เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
UwULoading 48%
Prefect Gryffindor [JIKOOK]


  • หัวข้อ ; scottish fold
    #creatourjikook
    Genre ; Hogwarts AU




    เช้าวันอาทิตย์ มั่นใจได้เลยว่าทั้งถนนฮอกส์มี้ดจะต้องเต็มไปด้วยเด็กฮอกวอตส์

    -- ยกเว้นพวกเขา

    เจฟ จามัวร์กวักมือเรียกเพื่อนสนิทให้ขยับตามเขามาทันที่ที่โถงทางเดินไร้ผู้คน นัยน์ตาสีเขียวมรกตเพ่งมองบานประตูที่ยังคงมีเด็กปี 3 เดินกันอยู่ขวักไขว่ เส้นทางนี้โจ่งแจ้งเกินไป -- ต้องเปลี่ยนแผน

    "วี เราต้องเปลี่ยนแผน"

    "ทำไม ในเมื่อตอนนี้ฮอกวอตส์แทบจะกลายเป็นปราสาทร้างอยู่รอมร่อ"

    "รู้น่า -- แต่ถ้าทุกคนในฮอกวอตส์ได้ยินว่าพรีเฟ็คประจำบ้านปล่อยตัวพิกซี่ใส่ห้องทำงานของศาสตราจารย์นายจะทำหน้ายังไงล่ะ"

    วีพยักหน้ารับ เขากอดกล่องสีน้ำตาลในมือไว้กับอกตอนที่มันกำลังดิ้นขลุกขลักในแขนเขา

    "เราหายตัวในนี้ไม่ได้"

    "ใช่ และทางเดียวที่จะไปห้องศาสตราจารย์คาร์ลอสได้ก็มีแค่ทางนั้น"

    เจฟครุ่นคิด เขาจะเดินผ่านเด็กพวกนั้นไปได้ยังไงให้ไม่เป็นที่น่าสงสัย ใคร ๆ ต่างก็รู้กันว่าเขาน่ะเหม็นขี้หน้าศาสตราจารย์จอมเงอะงะนั่นจะตายไป ถ้ามีวันไหนที่เจฟ จามัวร์จะเดินเข้าไปในห้องทำงานของอาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟวันนั้นคงจะมีพายุฝน และใช่ -- มันคงจะเป็นคืนนี้

    ครั้งแรกในการเรียนวิชาดูแลสัตว์วิเศษกับศาสตราจารย์คาร์ลอสเขาถูกทุกคนหัวเราะเยาะเพราะตกใจตัวพัฟสไกน์สีเหลืองนุ่มฟูที่กระโดดออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเด็กฮัฟเฟิลพัฟคนหนึ่ง เจฟรู้ว่าศาสตราจารย์คาร์ลอสไม่ได้ทำอะไรผิดและเขาค่อนข้างจะพาลนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นเพื่อนคนอื่น ๆ มักจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทุกครั้งที่แนะนำเขากับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก คล้ายกับจะเป็นเรื่องตลกในงานสังสรรค์ยังไงอย่างนั้น

    อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เจฟไม่ชอบขี้หน้าศาสตราจารย์คาร์ลอสก็เพราะนิสัยที่มักจะยิ้มรับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวสักแค่ไหนเขาก็มักจะมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเสมอ ช่างเป็นคนที่เสแสร้งเก่งเสียจริง เขาล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าชีวิตนี้เมดัส คาร์ลอสเคยซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองบ้างไหม




    เราตกลงกันว่าจะให้วีเดินไปก่อน ฝากกล่องใส่พิกซี่ไว้กับเขา

    พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ยิ้มรับคำทักทายตลอดโถงทางเดินและเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าในกล่องที่เขาถือมีอะไรอยู่ในนั้น กว่าจะฝ่าฝูงชนมาถึงเสาสุดท้ายของโถงทางเดินได้เจฟก็เกือบจะพลั้งปากบอกพรีเฟ็คเรเวนคลอไปว่าเขากำลังจะเอาตัวพิกซี่ไปปล่อยในห้องศาสตราจารย์คาร์ลอส และเขาเกือบจะทำกล่องหลุดมือตอนที่จินวิ่งเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง

    "นายหรือฉันจะเข้าไป"

    วีหันกลับมาถามหลังจากที่เขาเพิ่งจะแงะดูเหล่าพิกซี่น้อย ๆ ในกล่อง

    "ฉันเอง อาโฮโลโมร่า -- เฮอะ ดูสิ เขาไม่ระวังตัวเลยด้วยซ้ำ"

    "เขาคงไม่ได้หวั่นกลัวนักโทษจากอัซคาบันที่มาเยี่ยมเยียนฮอกวอตส์"

    พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ยิ้มรับคำพูดประชดประชันของเพื่อนสนิทแล้วค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไปในห้องทำงานของศาสตราจารย์คาร์ลอสอย่างเงียบเชียบ ก่อนหน้านี้เขาเช็กมาแล้วว่าคาร์ลอสต้องไปทำความรู้จักกับโบวทรัคเกิลที่เขาบังเอิญพบมันเมื่อไม่กี่วันก่อน เวลานี้เลยเป็นช่วงเวลาที่แสนเหมาะเจาะ

    เสียงหวีดแหลมสูงดังออกมาจากกล่องทันทีที่เขาแง้มมันออก พิกซี่สีฟ้าตัวจิ๋วพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงจนเกือบจะชนปลายจมูกเขาหากไม่ถอยหนีเสียก่อน เจฟยิ้มร่าทันทีที่เห็นว่าพวกตัวป่วนกำลังเล่นสนุกอยู่กับกองเอกสารและข้าวของภายในห้องของศาสตราจารย์จอมเงอะงะ แน่นอนว่าคาร์ลอสจะต้องมีคาถาดี ๆ ที่จะใช้จัดการกับพวกตัวจิ๋วเหล่านี้ทันทีที่เขามาถึง แต่กว่าจะถึงเวลานั้นคงได้มีใครสักคนร้องไห้เพราะสภาพห้องที่เละเทะไม่เป็นท่า

    "เจฟ! เร็วเข้า ชาร์ลกำลังมาทางนี้"

    ชื่อของเพื่อนผิวขาวซีดจากบ้านเรเวนคลอเรียกให้เจฟกุลีกุจอออกมาจากห้องทำงานของคาร์ลอส เขาหันกลับไปล็อคประตูไว้ตามเดิมก่อนจะแสร้งทำหน้าผิดหวังทันทีที่ชาร์ลเดินมาถึง

    "เจฟ? หน้าห้องศาสตราจารย์คาร์ลอส? ฉันฝันอยู่เหรอวี -- ช่วยบอกทีเถอะ"

    "ฉันอยากจะมาถามเรื่องที่เขาหักคะแนนฉันไปเมื่อสองวันก่อนทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรไม่ได้หรือไง"

    "นายตอบคำถามไม่ได้ เจฟ"

    "คำถามของเขายากเกินไปต่างหาก"

    "ฉันอยากเห็นเนียเซิลตัวใหม่ของนายจัง เจ้าปุกปุยนั่นจะต้องน่ารักน่าชังมากแน่ ๆ"

    วีดันหลังชาร์ลไปอีกทางเพื่อช่วยพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ เจฟโกหกไม่เก่ง ใคร ๆ ก็รู้

    "น่าชังอย่างเดียวล่ะไม่ว่า ฉันโดนข่วนไปสองแผลหลังจากพยายามจะกอดมัน"

    "เจ้าพวกตัวขนนั่นน่ากลัวจะตายชัก นายไม่น่าไปหลงกลเจ้านี่เลยชาร์ล"

    ชาร์ลพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนั้น ที่จริงเขาน่ะเกลียดสัตว์พอ ๆ กับที่เจฟไม่ชอบศาสตราจารย์คาร์ลอส แต่ตอนที่ได้เล่นกับสัตว์ตัวขนรูปร่างคล้ายเนียเซิลที่วีพาไปดูเขาก็เริ่มจะชอบมันขึ้นมานิด ๆ แต่ดูท่าทางแล้วเจ้าเนียเซิลของเขากับเจ้าตัวขนพวกนั้นคงจะต่างกันราวฟ้ากับเหว

    "ฉันขอตัวล่ะ"

    "แล้วนายไม่ไปหาศาสตราจารย์คาร์ลอสแล้วหรือไง"

    "เอ่อ..เขาไม่อยู่น่ะ ไว้คราวหน้าฉันจะมาใหม่"




    วันรุ่งขึ้นที่โถงทางเดิน

    ทุกคนต่างพูดถึงตัวพิกซี่ในห้องศาสตราจารย์คาร์ลอส เสียงซุบซิบจากมุมเสาทำให้รู้ว่าผลงานของเขาเป็นที่น่าชื่นชมแค่ไหนแม้จะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ยิ้มรับทุกคำทักทายจากเพื่อนร่วมโรงเรียน ท่าทางร่าเริงเป็นพิเศษ ทุกคนคงคิดว่าวันนี้เขาคงไม่ได้เรียนวิชาดูแลสัตว์วิเศษเพราะศาสตราจารย์คาร์ลอสกำลังวุ่นอยู่กับการตามหาเอกสารและข้าวของที่หายไป แต่ใครเล่าจะรู้ว่าตัวการที่กำลังเป็นที่หมายหัวตอนนี้คือพรีเฟ็คคนเก่งของกริิฟฟินดอร์

