เรื่องที่มักจะเข้ามากวนใจของหญิงสาวในช่วงนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของเจ้าของใบหน้าแสนสมบูรณ์แบบอย่างชิราอิชิ หลังจากเมื่อคราวก่อนที่เจอกันโดยบังเอิญ นิชิโนะรู้สึกว่าชิราอิชิจะกลายมาเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน เวลาที่กำลังตั้งสมาธิทำะไรบางอย่างอยู่ ใบหน้ายิ้มแย้มแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อนนั่นก็จะลอยขึ้นมาให้เกิดอาการผิดแปลกของร่างกายอยู่ร่ำไป
นิชิโนะรู้ดีว่าอาการเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากที่ร่างกายของเธอผิดปกติ เธอไม่ได้ป่วย ไม่ได้มีโรคประจำตัวและนี่ไม่ใช่อาการแทรกซ้อนของโรค แต่อาการคลื่นไส้ที่มักจะเข้ามาทักทายแม้จะกินยาแก้โรคกระเพาะไปแล้วก็ตามนั่นยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ หรือถ้าอยากจะพูดให้ถูกก็คือ นิชิโนะยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ตัวเองจะยอมรับได้นั่นเอง
เหมือนว่าจิตใต้สำนึกของเธอยังต่อต้านความรู้สึกของตัวเองอยู่
"นี่ นาจัง ไปกินข้าวกันเถอะ" ทาคายาม่าที่ตอนนี้กำลังยืนใช้แขนค้ำกับโต๊ะทำงานของนิชิโนะเอ่ยทักขึ้นทำให้เธอต้องหันไปมองนาฬิกา เลขที่บอกว่าตอนนี้ถึงเวลาพักแล้วทำให้รู้ตัวว่าได้ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไปตลอดทั้งเช้ากับการคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องวกวนไปมา
"อือ แปปนึงนะ" เธอตอบกลับไปก่อนจะปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงและถอนหายใจออกมาพลางคิดไปว่าวันนี้คงหนีไม่พ้นต้องทำโอทีอีกแล้วสินะ
.
.
ย่างเท้าที่ใส่ส้นสูงจนทำให้ปวดอยู่บ่อยๆไปตามทิศทางที่มุ่งหน้าไปยังลิฟต์พร้อมกับความรู้สึกห่อเหี่ยว เวลาพักมันผ่านไปเร็วเกินกว่าจะทำอะไรได้ทันก็ต้องกลับมายังตึกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มองดูกี่ทีก็รู้สึกว่าไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลย ทาคายาม่าที่เดินอยู่ข้างกายก็กำลังพูดถึงคอลแลกชั่นเสื้อผ้าที่กำลังจะมาใหม่ จะว่าไปก็จะเข้าสู่หน้าร้อนแล้วนี่นา ได้แต่หวังว่าคงจะมีอะไรมากกว่าการปล่อยให้หน้าร้อนผ่านไปอย่างทุกที
"หว้า...หยิ่งชะมัด ฉันยิ้มให้หล่อน แต่ดันโดนเมินซะงั้น"
ทาคายาม่าบ่นขึ้นมาขณะที่เราสองคนย้ายเข้ามาอยู่ในลิฟต์แล้ว โชคดีที่ตอนนี้มีเพียงเราสองคนถึงได้พูดออกมาอย่างเต็มเสียงขนาดนี้ ส่วนคนที่โดนนินทาระยะเผาขนที่เพิ่งจะเดินสวนออกไปจากลิฟต์ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นคนที่ทำท่าทางว่าไม่อยากจะญาติดีกับเธอสุดๆอย่างวาคัทสึกิ ไม่นึกเลยว่าทาคายาม่าก็โดนปฏิกริยาเหมือนกับนิชิโนะด้วย
ว่าแต่...คนที่เดินอยู่ข้างๆวาคัทสึกินั่นใครกันนะ ?
"วาคัทสึกิซังกับ....ใครน่ะ ?"
"ซากุไรซังไง นี่เธอรู้จักใครในแผนกบ้างเนี่ย" ถ้านั่นคือคำถามที่ต้องการคำตอบจริงๆนิชิโนะคงจะตอบไปว่าก็รู้จักแค่วาคัทสึกิเพราะไปสัมมนาด้วยกัน หัวหน้าและก็เธอนี่แหละ แต่นั่นก็แค่พูดตอบในใจเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นหัวข้อเรื่องที่กำลังพูดอยู่ตอนนี้คงจะถูกเปลี่ยนไปอย่างเดาได้ไม่ยากเลย
นิิชิโนะมองดูเลขที่แสดงอยู่ตรงหน้า อีกไม่กี่ชั้นก็จะถึงแล้วแต่ทาคายาม่ากลับพูดขึ้นมาต่อ "ได้ยินมาว่าสองคนนั้นกำลังคบกันอยู่ด้วยล่ะนะ"
"คบกัน ? แบบคนรักน่ะเหรอ ?"
