ครั้นเด็กหญิงน้อยก้าวพ้นวัยเด็กบางสิ่งบางอย่างถือกำเนิดขึ้นในครรภ์ของนาง สิ่งมีชีวิตเล็กๆเติบโตขึ้นอย่างเชื่องช้าจนปรากฏชัดแก่สายตาผู้คน
ธิดาเพียงคนเดียวแห่งตระกูลชาล๊อตตั้งครรภ์!!! ใครคือสามีของนาง อย่าว่าแต่ผู้คนนอกตระกูล คนในตระกูลและผู้ให้กำเนิดก็กังขา สอบถามนางกลับตอบไม่ได้ เอาแต่ร่ำไห้กับสายตาของผู้คน วาจาเสียดสีกระทบกระเทียบจากบุรุษแม้ในหมู่พี่น้องของนางเอง...
“ผู้หญิงก็เยี่ยงนี้ไม่รักษาเกียรติรักษาหน้าของตระกูล เจ้าไม่สมควรเกิดมาในตระกูลชาล๊อต ขับนางออกไปจากตระกูลของเรา”
เหล่าเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาง รวมหัวกันต่อต้านหาเหตุเพราะพวกเขาล้วนไม่พอใจนางอยู่เป็นทุนเดิมทั้ งที่นางควรเป็นที่รักใคร่ในหมู่พี่น้องบุรุษ สมควรดูแลปกป้องถึงจะถูกการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาหวาดกลัวนาง นางงดงามเกินไป
นางมีอำนาจบางอย่างครอบครองที่พวกเขาไม่รู้ ความไม่รู้และโง่เขลานำความหวาดกลัวมาสู่
ขับนางออกไปจากตระกูล!!!พวกเขาคิดได้เพียงเท่านี้ ขว้างนางออกไปให้ไกลจึงรู้สึกปลอดภัย
คำพูดนั้นส่งผลให้แววตาสงบนิ่งวาวโรจน์คุโชน นางเปล่งเสียงหัวเราะกังวานก้องชี้กราดไปยังหมู่พี่น้องที่ออกมาหาใช่น้ำเสียงของนางไม่
“ถึงทุกวันนี้ผู้ได้ชื่อว่าบุรุษยังคงดูถูกเหยียดหยามสตรีทั้งที่นางคือเพศแม่กำเนิดพวกเจ้าขึ้นมา และต้นเหตุแห่งความชั่วช้าทั้งหลายล้วนเกิดจากพวกเจ้าข้าธิดาเพียงคนเดียวแห่งตระกูลชาล๊อตถือกำเนิดมาเพราะวาจาดูหมิ่นธิดาไกอาแห่งบุรุษชาล๊อตจำได้หรือไม่”
เสียงทรงอำนาจเสียดแทงเข้าสู่ความทรงจำอันยาวนานของกาลก่อน
“ยามใดสตรีเพศถือกำเนิดในสายตระกูลชาล๊อตนางผู้นั้นคือผลตอบแทนที่เจ้าดูหมิ่นข้า ลบหลู่เกียรติธิดาแห่งข้าเด็กหญิงซึ่งถือกำเนิดต้องรับใช้ข้า รับใช้โลกไปจนนิรันด์”
วาจาแห่งไกอาดังสะท้อนก้องไปทั่วปราสาทแต่ความหมายแท้จริงแห่งวาจานั้นยังไม่มีใครรู้ความ ‘รับใช้โลกไปจนนิรันดร์’คืออะไร...
“อวานีคือนามของเจ้า ชีวิตของเจ้าไม่มีวันดับสูญเจ้าคือผู้ให้กำเนิดรูปกายแห่งจิตใจมนุษย์ผู้คนรู้จักเจ้าภายใต้ชื่อมารดาแห่งสรรพสิ่ง”
สายตระกูลชาล๊อตต้องคำสาปนับแต่นั้น บุรุษแห่งชาล๊อตล้วนไม่สามารถมีทายาทสืบสายตระกูลได้อีกต่อไป
กาลเวลาคืบผ่านผู้คนรอบกายนางล้วนล้มหายตายจากไปจนหมดสิ้น นางยังคงคลองครรภ์โดยไม่มีทีท่าจะให้กำเนิดมาอีกนานเนิ่นนับจากนั้น จนถึงวันกระทั่งวันหนึ่ง
อวานีสำรอกดวงแก้วยามรัตติกาล นางไม่รับรู้มาก่อน ดวงแก้วใสขนาดเท่ากำปั้นห่อหุ้มร่างกายเด็กชายสองดวง ลอยออกจากปากนางยามหลับใหล นางเดียวดายไร้คนพึ่งพิงไม่ล่วงรู้เรื่องราวอันใดหลังจากกผู้คนรอบกายนางล้มหายตายจากนางกลับอยู่มาอย่างโดดเดี่ยว
อำนาจมารดาแห่งสรรพสิ่งคืออะไรนางมีอำนาจเหนือสิ่งใดบ้าง ทำอะไรได้บ้างนางไม่เคยรู้...
