ไม่ช่ายย วันนี้เราไม่ได้จะมาพูดกันเรื่อง share ที่แปลว่าแบ่งปัน เรื่องนั้นไม่น่าจะผิดกฎหมายจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอะไรมาก

     

     เคยได้ยิน "แชร์แม่ชม้อย" ไหมคะ 

     หลายสิบปีก่อนเลยล่ะ มีแชร์วงนึงมีนายวงคือแม่ชม้อย ชวนคนโน้นคนนั้นมาเล่นแชร์ แล้วสุดท้ายก็เชิดเงินคนเล่นไป ลูกค้าหมดเงินกันไปหลาย น่าจะตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนเลยมั้ง (มีถึงล้านไหมไม่รู้)

     แน่นอนล่ะ มีการขึ้นโรงขึ้นศาล ยายแม่ชม้อยนี่ก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดต้องติดคุก(ถ้าจำไม่ผิดนะ)และต้องคืนเงินแก่ลูกค้า ปัญหาคือ ในความจริงจะมีเงินไปคืนชาวบ้านเขาไหม? 

     ...เผลอๆหนี้สูญ 

     สำหรับวิธีการเล่นแชร์ เนื่องจากไม่เคยเล่น จึงไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆได้ เอาเป็นว่า เท่าที่ไปค้น มีเว็บๆหนึ่งทำสรุปได้น่ารักดี

     https://pantip.com/topic/32918141

     สนใจก็ลองเข้าไปอ่านได้ค่ะ

     วันเวลาก็ผ่านไป คนเริ่มรู้แกวและกลัวการเล่นแชร์กันเพิ่มขึ้น กระนั้น ก็ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อขบวนการทำนองนี้อยู่เนืองๆ 

     ทุกสิ่งย่อมมีการวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดใช่ไหมคะ กระบวนการหลอกคนมาลงเงินแล้วเชิดหนีไป ก็เช่นกัน

     ทุกวันนี้ "การเล่นแชร์" แตกแขนงออกไปหลายแบบเลยค่ะ

     ยกตัวอย่างที่เคยผ่านมือ ผ่านหู ผ่านตา กันดีกว่า

     - "แชร์ทองคำ" : เจ้ามือไปชักชวนคนทั่วไปว่า ตอนนี้ราคาทองขึ้น มาซื้อทองเก็งกำไรกันดีกว่า เอาเงินมาให้เรา เราจะไปซื้อทอง(แท่ง?) มาเก็บไว้ให้ และเมื่อราคาทองขึ้นเราก็จะขายให้ แล้วคุณก็เอาทั้งเงินและกำไรไปเลย 

     เรื่องแดงตอนลูกค้าจะเอาทองคำมาเก็บไว้เอง แล้วเจ้ามือหาทองคืนให้ไม่ได้ (หรือมันไม่เคยมีอยู่จริงตั้งแต่แรกแล้ว???) 

     - "ลงทุนเงินต่างประเทศ" : เจ้ามือชักชวนคนรอบข้างว่า ตัวเองเนี่ยมีความรู้เรื่องสกุลเงินประเทศต่างๆนะ(จบจากไหนล่ะ?) เอาเงินมาลงทุนกับเราสิ เราจะเอาเงินบาทไทยเนี่ยไปซื้อเงินสกุล...(เติมคำในช่องว่างได้ตามศรัทธา) ซึ่งการซื้อขายสกุลเงินมันจะมีส่วนต่างและกำไร เดี๋ยวเราจะแบ่งกำไรให้เธอทุกๆ....(เชิญระบุช่วงเวลา) รับรองไม่มีขาดทุน 