"อือ ประมาณนั้นแหละ แต่ฉันว่าคงมั่วมากกว่า ซากุไรซังเป็นคนทำงานดี คงจะโดนใส่ความเป็นธรรมดา" ทาคายาม่ายักไหล่อย่างไม่จริงจังนัก ลิฟต์ที่มาถึงชั้นพอดีทำให้เราหยุดบทสนทนาลงแค่นั้น
ถ้าหากว่าเป็นนิชิโนะเมื่อในอดีตก็คงจะปล่อยให้เป็นเรื่องที่ฟังผ่านหูไปอย่างทุกที แต่นิชิโนะในยามนี้นั่น กลับได้ใคร่อยากรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างวาคัทสึกิซังและซากุไรซังยิ่งนัก
.
.
"หน้าตาดูเครียดๆนะ มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ ?"
นิชิโนะห่อไหล่ มืือทั้งสองกุมแก้วไว้แน่น ใบหน้าของเธออาจจะดูอมทุกข์เสียจนชิราอิชิอดไม่ไหวจนต้องถามออกมาจริงๆก็ได้ นิชิโนะทำได้เพียงปั้นหน้ายิ้มก่อนจะโกหกอีกคนออกไป "ฉันอาจจะทำงานหนักไปหน่อย ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
"เหรอคะ...ฉันคิดว่านิชิโนะซังจะชินกับการทำงานจนดึกดื่นแล้วซะอีก" เธอรู้ว่านิชิโนะกำลังโกหกถึงได้พูดอะไรน่าตลกแบบนั้นออกมา และมันก็ตลกเสียจนทำให้นิชิโนะต้องแค้นเสียงหัวเราะฝืดเคืองออกมา
"เดี๋ยวนี้หัดพูดจาเสียดสีกันแล้วเหรอคะ ?"
"ฉันเป็นห่วงนะคะ"
อ่า...บ้าชะมัด สถบอยู่ในใจตัวเอง ก่อนยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มจนหมด นิสัยของชิราอิชิที่เธอพอจะรู้อีกอย่างก็คือ อีกฝ่ายเป็นคนช่างตื้อเกินคาด มันคงจะเริ่มต้นตั้งแต่อีกฝ่ายใช้มันเพื่อเข้ามาทำความรู้จักกับเธอแล้วรึเปล่านะ คิดไปว่าถ้าไม่เผลอปล่อยตัวไปตั้งแต่ครั้งแรกก็คงไม่เป็นแบบนี้สินะ
นิชิโนะถอนหายใจยาวเหยียดตั้งใจให้อีกคนรู้ตัวก่อนจะเอ่ยถามออกไป "คุณคงจะตื้อฉันไม่เลิกเลยสินะคะ ถ้าไม่ยอมพูด"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องส่วนตัวมากขนาดนั้นฉันก็ไม่อยากไปก้าวก่ายหรอก" ชิราอิชิยิ้มก่อนจะจัดการกับเครื่องดื่มของตัวเองบ้าง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก
เธอยังคงวางระยะห่างระหว่างเราสองคนได้ดีเสมอ ซึ่งนั่นก็กลับทำให้นิชิโนะรู้สึกว่าตัวเองช่างอ่อนแอยิ่งนัก เธอไม่ได้เจ้าเล่ห์จนถึงขนาดจะสามารถหลอกให้ชิราอิชิตายใจกับคำหลอกลวงเด็กๆที่พยายามจะสร้างมันขึ้นมาได้ ที่ทำได้มีเพียงปั้นหน้าเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นก็เท่านั้น
นิชิโนะใช้เวลาครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเป็นคนเริ่มบทสนทนาอีกครั้งด้วยเสียงที่ขาดความมั่นใจ "ฉัน...สงสัยน่ะค่ะ"
"เรื่องไหนล่ะ ? "
"ชิราอิชิซัง คิดยังไงกับคนที่มีคนรักเป็นเพศเดียวกันคะ ?"