    "นายยิ้มร่าในขณะที่ทุกคนกำลังหัวปั่นกับการตามตัวคนร้าย ไม่เนียนเลยนะเจฟ"

    "ก็ฉันมีความสุขนี่ ลองนึกภาพศาสตราจารย์คาร์ลอสทำหน้าหงอยเพราะหาของไม่เจอแล้วตลกชะมัด"

    วีส่ายหน้า เขาลากเจฟที่ตัวแทบจะลอยขึ้นไปติดกับฝ้าเพดานไปที่ห้องเรียนวิชาปรุงยา การเรียนน่าจะทำให้เจฟเลิกฟุ้งซ่านไปได้บ้าง -- เขาคิดว่าอย่างนั้น




    เจฟคิดผิด

    เขาคิดว่าจะไม่มีใครสงสัยนักเรียนดีเด่นของฮอกวอตส์ (ยกเว้นวิชาดูแลสัตว์วิเศษ) เจฟถูกอาจารย์ใหญ่เรียกตัวไปพบตอนเย็น เรื่องประธานนักเรียนคนใหม่ของฮอกวอตส์ แต่ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าศาสตราจารย์คาร์ลอสน่าจะสงสัยเขา ผู้ชายคนนั้นฉลาดเป็นกรด เขาน่ะร้ายแบบที่แทบจะไม่มีใครเคยคาดคิดด้วยซ้ำเพราะภาพลักษณ์ที่มักจะยิ้มอยู่ตลอดเวลาของเขา จริง ๆ แล้วเป็นเพราะทุกคนเห็นเขาเฉพาะเวลาอยู่กับสัตว์ต่างหาก

    เจฟนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาสีมรกตสอดส่ายไปทั่วห้องเพื่อมองหาทางหนีทีไล่หากเขาจำเป็นต้องทำจริง ๆ เขาจะไม่ยอมให้กริฟฟินดอร์ถูกหักคะแนนอีกเด็ดขาด รางวัลบ้านดีเด่นประจำปีนี้จะต้องเป็นของกริฟฟินดอร์อีกครั้ง

    "สวัสดียามเย็นคุณจามัวร์"

    "สวัสดีครับศาสตราจารย์"

    "เมื่อวานเที่ยวเล่นสนุกไหม"

    "เกรงว่าผมจะตอบคำถามนี้ไม่ได้นะครับ มันค่อนข้างจะส่วนตัวนิดหน่อย"

    คาร์ลอสยิ้มรับคำพูดจิกกัดของพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้าม เขารินชาด้วยท่าทางเหมือนผู้ดีเก่า แน่ล่ะ -- ตระกูลคาร์ลอสเป็นตระกูลเลือดบริสุทธิ์ไม่กี่ตระกูลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นัยน์ตาสีอำพันจดจ้องอยู่กับถ้วยชาเนื้อดีในมือ แม้จะไม่พูดอะไรแต่เจฟก็สัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองที่แผ่ออกมาจากตัวของอาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟ อันที่จริง -- ตระกูลคาร์ลอสทั้งหมดเป็นสลิธีริน รวมทั้งเมดัส คาร์ลอสด้วย เจฟไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุผลอะไรชายตรงหน้าถึงได้เป็นอาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟแทนที่จะเป็นสลิธีริน และเพราะอะไรเขาถึงสอนวิชาดูแลสัตว์วิเศษแทนที่จะเป็นวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดหรือวิชาแปลงร่างอะไรทำนองนั้น

    "กำลังสงสัยอะไรในตัวผมเหรอคุณจามัวร์"

    เจฟสะดุ้ง กระแอมเล็กน้อยก่อนจะเปิดปากพูด

    "ทำไมคุณถึงหักคะแนนผม"

    "คุณตอบคำถามไม่ได้"

    "ผมตอบได้ แต่คุณแค่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังจะสื่อ"

    "อย่างนั้นหรอกเหรอครับ"

    คาร์ลอสยิ้ม เป็นยิ้มที่มีไม่กี่คนจะได้เห็น ไม่ใช่ยิ้มอ่อนหวานยามได้รับคำชมเชย ไม่ใช่ยิ้มใจดียามอยู่กับสัตว์หรือพืชพรรณ แต่เป็นยิ้มที่ทำให้คนมองสั่นสะท้านไปทั้งร่าง

    "โอ้ -- ฉันคงจะต้องไปเรียนมารยาทพื้นฐานมาใหม่ซะแล้วล่ะ ปล่อยให้แขกนั่งรอแบบนี้"

