Makers
Store
Log in
You don't have any notification yet.
See All
My Wallet
null
Library
Settings
Logout
เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ
นโยบายความเป็นส่วนตัว
เพื่อใช้บริการเว็บไซต์
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ
วินาทีที่ยาวนาน
–
STOUCH
ทุกคนรังเกียจความเหงาในบางเวลา และพร้อมที่จะโหยหามันผ่านคนใกล้ตัว
เวลาที่ผมรู้สึกน้อยใจที่ไร ผมก็จะมีโอกาสได้ถามคำถามเพื่อนทุกที เป็นเพราะผมไม่ชอบที่จะเก็บมานั่งคิดเองเออเองแล้วเข้าใจผิดไปนานๆ การ 'ถาม' มันจึงเป็นทางออกหนึ่งที่ผมจะได้ 'รู้' ถึงคำตอบจากเพื่อน ซึ่งคำว่า รู้ ตัวนี้มันจะทำงานไปแบบคู่ขนานเพราะนอกจากตัวผมเองที่รู้แล้ว เพื่อนก็จะรู้ด้วยว่าผมคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งนี้อย่างไร
ผมเป็นคนที่เข้มแข็งได้กับทุกเรื่อง แต่จะอ่อนแอมากกับเรื่องเพื่อน เอาง่ายๆ ปัญหาบนโลกนี้ทำอะไรผมไม่ได้มากนัก หากใครอยากทำร้ายผมจริงๆ แค่เป็นเพื่อนกับผมแล้วหักหลัง ไม่จริงใจ ไม่ให้ความสำคัญ อันนั่นแหละ ถือว่าคุณทำร้ายผมได้สำเร็จแล้ว ความกลัวที่สุดที่ติดชาร์ตน่าจะเป็น กลัวเพื่อนไม่รัก ก็อาจจะเรียกแบบนั้นก็ได้
แต่เรื่องรักไม่รัก มันบังคับใครไม่ได้ -จริงไหมครับ-
และยิ่งถ้าเรารักใครไปแล้วแต่ผลที่กลับมา เราไม่ได้รับสิ่งนั้นตอบกลับ หรือน้อยกว่าที่เราหวัง เรามักเสียใจ ถึงแม้จะเป็นความสัมพันธ์ในระดับเพื่อนเดียวหรือเพื่อนฝูงก็ตาม
คุณเคยถูกทิ้งไหม ?
ผมเชื่อเสมอว่าหากเมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์มีความปรารถนา นั่นถือว่าเรายอมรับกองไฟที่วางอยู่ เราต่างรับรู้ได้ว่ามันจะเผาเราได้อย่างแสบร้อนเสมอ แต่ในขณะเดียวกันมันก็สร้างความอบอุ่นในวันที่เราเหน็บหนาว ฉะนั้นการที่เราจะบอกว่า เราเป็นโมเลกุลเดี่ยว ที่จะไม่วิ่งไปเกาะยึดกับโมเลกุลตัวอื่น มันมีทางที่จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะลึกๆ แล้ว เราทุกคนต่างต้องการอ้อมกอดที่อุ่นจากกองไฟ และถูกแผดเผาไปด้วยเช่นกันในเวลาต่อมา มันเป็นธรรมดาของเราทุกคนที่ต้องเจอ "เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่คนเดียว"
มนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม แค่นี้ก็ชัดแล้วครับ ว่าเราอยู่บนโลกนี้ไม่รอดถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงแน่ๆ หากไม่มีใครสักคนที่ช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกัน ยกตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่เราซื้อของเราจ่ายเงินให้แม่ค้า แม่ค้านำเงินเหล่านั้นไปลงทุนต่อในวันพรุ้งนี้ และเก็บส่วนที่เหลือไว้เลี้ยงคนในครอบครัวต่อไป และวันรุ่งขึ้นใครคนหนึ่งในบ้านแม่ค้าคนนั้น ก็จะเอาเงินไปแลกอาหารหรือของใช้ต่อไปเหมือน
เป็นวัฏจักร จากตัวอย่างที่มีมานั้น คงเห็นได้ชัดเพื่มขึ้นว่าเราคงตายและเกิดหลายต่อหลายหนแล้ว หากไม่มีมนุษย์เช่นเดียวกันกับเราเป็น เพื่อน บนโลกนี้