     สุดท้ายไปสารภาพกับคนลงทุนเองว่า ตอนนี้ไม่มีตังค์จ่ายแล้ว เงินหมดแล้ว 

     - "ออมเงินดอกเบี้ยสูง" : เจ้ามือประกาศโฆษณาทำนองว่า ฝากเงินกับเราสิ ฝาก(ยกตัวอย่างเฉยๆนะ) 1,000 ได้คืน 1,250 ภายในเจ็ดวันเองนะ (ดอกร้อยละ 25!! ประทานโทษ ธนาคารยังให้แบบนี้ไม่ได้เลย) แล้วก็ขยันคิดแคมเปญเหลือเกินด้วยตัวเลขยั่วยวนใจอีกมากมาย เช่น ฝาก 50,000 คืน 60,000 ภายในสิบวัน, ฝาก 100,000 เอาไปเลย 120,000 ภายในสิบห้าวัน บลาๆๆ

     รู้ตัวอีกที ลูกค้าไปพบกันโดยมิได้นัดหมาย ณ โรงพักแห่งหนึ่ง

     เนี่ย!!! 

     ข่าวก็ออกอยู่บ่อย แต่คนก็ยังเชื่อ ว่าถ้าตัวเองเข้าไปร่วมด้วยแล้ว จะไม่ถูกหลอก 

     ถ้าถามความเห็นส่วนตัวว่า ขบวนการพวกนี้ยังคงอยู่มาได้ทุกยุคทุกสมัยได้อย่างไร ก็ขอให้ความเห็น(ส่วนตัว)ไว้ตรงนี้ว่า คงเป็นเพราะคนเรายังคงมีความโลภอยู่ และมิจฉาชีพพวกนี้ก็รู้เช่นกัน จึงเอาความโลภของคนเรานี่ล่ะ มาล่อลวงให้ติดกับ

     เท่าที่ถามๆ พวกนี้นี่นะ ในตอนแรกจะจ่ายจริงตามที่โฆษณา ซึ่งอาจเกิดจากในตอนต้นหลอกคนมาเล่นได้มาก จึงสามารถเอาเงินมาหมุนได้ตามต้องการ(เงินต่อเงิน) คนเล่นพอได้เงินก็ได้ใจ คิดว่าแบบ เฮ้ย นี่ของจริงแน่นอน ทีนี้พอเล่นไปเรื่อยๆมันอาจเกิดจุดอิ่มตัว คนเริ่มไม่เล่นไม่ส่งเงิน สุดท้ายเจ้ามือเลยไม่มีเงินคืนลูกค้า

     ...หรือเล่นไปพักหนึ่งแล้วคนสร้างมันเกิดโลภ เลยเชิดเงินไปเลย อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน

     เจอคดีพวกนี้ก็ยังคิด คนเล่นเชื่อไปได้ไงว้า หลักประกันอะไรก็ไม่มี ธนาคารยังไม่กล้ารับประกันผลประโยชน์การลงทุนอะไรเท่านี้เลย 

     ได้แต่ส่ายหัว

     มีเพื่อนนักกฎหมายคนหนึ่งก็บ่นว่าไม่ชอบคดีพวกนี้ เธอให้เหตุผลทำนองว่า "จริงๆคนพวกนี้มันไม่ควรถูกเรียกว่าผู้เสียหายอะ มันโลภเอง ถ้ามันไม่ไปเล่นกับเขามันก็ไม่เสียเงินหรอก"

     ใช่ เชื่อเข้าไปได้ยังไง???

     แต่ถึงแม้ความโลภของคนจะทำให้เขาดูไม่ใช่ผู้เสียหายที่น่าสงสารสักเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ในความเห็นของนักกฎหมายแบบเราๆ กระนั้น ในสายตาของกฎหมาย ความโลภในตัวของมันเองก็มิใช่สิ่งต้องห้ามที่มีแล้วเป็นความผิดทางอาญาหรือต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 

     ในทางตรงข้าม การใช้ความโลภของคนในการหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ในลักษณะเอาเงินเขามาแล้วไม่คืนให้ ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย มันจึงเป็นความผิด ทั้งทางแพ่งและทางอาญา 