    คาร์ลอสหันกลับไปยิ้มให้อาจารย์ใหญ่ เจฟเองก็เช่นกัน 

    "เอาล่ะ คุณจามัวร์ ได้ยินเรื่องที่ทุกคนพูดกันเมื่อเช้าไหม"

    "เรื่องที่มือปราบมารเจอตัวพ่อมดที่หลบหนีไปในเมืองมักเกิ้ลน่ะหรอครับ"

    อาจารย์ใหญ่หัวเราะอย่างชอบใจที่เขาเลือกที่จะพูดถึงเรื่องในเดลี่พรอเฟ็ตแทนที่จะเป็นเรื่องราวซุบซิบในรั้วโรงเรียนฮอกวอตส์ เขาคงชอบใจไม่น้อยที่พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์สนใจข่าวสารบ้านเมืองมากกว่าเรื่องที่ตัวเองก่อไว้

    "เป็นคำตอบที่ดีทีเดียว -- แต่ฉันว่าคุณคาร์ลอสคงไม่ชอบใจนัก"

    "ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ" คาร์ลอสยิ้มรับอีกครั้ง

    "ได้ยินแล้วใช่ไหมว่ามีใครเอาพิกซี่เข้าไปปล่อยในห้องของคุณคาร์ลอสตอนที่เขาไม่อยู่"

    "ครับ โทเบียสพูดระหว่างมื้ออาหาร"

    "เธอรู้ไหมว่านั่นเป็นฝีมือของใคร"

    เจฟแสร้งทำเป็นเอียงคอครุ่นคิดเล็กน้อย "คำถามยากกว่าเสกคาถาผู้พิทักษ์อีกนะครับ"

    คาร์ลอสยังคงนิ่งเงียบ เขาไม่พูดอะไรแม้ตัวเองจะเป็นคนเดือดร้อนก็ตามที คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เด็กหัวรั้นอย่างเจฟ จามัวร์ยอมรับผิดง่าย ๆ โดยที่เขายังไม่อับจนหนทาง

    "บางที..พิกซี่พวกนั้นอาจจะหลุดออกมาจากกระเป๋าของศาสตราจารย์คาร์ลอสเองก็ได้นะครับ ที่ ๆ ศาสตราจารย์เก็บพวกสัตว์เล็ก ๆ เอาไว้ในนั้นน่ะ"

    "อ้อ..ลืมไปเลยว่าในห้องฉันมีของแบบนั้นอยู่ด้วย"

    คาร์ลอสยิ้มอีกครั้ง "แต่ดูเหมือนว่าฉันจะถือมันออกไปด้วยนะ"

    เจฟนิ่งงันเหมือนโดนคาถาสะกดนิ่ง สายตาที่คาร์ลอสใช้ช่างตรงกันข้ามกับรอยยิ้มละมุนละไมบนใบหน้าเสียจริง และมันไม่ยุติธรรมเลยที่มีเพียงเขาคนเดียวที่มองออก

    "โอ้ -- ดูเหมือนเธอจะเจอผู้ช่วยที่จะช่วยหาตัวคนร้ายแล้วสินะคาร์ลอส"

    อาจารย์ใหญ่เปรยขึ้นมาเรียบ ๆ เมื่อมองสถานการณ์ออก ชายร่างท้วมยกอภิสิทธิ์ในการลงโทษและหักคะแนนไว้กับคาร์ลอสแต่เพียงผู้เดียวก่อนที่ทั้งสองจะขอตัวออกมาจากห้องของอาจารย์ใหญ่ เจฟเดินตามอาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟต้อย ๆ เพราะถูกบังคับ เขาไม่แน่ใจว่าถ้าคาร์ลอสรู้ความจริงแล้วจะทำอย่างไร เขาอาจจะถูกกักบริเวณ ถูกขังไว้กับตัวเนียเซิลแสนดุร้ายของชาร์ล หรือจะต้องไปให้อาหารสัตว์วิเศษในปกครองของคาร์ลอสหนึ่งสัปดาห์ -- หรือมากกว่านั้น

    คาร์ลอสเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างวางท่าที สายตาของเขาว่างเปล่าแม้ภายในห้องจะยังเละเทะไม่เป็นท่า เจฟยังได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจของพิกซี่ดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง คาร์ลอสถอดเสื้อคลุมสีดำยาวพาดเอาไว้บนพนักเก้าอี้ วางไม้กายสิทธิ์ไว้ที่โต๊ะทำงาน เขาพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นถึงข้อศอกก่อนจะค้ำแขนลงกับโต๊ะทั้งสองข้าง นัยน์ตาสีอำพันมองตรงมาที่พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ ปอยผมสีบลอนด์สว่างร่วงลงมาปรกตาของเขา เมดัส คาร์ลอสยังคงไม่เชี่ยวชาญเรื่องการมัดผมม้าเสียที