แต่เราก็ไม่ได้มีแค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น เรายังมีเพื่อนที่คอยห่วงใยและให้คำปรึกษาอีกด้วย มันเป็นความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งของมนุษย์ที่ลึกและละเอียดมากขึ้น พิเศษมากขึ้น และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้ การถูกทิ้ง คงเป็นเรื่องหนึ่งที่คุณเคยเจอมาไม่ต่างจากผม ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพศไหน คิดเห็นอย่างไร แต่ผมจะบอกคุณว่า
"ยินดีต้อนรับนะครับ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว"
และถ้าผมเป็น copy writer ที่เจ๋งๆ คนหนึ่ง ตอนนี้ผมคงมอบสโลกแกนซี้ปึกเหมือนสโลกแกนแอลกอฮอล์ ให้คุณแล้ว แต่ผมไม่ใช่ ผมเป็นแค่คนคนหนึ่ง ที่รอเวลากลับไปโลกใบเดิมในอีกไม่นานนี้ โลกที่เชื่อว่ามีเพื่อนอย่างน้อยก็คนหนึ่งที่รอผมอยู่ตรงนั้น การถูกทิ้งของผมในตอนนี้ มันทำให้ผมรู้สึกมองเห็นตัวเองไปพร้อมกับการเผชิญหน้ายอมรับความจริง ว่ากูแม่งอ่อนแอแค่ไหน
คุณพอจะเดาออกไหมว่า มันเหมือนมีการให้คะแนนระดับความสัมพันธ์ที่เราจะกลับบ้านมาและทดลงในความรู้สึกว่า เออคนนี้มีมาก คนนี้มีกลางๆ คนนี้มีน้อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาอีกของมนุษย์เรา ไม่งั้นคงไม่มีที่มาของคำว่า เพื่อนสนิท หรือ Best Friend หรือเพื่อนที่สำคัญ และมันมีโอกาสที่เป็นไปได้ยากมาก ที่เราจะให้คะแนนเพื่อนทุกคนเท่ากันหมด ร่วมถึงที่เพื่อนจะให้เราด้วย
คะแนนได้มาจากไหน อันนี้ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว รสนิยม นิสัยใจคอ ทัศนคติในการมองโลก เรื่องที่มองเห็นเหมือนกันเยอะหรือน้อยกว่าเรื่องที่มองเห็นต่างกันแค่ไหน บ้างคนอาจร่วมถึงรูปลักษณ์หน้าตาก็ว่ากันไป แต่ผมดันเป็นประเภทที่ไม่ยึดติดกับเรื่องข้างบนมากนัก เพราะสิ่งเดียวที่มันจะได้คะแนนมากที่สุดในการเป็นเพื่อนกันคือ "การดูแลและแสดงออกถึงความสำคัญที่มีต่อกัน" มากกว่าที่จะดีเบทที่ 'มึงไม่เหมือนกู ไม่ได้อยู่ใกล้กู มึงก็ไม่จำเป็นต้องได้รับความสำคัญ' เพราะคำว่าเพื่อน มันมาพร้อมมิติบางอย่างที่เป็น 'ประชาธิปไตร' การที่เราคิดไม่เหมือนกันใช่ว่าเราจะอยู่เป็นเพื่อนกันไม่ได้ ทุกอย่างมันควรมีการปรับตัวเข้าหากันในเวลาหนึ่ง ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้นแต่มันควรเป็นทุกฝ่าย เพราะเราเป็นมนุษย์ที่มี สุขทุกข์เศร้าเหงาและเห่าหอน ปะปนกันไป แล้วทำไมการเห็นใจกันมันต้องอยู่บรรทัดฐาน ของการที่เราคิดและทำไม่เหมือนกันด้วย
ในวันนี้เราเดินทางมาถึงยุคสมัยใหม่ แต่ที่น่าแปลกใจ ก็คือ ทำไมเรากลับผูดขาดกันบนระดับความสัมพันธ์แบบฟาสซิสต์ ที่โครตจะเผด็จการ และหากมีใครอยู่ติดกับเพื่อนเป็นแตงเมเพื่อหวังว่าเขาจะให้ความสำคัญและไม่ลืมกัน ถ้าต้องทำขนาดนั้น ผมว่าไม่น่าเลือกทำ เพราะความสำคัญมันอยู่ที่เรื่องของจิตใจ ไม่ใช่ระยะทางใกล้ไกล ระยะทางมันไม่เกี่ยว คิดแทนกันมันไม่เกี่ยว เหมือนกันไม่เหมือนกันมันก็ไม่เกี่ยว มันเกี่ยวที่ อยากคบอยากสนใจหรือป่าว
หลายคนอาจบอกว่าก็ไม่เหมือนกันไง เลยไม่อยากสนใจ แต่ในทางตรงกันข้ามหากเพื่อนที่คุณนิยามเขาแบบนั้น เขาสนใจและให้ความสำคัญกับคุณเสมอ คุณคิดว่าโลกใบนี้มันจะแคบไปไหมกับความรู้สึกที่คุณมีให้กับคนที่ไม่เหมือนกันแบบนั้น
