย เค้าจะหยุดพูด แล้วก็มอง ไม่ก็เคาะโต๊ะ คือบับ กลัว แล้วคาบแรกเพื่อนมาสายเยอะมาก ๆ คิดภาพว่าห้องใหญ่อะ คนเข้าสายทีนึงเค้าก็หยุดพูด มาอีกหนึ่งเค้าก็หยุดพูด ถถถถ แต่อาจารย์สอนสนุก เล่าเรื่องกงสีจีน ขงจื๊อ ซึ่งพอดีกับตอนที่เลือดข้นคนจางฉายพอดีก็จะมันส์ ๆ หน่อย
การสอบ : มิดเทอม 50 ไฟนอล 50 ไปเลยจ้า ไม่มีคะแนนอื่น สอบล้วน ร้องไห้ล้าว สอบทีก็ปาไป 200 หน้า อ่านตาแตก ชื่อเยอะมากกกก ควรจำทุกตัวเพราะออกละเอียดมาก ตอนสอบญี่ปุ่นเราจำแค่ชื่อหนังสือ “ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอันยิ่งใหญ่” คือจำได้นะว่ามันสำคัญยังไง อยู่สมัยไหน สรุปในข้อสอบมาเป็นชื่อญี่ปุ่นซึ่งในหนังสือมันคืออยู่ในวงเล็บอะ อาจารย์ก็ไม่เคยพูด สรุปงงฮะ อีหยัง ไปตอบสลับกับอีกอัน ที่พีคกว่าคือเพื่อนคนอื่นตอบได้หมดเหลือชั้นคนเดว5555
ข้อสอบมีเขียนล้วน ตอบสั้นๆ และจะมีข้อใหญ่ 1-2ข้อ ข้อละ10คะแนนจะมาเป็นแนววิเคราะห์ผสม ๆ กับความจำ เขียนตอบยาว ๆ ไป อันนี้จะเป็นของอินเดีย จีน ญี่ ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่ข้อสอบหลุดโลกไปเลยฮะ แต่งนิทานใหม่ ให้วิเคราะห์เกือบทั้งข้อสอบ crying ปีหน้าไม่รู้จะเปลี่ยนคนสอนหรือเปลี่ยนหรือเปล่านะ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าจะเอาญี่ปุ่นออก แล้วก็อาจจะมีอิสลามเข้ามา รอติดตามต่อไป
ความเห็นส่วนตัว : ชอบนะ อาจารย์ที่สอนดูมีความรู้และมีแพชชั่นในหัวข้อที่ตัวเองสอน เนื้อหาสนุกดี ชอบอะไรประวัติศาสตร์ ๆ แบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นวิชายักษ์ที่อ่านเยอะมาก จำหัวแตก เป็นวิชาที่หลายคนอดนอนอ่านกัน แต่สำหรับเราการนอนจะมาก่อนเท่านั้น5555 เพื่อนมักจะอ่านกันล่วงหน้าก่อนเรียน อ่านก่อนสอบล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ or maybe เดือน และอ่านกันอย่างต่ำ 2-3 รอบ ;_; ยังจำความสะพรึงที่สอบมิดเทอมเสร็จ เปิดไอจีเจอสตอรี่เพื่อนอ่านญี่ปุ่นกันต่อแล้วแม้ยังไม่เคยเรียนได้แม่น กัวแร้วฮับ
.
7.Reasoning (การใช้เหตุผล)
อยากจะบอกก่อนว่ารีซันนิ่งน่าจะเป็นวิชาที่แต่ละเซคต่างกันมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะเซคเรา 5555555 ช่วงก่อนเปิดเทอม พี่ในกรุ้ปพูดว่า น้อง ใครได้รีซันนิ่งเซค 3 อะ คนนี้ตำนานนะน้อง พี่ C+มาแล้ว เราตอนนั้นจำเซคตัวเองไม่ได้ คิดว่าก็คงไม่ซวยขนาดนั้น ที่ไหนได้ ชั้นน่าจะประเมินความดวงซวยตัวเองดีเกินไป เพราะว่า ได้!เซค!สาม!จริง!ด้วย!