    "ผมไม่เคยขออะไรจากคุณ ศาสตราจารย์คาร์ลอส -- แต่ผมต้องขอให้คุณเลิกจ้องผมแบบนั้นเสียที"

    นอกจากเมดัส คาร์ลอสจะเสแสร้งเก่งแล้วเขายังไม่ฟังใครอีกด้วย เจฟสาบานต่อหน้ากองเอกสารที่ขาดวิ่นพวกนี้เลยว่าเขาจะไม่มีวันญาติดีกับคนอย่างคาร์ลอสแน่

    "ทำตัวสบาย ๆ เถอะคุณจามัวร์ เราคงต้องคุยกันอีกยาว"

    "ผมว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกัน"

    "อ้อเหรอ แล้วนี่ของใครกันล่ะ"

    สร้อยข้อมือมักเกิ้ลถูกหยิบออกมาวางลงตรงหน้า เจฟเพิ่งรู้ตัวเมื่อกลางวันว่าสร้อยของเขาหายไป มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักเพราะเขาคิดว่ามันคงตกอยู่บนเตียงอย่างทุกวัน แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้เสมอ สร้อยข้อมือเส้นเล็กจิ๋วของมักเกิ้ลจะลอยจากที่นอนเขามาอยู่ในกระเป๋าของศาสตราจารย์คาร์ลอสได้ยังไงกัน! เมอร์ลินเป็นพยาน เมื่อวานเจฟ จามัวร์เช็กทุกอย่างดีแล้ว ไม่มีอะไรที่ผิดปกตินอกจากพิกซี่สามสี่ตัวในห้องทำงานของคาร์ลอสเท่านั้น

    เจฟ จามัวร์ในยามนี้ช่างดูออกง่ายเสียเหลือเกิน ท่าทางอึกอักและสายตาที่สอดส่ายไปทั่วอย่างคนวิตกกังวลไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแม้แต่น้อย ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดเยื้องย่างเข้าไปหาลูกศิษย์ที่ปฏิเสธเสียงแข็งว่าความวินาศเหล่านี้ไม่ใช่ฝีมือตัวเองแม้จะไม่มีใครเอ่ยถาม

    "ห้าคะแนนสำหรับความกล้าหาญ"

    เจฟขมวดคิ้วระคนแปลกใจ

    "และหักสามสิบคะแนนพร้อมกักบริเวณตลอดสัปดาห์สำหรับความผิดในครั้งนี้"

    "ศาสตราจารย์คาร์ลอส!"

    "รู้ใช่ไหมว่ากักบริเวณหมายความว่ายังไง คุณจามัวร์"

    เจฟขัดไม่ได้แม้ในใจเขาจะอยากเสกคาถาคอนฟันโดแล้วสั่งให้คาร์ลอสยกทุกอย่างให้เป็นโมฆะเสียเดี๋ยวนั้น




    พรีเฟ็คมีห้องอาบน้ำส่วนตัว ผู้ที่รู้รหัสผ่านเท่านั้นจึงจะเข้ามาได้

    -- แล้วเจ้าขนปุยตัวขาวนี่มาจากไหนกัน

    มันไม่ใช่เนียเซิล ไม่มีพรีเฟ็คคนไหนที่เลี้ยงเนียเซิล อีกอย่างท่าทางเยื้องย่างพร้อมเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งนั่นก็ดูน่าหมั่นไส้เกินกว่าจะเป็นเนียเซิลธรรมดา ๆ เท้าปุกปุยของมันย่ำไปรอบ ๆ อ่างอาบน้ำ ปรายตามองเขาด้วยหางตาอย่างน่าชัง กวัดแกว่งหางนุ่มฟูที่มีสีดำแต้มที่ปลายหาง ซึ่งมันดูเหมือนหางเปื้อนขี้เถ้ามากกว่าจะเป็นลาย แม้ว่านี่จะเป็นการพบกันครั้งแรกแต่เจฟรู้สึกไม่ถูกชะตากับเจ้าตัวขนนี่อย่างกับว่าเคยเกลียดกันมาแล้วเป็นสิบปี 

    เจ้าขนปุยหยุดย่ำเท้าอ้วน ๆ ไปทั่วห้องแล้วหยุดอยู่ที่ด้านหนึ่งของอ่างอาบน้ำ ดวงตาสีอำพันจดจ้องมาที่เขาไม่วางตา -- มากเกินกว่าจะเป็นแค่สัตว์ขนปุยธรรมดา แต่เมื่อเขาพยายามจะสื่อสารด้วยมันก็ยกขาหน้าขึ้นมาเลียอย่างวิถีแมวธรรมดาของพวกมักเกิ้ล แสนเย่อหยิ่ง ทะนงตน