"...ทำไมถึงได้มาสงสัยอะไรแบบนี้ล่ะ ?" ชิราอิชิขมวดคิ้วก่อนจะหันมามองหน้าคนอายุน้อยที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้ามองแก้วของตัวเอง
"ก็แค่...สงสัยน่ะค่ะ" นิชิโนะกลั้นลมหายใจไว้ก่อนจะเริ่มปล่อยออกมา "วาคัทสึกิซังที่อยู่แผนกเดียวกันดูเหมือนว่าจะมีข่าวลืออะไรแบบนี้อยู่"
"คนที่ปล่อยให้เธอนั่งคนเดียวในงานเลี้ยงนั่นน่ะเหรอ ?"
"ค่ะ"
"จู่ๆนึกก็ชอบหล่อนขึ้นมาเหรอไง ?"
"จะบ้าเหรอคะ" นิชิโนะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดออกมาเสียงดังมากเกินไปจนทำให้แขกส่วนหนึ่งภายในร้านหันมามองก่อนจะรีบลดเสียงตอบชิราอิชิกลับไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง "...ฉันจะไปชอบคนแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ ออกจากเกลียดด้วยซ้ำ"
พอได้ฟังคำตอบของนิชิโนะ ชิราอิชิก็หัวเราะออกมา "เพิ่งรู้นะคะว่านิชิโนะก็มีนิสัยสอดรู้เรื่องชาวบ้านด้วย"
"ไม่ได้หลอกด่ากันใช่มั้ยคะ ?"
"แอบดีใจน่ะค่ะ อย่างน้อยนิชิโนะซังก็มีความรู้สึกนึกคิดแบบคนปกติทั่วไป" เมื่อเห็นว่านิชิโนะผ่อนคลายมากขึ้นกว่าในตอนแรกชิราอิชิถึงได้ถามต่อ "แล้วเป็นข่าวลือแบบไหนกันล่ะ"
"ได้ยินมาว่าเธอคบกับซากุไรซังที่อยู่ในแผนกเดียวกันน่ะค่ะ"
"หื้อ..อยากรู้จริงๆว่าซากุไรซังทนคบกับคนแบบหล่อนไปได้ยังไงนะ" ชิราอิชิตัดเพ้อลอยๆ มีบางครั้งที่เธอเล่าเรื่องของวาคัทสึกิให้ฟัง ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเป็นในมุมของนิชิโนะ ก็คงจะมีแต่เรื่องแง่ลบทั้งนั้น ทำให้ชิราอิชิเองก็คงจะมองวาคัทสึกิในมุมเดียวกับเธอถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมา
"แล้วไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอคะ...ที่จะมาคบกันเองน่ะ"
"แล้วนิชิโนะซังคิดว่ามันแปลกเหรอคะ กับการที่จะมาคบกันเองน่ะ"
ชิราอิชิย้อนถามเธอด้วยคำถามเดียวกับที่เธอเพิ่งถามไป นิชิโนะนิ่งอยู่พักใหญ่เพื่อครุ่นคิด สุดท้ายแล้วก็มีเพียงแต่ใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายเธอปรากฎขึ้นมา เพียงเท่านั้นก็มากพอสำหรับคำตอบของคำถามนี้ได้แล้ว นิชิโนะแลบเลียริมฝีปากตัวเองที่เริ่มแห้งก่อนจะหันไปตอบคำถามด้วยเสียงเบาหวิว "ไม่รู้สิคะ...ฉันก็แค่....ไม่เข้าใจ"
"นั่นสินะ ถ้าไม่เจอเข้ากับตัวเองคงจะเป็นเรื่องที่พูดยากเหมือนกัน"
"แล้ว...ชิราอิชิซังล่ะคะ ?"
"ฉันเหรอ.." ชิราอิชิพูดค้างไว้แค่นั้น สบตานิชิโนะด้วยสายตาที่เธอยากเกินจะคาดเดาได้ก่อนจะเริ่มพูดต่อช้าๆ "ฉันคิดว่าการที่เราตกหลุมรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่แปลกหรือผิดอะไรหรอกนะ ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม เพราะยังไงแล้วฉันคงห้ามความรู้สึกที่อยากจะรักใครไม่ได้หรอก มันก็คงกลายเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้..ล่ะมั้งคะ" พูดจบชิราอิชิก็ระบายยิ้มออกมา
ตั้งแต่วินาทีนั้น นิชิโนะรู้ตัวว่าได้ปล่อยให้ตัวเองได้ดำดิ่งไปกับคำตอบเหล่านั้นเสียแล้ว
เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้สินะ
อย่างนั้นแล้ว
การที่นิชิโนะได้ยอมรับว่าเธอกำลังตกหลุมรักชิราอิชิอยู่
ก็คงจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เช่นกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in