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากคุณปล่อยให้สายตาตัวเองเดินทางมาถึงจุดนี้ ผมอยากให้คุณลองทบทวนดูว่า เราเคยทิ้งใครไว้ข้างหลังบ้างหรือป่าว หากคุณตอบว่าเคยผมขอปรบมือให้ดั่งคุณรับรางวัล เพราะนั่นคือความจริงใจที่อย่างน้อยคุณก็มอบให้ตัวคุณเอง ซึ่งถามว่ามันผิดไหม อันนี้ผมว่าน่าสนใจมาก สำหรับผมนะ ผมมองว่ามันไม่ผิดเลยเว้ย แต่เราก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเอง hahaha นิผมเริ่มขำละ ผมว่ามันยากเหมือนกันที่จะมาตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดในทุกวันนี้ เพราะสิ่งที่ถูกที่สุดก็อาจผิดที่สุดก็ได้ แต่ถ้าเรามาถามว่า สิ่งนี้มันจะทำให้เกิดอะไรขึ้น มันคงทำให้ คนใดคนหนึ่งเสียใจกับเราเท่านั้นเอง
-ทุกคนรังเกียจความเหงาในบางเวลา และพร้อมที่จะโหยหามันผ่านคนใกล้ตัว-
และบางครั้งผมก็มักจะเป็นแบบนั้นแต่มันน่าขันตรงที่ เวลาผมต้องการมันที่ไรมันจะขยับผมออกไปไกลทุกที ผมนั่งมองชีวิตของเพื่อนข้างนอกผ่านโซเชียลมีเดียและเสียงจากโทรศัพท์มือถือ ที่เพื่อนคอยมาอัพเดท ผมมองเห็นทุกคนกำลังขยับไปไกลขึ้นเรื่อยๆ บางคนได้เลื่อนตำแหน่งงาน บางคนก็มีแฟนสมใจหลังจากที่คร่ำครวญกันมานานตั้งแต่เราเป็นเด็ก บางคนก็กำลังตั้งใจเรียนให้จบ บางคนจบแล้วกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ในการทำงาน และบางคน... ผมหวังว่าเขาก็คงจะมีความสุขดี
ตอนนี้ผมหมดคำถามที่จะถามเพื่อนแล้ว เพราะผมได้คำตอบกลับมาหมดโดยที่คำพูดก็ไม่ชัดเท่าการกระทำอีกต่อไป และอย่างหนึ่งที่คุณต้องเตรียมใจไว้คือ การถามคำถามกับไฟนั้นมันเหมือนเป็นการเทน้ำมันให้เผาไหม้และแสบร้อนกันมากกว่าเดิม ส่วนตัวผมไม่อยากให้ใครอึดอัดและไม่สบายใจ เมื่อใดก็ตามที่ไฟมันหมอดหมดลงผมคงจะออกมาจากกองไฟนั้นเอง และหากความหนาวมาถึงผมก็คงต้องกุมมือตัวเองให้อุ่นและอดทน เพราะทางเดียวที่จะอยู่ให้รอดได้นั่น เราควรอยู่ในที่ของเราและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แน่นอนครับ มันเป็นเส้นทางที่ไม่มีเพื่อนตรงนี้แล้ว ทั้งที่พวกเขาคงไม่มีรู้ด้วยซ้ำว่า มีข้อดีอยู่ไม่กี่ข้อที่ผมมาอยู่ตรงนี้ และหนึ่งในข้อดีนั้นคือ การได้เจอพวกเขาในทุกๆ วัน
ระหว่างนี้เวลาคุณมีความสุขหรือเศร้าใจ ในวันที่ไม่เหลือใคร ผมอยากให้คุณจินตนาการไว้ว่า
เพื่อนจะยังคงอยู่ตรงนั้น และส่งยิ้มกลับมาให้เสมอ
มันอาจเป็นทางรอดทางหนึ่งของ
คนที่อยู่คนเดียวครับ .)
STOUCH
Report
Views
วินาทีที่ยาวนาน
–
STOUCH
View Story
subscribe
Next
Comments
()
Facebook
(
0
)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in
ยืนยันการซื้อ ?
เหรียญที่มีตอนนี้: null
มีเหรียญไม่พอซื้อแล้ว เติมเหรียญกันหน่อย
เหรียญที่มีตอนนี้ : null
Please Wait ...
ซื้อเหรียญเรียบร้อย
เลือกแพ็คเกจเติมเหรียญ
เลือกวิธีการชำระเงิน
Credit Card
Cash @Counter
Line Pay
ระบบจะนำคุณไปสู่หน้าจ่ายเงินของผู้ให้บริการ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in