    "ไม่ว่าแกจะเป็นอะไร ฉันขอใช้สิทธิ์ของพรีเฟ็คสั่งให้แกออกไปจากห้องนี้ซะ"

    -- นิ่งเฉย

    เจฟสบดวงตาสีอำพันคู่นั้น ไม่มีแม้ความหวาดหวั่นยำเกรงแม้เขาจะเดินเข้าไปใกล้ กลับกันมันดูจะเป็นฝ่ายจู่โจมเขาเสียมากกว่า

    เพียงเสี้ยววินาทีที่เจฟกะพริบตาร่างปุกปุยก็คร่อมอยู่บนอกของเขา มันยกขาหน้าขึ้นมาเลียอย่างไม่ยี่หระกับแววตาตื่นตระหนกของพ่อมดใต้ร่าง

    "เจฟ?"

    เสียงของบุคคลที่สาม (คิดว่าอย่างนั้นนะ) ดังขึ้น เป็นเสียงจินแน่ -- เขามั่นใจ

    "จิน! ช่วยฉันด้วย!"

    สิ้นเสียงตะโกนเพื่อนจากบ้านงูก็กระหืดกระหอบมาพร้อมไม้กายสิทธิ์ ถ้าจินไม่มีสติเขาคงเสกคาถาร้ายแรงใส่เจ้าขนปุยบนพื้นไปเสียแล้ว

    "คิดว่าจะต้องตายอยู่ใต้เท้าเนียเซิลซะแล้ว"

    "อย่าเว่อร์น่า ก็แค่เนียเซิล"

    ก็แค่เนียเซิล เจฟยิ้มเยาะให้กับคำพูดสบประมาทของเพื่อนจากสลิธีริน ถ้าเขาไม่ได้ฟั่นเฟือนจากบทลงโทษของศาสตราจารย์คาร์ลอสไปเสียแล้วแรงมหาศาลเมื่อครู่ที่ผลักเขาล้มลงไปก้นจ้ำเบ้าที่พื้นคงไม่ได้มาจากเนียเซิลธรรมดา ๆ เป็นแน่

    "นายต้องจ้องตามัน เห็นตาสีเหลืองอำพันนั่นแล้วขนลุกชะมัด"

    ไม่ทันอยู่ฟังคำพูดติฉินนินทาสัตว์ขนปุยก็เยื้องย่างออกไปจากห้องอาบน้ำ ยังคงไว้ซึ่งท่าทางน่าชังและเย่อหยิ่ง

    "ได้ยินพวกผู้หญิงพูดกันว่านายถูกกักบริเวณ"

    "ใช่ ห้ามไปไหนหลังมื้ออาหารเย็น แม้แต่เรือนเพาะชำ!"

    "คนอย่างนายเนี่ยนะจะไปเรือนเพาะชำ"

    จินทำหน้าแปลกใจ "ถ้าบอกว่านายวิ่งเข้าไปสู้กับอะโครแมนทูล่าในป่าต้องห้ามยังเป็นไปได้มากกว่า"

    "ฉันไม่ได้บ้าระห่ำถึงขนาดนั้น จิน"

    "ขนาดนั้นเลยเจฟ" น้ำเสียงจริงจัง




    หน้าที่ของพรีเฟ็คคือการดูแลและตรวจตราความเรียบร้อยยามค่ำคืน

    แต่เจฟ จามัวร์ถูกกักบริเวณ

    หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันเอเชียนั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่บนเตียงนอน เวลานี้เขานึกโกรธตัวเองที่อยากจะเล่นสนุกจนไม่นึกถึงผลที่ตามมา แต่มันวัยคึกคะนอง! ศาสตราจารย์คาร์ลอสน่าจะเข้าใจแล้วให้อภัยเขาถ้าเจ้าตัวเป็นคนดีอย่างที่ว่าจริง ๆ 

    "นอนเถอะน่า แค่หนึ่งสัปดาห์ที่นายจะได้อู้"

    วีโผล่ออกมาจากกองผ้าห่มเมื่อได้ยินเสียงกระแทกส้นเท้าอย่างคนไม่พอใจ เจฟอยากจะออกไปทำหน้าที่ใจจะขาดถ้าไม่โดนใครต่อใครพูดขู่ว่าเขาจะต้องไปให้อาหารสัตว์วิเศษในปกครองของศาสตราจารย์คาร์ลอสเข้าจริง ๆ หากฝ่าฝืนคำสั่ง

    "นายไม่เข้าใจ วี"