     ข่าวในทำนองนี้ คดีในทำนองนี้ จึงมีมาเรื่อยๆ เพื่อป้อง(ไม่น่าป้องได้) ปราม ขบวนการเหล่านี้มิให้ย่ามใจ กระทำการสร้างกลุ่มลงเงินขึ้นมาลอยๆอยู่เรื่อยๆ 

     แม้จะเป็นแค่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และบางครั้ง คนที่เอาเงินไปลงกับการชักชวนเหล่านี้ ก็ใช่จะได้เงินคืนเสมอไป ก็ตาม 

     ก็เลยเขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อเตือนใจว่า เมื่อใดก็ตามที่ได้รับคำเชิญให้ร่วมลงเงินเพื่ออะไรสักอย่าง(ชื่อโครงการเปลี่ยนไปเรื่อยๆแน่นอน) จากคนธรรมดาๆทั่วไป หรือแม้แต่จากกิจการที่มิได้มีวัตถุประสงค์ในการฝากเงินหรือลงทุน โดยมีผลประโยชน์มาล่อใจ ไม่ว่าจะเป็นได้ดอกเบี้ยสูงหรือได้กำไรดี พึงระวังไว้ให้จงหนัก

     เตือนตัวเองไว้ให้มั่นว่า อะไรก็ตามที่มันดีเกินจริง เป็นไปได้สูงว่า มันไม่มีอยู่จริง 

     แม้แต่ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มั่นคง ยังไม่ยอมให้ดอกเบี้ยเงินฝากเกินร้อยละสองเลย(แต่พอกู้หรือจะเอาดอกเบี้ยบัตรเครดิต เรียกร้อยละ 28 แม่งงงง) แล้วคนธรรมดาที่สถานภาพทางการเงินมีความผันผวนสูง จะมีความสามารถให้ดอกเบี้ยมากเกินธนาคารได้ยังไง?

     และแม้แต่สถานบันเกี่ยวกับการลงทุนยังเตือนผู้ลงทุนอยู่ทุกเมื่อว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน แล้วคนธรรมดาๆ จะสามารถการันตีได้อย่างไรว่า เมื่อเอาเงินมาลงทุนอะไรแล้ว มันจะได้กำไรตลอดเวลา? 

     และสำหรับใครก็ตามที่คิดจะหาเงินด้วยวิธีนี้ หยุดเถอะ เอาสติปัญญาอันล้ำเลิศของคุณไปคิดการอย่างอื่นจะดีกว่า อย่าคิดว่าชวนคนมามากๆแล้วจะหมุนเงินทัน เคราะห์หามยามซวยขึ้นมา นอกจากติดคุกติดตะราง ต้องกลายเป็นลูกหนี้คนอีกหลายคน ยังเป็นการสร้างศัตรูและทำลายชื่อเสียงของตนเองด้วย 

     เชื่อเถอะ มันต้องช็อตเข้าสักวัน ไม่ช็อตงานมันไม่มาถึงมือพวกเราในท้ายที่สุดหรอก 

     เวลาดีดีน่ะ ไม่เคยคิดถึง(นัก)กฎหมายหรอก มีเรื่องขึ้นมา พวกตรูเดือดร้อนทุกที (จริงๆก็คือทำให้มีงานทำ ถือเป็นเรื่องดีได้...10 เปอร์เซนต์) 

     แต่ถ้าจะให้ดี อย่าหางานให้นักกฎหมายเพิ่มด้วยอะไรแบบนี้เลย ไหว้ล่ะ 

     สมัยนี้เงินทองหายาก จะลงเงินกับอะไรสักอย่างควรตรวจสอบให้รอบคอบที่สุด และอย่าเชื่อใครหรืออะไรง่ายเกินไป 

     ในยุคใครมีทองเท่าหัวมาเอาผัวข้าไป เนี่ย รักษาเงินรักษาทองกันให้ดีดี และก็อย่าดีจนซื่อเกินไป ดีไม่ดี ชาวบ้านจะฉกเงินทองเราไปใช้แทนเสียก่อน 

    ขอให้อยู่ดีมีสภาพคล่องทางการเงินกันถ้วนหน้า

     สวัสดี