เปรียบอวานีคือเด็กสาวเยาว์วัยผู้มีลูกก่อนวัยอันควร เยื่อใยความรักระหว่างนางกับบุตรแม้อยู่ในครรภ์ก็จริงอยู่ กลับบางเบาเจือจางจนแทบสัมผัสไม่ได้ แล้วยิ่งการถือกำเนิดบุตรหาเป็นไปอย่างธรรมดาสามัญไม่
นางมิได้ถือครรภ์เพราะมีความสัมพันกับบุรุษเพศ กำเนิดลูกของนางสัมผัสไม่ได้ ด้วยเพราะสิ่งก่อเกิดไร้ซึ่งสายสะดือเชื่อมต่อ ครั้งนั้นนางรับรู้แค่ว่าพวกเขาถือกำเนิดในครรภ์ของนางไร้ซึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่าชีวิต
แต่พวกเขาอยู่ ณ.แห่งหนใดกันเล่านางไม่มีผู้ใดให้สืบเสาะเว้นแต่ไกอา...หากนางก็ไม่รู้ว่จะพบเจอได้ที่ไหน ไกอามาเมื่ออยากมาหาใช่ด้วยปรารถนาอวานีไม่ ครั้งแรกและครั้งเดียวที่นางเจอก็แค่เสียงที่กังวาลก้องในปราสาทชาล๊อตเมื่อเนิ่นนานมาแล้วไม่เคยเห็นรูปกายแต่อย่างใด
“ข้าควรทำเยี่ยงไรกับชีวิตของข้าต่อไป ควรทำเยี่ยงไร...?”
คำถามชนิดนี้ปรากฏขึ้นในความนึกคิดอวานีบางครานางหมายปลิดชีวิตตัวเองให้ล่วงพ้น จะทำได้ฉันท์ใดในเมื่อชีวิตของนางเป็นนิรันดร์ไม่แตกดับ ความโดดเดี่ยวเดียวดายสร้างความทุกข์ทรมานแก่นาง ปราสาทชาล๊อตเงียบร้างไร้ผู้คนมานานนักหนา
และนางไม่ยินยอมพาตัวเองออกไปพบปะผู้ใดนอกปราสาท นางผู้มีชิวหาสีดำน่ากลัวแก่ผู้สนทนาด้วยนางผู้ถูกกล่าวขานว่าวาจาต้องคำสาปยามแปร่งออกมา นางผู้ทำให้ตระกูลมลายหายสูญสิ้น เช่นนี้ไม่เพียงพอจะสร้างความระทมทุกข์แก่หัวใจเยาว์วัยอีกหรือ
วันแล้ววันเล่า บทเพลงแห่งความเดียวดายบทแล้วบทเล่าถูกกลั่นออกจากหัวใจอวานี นางขับขานเพื่อปลอบโยนตนเอง ปลดปล่อยตนเองจากโซ่ตรวนคำสาปที่กักขังนางไว้ ทั้งแท้จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่นางไม่รู้ สายลมช่วยพัดส่งนำเอาถ้อยคำแห้งแล้ง ขาดแล้วซึ่งวิญญาณแห่งชีวิตออกนอกเขตปราสาท ล่องลอยไป
ชายผู้เฝ้ามอง คอยฟังเสียงนางนอกเขตปราสาทชาล๊อต ลึกล้ำเข้าไปในป่ามรณะเฝ้ารอคอยจิตใจอวานีเสื่อมถอยถึงที่สุด สิ้นแรงถึงที่สุด ง่ายต่อการครอบงำและเมื่อนั้นเขาจึงปรากฏกาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in