การเรียนการสอน : เป็นวิชาภาคปรัชญา แต่เนื้อหามันก็ยังแนวตรรกะนะเราว่า ไม่ได้ลึกถึงขั้นปรัชญาขนาดนั้น โดยรวมหัวข้อที่เรียนก็เป็น Deductive reasoning, Hypothetical reasoning, Categorical reasoning, Inductive reasoning, Statistical reasoning, Causal reasoning, Fallacies บลาๆ เยอะมากเขียนไม่หมด
เซคอื่นจะใช้หนังสือชื่อ การใช้เหตุผล เล่มไม่หนามาก ส่วนเซคเรา เรียนกับอาจารย์วศิน ใช้ A concise introduction to logic จ้อมาก เพราะ concise ที่ว่าคือ 700 กว่าหน้า อังกฤษล้วน ;_; ใครอยากลองไปดูก่อนก็พิมพ์ไปในกูเกิ้ลมันก็จะขึ้นมาเป็น pdf ให้ อาจารย์จะมีวีดิโอที่เค้าสอนลงในแบล็กบอร์ดทุกอาทิตย์ ความยาว 2-3ชั่วโมง (เวอร์ชั่นเร่งมาให้แล้ว เสียงพูดก็จะเล็ก ๆ แหลม ๆ ดูหรือไม่ดูก็ได้แหละ แต่ถ้าขี้เกียจอ่าน ดูวิดิโอก็เป็นทางเลือกที่ดี ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย จะช็อกกับคะแนนควิซได้ง่าย ๆ TT) จากนั้นก็จะมีควิซให้ทำในแบล็กบอร์ด ทำก่อนเที่ยงคืน ให้เวลาครึ่งชม. มีนควิซก็จะมีตั้งแต่ 3-5 เต็ม 10 ใช่จ้า อ่านไม่ผิดหรอก maxได้ 6 ก็มีมาแล้ว!!! แต่มันไม่เก็บคะแนน เป็นแค่เกณฑ์ว่าถ้าทุกสัปดาห์เฉลี่ยเกิน 50% ถึงจะมีสิทธิได้ A
วันที่เรียนอาจารย์จะเฉลยควิซ โดยให้ช่วย ๆ กันตอบว่าข้อไหนถูก และอธิบาย ยกมือกันตอบเพราะมีคะแนนContribution ตอบได้คำตอบที่เค้าพอใจก็จะได้ 1 บางทีถามคำถามอย่าง ข้อนี้ลืมเฉลยรึป่าวคะ ก็อาจจะได้อีก 1 เพราะถือว่าตั้งใจ มีส่วนร่วม แต่บางทีกว่าจะได้สัก 1 ต้องอธิบายเกือบจบบท ใช่ ประสบการณ์ตรงชั้ลนี่เอง หลังเฉลยก็จะมี discuss แล้วแต่เรื่อง ถ้าบางคาบเวลาเหลือน้อยก็จะให้ทำแบบฝึกในหนังสือ หรือบางคาบก็มีหัวข้อให้ถกกัน เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย แล้วแย้งกัน หักล้างข้ออ้างของอีกฝ่าย สนับสนุนข้ออ้างตัวเอง ด้วยเหตุผลอะนะ ถถถถ บางคาบอย่างคาบสุดท้าย ก็มีหาดราม่าในทวิตเตอร์แล้วดิสคัสกันว่านี่เป็น argument มั้ย เป็น fallacies มั้ย ถ้าเป็น แล้ว defect มันอยู่ตรงไหน
