เที่ยงคืนเป็นช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนจากวันหนึ่งเข้าสู่อีกวันหนึ่ง บางคนเพิ่งเสร็จจากความวุ่นวาย บางคนกำลังตื่นเต้นดีใจ บางคนกำลังนอนหลับสบาย หรือบางคนกำลังนอนพลิกตัวไปมา ผมเคยได้ยินคนบอกว่า ช่วงเวลานี้ ถ้าใครนอนไม่หลับ วิธีสะกดจิตตัวเองที่ดีที่สุดก็คือนึกถึงเรื่องราวในอดีต นึกถึงผู้คนที่พบเจอในวันนี้ นึกถึงสิ่งที่เคยทำ เส้นทางที่เคยเดิน หรือคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถึงแม้จะหาเหตุและผลของสิ่งเหล่านั้นไม่เจอ แต่การได้นำความทรงจำทุกอย่างในหัวมาคิดทบทวนอีกรอบก็นับว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่าแล้ว
ส่วนตัวผม ผมมักจะนึกถึงเหตุการณ์ที่ยากจะลืม อย่างเช่น พบเด็กผู้ชายขายดอกไม้ตอนกลางคืน มีกลุ่มคนมากมายเดินขวักไขว่อยู่ภายใต้แสงไฟหลากสีในเมืองใหญ่ มีเด็กวัยรุ่นในชุดจีนโบราณเดินผ่านไปผ่านมา ผมเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงหัวมุมถนน เขาโดนแสงไฟส่องหน้าจนผมไม่สามารถมองเห็นเขาได้ชัดเจน แต่ที่รู้แน่ๆก็คือ เขาตัวคนดียว เขาน่าจะยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืนแล้วสินะ อาจจะยืนมาทั้งวัน หรือยืนมาหลายวันแล้วก็ได้ นั่นคือสิ่งที่ผมคิด
เขาจ้องมองไปยังคู่รักที่เดินผ่านไปผ่านมาและเดินเข้าไปหาพวกเขา
"ซื้อดอกไม้ให้แฟนไหมครับ.. ครับ! ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆครับ ขอให้รักกันนานๆนะครับ"
"ซื้อดอกไม้ให้แฟนไหมครับ" ไม่มีคนสนใจ…
ผมไม่รู้เรื่องราวของเขา แต่ผมพอจะรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวของเขาได้ การยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองเข้ากับโลกใบนี้ไม่ได้เลย ผมเดินเข้าไปซื้อดอกไม้ของเขาสองสามดอก และหวังว่าเขาจะได้กลับบ้านโดยเร็ว
ที่จริงแล้ว ผมก็คิดถึงบ้านเหมือนกันครับ ความคิดถึงมักจะแล่นเข้ามาในหัวของผมระหว่างช่วงพักอัดรายการ คิดถึงหม้อไฟ คิดถึงฉงชิ่ง คิดถึงสุนัขที่บ้าน ตอนที่ผมพูดกับคนอื่นเรื่องนี้ พวกเขาบอกกับผมว่า
“ช่วงนี้นายเที่ยวรอบโลกบ่อยไปแล้วหรือเปล่า”
คงจะใช่ แต่ก็เหมือนไม่ใช่ ผมคิดว่าความคิดถึงที่โผล่ขึ้นมาในหัวกระทันหันแบบนี้เป็นความเคยชินอย่างหนึ่งที่ทำให้เราได้ทบทวนและพิจารณาตัวเองระหว่างที่เรากำลังเดินไปข้างหน้า ผมไม่อยากลบความเคยชินนี้ทิ้ง เพราะว่าสิ่งนี้ทำให้ผมรู้ว่าตัวผมมาจากที่ไหน ที่นั่นมีความฝันของผม มีความตั้งใจแรกเริ่มของผม และมีความทรงจำที่สวยงามอีกมากมาย การเดินทางจากลอนดอนไปนิวยอร์ก นอร์เวย์ไปปารีส ถึงแม้ในช่วงอายุสิบเจ็ดปีนี้ผมจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากมาย และแม้ว่าเส้นทางในอนาคตของผมนับวันจะยิ่งไกลมากขึ้น แต่ทุกครั้งที่ผมคิงถึงบ้าน ผมก็ยังคิดว่าที่นั่นคือสถานที่ที่สวยงามที่สุดเสมอ และตอนกลางคืนก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้มากที่สุด
ตลกดีเหมือนกันนะครับ ตอนทำงานอยู่ข้างนอก ตอนเรียนหนังสือ มักจะคิดถึงบ้าน แต่พอได้กลับบ้านกลับอยากออกมาข้างนอก คนเราก็เป็นแบบนี้แหละครับ มักจะขัดแย้ง ยุ่งเหยิง ไม่แน่นอน โชคดีที่มีช่วงเวลากลางคืนไว้คอยเตือนตัวเอง คอยเตือนให้ยืนหยัดบนเส้นทางที่เลือกเดิน เตือนให้เชื่อในความรักและความเมตตา เตือนให้จดจำกลุ่มคนที่รักและสนับสนุนผมโดยไม่มีข้อแม้ใดใด
สิ่งเหล่านี้เราต่างรู้กันโดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา มันคือความกล้าที่ทำให้ผมเดินหน้าต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in