เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Special Timethit1702_
คนมัน "อิน"
  • Merry Christmas, everybody .

    Wish you all luck and enjoyment .


    "สุขสันต์วันคริสมาสต์" น่าแปลกนะที่วันสำคัญทางคริสตศาสนาแบบนี้เข้ามามีอิทธิพลในความคิดและการกระทำของผู้คนในประเทศที่กล่าวอ้างว่าตนเป็นเมืองพุทธได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

    ทั้งภาพใน Facebook Instagram Twitter หรือจะเป็น Snow Effect ที่ตกใน Line ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ สิ่งเหล่านี้ได้เพิ่มความ “อิน” ให้กับคนไทยหลายๆ คน “หิมะ” สำหรับประเทศเมืองร้อนอย่างเราแล้วถือเป็นสิ่งที่หายากยิ่งกว่าทองคำ แม้บางคนที่เคยผ่านประสบการณ์พบเจอกับหิมะในประเทศมาแล้วดังเช่นคนที่เคยได้เข้าไปใน Dreamworld ก็มีโซนที่เรียกว่าบ้านหิมะซึ่งมีการจำลองเมืองหิมะให้เราสัมผัส หรือจะเป็นภาพในอินเทอร์เน็ตก็สามารถค้นหาได้โดยง่ายดายด้วยนวัตกรรมที่เรีัยกว่า 4G หรือบางคนเมื่อไปหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่านก็จะพบว่าภาพของหิมะที่แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่เคยได้รับรู้ในสาระบบของสมอง ที่ตกลงมาจากฟากฟ้านั้น หลังจากสัมผัสกับพื้นดินเพียงไม่กี่วินาทีก็กลับกลายเป็นน้ำเฉอะแฉะและเป็นสีดำอันเนื่องมาจากคราบเขม่าควันหรือมลพิษในอากาศ 

    แต่กระนั้น... สิ่งนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนที่เกิดและเติบโตในเมืองร้อนมาทั้งชีวิตอย่างฉันและอีกหลายๆ คนใฝ่ฝันหา การยืนและเงยหน้าขึ้นมองปอยนุ่นสีขาวบริสุทธิ์ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า พร้อมกับตัวเราที่ถูกฉาบไปด้วยสีเหลืองนวลของไฟริมถนนที่เงียบสงัดเป็นฉากชวนฝันที่น่าลิ้มลองไม่น้อยเลยทีเดียว มันน่าจะถ่ายรูปออกมาได้สวยมากๆ เลยล่ะ    

    การที่คนเราจะรู้สึก “อิน” กับเทศกาลหนึ่งๆ อาจเกิดทั้งจากความทรงจำและสภาพแวดล้อมโดยรอบ สำหรับตัวฉันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองในช่วงเทศกาลคริสมาสต์เป็นผลมากจาก "สภาพแวดล้อมโดยรอบ" เสียมากกว่า อาการแบบนี้เกิดจากการที่คนรอบข้างซึ่งไม่ใช่แค่คนที่อยู่รอบตัวเราเพียงอย่างเดียวแต่หมายรวมถึงเพื่อของเราในโลกเสมือนจริงที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า “Social Media” หล่อหลอมให้เราเป็นไป 

    ทำไมคนต้องไปถ่ายรูปกับลานหน้า Central World ที่ถูกจัดแต่งในตีมคริสมาสต์อย่างสวยงาม ทำไมเวลาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในช่วงเวลาแบบนี้ต้องมีการเปิดเพลง “All I want for Christmas is You” หรือทำไมร้านคาเฟ่ต้องติดสติ๊กเกอร์ลลวดลายที่คล้ายๆ กับเกล็ดน้ำแข็งและตั้งต้นคริสมาสต์ไว้ที่หน้าร้านหรือในร้านพร้อมกับห้อยโมบายระโยงระยาง 

    นั่นเป็นเพราะทุกคน “อิน” กับเทศกาลนี้ หากเป็นในประเทศที่นับถือคริสตศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เทศกาลที่เหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ครอบครัวจะได้กลับมาเจอกัน มีเลี้ยงฉลองด้วยกันและบางครั้งอาจจะได้อยู่ด้วยกันยาวไปจนถึงปีใหม่ เหมือนกันกับเทศกาลเชงเม้งของชาวจีนนั่นแหล่ะ แต่ถามว่าชอบมากกว่ามั้ย บอกเลยว่า มากกว่าแบบ “มากๆ” เพราะมันมีบางอย่างที่พิเศษกว่าวันอื่นๆก

    การได้เห็นห้างร้านหรือคาเฟ่หลายๆแห่งประดับตกแต่งร้านเพื่อให้เข้ากับตีมคริสมาสต์ แม้ว่าจะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอลที่ยึดโทนสีขาวดำเป็นหลักหรือไฟประดับตกแต่งที่ส่วนมากเป็นสีเหลืองทองนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มรอยยิ้มขึ้นแต่งแต้มบนใบหน้าของเราได้ หรือเมื่อเวลาเราเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเพื่อจับจ่ายใช้สอยในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ เราก็จะพบเห็น Packaging ของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเช้าแบรนด์หรือเนสต์วีต้า หรือจะเป็นกล่องขนมคุ้กกี้และช็อกโกแลตยี่ห้อต่างๆ ทั้งโอริโอ้ อิมพีเรียม อาร์เซนอล คิดแคทหรือ S&P ที่ได้รับการออกแบบใหม่เป็นพิเศษเพื่่อเทศกาลนี้ทั้งการสกรีนรูปเกล็ดหิมะบทฝากล่อง การออกแบบหีบห่อใหม่เป็นรูปทรงต้นคริสมาสต์หรือการทำเพิ่มรูปสกรีนอะไรหลายอย่างให้มันดูพิเศษกว่าปกติ 

    ร้านกาแฟหลายๆ แบรนด์ทั้งสตาร์บัคหรือทรูคอฟฟี่ก็เอาใจคนรักกาแฟด้วยการเปลี่ยนลวดลายแก่้วให้ดูเข้ากับตีมคริสมาสต์มากขึ้น มีทั้งรูปเกล็ดหิมะ สโนว์แมน กวางเรนเดียร์และซานตาครอส พร้อมกับออกเมนูใหม่ที่มีเฉพาะในช่วงโอกาสพิเศษนี้ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นการตลาด ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปและซื้อกาแฟแก้วที่แพงแสนแพงนั้นออกมา มันเป็นความสุขทางใจแบบหนึ่งที่บางครั้งเมื่อกลับมาดูเงินในกระเป๋าแล้วก็คิดว่าตัวเองคิดผิดอย่างมหันต์!

    แต่สุดท้ายแล้ว...เราเองก็ตกเป็นทาสของทุนนิยมและการตลาดอยู่ดีนั่่่่่่่นแหล่ะ

    แม้จะเป็นเวลาเพียงชั่วคราวและถือได้ว่าเป็น Once a Year เองก็เถอะ การใช้เวลาในช่วงพิเศษแบบนี้กับความพิเศษที่ถูกสรรสร้างขึ้นจากความ “อิน” ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรา “อิน” ไม่น้อยเลยทีเดียว

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in