อีกงานคือหลังเรียนทุกสัปดาห์ต้องเขียน Reflective learning journal ส่งในแบล็กบอร์ด บอกว่าเราได้เรียนอะไรบ้าง พัฒนาอะไรบ้าง มีปัญหาตรงไหนที่อยากบอกอาจารย์ ห้ามใส่ชื่อเด็ดขาดไม่งั้นได้ 0 งานนี้เต็ม 1 คะแนน จะได้เต็มต้องเขียนให้สะท้อนถึงการเรียนรู้ของเรา แบบจะเขียนว่า เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ไรงี้ก็ได้นะ เขียนได้ทั้งเป็นฟอร์มที่อาจารย์จะแนบไฟล์มา หรือเขียนใส่เวิร์ดเป็นเรียงความก็ได้ บางวีคแทบไม่ได้เรียนอะไรไม่รู้จะเขียนอะไรก็บ่น ๆ ใส่เวิร์ดไปให้มีงานส่ง ถถถถถ อันนี้ไม่เก็บคะแนน แต่เป็นเกณฑ์เหมือนกันคือต้องได้ 50% ถึงจะมีสิทธิ์ได้ A
เซคเรามีนัดเรียนชดคาบที่หยุดเป็น make-up class แล้วก็ยังมี extra class เพิ่ม ครั้งละ 3 ชั่วโมง หลังสอบมิดเทอมกับไฟนอลสามารถมา Challenge ข้อสอบที่สงสัย เผื่อได้คะแนนเพิ่ม รวม ๆ 2 เทอมได้เรียนเพิ่มอีก 10 กว่าชั่วโมงได้ สุด สุดยอดจริง ๆ อันนี้อาจารย์ขยันสอนจริง เพราะอย่างรอบนึง ถ้าในเซคว่างไม่ตรงกันอาจารย์จะสอนให้ 2 เวลา คือแบ่บ ว้าว ดีหรือไม่ดีเนี่ย 5555555
ทุกเซคจะต้องทำ Argumentative essay ที่เราเลือกหัวข้อโต้แย้งที่สนใจ บางเซคอาจจะทำรายกลุ่ม รายคน บางเซคทำให้เสร็จภายในคาบ บางเซคทำทั้งเทอม เซคเราทำเดี่ยว ใช้เวลาทั้งเทอม มี First draft ,Peer assessment ประเมินให้เพื่อน แนะนำให้เพื่อนแก้ไขจุดต่าง ๆ โดยใช้ความรู้ที่เรียนมา เช่น Thesis statement ไม่ชัดเจนนะ Counter argumentน้อยไปนะ เป็นต้น , Second draft อันนี้คือเราแก้หลังเห็นที่เพื่อนประเมิน แล้วส่งให้อาจารย์ประเมินให้เรา ส่งหรือไม่ส่งก็ได้ ไม่มีคะแนน, Final draft ซึ่งควรจะส่งช่วงสอบไฟนอล เป็นฉบับแก้หลังจากเห็นที่อาจารย์ประเมิน (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ฟี้ดแบ็กคืนเลย อิอิ) ส่งกัน 3 ครั้งไปเล้ย! เซคอื่นส่วนมากจะส่งรอบเดียวจบตอนท้ายเทอม อันนี้แล้วแต่เซคจริง ๆ อย่าง Peer บางเซคก็ต้องทำสไลด์มาพรีเซ้นต์หน้าห้อง บางเซคก็ไม่มี แต่เซคเราทุกอย่างจะเป็น anonymous ตอนส่งงานก็ไม่ต้องเขียนชื่อ ตอนประเมินเราก็จะไม่รู้เราประเมินให้ใคร และใครที่ประเมินให้เรา งานทุกชิ้นทำลง Blackboard หมด ประหยัดกระดาษมาก
การสอบ : อิงเกณฑ์ เกรดจะมาจาก มิดเทอม 30, ไฟนอล 30, First draft 10, Final draft 10 , Peer assessment10 , Presentation 10 มีคะแนน Extra ช่วยก็คือมาจากที่ยกมือตอบในห้องอะแหละ