    "ใช่ ฉันไม่เข้าใจว่านายจะเดินไปเดินมาเหมือนมักเกิ้ลที่งุ่นง่านเพราะเขาไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ไปทำไม"

    "ฉันเป็นพรีเฟ็ค! อย่างน้อยก็ควรได้ออกไปถามจินสักหน่อยว่าข้างนอกเรียบร้อยดีไหม"

    วีส่ายหน้าระอา ล้มตัวลงนอนต่อทันทีที่เจฟเริ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้ง




    คืนแรกเจฟนอนอยู่บนเตียงตลอดคืน

    คืนที่สองเขาก็ยังคงเป็นเด็กดี

    แต่คืนนี้ไม่

    เจฟหยิบเสื้อคลุมมาสวม เหน็บไม้กายสิทธิ์เอาไว้ก่อนจะย่องออกไปเหมือนพวกแมวขโมย (ศาสตราจารย์ลูนสอนเขามาตอนเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษา) เจฟเห็นชายเสื้อคลุมของพรีเฟ็คคนหนึ่งหายเข้าไปในมุมเสาก่อนที่เสียงส้นรองเท้าจะเงียบไป นั่นแสดงว่าเขาเดินไปไกลมากพอที่จะไม่รับรู้ว่ามีนักเรียนคนไหนออกมาเดินเพ่นพ่านในยามค่ำคืน นัยน์ตาสีมรกตกระทบแสงจันทร์ มันฉายแสงวับวามในความมืดก่อนที่เจ้าของอัญมณีน้ำงามจะหลบเข้าไปในมุมเสาอีกครั้ง

    ใครบางคนกำลังเดินมา

    เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังเป็นจังหวะเชื่องช้าแต่หนักแน่นทุกฝีก้าว หัวใจพ่อมดหนุ่มเต้นระส่ำทุกวินาทีที่เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ 

    -- จนกระทั่ง

    "เวลานี้ควรจะอยู่บนเตียงนอนไม่ใช่หรือไงคุณจามัวร์"

    คาร์ลอสเลิกคิ้วด้วยความฉงน ดวงตาสีอำพันจ้องลึกลงไปในอัญมณีตรงหน้า

    "ผม.."

    "กริฟฟินดอร์ถูกหั--"

    "ก็ได้ ก็ได้! ผมจะกลับไปใส่ถุงเท้า ดื่มนมแล้วล้มตัวลงนอนห่มผ้าจนถึงคาง หลับไปพร้อมกับฝันดีที่ไม่ต้องทำหน้าที่พรีเฟ็คตลอดสัปดาห์ เป็นเกียรติจริง ๆ ครับศาสตราจารย์"

    เจฟพูดประชดประชัดด้วยท่าทีเหมือนเจ้าตัวขนที่เขานึกหมั่นไส้ในใจเมื่อสองวันก่อน อาจเป็นเพราะแสงสลัวจากบานหน้าต่างทำให้เจฟเห็นว่ามุมปากของศาสตราจารย์คาร์ลอสยกขึ้นเล็กน้อยในเสี้ยววินาที แต่แท้จริงแล้วคาร์ลอสเพียงแค่ทำหน้าตาย

    พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์เดินเฉียดไหล่อาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟไป กิริยาอาการไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่ แต่เวลานี้ใครจะสนกันล่ะ

    "พรุ่งนี้มาเจอฉันที่ห้องด้วยคุณจามัวร์"

    "แน่นอนครับ เป็นพรีเฟ็คไม่ได้ยุ่งขนาดนั้น"

    คาร์ลอสยิ้ม -- ไม่ใช่อาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟ


    แต่เป็นสลิธีรินขนานแท้




    หน้าห้องศาสตราจารย์คาร์ลอส 

    -- เงียบเชียบ ไร้ผู้คน น่าแปลกที่ทุกคนพร้อมใจกันติดธุระหรืออะไรทำนองนั้น เจฟ จามัวร์เป็นเพียงผู้เดียวที่ยังยืนอยู่กลางโถงทางเดิน เขาพยายามเงี่ยหูฟังเสียงจากภายในห้องแต่ก็ไม่มี

    เมี๊ยววว

    แว่วเสียงแผ่วเบาจากในห้องทำงานเป็นเหตุให้พรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ตัดสินใจผลักประตูเข้าไป คาร์ลอสเก็บกวาดห้องของเขาแล้ว อาจด้วยเวทมนตร์หรือน้ำพักน้ำแรงของเขาเอง เจ้าขนปุยตัวขาวนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของคาร์ลอส -- ทำเหมือนมันเป็นเจ้าของ เจฟยิงฟันขู่สก็อตทิช โฟลด์ (วีบอกเขาว่ามักเกิ้ลเรียกว่าอย่างนั้นกัน) ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของคาร์ลอสอย่างถือวิสาสะ เขากอดอก มองไปทั่วห้องเพื่อสำรวจอีกครั้ง

    เมี๊ยววว

    "อะไร ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะมาสักหน่อย"

    เจฟถดหนีแมวตัวอ้วนที่พยายามจะเข้ามายุ่มย่ามกับเขา มันส่งเสียงร้องเบา ๆ ตอนที่เขาไม่ยอมให้อยู่ใกล้ แม้ว่ามันจะไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้แต่ดวงตาสีอำพันก็บอกเอาไว้ชัดเจนว่าตอนนี้มันกำลังไม่พอใจแค่ไหน ดวงตาเรียวจ้องเขาเขม็ง ราวกับว่าการจ้องตาจะทำให้ทุกสิ่งเป็นดังใจเหมือนใช้เวทมนตร์

    เมื่อพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์หมดความอดทนและกำลังจะลุกหนีร่างนุ่มนิ่มก็กระโจนเข้าใส่จนเขาล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น มันวางท่าทาง ขยับหาตำแหน่งเหมาะสมที่จะวางก้นลงนั่งบนตัวเขา

    "ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!" เสียงดังจนกลัวว่าคนทั้งฮอกวอตส์จะแห่มาดูหากได้ยินเสียง แต่กระนั้นเจ้าตัวการก็ยังคงนั่งลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ

    "คุณจะได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดทั้งเทอมแน่ถ้ายังไม่ฟังผม เมดัส คาร์ลอส!"

    เมี๊ยววว!

    เมดัส คาร์ลอสในร่างแมวฉุนเฉียวไม่ต่างจากเขาตัวจริงสักเท่าไหร่ เจ้าตัวขนเดินนวยนาดลงไปจากร่างของพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์อย่างจำใจ ดวงตาสีอำพันยังคงแสดงความไม่พอใจ เมอร์ลินเป็นพยาน เมดัส คาร์ลอสในยามนี้ช่างแตกต่างจากเขาที่คนอื่นเห็นยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

    เพียงเสี้ยววินาทีจากแมวตัวขาวกลับกลายเป็นชายท่าทางภูมิฐาน เมดัส คาร์ลอสขยับปลายไม้กายสิทธิ์แผ่วเบาเพื่อจัดเสื้อผ้าของพรีเฟ็คคนเก่งที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่

    "นึกว่าจะเล่นบทพรีเฟ็คกับศาสตราจารย์ตัวดีนานกว่านี้สักหน่อย"

    เมดัสกอดอก นั่งลงบนโต๊ะทำงาน เขายังไม่ชำนาญการมัดผมม้าอย่างเคย

    "นานกว่านี้แน่ถ้าไม่มีใครบางคนทำผิดกติกา"

    "ใครล่ะ?"

    เจฟถลึงตาใส่ศาสตราจารย์ที่ยังทำไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทุกครั้งที่เขานึกอยากเล่นสนุกเมดัสจะขัดใจเขาตลอด

    "ฉัน? ฉันเหรอ"

    เมดัสหัวเราะ ดวงตาหยีลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว -- และดวงใจของเจฟ จามัวร์วูบไหว

    เจฟกอดอก ยามนี้เขาเหมือนแมวตัวอ้วนสีขาวท่าทางเย่อหยิ่งนั่นเสียเอง แต่ทว่า -- จมูกรั้นมีฝุ่นติดอยู่จากการลงไปเกลือกกลิ้งที่พื้นเมื่อครู่ และตามคาด มาดทั้งหมดของคุณเจฟ จามัวร์พังทลายลงจากการจามเพียงครั้งเดียว

    "งั้นฉันจะชดใช้ให้แล้วกัน" ว่าพลางเกลี่ยปอยผมของพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์

    "ยังไง"

    "สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ที่หอนอนกับเจ้าของนี่ ใช่ไหม?"

    "..."

    "งั้นฉันจะยอมเป็นสัตว์เลี้ยงของนายสักวัน"

    เคารเมอร์ลิน! บอกเขาทีว่าเมื่อกี้ไม่ได้หูฟาด เมดัส คาร์ลอสในร่างแมวอันตรายยิ่งกว่าเมดัสตัวจริงเสียอีก เพราะนั่นแสดงว่าเขาจะสามรถทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่มีใครจับสังเกตยังไงล่ะ!

    "มีประสบการณ์การเลี้ยงสก็อตทิช โฟลด์หรือยังล่ะคุณจามัวร์?"


    สาบานต่อหน้าทุกสิ่งบนโลกใบนี้ เจฟ จามัวร์เกลียดเมดัส คาร์ลอสเป็นที่สุด!




    :-)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in