ข้อสอบมิดเทอม ไฟนอล ก็จะเป็นเรื่องที่เรียนมา เป็นช้อยส์ สอบในคอม รู้คะแนนเลยเหมือนตอนทำควิซ ต่างกับเซคอื่นที่จะเขียนตอบ ไอที่รุ่นพี่บอกว่าขอสมุดเพิ่มกันอะ แต่ได้ข่าวว่าก็เป็นสมุดบาง ๆ ตอนแรกคิดว่าสมุดหนาจ้าซิส กลัว เอนี่เว คะแนนท็อปเซคเราก็ใส ๆ เนอะ 23 เต็ม 30 ส่วนเซคอื่นได้ยินว่า 27 28 ไปอีก555555 ถามว่ายากมั้ย ก็บอกเลยว่าโคตรยาก หลอกในหลอก คิดแบบหัวแตก โจทย์ยาวแบบตาลาย คะแนนมีนก็จะอยู่ที่ 14-15 เต็ม 30 ไม่มีใครแปลกใจอะไรเพราะมันก็เหมือนตอนควิซที่ใครได้ 6 อัพก็กือเป็นเทพแล้ว ;_; ส่วนพวกดราฟต์ต่าง ๆ เนี่ย อาจารย์จะมีตัวอย่างมาให้ดูก่อน แต่ไม่บอกอีกนะตัวอย่างไหนดี ไม่ดี ให้จับกลุ่มวิเคราะห์กันเองอีกกก ส่วน Presentation ปีเราจับคู่เสนอหัวข้อในบท Fallacies แล้วทำเป็นวิดิโอฟรีสไตล์ จะใช้ powerpoint หรือจะอัดตัวเองตอนสอนก็ได้
ความเห็นส่วนตัว : ก็ซัฟเฟอร์แบบที่เพื่อน ๆ พี่ ๆ เข้าใจกันนั่นแหละ แต่เอาจริง ๆ สำหรับเราก็ซัฟแค่2-3 สัปดาห์แรก ๆ นะ หลังจากนั้นมันจะกลายเป็น ความชิน คือกลายเป็นกิจวัตรที่ว่าทุกวันพุธมีควิซนะ ทุกพฤหัสเข้าคาบ ทุกศุกร์จะมีวิดิโอเรื่องใหม่ลงในแบล็กบอร์ดนะ ทุกวันอาทิตย์ส่งjournal ...ช่างเป็นความเคยชินที่ฟังแล้วหดหู่มาก 55555 แล้วก็จะไปซัฟเฟอร์อีกทีตอนรู้คะแนนที่มันกลายเป็นว่าเต็ม 30 ได้มากกว่า 17 ก็คือขั้นดีแล้ว ชินและชากับเศษเลข
แต่เอาจริง ๆ ไม่เชื่อก็น่าจะต้องเชื่อว่าเราได้อะไรจาก reasoning เยอะที่สุดในบรรดาวิชาเทอม 1 คงเพราะเราไม่เคยเรียนแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเรียนวิชาแนว ๆ นี้มาก่อน มันไม่เหมือนวิชาอื่น ๆ ในเทอมแรกที่ยังคล้ายมัธยมอยู่ (ไม่นับเรื่องข้อสอบและสภาพแวดล้อม ;_;) รีซันนิ่งค่อนข้างเป็นวิชาเปิดโลกของเราเลยอะ ทั้งการคิด มุมมองต่าง ๆ ที่อาจารย์สอน เค มันอาจไม่ได้เว่อร์แบบที่เราได้ยินมาว่าอาจารย์วศินสุดยอด ตัวท็อป แต่เรารับรู้ได้ว่าอาจารย์มีแพชชั่นในเรื่องที่ตัวเองสอนมากนะ ทุ่มเทกับการสอน อะไรยาก ๆ ที่นักเรียนไม่เข้าใจ อาจารย์ก็จะพยายามอธิบายจนทุกคนเก๊ท อธิบายแบบงง ๆ นั่นแหละ ถถถถ แม้กว่าอาจารย์จะคิดสักตัวอย่างจะนานมากและเหมือนเถียงกับตัวเองตลอดเวลา (?) แต่หลายครั้งทำให้เราเอ๊ะขึ้นมาว่า เออ ไม่เคยคิดในมุมนี้มาก่อนเลยว่ะ แล้วก็อาจารย์วศินเป็นคนที่ค่อนข้าง open-minded ใครเสนออะไรมาก็จะเปิดกว้าง ตามใจนักเรียนในเซคมาก ๆ แล้วก็อย่างที่บอกว่าตั้งใจสอนจริง ๆ พยายามนัดชดให้เรียนทัน โทรไปถามข้อที่สงสัยตอนเกือบ4ทุ่มเค้าก็ยังรับ 555555
ส่วนตัววิชา หนังสือเฮอลี่ถ้าได้อ่านจริง ๆ คิดว่าเป็นหนังสือที่ดีมากหนังสือนึงเลย แบบโอเคมันอาจจะหนามากและตัวอักษรเล็ก+เบียด… แต่สำนวนการเขียน+การยกตัวอย่างทำให้เราเก๊ทเรื่องยาก ๆ ที่เป็นนามธรรมแล้วก็แอบเพลินอยู่นะ ถ้าไม่ต้องสอบคงอ่านแล้วจอยกว่านี้ TT เนื้อหาวิชาสอนให้เรามองโลกกว้างขึ้น เวลาจะพูดอะไรก็คิดมากขึ้นว่าเออ มันใช่รึป่าว แถมเรียนเซคนี้ทำให้เราปลงกับคะแนนได้ดีมาก ได้6หรอ ดีใจจัง อะไรทำนองนี้ ถถถถถ แต่เราเคยได้ควิซเต็มด้วยนะ จ้องจอคอมตาถลน วดฟ ได้ 10 ใช่มั้ย ไม่ใช่ 0 ใช่มั้ย ถถถถถ
โดยรวมแม้วิชานี้จะเรียน 3 ชั่วโมงเท่าไทย เรสคอม อีสซีฟ แต่เราคิดว่าเวลาผ่านไปเร็วกว่า แย่งกันตอบกับเพื่อนก็สนุกดี 5555 หัวข้อที่เรียนมันยากจนไม่ง่วงไปอีก ยิ่งฟังมุขของอาจารย์แล้วเราก็จะเครียดจนหลับไม่ลงกันเล้ย เพื่อนในเซคน่ารัก รักใคร่กลมเกลียวเพราะเราผ่านอะไรด้วยกันมามาก ถถถถ ที่น่าสะพรึงคือหลายคนรวมทั้งเราต้องไปรียูเนี่ยนกัน Gen philos เซคอาจารย์วศินต่อเทอมหน้า T___T มีตั้ง 5 เซคแต่ก็สุ่มหนีไม่พ้นจริง ๆ ฮับ
ก็จะเป็นวิชาที่เขียนยาวนิดนึงให้สมกับที่อุตส่าห์รอดมาได้ ถถถถ ถ้าใครอยากได้ A แบบชิว ๆ ก็อาจต้องแนะนำให้ย้ายเซค เพราะได้ข่าวปีก่อน ๆ A ในห้องมีไม่เกิน 2 คน และต้องย้ายให้ทันนะแม่ เพราะคนที่ไหวตัวทันก็จะรีบไปทำให้เซคอื่นเต็ม สุดท้ายก็อาจจะต้องจำใจเรียนเซคตำนานต่อไป… แต่ถ้าใครไม่มายด์เรื่องคะแนนอะ เราก็เชียร์เซคนี้นะ เราว่าจะได้อะไรเยอะเลย ก็จะไม่เคลมว่าได้เยอะสุดเพราะยังไม่ได้ลองเรียนครบทุกเซค มันจะฟาลาเชี่ยสเอาได้5555555
.
สรุป เทอม 1 เป็นเทอมปรับตัวสำหรับเรา วิชาที่รู้สึกโอเคจริง ๆ ก็คงแค่ อีสซีฟ รีซันนิ่ง กับอิ้งวัน เพราะฉะนั้นวันพฤหัสบดีก็เลยค่อนข้างเป็นวันหรรษานิดนึง ถถถถ เอนี่เว ก็ยังไม่เจอวิชาที่แบบ ชอบ มากกก อยู่ดี วิชาที่ซัฟเฟอร์สุดเราให้สเปน น่าเบื่อสุดก็เรสคอมไปเลย ถามว่าโอเคมั้ยโดยภาพรวม ก็ยังรู้สึกว่าเหมือน ๆ กับที่เราคิดไว้แหละว่าต้องยากประมาณนี้ จริง ๆ เคยคิดว่าเหี้ยมกว่านี้ด้วยซ้ำ เทอม 2 ก็คงเป็นของจริง เพราะต้องใช้เกรดเข้าเอก ยังอยากเข้าเอกอังกฤษอยู่นะ ต้องสู้ ๆ ต่อไม่รอแล้วจ้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in